fbpx

วิธีการเดินทางจากสนามบินคันไซสู่นัมบะอย่างง่ายดายไม่มีหลง!!

มี.ค. 13, 2020

หากคุณเดินทางมายังโอซาก้า คุณจะต้องลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติคันไซอย่างแน่นอน

ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซเข้าไปยังตัวเมืองโอซาก้านัมบะ (Namba) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของโอซาก้าแห่งหนึ่ง หากมาถึงโอซาก้าแล้วไม่มาไม่ได้เด็ดขาด!!

นัมบะ (Namba) เป็นเมืองที่คุณสามารถสนุกกับการช้อปปิ้งในศูนย์การค้าจำนวนมาก ถนนคนเดินในเมืองมีอาหารให้ทานตลอดสองข้างทาง และยังสามารถเดินไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลักแห่งอื่นอย่างโดตงโบริ (Dotonbori) ที่มีป้ายกูลิโกะแลนด์มาร์กหลักของโอซาก้า ศูนย์ความบันเทิงขนาดใหญ่ชินไซบาชิ (Shibsaibashi) หรือตลาดอาหารทะเลอย่างคุโรมง (Kuromon) ก็สามารถไปได้อย่างสะดวก

เราไปดูวิธีการเดินทางต่อเดียวที่ง่ายและรวดเร็วไปยังใจกลางเมืองนัมบะกันเลยดีกว่า!!

วิธีซื้อบัตรโดยสาร

หลังจากที่เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติคันไซแล้ว ให้ออกมาจากสนามบินบริเวณชั้น 2 ของ Kansai International Airport Terminal 1 โดยเดินตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ
คุณจะพบกับ Nankai Ticket Information คุณสามารถทำการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเดินทางและตั๋วรถไฟสุดคุ้มได้ที่นี่

ส่วนผู้ที่ทำการจองตั๋วจากประเทศไทยมา สามารถมาแลกตั๋วจริงได้ที่เคาน์เตอร์ด้านซ้ายสุดของ NANKAI Ticket Office

ส่วนผู้ที่ต้องการทำการซื้อตั๋วสามารถต่อแถวซื้อได้ที่ NANKAI Ticket Office

ประเภทของตั๋วโดยสาร

Nankai Airport Express ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการเดินทางไปยังสถานี Namba โดยราคาจะอยู่ที่ 930 เยน

สำหรับผู้ที่ต้องการทำเวลา เราขอแนะนำรถไฟด่วน Limited Express rapi:t ใช้เวลาเพียง 34 นาทีถึงสถานี Namba ในราคา 1,290 เยน ตั๋วสำหรับเด็กราคา 650 เยน

หากซื้อที่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยจะได้ราคาที่ถูกกว่าเดิมอีก

สามารถซื้อตั๋วได้ที่นี่ : https://www.histours.co.th/

หากต้องการที่นั่งที่สบายยิ่งขึ้นไปอีก เราขอแนะนำที่นั่ง Super Seat ในราคา 1,500 เยน ตั๋วสำหรับเด็กราคา 850 เยน

สามารถตรวจสอบเวลารถได้ที่นี่ : https://www.howto-osaka.com/

ทางเข้ารถไฟตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของจุดจำหน่ายตั๋วรถไฟ

เมื่อพร้อมแล้วก็ทำการสอดบัตรเข้าไปเช่นนี้ หลังจากเข้าไปแล้วอย่าลืมรับบัตรด้วย เพราะเรายังต้องใช้ตอนที่ออกจากสถานี Namba ค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว ให้เดินมายังชานชาลาสำหรับขึ้นรถไปยัง Osaka Namba

ประเภทของรถไฟ

นี่คือหน้าตาของรถไฟที่เราจะขึ้นในวันนี้ ‘rapi:tβ’

โดยรถไฟ rapi:t มี 2 รูปแบบคือ rapi:tα และ rapi:tβ โดยจะต่างกันเพียงแค่สถานีที่จอดระหว่างทางเท่านั้น ไม่ว่าจะขึ้นขบวนไหนก็วิ่งไปถึงสถานี Namba

รถไฟ rapi:t ถูกออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ ‘Retro future’ และคำว่า rapit ในภาษาเยอรมันมีความหมายว่า ‘ความเร็ว’ ชื่อของรถไฟนั้นตรงกับคอนเซ็ปต์มากเลย ว่าไหมคะ?

ตัวรถไฟมีสีน้ำเงินโคบอลต์ หน้าต่างดีไซน์ให้มีลักษณะกลมเหมือนกับเครื่องบิน เพื่อให้รู้สึกถึงการเดินทางที่เหมือนกับเวลาได้นั่งเครื่องบิน!

