สัมผัสความหรูหราในการเดินทางแสนพิเศษกับรถไฟคินเท็ตสึ Shimakaze และ Hinotori
พ.ย. 20, 2024
สัมผัสความหรูหราในการเดินทางแสนพิเศษกับรถไฟคินเท็ตสึ Shimakaze และ Hinotori
Kintetsu Railway คือบริษัทรถไฟเอกชนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น คินเท็ตสึนั้นเชื่อมต่อหลายเมืองของญี่ปุ่น เช่น โอซาก้า นารา เกียวโต และมิเอะ แถมยังขึ้นชื่อในเรื่องความตรงต่อเวลา มีประสิทธิภาพสูง และเส้นทางที่รถไฟเคลื่อนไปก็เต็มไปด้วยความสวยงามค่ะ คินเท็ตสึนั้นให้บริการรถไฟหลากหลายประเภท ทั้งรถไฟธรรมดาและรถไฟด่วนพิเศษ ซึ่งล้วนก็ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ทั้งหรูหราและสะดวกสบายให้กับทุกคน วันนี้เราจะมาพูดถึงรถไฟด่วนพิเศษ 2 ประเภท นั่นคือ Shimakaze และ Hinotori ที่ทั้งรวดเร็วและหรูหรา ✨
รถไฟด่วนพิเศษ Shimakaze และ Hinotori ให้บริการเส้นทางที่แตกต่างกันค่ะ โดยแต่ละขบวนจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว สำหรับรถไฟ Shimakaze ขึ้นชื่อในเรื่องเส้นทางที่สวยงามผ่านจังหวัดมิเอะ ในขณะที่รถไฟ Hinotori ก็ให้บริการด้วยความเร็วสูงแต่ยังคงความหรูหรา โดยวิ่งระหว่างเส้นทางโอซาก้าและนาโกย่า สำหรับบทความนี้ เราจะเจาะลึกรายละเอียดของรถไฟ 2 ขบวนนี้ รวมถึงเส้นทาง ค่าโดยสาร ตารางเวลา สิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟ และจุดหมายปลายทางยอดนิยมต่างๆค่ะ
❤️ 🌟 ❤️ 🌟 ❤️
1. รถไฟด่วนพิเศษ Shimakaze และ Hinotori จะพาคุณไปที่ไหนบ้าง?
- รถไฟด่วนพิเศษ Shimakaze ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้บริการแก่ผู้เดินทางที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดมิเอะ โดยเฉพาะในโซน Ise-Shima ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความงามตามธรรมชาติ ศาลเจ้าเก่าแก่ และทิวทัศน์ชายฝั่งทะเล รถไฟ Shimakaze ขบวนนี้จะพาทุกคนวิ่งไปตามเส้นทางต่อไปนี้:
- จาก Osaka-Namba ถึง Kashikojima: เส้นทางนี้จะเดินทางจากใจกลางเมืองโอซาก้าที่แสนพลุกพล่านไปยังโซน Ise-Shima อันงดงามและเงียบสงบ
- จาก Kyoto ถึง Kashikojima: เพลิดเพลินไปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจนถึงทิวทัศน์ชายฝั่งทะเลของ Ise-Shima
- จาก Nagoya ถึง Kashikojima: ท่องเมืองประวัติศาสตร์จากนาโกย่าไปยังความงามของทิวทัศน์คาชิโกจิมะ
- รถไฟด่วนพิเศษ Hinotori จะเชื่อมต่อสองเมืองใหญ่คือโอซาก้าและนาโกย่าไปตามสาย Kintetsu Nagoya โดยให้บริการแก่ผู้เดินทางที่ต้องการความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายระหว่างศูนย์กลางเมืองทั้งสองแห่งนี้เป็นหลัก โดยจุดจอดสำคัญบนเส้นทางนี้ ได้แก่ เมืองสึและเมืองคุวานะในจังหวัดมิเอะ เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการไปยังเขตชานเมือง
2. ค่าใช้จ่ายในการโดยสารรถไฟ
ค่าโดยสารและตารางเวลาของรถไฟ Shimakaze และ Hinotori แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเส้นทาง ชั้นที่นั่ง และเวลาเดินทาง
2.1 ค่าโดยสารรถไฟ Shimakaze : แตกต่างกันตามสถานที่ออกเดินทางและที่นั่งที่ต้องการ ดังนี้
- จาก Osaka-Namba ถึง Kashikojima: ประมาณ 5,200–6,200 เยนสำหรับตั๋วผู้ใหญ่ (เที่ยวเดียว)
- จาก Kyoto ถึง Kashikojima: ประมาณ 5,300–6,300 เยน
