7 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดนารา ปี 2023!
มี.ค. 20, 2023
7 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดนารา ปี 2023!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสำหรับการท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของปี เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้ชื่นชมความงดงามของดอกซากุระกันอย่างเต็มที่ เมื่อถึงฤดูกาลนี้ของทุกๆปี นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลจะพากันเดินทางมาจากทั่วโลกเพื่อชื่นชมทิวทัศน์สีชมพูแสนสวยของดอกซากุระที่บานสะพรั่งนี้
นับจากวันที่ญี่ปุ่นปิดประเทศไปในช่วงต้นเดือนเมษายนปี 2020 ฤดูใบไม้ผลิปีนี้ก็นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ไม่มีข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศอันเนื่องมาจากโควิด-19 และกรมอุตุนิยมวิทยาก็คาดการณ์ว่าปีนี้ดอกซากุระจะบานเต็มที่ในวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งเร็วกว่าปกติถึง 3 วัน
สำหรับจังหวัดนารานั้น ดอกซากุระจะเริ่มบานในวันที่ 26 มีนาคม โดยบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงใกล้ๆต้นเดือนเมษายน เพื่อเป็นทางเลือกในการวางแผนเดินทางไปชมซากุระที่ญี่ปุ่น วันนี้เราจะมาแนะนำ 7 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดนารา สำหรับปี 2023 ซึ่งทุกคนสามารถเดินทางไปได้ง่ายๆด้วยรถไฟฟ้าคินเท็ตสึกันค่ะ
สารบัญ (Index)
- 1. ภูเขาโยชิโนะ (Yoshinoyama)
- 2. สวนสาธารณะนารา (Nara Park)
- 3. แม่น้ำซาโฮะกาวะ (Saho River/Sahogawa)
- 4. วัดบุตสึริวจิ (Butsuryu-ji Temple)
- 5. ทาคาดะเซนบงซากุระ (Takada Senbonzakura)
- 6. วัดสึโบซากะเดระ (Tsubosaka-dera Temple)
- 7. ปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle)
1. ภูเขาโยชิโนะ (Yoshinoyama)
มีเพียงไม่กี่สถานที่ในญี่ปุ่นที่จะมีวิวซากุระสวยงามมากๆเหมือน ภูเขาโยชิโนะ (Yoshinoyama / 吉野山) และเป็นที่รู้กันดีว่าภูเขาแห่งนี้คือหนึ่งในจุดชมวิวซากุระที่โด่งดังมากที่สุดในญี่ปุ่นมานานนับศตวรรษ
ภายในบริเวณทั่วทั้งภูเขาโยชิโนะมีต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์กว่า 30,000 ต้น ว่ากันว่าต้นซากุระต้นแรกของที่นี่ปลูกมานานกว่า 1,300 ปีแล้ว พื้นที่ปลูกต้นซากุระของภูเขาโยชิโนะจะอยู่ที่เชิงเขาทางฝั่งทิศเหนือ โดยพื้นที่นี้แบ่งออกเป็นโซนย่อยได้อีก 3 โซนตามลำดับความสูง และมีชื่อเรียกเฉพาะประจำแต่ละโซนดังนี้
- โซนกลาง : นากะเซนบง (Naka Senbon)
- โซนด้านบน : คามิเซนบง (Kami Senbon)
- โซนหุบเขาลึกที่บริเวณยอดเขา : โอคุเซนบง (Oku Senbon)
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวที่ภูเขาโยชิโนะเพื่อชมดอกซากุระคือ ช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ภูเขาโยชิโนะทั้งลูกจะถูกปกคลุมไปด้วยสีชมพู
วิธีเดินทางไปภูเขาโยชิโนะ
คุณสามารถเดินทางไปถึงภูเขาโยชิโนะได้ด้วยการนั่งรถไฟด่วนพิเศษคินเท็ตสึจากสถานี Kintetsu-Nara ไปยังสถานี Yoshino ในหนึ่งเที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที และมีค่าโดยสารอยู่ที่ 870 เยน ทั้งนี้ในระหว่างทางทุกคนจะต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟทั้งหมด 2 ครั้งที่สถานี Yamato-Saidaiji และสถานี Kashiharajingu-mae
