fbpx

พบกับประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดหรูหราด้วย “รถไฟฮิโนะโทริ” โดยบริษัทคินเท็ตสึ

พ.ค. 20, 2022

พบกับประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดหรูหราด้วย “รถไฟฮิโนะโทริ” โดยบริษัทคินเท็ตสึ

รถไฟคินเท็ตสึ "ฮิโนะโทริ"

หนึ่งในวิธีการเดินทางยอดนิยมในญี่ปุ่นคือการนั่งรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็น วันนี้ทางเราจึงมาแนะนำบริการรถไฟด่วนพิเศษจากบริษัทรถไฟฟ้าคินเท็ตสึที่มีชื่อว่า “รถไฟฮิโนะโทริ” (Limited Express “HINOTORI”)

คำว่า ‘ฮิโนะโทริ’ หมายถึง ‘นกฟินิกซ์’ ในภาษาญี่ปุ่น เป็นการตั้งชื่อตามความเร็วและดีไซน์อันงดงาม รถไฟขบวนนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2020 โดยเป็นรถไฟที่นำมาวิ่งแทนรถไฟด่วนพิเศษรุ่นเก่าอย่าง Urban Liner

จากโอซาก้าถึงนาโกย่า รถไฟฮิโนะโทริจะวิ่งตั้งแต่สถานีโอซาก้า-นัมบะ (Osaka-Namba Station) ถึงสถานีคินเท็ตสึ-นาโกย่า (Kintetsu-Nagoya Station) และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงต่อการวิ่งจากต้นทางจนถึงปลายทาง

รถไฟฮิโนะโทริสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว รถไฟขบวนนี้ได้ชื่อว่าเป็นรถไฟขบวนแรกในญี่ปุ่นที่มีระบบ Fixed-back shell ทุกที่นั่ง นอกจากนี้รถไฟฮิโนะโทริยังดีไซน์การตกแต่งภายในให้หรูหรา ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสูง ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ ฮิโนะโทริจึงเป็นรถไฟด่วนที่ควรค่าแก่การใช้บริการสักครั้ง

สารบัญ (Index)

  1. ตกแต่งภายในด้วยดีไซน์คล้ายเครื่องบิน
  2. เดินทางเข้าถึงได้ง่าย
  3. ราคาเอื้อมถึงได้
  4. ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเยี่ยม
  5. จองตั๋วได้สะดวกง่ายดาย
  6. มีมาตรการดูแลสุขอนามัยที่ดี
  7. ที่เที่ยวใกล้สถานีที่ควรแวะไปเยี่ยมเยือน

1. ตกแต่งภายในด้วยดีไซน์คล้ายเครื่องบิน

หนึ่งในคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของ ‘รถไฟฮิโนะโทริ’ ที่ทำให้รถไฟขบวนนี้แตกต่างจากรถไฟขบวนอื่นๆก็คือ รถไฟขบวนนี้ได้รับการออกแบบตกแต่งห้องโดยสารและที่นั่งให้คล้ายกับเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งแบบพรีเมียมหรือที่นั่งแบบธรรมดา ทุกที่นั่งก็ล้วนติดตั้งระบบ Fixed-back shell หรือระบบช่วยปรับพนักพิงให้เอนไปด้านหลังในระดับที่เหมาะสม โดยไม่ไปรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นๆ

รถไฟฮิโนะโทริขบวนด่วนพิเศษมี 3 ที่นั่งต่อหนึ่งแถว พนักพิงมีขนาด 130 เซนติเมตรและหุ้มด้วยหนังแท้ ฝาช่องเก็บสัมภาระด้านบนเป็นกระจก แต่เราสามารถใส่สัมภาระไว้ข้างในได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

พนักพิงทุกที่นั่งล้วนควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้เราสามารถวางขาและยืดขาได้ ส่วนเบาะรองคอเป็นแบบปรับได้เพื่อให้ผู้โดยสารผ่อนคลายมากขึ้น ทุกที่นั่งมีไฟสำหรับอ่านหนังสือซึ่งเราสามารถเปิดในเวลากลางคืนได้ด้วย

