ตะลุยเที่ยวคันไซใน 1 วัน ตอน ชีวิตสโลว์ไลฟ์ในนารา
มิ.ย. 16, 2023
‘ตะลุยเที่ยวคันไซใน 1 วัน’ กับเรโกะ เหมียวซัง ตอน ชีวิตสโลว์ไลฟ์ในนารา
วันนี้ fromJapan มีไกด์นำเที่ยวสุดพิเศษมาด้วยค่ะ นั่นก็คือ คุณเรโกะ เหมียวซัง พิธีกร บล็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ และอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังที่มักจะนำเสนอเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่น วันนี้เธอจะพาทุกคนไป ‘ตะลุยเที่ยวคันไซใน 1 วัน’ ที่จังหวัดนารากันค่ะ ☺
เราขอมอบไมค์ให้คุณเรโกะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับจังหวัดนาราให้มากขึ้น หากอดใจไม่ไหวอยากไปเที่ยวกันแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ!
Day 1 : ไปเมืองนารา สโลว์ไลฟ์ใส่ชุดกิโมโน เที่ยววัดและศาลเจ้า ถ่ายรูปในเมืองเก่า กินของอร่อย
ถ้าได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น เราจะไปเที่ยวภูมิภาคไหนดีนะ? นี่เป็นคำถามยอดฮิตที่มือใหม่มักจะถามกัน
สำหรับเราชอบเที่ยวแบบเจาะลึก เน้นทีละภูมิภาค ไม่อยากเป็นชะโงกทัวร์ เก็บแต้มเยอะๆ แต่ต้องเร่งรีบออกแต่เช้าและเสียเวลาเดินทางอยู่แต่ในรถไฟ มันเหนื่อยอ่ะ
สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวโอซาก้าและจังหวัดรอบๆ รีบมามุงทางนี้เลย! เพราะเราได้ลองใช้พาสสุดคุ้มจากรถไฟ Kintetsu Railway ที่มีเส้นทางครอบคลุมภูมิภาคคันไซไปจนถึงเมืองนาโกย่า เราจึงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วรายเที่ยว พาสรถไฟนี้มีให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 วันไปจนถึง 5 วัน
ของเราใช้เป็นแบบตั๋วเหมา 5 วัน สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 5,100 เยน (ถ้าซื้อในญี่ปุ่น) และในตั๋วพาสยังมีส่วนลดสิทธิพิเศษจากรถบัส(ขนส่งสาธารณะ)ที่ร่วมรายการในจังหวัดนาราหรือจังหวัดมิเอะ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวและร้านค้าที่ร่วมรายการกับคินเท็ตสึอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้เลย >> https://www.kintetsu.co.jp/foreign/thai/
หากสงสัยว่าทริปนี้เราไปที่ไหนมาบ้าง เราจะลงรีวิวทีละโพสต์ให้อ่านกันค่ะ เริ่มจากวันนี้เลยยย
สารบัญ (Index)
- 1. ตะลุยเที่ยวคันไซใน 1 วัน ด้วยรถไฟท่องเที่ยว Aoniyoshi
- 2. ร้านเช่าชุดกิโมโน Waplus Nara Park Bus Terminal Shop
- 3. สวนกวางนารา
- 4. ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ
- 5. ร้านเอโดะกาวะ นารามาจิ
- 6. เดินเล่นย่านนารามาจิ
🌸 1. ตะลุยเที่ยวคันไซใน 1 วัน ด้วยรถไฟท่องเที่ยว Aoniyoshi
ทริปนี้เริ่มต้นได้อย่างสวยงาม เพราะเราได้ขึ้น รถไฟท่องเที่ยว Aoniyoshi ซึ่งเป็นรถไฟที่มีรูปลักษณ์แบบเรโทร รถไฟขบวนนี้มีสีแดงอมม่วงคล้ายๆถั่วแดง ตัดกับสีทองดูคลาสสิค สมกับเป็นรถไฟที่จะพาเราไปยัง “นารา” เมืองหลวงเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปีจริงๆ
ภายในรถไฟมีเก้าอี้กว้างขวาง เบาะนุ่มนั่งสบาย มีทั้งที่นั่งแบบคู่และแบบกั้นเป็นห้องสำหรับผู้โดยสารที่มากันเป็นหมู่คณะ
นอกจากนี้บนรถไฟยังมีน้ำและขนมลิมิเต็ดเฉพาะรถไฟสายนี้จำหน่ายอีกด้วย แพ็คเกจก็ดีไซน์คุมโทน สวยจนเราถ่ายรูปอยู่นานกว่าจะกล้ากิน ฮ่าาา
รถไฟสายนี้จะวิ่งระหว่างสถานีโอซาก้า-นัมบะ – นารา – เกียวโต คนที่มีพาส KINTETSU RAIL PASS ก็สามารถบวกราคาค่าโดยสารเพิ่มสำหรับรถไฟท่องเที่ยวขบวนนี้ 1,000 เยนเพื่อจองที่นั่งได้ (ในกรณีที่ขึ้นจากโอซาก้า-นัมบะไปยังเกียวโต) หากต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานีรถไฟ Kintetsu Railway หรือทางเว็บไซต์ก็ได้เช่นกันค่ะ >> http://www.kintetsu.co.jp/foreign/thai/aoniyoshi/
เมื่อลงจากรถไฟ สิ่งแรกที่สะดุดตาคือที่นี่แทบไม่มีตึกสูงเลย ด้วยความที่เป็นเมืองเก่า สิ่งก่อสร้างใหม่ๆเลยถูกทำให้คุมโทนเข้ากับของเดิม แต่ก็ยังทันสมัย สะดวกสบาย ได้มาตรฐานญี่ปุ่น
วันนี้เราอยากเนียนเข้ากับสถานที่ เลยขอแปลงโฉมใส่ชุดกิโมโนกันก่อนเลยยย
🌸 2. ร้านเช่าชุดกิโมโน Waplus Nara Park Bus Terminal Shop
สำหรับร้านเช่าชุดกิโมโนที่เราจะพาทุกคนไปชมกันในวันนี้ เพียงเดินออกจากสถานีรถไฟผ่านหน้าศาลาว่าการจังหวัดนาราไม่ถึง 5 นาที เราก็เจอร้านเช่าชุดกิโมโนที่อยู่บนชั้น 2 ของสถานีรถบัสนาราค่ะ
สำหรับราคาก็ไม่แรงเลยค่ะ เริ่มต้นอยู่ที่ชุดละ 3,500 เยนเท่านั้น ในร้านก็จะมีหลายแบบให้เลือกด้วย ของที่เราใส่วันนี้เป็นแบบพื้นฐานเลย เราเลือกโทนสีออกเขียวเพราะเป็นสีที่ทำให้นึกถึงเมืองนาราค่ะ
นอกจากนี้ เราสามารถเลือกออปชั่นเสริมเป็นเครื่องประดับ (ราคา 500 เยน) หรือให้ที่ร้านแต่งทรงผมให้ (1,500 เยน) ก็ได้ด้วยนะ หรือถ้าใครเคยใส่กิโมโนแล้วอยากลองใส่ชุดฮาคามะบ้างก็มีให้เช่านะ
ช่วงที่เราไปเป็นเดือนพฤษภาคม ที่ร้านยังมีกิโมโนให้เช่าอยู่ แต่ถ้าเข้าเดือนมิถุนายนแล้วที่ร้านจะเริ่มเปลี่ยนเป็นนำยูกาตะมาให้เช่าเพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศค่ะ หากใครสนใจก็สามารถลองดูรายละเอียดและราคาในเว็บไซต์ของร้านได้ค่ะ
ข้อมูลของร้านเช่าชุดกิโมโน Waplus Nara Park Bus Terminal Shop
ที่อยู่
- Kyo-roman bldg. 2F, 6-4 Aburasakajikata-cho Nara city, Nara 630-8246
ช่องทางการติดต่อ
- เบอร์โทร +81-742-25-2300
- อินสตราแกรม
- เว็บไซต์
วันและเวลาทำการ
- เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10:00 – 19:00 น.
- ปิดช่วงวันปีใหม่ตั้งแต่ 30 ธันวาคม – 2 มกราคม
พิกัด
🌸 3. สวนกวางนารา (Nara Park)
หลังจากใส่กิโมโนสวยๆก็มาถ่ายรูปเล่นกับน้องกวางกันค่ะ ที่นาราผู้คนจะผูกพันกับกวางมาก เพราะเชื่อกันว่ากวางคือผู้ส่งสาส์นจากเทพเจ้า จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือเราจะได้เห็นกวางที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยจำนวนมากเป็นพันตัว ตอนเราไปเห็นลูกกวางด้วยล่ะ!