- จาก Nagoya ถึง Kashikojima: ประมาณ 5,000–6,000 เยน
รถไฟ Shimakaze ให้บริการวันละครั้งในแต่ละเส้นทาง จึงจำเป็นต้องวางแผนและจองตั๋วล่วงหน้า คลิ๊กเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าโดยสารและตารางเวลาของรถไฟ Shimakaze ได้เลยนะคะ 😊
2.2 ค่าโดยสารรถไฟ Hinotori : มีที่นั่งให้เลือกสองชั้น ได้แก่ ชั้นพรีเมียมและชั้นปกติ ราคาก็จะแบ่งออกตามนี้
- ชั้นพรีเมียม: ค่าโดยสารโอซาก้า-นาโกย่าอยู่ที่ประมาณ 4,260 เยนสำหรับผู้ใหญ่ (เที่ยวเดียว)
- ชั้นปกติ: ค่าโดยสารจากโอซาก้าไปนาโกย่าอยู่ที่ประมาณ 3,260 เยนสำหรับผู้ใหญ่ (เที่ยวเดียว)
รถไฟ Hinotori ให้บริการระหว่างโอซาก้าและนาโกย่าหลายเที่ยวต่อวัน จึงสะดวกสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเวลาออกเดินทางที่ยืดหยุ่นได้ คลิ๊กเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าโดยสารและตารางเดินรถของรถไฟ Hinotori ได้ค่ะ 🌟
3. วิธีการซื้อตั๋วรถไฟ
สามารถซื้อตั๋วสำหรับรถไฟด่วนพิเศษ Shimakaze และ Hinotori ได้หลายวิธีดังนี้ค่ะ
- เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วรถไฟคินเท็ตสึ: ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วรถไฟ Kintetsu ซึ่งตั้งอยู่ในสถานีรถไฟหลักๆ เช่น Osaka-Namba, Kyoto, Nagoya และ Tsu
- เครื่องจำหน่ายตั๋วรถไฟคินเท็ตสึ: สถานีหลายแห่งมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติซึ่งผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วสำหรับรถไฟทั้งสองขบวนได้อย่างง่ายดาย
- เว็บไซต์และแอปฯจำหน่ายตั๋วรถไฟคินเท็ตสึ : นักท่องเที่ยวยังสามารถจองตั๋วออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปของ Kintetsu Railway ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการจองที่นั่งล่วงหน้า
- บริษัทตัวแทนจำหน่ายตั๋วรถไฟ: บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวบางแห่งในญี่ปุ่นและต่างประเทศอาจจำหน่ายตั๋ว Kintetsu Limited Express ด้วยเช่นกัน
4. โดยสารอย่างเพลิดเพลินไปกับรถไฟด่วนพิเศษ Shimakaze
รถไฟ Shimakaze ถูกออกแบบมาเพื่อมอบการเดินทางที่หรูหราและสะดวกสบาย พร้อมด้วยคุณสมบัติพรีเมี่ยมมากมายเพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้กับผู้โดยสารทุกท่าน
ห้องรับรองสำหรับการชมวิว: ห้องนี้จะตั้งอยู่ที่บริเวณด้านหน้าและด้านหลังของรถไฟ ห้องรับรองเหล่านี้ช่วยให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบพาโนรามาของพื้นที่ชนบทที่ผ่านไปพร้อมกับจิบกาแฟหรือชาในขณะเดียวกันนั่นเองค่ะ
ห้องส่วนตัว: เหมาะสำหรับคนที่เดินทางเป็นครอบครัวหรือเดินทางกับกลุ่มเพื่อน ห้องส่วนตัวนี้มีพื้นที่กว้างสะดวกสบายพร้อมที่นั่งสบายและมีการออกแบบภายในที่สวยงาม เรียกได้ว่าไปกันเป็นกลุ่มก็สะดวกมากๆ แถมยังได้ใช้พื้นที่ส่วนตัวกันแบบเต็มที่อีก
ที่นั่งหรูหรา: ที่นั่งแต่ละที่นั่งในขบวนได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารเป็นหนักค่ะ แน่นอนว่าจะต้องมีที่รองศีรษะและที่วางเท้าซึ่งสามารถปรับได้ โดยพื้นที่วางขาก็ค่อนข้างกว้างขวาง เหยียดขาได้สบายเลย แถมแต่ละที่นั่งยังได้รับการจัดวางเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวและผ่อนคลายสูงสุดอีกด้วย