2. สวนสาธารณะนารา (Nara Park)
สวนสาธารณะนารา (Nara Park / 奈良公園) ตั้งอยู่ในบริเวณเชิงเขาของภูเขาวาคาคุสะ สวนแห่งนี้มีชื่อเสียงจากการเป็นแหล่งรวมสถานที่สำคัญทั้งทางวัฒนธรรมและทางประวัติศาสตร์จำนวนมาก เช่น หลวงพ่อโตแห่งวัดโทไดจิ ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ และวัดโคฟุคุจิ เป็นต้น
สวนสาธารณะนาราเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 5.11 ตารางกิโลเมตร อีกทั้งยังมีกวางป่าอาศัยอยู่ภายในบริเวณดังกล่าวกว่า 1,300 ตัว สวนสาธารณะแห่งนี้จึงถูกเลือกเป็นหนึ่งใน “100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น”
ด้วยต้นซากุระกว่า 1,700 ต้นที่ปลูกอยู่รอบบริเวณพื้นที่สวนแห่งนี้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิสวนสาธารณะนาราจึงมอบวิวทิวทัศน์ซากุระอันแสนวิเศษให้กับผู้ที่รักในการชมดอกซากุระ
วิธีเดินทางไปสวนสาธารณะนารา
สวนสาธารณะนาราตั้งอยู่ในบริเวณที่สามารถเดินมาจากสถานีรถไฟ Kintetsu-Nara ได้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีจากทางออก A28
3. แม่น้ำซาโฮะกาวะ (Saho River/Sahogawa)
แม่น้ำซาโฮะกาวะ (Saho River/Sahogawa) เป็นหนึ่งในแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำยามาโตะ ซึ่งไหลผ่านเมืองนาราจนไปรวมกับแม่น้ำอากิชิโนะที่อยู่ใกล้ๆกับเมืองยามาโตะ โกริยามะ ก่อนที่จะไหลไปรวมกับแม่น้ำยามาโตะอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ที่ริมสองฝั่งของแม่น้ำซาโฮะกาวะซึ่งกินระยะทางยาวประมาณ 5 กิโลเมตรนั้นจะมีต้นซากุระเรียงรายไปตลอดแนว ในฤดูใบไม้ผลิพื้นที่ริมแม่น้ำแห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยงามที่สุดในนารา
จากประวัติและเรื่องเล่าท้องถิ่นของนารา โทชิอากิระ คาวาจิ (Toshiakira Kawaji) ผู้พิพากษาและผู้นำการปกครองของนาราในช่วงปลายยุคเอโดะได้ริเริ่มแนวคิดการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองนารา ท่านจึงมีคำสั่งให้ปลูกต้นซากุระตามแนวแม่น้ำแห่งนี้ โดยเลือกปลูกสายพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) แต่เนื่องจากซากุระพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่มีอายุค่อนข้างสั้น ดังนั้นทางการจึงนำต้นใหม่มาปลูกแทนที่ต้นเดิมอยู่บ่อยครั้ง
วิธีเดินทางไปแม่น้ำซาโฮะกาวะ
คุณสามารถเดินทางไปยังแม่น้ำซาโฮะกาวะได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้าคินเท็ตสึนาราจากสถานี Kintetsu-Nara ไปที่สถานี Shin-Omiya จุดชมซากุระริมแม่น้ำจะอยู่ในบริเวณระหว่างสะพานโอมิยะ (Omiya Bridge) และสะพานของรถไฟสาย JR ซาโฮะกาวะ (JR Sahogawa Bridge)
4. วัดบุตสึริวจิ (Butsuryu-ji Temple)
วัดบุตสึริวจิ (Butsuryu-ji Temple/佛隆寺) หรือ วัดบุสึริว เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัดนารา ว่ากันว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 850 นอกจากนี้ วัดบุตสึริวจิยังเป็นที่ตั้งของต้นซากุระขนาดใหญ่ยักษ์อายุกว่า 900 ปีอีกด้วย ต้นซากุระต้นนี้มีชื่อเรียกว่า “ต้นซากุระพันปี” (Sennen-Zakura)