ทุกที่นั่งของรถไฟด่วนพิเศษจะมีโต๊ะพับประจำที่นั่ง ซึ่งใช้วางอาหารและเครื่องดื่ม มือถือ แทบเล็ต หรือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กได้

สำหรับรถไฟฮิโนะโทริขบวนธรรมดาจะมีที่นั่ง 4 ที่ต่อหนึ่งแถว พนักพิงหลังมีขนาด 116 เซนติเมตร แต่ละที่นั่งมีที่วางขาซึ่งสามารถปรับระดับได้ เพื่อความสบายของผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนช่องเก็บสัมภาระด้านบนทำด้วยกระจกแต่ฝาปิดเป็นแผ่นไม้

ทุกที่นั่งจะมีหน้าต่างบานใหญ่ เป็นกระจกที่ป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเลตได้ รวมถึงมีปลั๊กให้ชาร์จเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย

Back To Index

2. เดินทางเข้าถึงได้ง่าย

ที่มา : https://www.kintetsu.co.jp/foreign/english/hinotori/

ภายในระยะทางระหว่างสถานีโอซาก้า–นัมบะและสถานีคินเท็ตสึ–นาโกย่านั้น หากเดินทางด้วยรถไฟฮิโนะโทริจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง รถไฟจอดแวะประมาณ 8 สถานี (เป็นจำนวนสถานีในกรณีที่จอดแวะบ่อยที่สุด) ประกอบด้วยสถานีดังต่อไปนี้

  1. โอซาก้า-นัมบะ (Osaka-Namba)
  2. โอซาก้า-อุเอะฮอนมาจิ (Osaka-Uehommachi)
  3. สึรุฮาชิ (Tsuruhashi)
  4. ยามาโตะ-ยากิ (Yamato-Yagi)
  5. สึ (Tsu)
  6. *ชิโรโกะ (Shiroko)
  7. *คินเท็ตสึ-ยกไกชิ (Kintetsu-Yokkaichi)
  8. *คุวานะ (Kuwana)
  9. คินเท็ตสึ-นาโกย่า (Kintetsu-Nagoya)

หากต้องการลงจากรถไฟกลางทาง คุณสามารถลงได้ที่สถานีสึรุฮาชิหรือสถานียามาโตะ-ยากิ สถานีเหล่านี้จะเชื่อมต่อกับสถานียามาโตะ-ไซไดจิ (Yamato-Saidaiji) ซึ่งเป็นสถานีของรถไฟคินเท็ตสึอีกสายที่สามารถเดินทางไปได้ทั้งสถานีเกียวโตและสถานีคินเท็ตสึ-นารา

นอกจากจะไปเกียวโตและนาราได้แล้ว เรายังสามารถแวะเที่ยวโกเบโดยเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายฮันชินได้ที่สถานีโอซาก้า-นัมบะ หรือหากต้องการไปสนามบินนานาชาติคันไซ เราก็ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายนันไก (Nankai Line)

เราสามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ได้จากสถานีคินเท็ตสึ-นาโกย่า โดยเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายเมเท็ตสึ (Meitetsu Line)

*มีรถไฟบางขบวนไม่จอดที่สถานีเหล่านี้

Back To Index

3. ราคาเอื้อมถึงได้

ค่าโดยสารโดยรวมจากสถานีโอซาก้า-นัมบะ (Osaka-Namba Station) ถึงสถานีคินเท็ตสึ-นาโกย่า (Kintetsu-Nagoya Station) จะเป็นไปตามตารางด้านล่างนี้

รูปแบบที่นั่ง ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) เด็ก (อายุ 6-11 ปี)
ที่นั่งแบบพรีเมียม 5,240 เยน 2,620 เยน
ที่นั่งแบบธรรมดา 4,540 เยน 2,270 เยน