ร้านอาหารเลิศรส: รถไฟ Shimakaze นำเสนอเมนูพิเศษที่คัดสรรมาจากอาหารท้องถิ่นของจังหวัดมิเอะ ทั้งอาหารทะเลสูตรต้นตำรับและข้าวกล่องเบนโตะแบบญี่ปุ่นให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกันจนพุงกาง!
Wi-Fi และปลั๊กไฟ: เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น Shimakaze ให้บริการ Wi-Fi และปลั๊กไฟฟรีสำหรับผู้โดยสารทุกคน
5. สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมจากเส้นทางรถไฟ Shimakaze
เมื่อคุณเดินทางกับรถไฟ Shimakaze คุณจะได้พบกับสถานที่อันสวยงามหลายแห่งในพื้นที่ Ise-Shima ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องทิวทัศน์ธรรมชาติ วัฒนธรรมดั้งเดิม และสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมายค่ะ
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine) : ศาลเจ้าอิเสะเป็นศาลเจ้าชินโตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่นี่ดึงดูดทั้งผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยว บริเวณศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่ป่าไม้ที่เงียบสงบและมีความสำคัญทางจิตวิญญาณอีกด้วยค่ะเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island) : เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโทบะ มีชื่อเสียงในเรื่องการเพาะเลี้ยงไข่มุก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงไข่มุกและเดินชมนิทรรศการบนเกาะได้
หมู่บ้านสเปนชิมะ (Shima Spain Village): สถานที่สำหรับครอบครัว ทุกเพศ ทุกวัย! ที่นี่มีทั้งเครื่องเล่นที่จะทำให้ทุกคนได้สนุกสนานและยังสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมสไตล์สเปนอันโดดเด่นได้ด้วยค่ะ
อ่าวอาโกะ (Ago Bay): อ่าวอาโกะเป็นอ่าวที่มีทัศนียภาพสวยงามโดดเด่นจากแนวชายฝั่งและฟาร์มไข่มุก อีกทั้งยังมีบริการล่องเรือเที่ยวชมสถานที่และพาไปยังจุดถ่ายภาพยอดนิยมอีกด้วย
6. นั่งรถไฟ Hinotori ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ตระการตาไปพร้อมกับความสะดวกสบาย
รถไฟด่วนพิเศษ Hinotori ออกแบบมาเพื่อผู้เดินทางที่ต้องการไปคุยธุระหรือทำธุรกิจโดยเฉพาะ รถไฟขบวนนี้จะผสมผสานทุกอย่างที่คุณต้องการออกมาได้อย่างลงตัว มีทั้งความสะดวกและความหรูหราเพื่อให้การเดินทางระหว่างโอซาก้าและนาโกย่าสะดวกยิ่งขึ้น!
ที่นั่งพรีเมี่ยม: ในชั้นพรีเมี่ยม ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินไปกับที่นั่งที่กว้างขวางขึ้น โดยแต่ละที่นั่งจะติดตั้งจอภาพส่วนตัว ที่วางเท้า และฟังก์ชันปรับเอนที่จะทำให้คุณโดยสารรถไฟนี้ได้สบายกว่าใครๆ
ที่นั่งปกติ: แม้แต่ในชั้นปกติ ผู้โดยสารทุกท่านก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับที่นั่งซึ่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมพื้นที่วางขาที่กว้างขวางและยังสามารถปรับเอนตัวเก้าอี้ได้ด้วย
หน้าต่างแบบพาโนรามา: หน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้คุณมองเห็นทิวทัศน์ชนบทที่สวยงามตลอดเส้นทางโอซาก้า-นาโกย่าได้อย่างเต็มตา!
Wi-Fi ฟรีและที่ชาร์จไฟ: รถไฟ Hinotori มี Wi-Fi ฟรีและปลั๊กไฟที่ที่นั่งทุกที่นั่ง