เราสามารถลูบหัวลูบตัวน้องกวางได้นะคะ สัมผัสที่นุ่มที่สุดซึ่งเราชอบมากก็คือใบหูน้องนี่แหละ รวมถึงก้นและหางน้อยๆด้วย เห็นแล้วมันงุ้ยยยย (แต่อันหลังนี่ห้ามจับนะ น้องเคืองแน่ๆ)
โดยรวมแล้วน้องกวางไม่ดุร้ายและไม่ทำร้ายคนค่ะ แต่ต้องระวังเวลาที่ให้อาหารกวาง เพราะด้วยสัญชาตญาณน้องจะมารุมกัน บางทีอาจจะเผลองับทำให้เราบาดเจ็บได้ สำหรับอาหารที่เราสามารถให้น้องได้คือ “เซมเบ้กวาง” ลักษณะเป็นแป้งแผ่นกลมๆบางๆ มีจำหน่ายทั่วไปในบริเวณสวนนาราค่ะ
ข้อมูลของสวนกวางนารา (Nara Park)
ที่อยู่
- Around Zoshi-cho, Takabatake-cho, Kasugano-cho and Noborioji-cho areas of Nara city
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น)
วันและเวลาเปิดทำการ
- เปิดทำการทุกวัน 24 ชั่วโมง
วิธีการเดินทาง
- เดินจากสถานีรถไฟ Kintetsu-Nara (A28) ประมาณ 5 นาที
พิกัด
🌸 4. ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine)
แต่งชุดกิโมโนสวยๆทั้งที ก็ต้องมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลที่ “ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ” กันสักครั้งค่ะ! นอกจากจะได้ชมศาลเจ้าแล้วยังได้รูปสวยๆด้วยนะ
ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญมากของญี่ปุ่น เพราะเป็นศาลเจ้าสาขาใหญ่ของศาลเจ้าคาสึกะที่มีสาขาย่อยมากกว่า 3,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างในปี ค.ศ.768 นับเป็นเวลาราวๆ 1,300 ปีมาแล้ว
ที่นี่มีเทพเจ้าหลักอยู่ถึง 4 องค์ โดยมีหอสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่นที่เก็บรักษาสิ่งล้ำค่าเอาไว้ด้วย มุมถ่ายรูปที่ห้ามพลาดคือทางเดินที่มีตะเกียงโบราณเรียงรายกัน เป็นภาพที่ถูกใช้ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดนาราอยู่บ่อยๆค่ะ
ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะเป็นศูนย์รวมตะเกียงโบราณทั้งแบบเสาหินและแบบแขวน โดยมีจำนวนมากถึงพันดวง ตะเกียงเหล่านี้มาจากศรัทธาของเหล่าญาติธรรมที่นำมาถวายตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน โดยจะมีประเพณีจุดไฟส่องสว่างให้ชมยามค่ำคืนในเดือน ก.พ. และเดือน ส.ค. ของทุกปีด้วยค่ะ
เราสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากเอกสารของทางศาลหรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ ศาลจะมีทั้งส่วนรอบนอกที่เข้าชมฟรีและด้านในรั้วที่ต้องเสียค่าเข้าชม (500 เยน) แต่ถ้าแสดงพาส KINTETSU RAIL PASS ให้เจ้าหน้าที่ดู เราจะได้รับสิทธิพิเศษด้วยนะ ถือว่าคุ้มค่ามากกับการได้ชมสถานที่สำคัญแบบนี้นะคะ
ข้อมูลของศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine)
ที่อยู่
- 160 Kasugano-cho Nara-shi 630-8212, Japan
เบอร์ติดต่อ
- 0742-22-7788
เว็บไซต์(ภาษาญี่ปุ่น)
วันและเวลาเปิดทำการ
- มีนาคมถึงตุลาคม เปิดทำการเวลา 6:30-17:30 น.
- พฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ เปิดทำการเวลา 7:00-17:00 น.