※ ราคานี้รวมค่าโดยสารพื้นฐานจำนวน 2,410 เยนและค่าโดยสารพิเศษสำหรับรถไฟคินเท็ตสึ “ฮิโนะโทริ”

เมื่อเปรียบเทียบกับรถไฟ JR แล้ว รถไฟ JR จะเร็วกว่ารถไฟขบวนนี้ 30 นาที แต่ราคาโดยรวมของรถไฟคินเท็ตสึ “ฮิโนะโทริ” จะถูกกว่าประมาณ 2,000 เยน

Back To Index

4. ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเยี่ยม

รถไฟคินเท็ตสึ “ฮิโนะโทริ” ถูกสร้างขึ้นด้วยดีไซน์หรูหรา เป็นที่รู้กันว่ารถไฟขบวนนี้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสูง บนรถไฟมีไวไฟฟรีให้บริการตลอดทั้งขบวน แต่ละที่นั่งมีจอ LCD คอยบอกข้อมูลของสถานที่ต่างๆที่รถไฟวิ่งผ่าน แถมยังมีหลายภาษาให้เลือกฟังอีกด้วย

บนรถไฟมีห้องน้ำอเนกประสงค์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้รถเข็น มีทั้งกระดานทรงตัวที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะยืนเปลี่ยนเสื้อผ้า เตียงสำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก รวมถึงเก้าอี้สำหรับเด็ก

นอกจากนี้บนรถไฟยังมีตู้ล็อกเกอร์ส่วนตัว ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้เก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่โดยไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ

รถไฟขบวนนี้มีจุดชมวิวอยู่ 2 ที่ คือหัวขบวนและท้ายขบวน โดยเป็นที่นั่งชมวิวและหน้าต่างบานใหญ่ เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามอลังการจนเราแทบลืมหายใจ

และที่จุดชมวิวก็ยังมีโซนคาเฟ่อีกด้วย โซนนี้จะมีตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติที่จำหน่ายกาแฟคั่วสดใหม่ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น อีกทั้งยังมีตู้ขายขนมขบเคี้ยวอื่นๆให้บริการ

Back To Index

5. จองตั๋วได้สะดวกง่ายดาย

หากต้องการซื้อตั๋วสำหรับขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ “ฮิโนะโทริ” สามารถจองและซื้อตั๋วผ่านช่องทางออนไลน์ได้ หรือซื้อที่จุดจำหน่ายตั๋วของสถานีรถไฟคินเท็ตสึ

  • หากต้องการเช็กตารางเดินรถและจองรอบรถไฟทางออนไลน์ สามารถเข้าไปจองได้ตามลิงก์นี้ >> https://www.kintetsu.co.jp/foreign/english/hinotori/
  • หากต้องการซื้อตั๋วแบบออฟไลน์ สามารถซื้อได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วของรถไฟด่วนซึ่งมีสัญลักษณ์ของรถไฟด่วน จุดจำหน่ายนี้จะอยู่ตามสถานีหลักๆของรถไฟคินเท็ตสึ เช่น สถานีโอซาก้า-นัมบะ, โอซาก้า-อุเอะฮอนมาจิ, ยามาโตะ-ยากิ, สึ, คินเท็ตสึ-นาโกย่า เป็นต้น

Back To Index

6. มีมาตรการดูแลสุขอนามัยที่ดี

สุขอนามัยเป็นเรื่องสำคัญมากของการท่องเที่ยวในขณะที่เชื้อโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด ดังนั้นรถไฟฮิโนะโทริจึงมีกระบวนการกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียทั่วทั้งขบวนรถ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่นั่ง ที่คาดเบาะ ราวจับ บาร์จับ อีกทั้งยังมีการทำความสะอาดห้องน้ำให้ปลอดเชื้อเป็นประจำ รวมถึงมีเครื่องฟอกอากาศภายในขบวนรถอยู่ตลอดเวลา