วิธีดูบัตรรถไฟ

คุณสามารถตรวจสอบที่นั่งและหมายเลขคันได้ที่ตั๋ว
เวลาออกเดินทาง เวลาถึงจุดหมายปลายทางก็มีระบุไว้บนตั๋วทั้งหมดค่ะ

ในตั๋วเขียนไว้ว่าหมายเลข 3 ให้เรามาขึ้นรถคันที่ 3 แล้วนั่งตามเลขที่นั่งที่ระบุไว้ เราก็ไปนั่งที่หมายเลข 6 ตามที่ตั๋วระบุไว้

บรรยากาศภายในห้องโดยสาร

รถไฟมีทั้งหมด 6 คันด้วยกัน ที่นั่งปกติคือคันที่ 1-4 ส่วน Super seat คือคันที่ 5-6

ที่นั่งแบบปกติกับ Super seat ต่างกันตรงที่ห้องโดยสารของที่นั่งปกติจะแบ่งที่นั่งเป็นฝั่งละ 2 ที่นั่ง ส่วน Super seat แบ่งเป็น 2 กับ 1

ห้องโดยสารมีดีไซน์หรูหรา

ที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะก็ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับเครื่องบิน

ที่วางสัมภาระบริเวณทางเข้า มีกุญแจสำหรับล็อกกระเป๋าสัมภาระให้ ไม่ต้องกังวลเรื่องโดนขโมย

มีตู้กดน้ำอัตโนมัติให้บริการ

บริการ Free Wi-fi ก็มีให้บริการ หมดกังวลเรื่องอินเทอร์เน็ต

เราไปดูที่นั่ง Super seat คันที่ 5 และ 6 กันบ้างดีกว่า!

ที่นั่งแบบ Super seat มองเผินๆอาจจะไม่ทราบถึงความต่าง

ที่นั่ง Super seat ถูกออกแบบมาให้มีความกว้างมากกว่าที่นั่งปกติ และมีที่วางแขนซึ่งค่อนข้างกว้าง มีที่วางแก้วโดยเฉพาะ

มีปุ่มปรับเอนเบาะเหมือนที่นั่งบนเครื่องบิน ให้คุณสามารถนั่งพักผ่อนได้สบายยิ่งขึ้น

เมื่อมองเบาะที่นั่งใกล้ๆจะเห็นลายเสือ เป็นลายเสือที่ดูหรูหรา

ระหว่างการเดินทางอาจมีพนักงานมาขอตรวจบัตรโดยสาร
กรุณายื่นบัตรโดยสารให้กับพนักงานด้วยนะคะ

เราก็สามารถเดินทางมายังใจกลางเมือง Namba ได้โดยไม่ต้องต่อรถ!!
โดยรถไฟจะจอดที่สถานี Nankai Namba หรืออาคารดังในรูป

รายละเอียดเกี่ยวกับ Namba สามารถอ่านได้ที่นี่

Find my Osaka-Japan

หากพูดถึงโอซาก้าก็ต้องไปกินทาโกยากิ!!!
ขอให้ทุกคนสนุกกับเมืองทาโกยากิแห่งนี้กันนะคะ♪

บริการส่งสัมภาระไปยังโรงแรม

ที่สนามบินนานาชาติคันไซมีบริการส่งกระเป๋าไปยังโรงแรมด้วยนะ!!
เมื่อออกมาจากสนามบินบริเวณชั้น2 คุณจะพบป้ายสีชมพูขนาดใหญ่ บอกทางไปยังเคาน์เตอร์บริการส่งกระเป๋า

เมื่อเดินไปตามทางคุณจะพบกับเคาน์เตอร์ n・e・s・t

ค่าบริการส่งกระเป๋าไปยังโรงแรมภายในโอซาก้าอยู่ที่ 1,800 เยน เกียวโต 2,500 เยน
หรือต้องการฝากของชั่วคราวมีค่าบริการที่ 700 เยน

หากคุณส่งสัมภาระระหว่าง 9:00 น. – 14:30 น. ของวัน สัมภาระจะถูกส่งถึงโรงแรมประมาณ 19:00 น. – 20:00 น.
ถ้าส่งไปที่เกียวโตจะถึงประมาณ 21:00 น.

เพียงเท่านี้เราก็สามารถเที่ยวโอซาก้าได้แบบสบายตัวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ
ไปถึงแล้วเที่ยวได้เลยทันที!!

สามารถจองผ่านเว็บไซต์ล่วงหน้าได้ที่นี่

อ่านรายละเอียดได้ที่

https://www.tourbase.jp/en

เริ่มทริปการท่องเที่ยวโอซาก้าของคุณด้วยการนั่งรถไฟ Limited Express Rapi:t กันไหมคะ?