- เวลาทำการของสถานที่ด้านใน สามารถดูเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์นี้ค่ะ >>> kasugataisha.or.jp
ค่าเข้า
- ศาลเจ้าหลัก สามารถเข้าสักการะได้ฟรี
- สถานที่ด้านในศาลเจ้า สามารถดูรายละเอียดราคาได้จากเว็บไซต์นี้ (ภาษาญี่ปุ่น) >> kasugataisha.or.jp
วิธีการเดินทาง
- ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะตั้งอยู่ทางตะวันออกของสวนนารา ถ้าเริ่มเดินมาจากสถานีรถไฟ Kintetsu Nara จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
พิกัด
🌸 5. ร้านเอโดะกาวะ นารามาจิ (Edogawa Naramachi)
ได้เวลาทานข้าวแล้ว! มื้อนี้เรามาที่ ร้านเอโดะกาวะ นารามาจิ ร้านปลาไหลย่างเจ้าดังที่เก่าแก่กว่า 70 ปีค่ะ ได้บรรยากาศญี่ปุ่นตั้งแต่หน้าร้านเลย ซึ่งเค้ามีหลายสาขานะ แต่เรามาที่สาขานารามาจิกันค่ะ
เมนูเด็ดคือปลาไหลย่างหอมๆ ปรุงรสด้วยซอสเข้มข้นสูตรของทางร้าน มีให้เลือกทั้งแบบจานเดี่ยวหรือแบบคอร์ส ร้านนี้เป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยค่ะ
ข้อมูลของร้านเอโดะกาวะ นารามาจิ (Edogawa Naramachi)
ที่อยู่
- 43 Shimomikadocho, Nara, 630-8365
เบอร์ติดต่อ
- +81 742-20-4400
เว็บไซต์
วันและเวลาเปิดทำการ
- เปิดทำการทุกวัน เวลา 11:00 – 15:00 น. และ 17:00 – 21:00 น.
วิธีการเดินทาง
- เดินจากสถานีรถไฟ Kintetsu-Nara (A28) ประมาณ 5 นาที
พิกัด
🌸 6. เดินเล่นย่านนารามาจิ (Naramachi)
“นารามาจิ” เป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ แต่ก็มีร้านค้าใหม่ๆเข้ามาเสริม ทำให้เป็นย่านการค้าที่แสนน่ารัก และเป็นศูนย์กลางของเมืองนาราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เราสามารถชมบ้านเรือนสมัยเก่า หาร้านอร่อยหรือคาเฟ่น่ารักๆได้ที่นี่ รวมถึงหาซื้อของฝากและงานฝีมือแบบดั้งเดิมได้เช่นกัน การได้ใส่กิโมโนมาเดินเล่นที่นี่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเลยล่ะ
สำหรับการเดินเล่นที่นาราในชุดกิโมโนของเรา ถ้าไปที่ร้านไวเราก็จะยิ่งได้ใส่ชุดกิโมโนถ่ายรูปนานขึ้นนะ เพราะเวลาคืนชุดคือ 18:00 น. เท่ากันค่ะ คนที่คิดว่าสามารถใส่เดินนานๆไหว ไม่ค่อยอึดอัด ก็แนะนำให้ไปเร็วหน่อยค่ะ จะได้ใส่คุ้ม แต่สำหรับคนที่ไม่ชินทั้งชุดที่ยาวและรัด หรือไม่ชินกับการใส่รองเท้าเกี๊ยะเดิน จะเช่าใส่ถ่ายรูปสัก 2-3 ชั่วโมงก็กำลังดีนะคะ
ข้อมูลของย่านนารามาจิ (Naramachi)
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
วิธีการเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Kintetsu-Nara เดินไปขึ้นรถบัสที่ป้าย Kintetsunaraeki โดยเลือกรถสาย 44, 51, 53, 82, 92 ไปลงที่ป้ายรถบัส Fukuchiincho และเดินต่อประมาณ 2 นาที
พิกัด
จบทริปวันแรกของเราแล้ว พรุ่งนี้ Day 2 เราจะใช้ Kintetsu Rail Pass ไปเที่ยวชมบรรยากาศทะเลๆกัน รออ่านกันด้วยนะคะ 😊
*.。.*゚*.。.*゚*
Day 2 อ่านได้ที่นี่เลยจ้า! (คลิกที่รูปด้านล่างนี้ได้เลย 👇)
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