Back To Index

7. ที่เที่ยวใกล้สถานีที่ควรแวะไปเยี่ยมเยือน

เส้นทางรถไฟระหว่างสถานีโอซาก้า-นัมบะและสถานีคินเท็ตสึ-นาโกย่านั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่หลายแห่ง ในส่วนนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถานีโอซาก้า-อุเอะฮอนมาจิ, สถานีสึรุฮาชิ และสถานีสึ ซึ่งทั้งหมดล้วนควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม

  • โรงละครโอซาก้าชินคาบูกิซะ

ที่มา : https://en.photo-ac.com/photo/1582191/new-kabuki

สถานที่แรกเราอยากแนะนำก็คือ ‘โรงละครโอซาก้าชินคาบูกิซะ’ โรงละครแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 6 ของห้างอุเอะฮอนมาจิยูฟุระ ใกล้สถานีโอซาก้า-อุเอะฮอนมาจิ

ในอดีตโรงละครโอซาก้าชินคาบูกิซะมีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องการแสดงคาบูกิ แต่ปัจจุบันที่นี่นิยมจัดการแสดงละครประวัติศาสตร์ การแสดงดนตรีแนวป๊อปคลาสสิก การแสดงดนตรีแนวเอ็นกะ และการแสดงประเภทอื่นๆ

นอกจากนี้โรงละครโอซาก้าชินคาบูกิซะก็มีร้านอาหาร ร้านขายข้าวกล่อง ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกซึ่งเราสามารถซื้อของฝากท้องถิ่นได้

Back To Index

  • โดทงโบริ

ที่มา : Shutterstock / f11photo

‘โดทงโบริ’ เป็นย่านชอปปิ้งที่ตั้งอยู่ทางใต้ของโอซาก้า ห่างจากสถานีโอซาก้า-อุเอะฮอนมาจิไม่เกิน 2 กิโลเมตร โดทงโบรินั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เราสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศความเป็นโอซาก้าของแท้ได้ที่นี่

โดทงโบริเป็นศูนย์รวมร้านอาหารและความบันเทิง อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ ‘คานิโดราคุ’ ร้านอาหารชื่อดังที่มีปูยักษ์เป็นจุดเด่น รวมถึงมีป้ายกูลิโกะขนาดยักษ์อีกด้วย ในช่วงยุคเอโดะ (ปี 1603-1868) พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่รู้จักในฐานะของเมืองแห่งโรงละคร และเป็นต้นกำเนิดโรงละครโชจิคุสะที่จัดการแสดงคาบูกิและงานอีเวนต์ประจำฤดูกาล

Back To Index

  • สึรุฮาชิ ฮอนโดริ โชเทนไก

หนึ่งในสถานที่ใกล้สถานีสึรุฮาชิที่ควรค่าแก่การไปเยือนก็คือ ‘สึรุฮาชิ ฮอนโดริ โชเทนไก’ (Tsuruhashi Hondori Shotengai) ย่านการค้าทางตอนใต้ของโอซาก้า ถึงแม้ว่าสึรุฮาชิจะเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นย่านร้านอาหารเกาหลีและร้านขายของกระจุกกระจิกสไตล์เกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่สึรุฮาชิก็ถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริงของพื้นที่บริเวณนี้

ย่านการค้าแห่งนี้มีร้านค้าทั้งหมดประมาณ 800 ร้าน โดยเน้นขายอาหารทะเล ปลา ผักผลไม้สดใหม่ สาหร่ายทะเล รวมถึงสินค้าอื่นๆอีกมากมาย

Back To Index

  • อิคุโนะโคเรียนทาวน์

ที่มา : https://www.photo-ac.com/main/detail/5166947#_=_

อีกสถานที่หนึ่งที่ทุกคนควรไปเมื่อถึงสถานีสึรุฮาชิคือ ‘อิคุโนะโคเรียนทาวน์’ ชุมชนเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ภายในย่านนี้มีร้านค้าและร้านอาหารเกาหลีมากมาย บางร้านก็เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดกิจการมาตั้งแต่สมัยสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว

ชุมชนแห่งนี้ก่อตั้งโดยคนเกาหลีที่ย้ายมาอยู่ในประเทศญี่ปุ่น คนกลุ่มนี้อพยพมาจากประเทศเกาหลีตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลี กลุ่มคนดังกล่าวเป็นที่รู้จักในนาม “Zainichi Kankokujin” ซึ่งหมายถึง “ชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น” พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงพื้นที่ย่านนี้ให้กลายเป็นชุมชนคนเกาหลีขนาดย่อมๆ ซึ่งเป็นที่ที่เราสามารถหาอาหารท้องถิ่นของเกาหลีทานได้ เช่นกิมจิและบิบิมแนงมยอน (บะหมี่เย็นแบบเผ็ดสไตล์เกาหลี)

Back To Index

  • ศาลเจ้ายูกิ

ที่มา : https://www.photo-ac.com/main/detail/23583032

สถานที่ต่อไปที่เราจะแนะนำคือ ‘ศาลเจ้ายูกิ’ (Yuki Shrine) ศาลเจ้าชินโตในเมืองสึที่เต็มไปด้วยดอกบ๊วยพันธุ์ย้อย ในฤดูใบไม้ผลิต้นบ๊วยบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้จะผลิดอกสวยๆกว่า 300 ต้น จนกลายเป็นทัศนียภาพอันงดงามของดอกบ๊วยสีขาวสลับชมพูเฉดต่างๆ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยี่ยมชมศาลเจ้าแห่งนี้คือสัปดาห์ที่ 1 และ 2 ของเดือนมีนาคม เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดอกบ๊วยจะบานสวยเต็มที่

หากต้องการเดินทางไปยังศาลเจ้ายูกิ เราสามารถขึ้นรถบัสที่ไปทางโยเนะซึ (Yonezu) ได้ที่ด้านตะวันออกของสถานีสึ (Tsu Station) โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นก็ลงรถที่ป้ายยูกิจินจะมาเอะ (Yuki Jinja Mae)

Back To Index

  • พิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดมิเอะ (MieMu)

ที่มา : https://en.photo-ac.com/photo/22982686/mie-prefectural-museum-miemu

หากไปเที่ยวเมืองสึในจังหวัดมิเอะ สถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดการไปเยี่ยมชมก็คือ ‘พิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดมิเอะ’ (Mie Prefectural Museum) หรือ ‘มิเอะมิว’ (MieMu) พิพิธภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมอันสวยงามและทันสมัย อีกทั้งเรายังจะได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ เรื่องราวท้องถิ่น วัฒนธรรม ประเพณี และข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับจังหวัดมิเอะ

พิพิธภัณฑ์มิเอะมิวเปิดให้บริการที่เมืองสึในเดือนเมษายน ปี 2014 โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ใหม่ที่เปิดให้บริการแทนพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดมิเอะเก่าซึ่งตั้งอยู่ในสวนไคราคุใกล้กับสถานีสึ อาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์วัฒนธรรมแห่งใหม่ เช่นเดียวกับศูนย์ศิลปะมิเอะและหอสมุดประจำจังหวัดมิเอะ

ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีจอวิดีโอที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้ รวมถึงสัตว์ต่างๆและปลาที่ถูกสตัฟฟ์ไว้

*.。.*゚*.。.*゚*.。.*゚*.。.*゚*.。.*゚*.。.*゚

ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่ารถไฟคินเท็ตสึ “ฮิโนะโทริ” นั้นดีงามแค่ไหน มาจองตั๋วสำหรับทริปโอซาก้าหรือนาโกย่าครั้งหน้ากันเถอะ!

อ่านบทความอื่นๆจาก Kintetsu Railway

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top