ต้นซากุระพันปีนั้นได้ชื่อว่าเป็นต้นซากุระที่อายุมากที่สุดในญี่ปุ่น ต้นซากุระดังกล่าวนี้จะเริ่มผลิดอกบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม และจะบานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายน
วิธีเดินทางไปวัดบุตสึริวจิ
คุณสามารถเดินทางมาที่วัดบุตสึริวจิได้ ด้วยการนั่งรถไฟคินเท็ตสึจากสถานี Kintetsu-Nara ของรถไฟสาย Kintetsu Namba/Nara ไปยังสถานี Haibara ของรถไฟสาย Kintetsu Osaka โดยจะต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานี Fuse
5. ทาคาดะเซนบงซากุระ (Takada Senbonzakura)
ทาคาดะเซนบงซากุระ (Takada Senbonzakura / 高田千本桜) คือชื่อเรียกของต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายไปตามริมฝั่งของแม่น้ำทาคาดะ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองยามาโตะทาคาดะ อันเป็นที่ตั้งของวัดเซนริสึเดระ (Senritsu-dera Temple) ว่ากันว่าต้นซากุระต้นแรกของที่นี่ถูกปลูกโดยอาสาสมัครท้องถิ่นในปี 1948
ในเวลาต่อมา จุดชมทาคาดะเซนบงซากุระก็ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่มีผู้คนมาเยี่ยมชมมากที่สุดในนารา ที่นี่มีต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์จำนวนกว่า 1,200 ต้นเรียงรายไปตามริมแม่น้ำซึ่งกินระยะทางยาวกว่า 2.5 กิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์โซเมโยชิโนะ (Somei Yoshino), พันธุ์ยามะซากุระ (Yamazakura), พันธุ์อิโตะฮิกัง (Itohigan), พันธุ์อิโตะซากุระ (Itozakura) และพันธุ์ยาเอะซากุระ (Yaezakura)
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวชมซากุระที่นี่คือ ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงช่วงต้นเดือนเมษายน
วิธีเดินทางไปชมทาคาดะเซนบงซากุระที่แม่น้ำทาคาดะ
คุณสามารถเดินทางไปที่แม่น้ำทาคาดะได้ ด้วยการนั่งรถไฟด่วนของคินเท็ตสึจากสถานี Kintetsu-Nara ไปยังสถานี Takada-shi และต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ 2 ครั้งที่สถานี Yamato-Saidaiji ของรถไฟสาย Kintetsu Kyoto/Kishihara และที่สถานี Kashiharajingu-mae ของรถไฟสาย Kintetsu Osaka จุดชมทาคาดะเซนบงซากุระสามารถเดินจากสถานี Takada-shi ได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
6. วัดสึโบซากะเดระ (Tsubosaka-dera Temple)
วัดสึโบซากะเดระ (Tsubosaka-dera Temple/壺阪寺) เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขา โดยในฤดูใบไม้ผลิทุกคนจะได้ชมวิวซากุระอันงดงามพร้อมด้วยรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมปางนั่งขนาดใหญ่ ทั้งนี้วัดสึโบซากะเดระมีชื่อเสียงจากการเป็นที่ตั้งของรูปปั้นพระโพธิสัตว์ขนาดใหญ่ 3 องค์ คือ รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมปางนั่ง รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมปางยืน รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมปางนอน
และในยามกลางคืน วัดสึโบซากะเดระจะเปิดไฟประดับตามต้นซากุระภายในบริเวณวัด แสงไฟอันสวยงามจะทำให้กลีบดอกซากุระเป็นสีชมพูเรืองรอง ก่อให้เกิดบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติก
วิธีเดินทางไปวัดสึโบซากะเดระ