ล็อคเกอร์สำหรับเก็บสัมภาระส่วนตัว: รถไฟ Hinotori มีล็อคเกอร์สำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางและสัมภาระส่วนตัว แน่นอนว่าพื้นที่เหมาะสม สามารถใส่สัมภาระได้เยอะเลยค่ะ
ห้องน้ำบนรถไฟ: รถไฟ Hinotori มีห้องน้ำที่ทันสมัยและกว้างขวางสำหรับผู้โดยสารในทั้งสองชั้น
7. สถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟ Hinotori
เมื่อคุณโดยสารรถไฟ Hinotori ในระหว่างเส้นทางโอซาก้าไปจนถึงนาโกย่า คุณจะได้พบกับเมืองที่มีชีวิตชีวาและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายตลอดเส้นทาง 😊
โอซาก้า (Osaka): จังหวัดโอซาก้าเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากมีชื่อเสียงทั้งในเรื่องอาหารรสเลิศ ย่านการค้า สถานที่ทางประวัติศาสตร์และอื่นๆ เช่น ปราสาทโอซาก้า สวนสนุก Universal Studios Japan และย่านโดทงโบริอันมีชีวิตชีวา
นาโกย่า (Nagoya): นาโกย่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัยและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น ปราสาทนาโกย่า ศาลเจ้าอัตสึตะ และพิพิธภัณฑ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของโตโยต้า
เมืองสึ (Tsu): เป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิเอะ เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องวัดและศาลเจ้าเก่าแก่ เช่น ศาลเจ้ายูกิ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แนวชายฝั่งที่สวยงาม ทำให้รอบๆเมืองสึมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่าเมืองใหญ่ๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสงบเป็นอย่างยิ่งค่ะ
เมืองคุวานะ (Kuwana): เมืองคุวานะตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ ที่นี่เป็นที่ตั้งของสวนดอกไม้ Nabana no Sato ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการประดับไฟฤดูหนาว แต่สวยเปิดให้บริการตลอดปีทุกคนสามารถไปชมกันได้ตามสะดวกค่ะ
❤️ 🌟 ❤️ 🌟 ❤️
สุดท้ายนี้ รถไฟด่วนพิเศษทั้งสองประเภทจึงเสมือนเป็นตัวแทนของความหรูหราและความมีประสิทธิภาพในการเดินทางท่องคันไซ สำหรับรถไฟ Shimakaze นั้นนำเสนอการเดินทางที่ผ่อนคลายไปพร้อมกับทัศนียภาพอันสวยงามของริมชายฝั่ง และยังนำทางทุกคนไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางวัฒนธรรมมากมาย ส่วนรถไฟ Hinotori ก็นำเสนอความสะดวกรวดเร็วและทันสมัยสำหรับการเดินทางระหว่างโอซาก้าและนาโกย่า อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นที่คุยงานปรึกษาด้านธุรกิจได้ด้วย และนั่นจึงทำให้รถไฟทั้งสองประเภทสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำให้กับผู้โดยสารทุกท่านได้เป็นอย่างดีค่ะ
สำหรับใครที่สนใจจะไปเที่ยวในบริเวณภูมิภาคคันไซก็แนะนำมาลองนั่งกันได้นะคะ 😊
อ่านบทความน่าสนใจจาก fromJapan
- เช่ารถเที่ยวญี่ปุ่น ต้องเตรียมตัวอย่างไร? พร้อมแนะนำบริษัทรถเช่าในญี่ปุ่น
- ประตูโกโรมง (Goromon) สัญลักษณ์ของปราสาทคาโกชิม่าแห่งแค้วนซัตสึมะที่ล่มสลาย
- สัมผัสจิตวิญญาณของสารทฤดู! เยือน 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นาราและมิเอะ 🍂
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
คันไซ

จังหวัด โอซาก้า

จังหวัด เกียวโต

จังหวัด เฮียวโกะ

จังหวัด นารา

จังหวัด มิเอะ

จังหวัด ชิกะ

จังหวัด วาคายามะ