คุณสามารถเดินทางไปวัดสึโบซากะเดระได้ ด้วยการโดยสารรถไฟด่วนคินเท็ตสึจากสถานี Kintetsu-Nara ไปยังสถานี Tsubosakayama โดยจะต้องเปลี่ยนขบวน 2 ครั้งที่สถานี Yamato-Saidaiji ของรถไฟสาย Kintetsu Kyoto/Kishihara และที่สถานี Kashiharajingu-mae ของรถไฟสาย Kintetsu Osaka
เมื่อไปถึงสถานี Tsubosakayama คุณจะต้องขึ้นรถบัสนาราโคทสึ (Nara Kotsu Bus) ไปลงที่ป้าย Tsubosakadera-mae เพื่อไปที่วัดสึโบซากะเดระ (ใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 10 นาที)
7. ปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle)
ปราสาทโคริยามะ (Koriyama Castle/郡山城跡) สร้างขึ้นโดยอาเคจิ มิทสึฮิเดะและโทโด ทาคาโทระ สองซามูไรผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงยุคกลาง ปราสาทแห่งนี้ถูกใช้เป็นศาลาว่าการในช่วงปลายยุคเฮอัน กล่าวกันว่ามีปราสาทเก่าเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่จะมีความพิเศษเหมือนปราสาทโคริยามะ เพราะปราสาทโคริยามะได้รับเลือกให้เป็นทั้ง 1 ใน 100 ปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น และ 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
รอบบริเวณปราสาทโคริยามะนั้นรายล้อมไปด้วยพุ่มไม้เขียวชอุ่มและต้นซากุระจำนวนมาก ในยามกลางคืนของฤดูใบไม้ผลิ เราจึงได้ชมภาพความงดงามของดอกซากุระและไฟประดับที่ส่องสว่างสะท้อนอยู่บนผิวน้ำ
นอกจากนั้นที่ปราสาทโคริยามะยังมีงานเทศกาลที่เรียกว่า “งานเทศกาลปราสาทแห่งนครยามาโตะโคริยามะ” (Yamato Koriyama Castle Matsuri) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน โดยงานนี้จัดขึ้นด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและเฉลิมฉลองการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลินั่นเอง
วิธีเดินทางไปปราสาทโคริยามะ
คุณสามารถเดินทางไปที่ปราสาทโคริยามะได้ ด้วยการนั่งรถไฟด่วนจากสถานี Kintetsu-Nara ไปยังสถานี Kintetsu Koriyama โดยจะต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานี Yamato-Saidaiji ของรถไฟสาย Kintetsu Kyoto/Kishihara
จากสถานี Kintetsu Koriyama สามารถเดินไปยังปราสาทโคริยามะได้โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
*.。.*゚*.。.*゚*
และทั้งหมดนี้ก็คือ “7 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัดนารา” ที่เรานำมาฝากกันค่ะ หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชื่นชมภาพความงดงามของซากุระสีชมพูล่ะก็ ลองแวะไปเที่ยวจังหวัดนาราในช่วงฤดูใบไม้ผลิกันนะคะ
เว็บไซต์ของรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ (Kintetsu Railway)
อ่านบทความอื่นๆจาก Kintetsu Railway
- “หมู่บ้านสเปนชิมะ” ธีมพาร์คแห่งความสุข เที่ยวสนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- เที่ยวภูมิภาคคันไซด้วย Kintetsu Rail Pass บัตรเดินทางที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายตลอดทริปท่องเที่ยว
- เพลิดเพลินใจไปกับวิวบน “กระเช้าลอยฟ้าโกไซโช” พร้อมแวะเที่ยวสกีรีสอร์ตเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดมิเอะ!
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
คันไซ

จังหวัด โอซาก้า

จังหวัด เกียวโต

จังหวัด เฮียวโกะ

จังหวัด นารา

จังหวัด มิเอะ

จังหวัด ชิกะ

จังหวัด วาคายามะ