เทรนด์ฮิตคิวชู 18022022 : ชมหมู่มวลผกา ณ สวนสวยในคิวชู
ก.พ. 18, 2022
บทนำ : เทรนด์ฮิตคิวชู 18022022
ในบทความเทรนด์ฮิตคิวชูประจำสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) ต่อกันที่จังหวัดคาโกชิม่า (Kagoshima) และปิดท้ายกันที่จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto)
ว่าแต่สถานที่ท่องเที่ยวสุดบรรเจิดที่ทีมงานคุณภาพภูมิใจนำเสนอนั้นจะเป็นที่ไหนและน่าสนใจอย่างไร เราตามมาดูกันดีกว่าค่ะ!
สารบัญ : เทรนด์ฮิตคิวชู 18022022
1. สวน Glover Garden
สวน Glover Garden เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่สไตล์ตะวันตกที่ตั้งอยู่ในเมืองนางาซากิ จังหวัดนางาซากิ ภายในสวนแห่งนี้รายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพรรณที่มีสีสันสวยสดงดงาม
ทั้งนี้สวน Glover Garden ได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติด้วยค่ะ
ในสวน Glover Garden มีอาคารอยู่ด้วยกันทั้งหมด 9 หลัง ซึ่งอาคารแต่ละหลังนั้นมีอายุมากกว่า 150 ปีเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ชวนให้นึกถึงวิถีชีวิตของคนในสมัยเมจิ (Meiji Period) จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สถานที่แห่งนี้จะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่อชาวนางาซากิเป็นอย่างมาก
เนื่องด้วยสวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา เราจึงสามารถมองเห็นทัศนียภาพของท่าเรือนางาซากิ (Nagasaki Port) ภูเขาอินาสะ (Mt. Inasa) และทิวทัศน์แสนงามของเมืองนางาซากิ เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ
ภาพที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือ หินรูปหัวใจ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าหากคู่รักลองแตะที่หินแผ่นนี้ พวกเขาก็จะมีความสุขและครองคู่กันไปอย่างราบรื่น แต่หากคนโสดมาขอพรก็จะสมหวังกับความรักค่ะ
ด้วยเหตุนี้ หินรูปหัวใจจึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในหมู่นักท่องเที่ยวค่ะ
พอตกกลางคืน เราสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากช่วงกลางวัน นอกจากนี้ภายในสวนยังมีดอกไม้ไฟให้ชมอีกด้วย แสงสีภายในสวนก็ทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินกับความงดงามที่เปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาลได้อย่างเต็มอิ่ม
ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการปิดปรับปรุงเพื่อทำนุบำรุงอาคารไม้สไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นแห่งนี้ ตอนนี้เขาได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าเพื่อนๆมาเที่ยวคิวชูกันครั้งหน้า อย่าลืมแวะมาชมกันน๊า~!
ข้อมูลเกี่ยวกับสวน Glover Garden
วิธีเดินทาง
- นั่งรถรางจากสถานีนางาซากิมาเอะ (นั่งรถไปที่สถานีวัดโซฟุกุจิ เปลี่ยนขบวนที่นางาซากิไชน่าทาวน์ และนั่งรถต่อที่สถานีอิชิบาชิ) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นลงที่สถานี Oura Church แล้วเดินต่ออีก 7 นาที
ที่อยู่
- 850-0931 Nagasaki, 8-1 Minamiyamatemachi, Japan
ติดต่อ
- 095-822-8223
ค่าสถานที่
- 620 เยน
วันและเวลาทำการ
- เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00 – 18:00 น.
- ช่วงเวลากลางคืน (โปรดตรวจสอบในเว็บไซต์)
- หมายเหตุ : สวนเปิดให้เข้าได้จนถึงช่วง 20 นาทีก่อนเวลาสวนปิด
เว็บไซต์
พิกัด
2. สวนเซ็นกังเอ็น (SENGAN-EN)
สวนเซ็นกังเอ็น (SENGAN-EN) เป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น สวนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1658 โดยมีพื้นที่ประมาณ 15,000 ตารางเมตร ยิ่งไปกว่านั้น เรายังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟซากุระจิมะและอ่าวคิงโคะ (Kinko) ได้จากที่นี่
นอกจากนี้ สวนเซ็นกังเอ็นยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2015 อีกด้วย
ความโดดเด่นของสวนเซ็นกังเอ็นคือหมู่ดอกไม้ที่ผลิบานสวยงามในทุกๆฤดูกาลค่ะ
ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกๆปี ดอกบ๊วยสีแดงขาวจะพากันบานสะพรั่งอวดรูปโฉมอันงดงามของมัน พร้อมกับส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทุกพื้นที่
นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ของสวนเซ็นกังเอ็นก็ยังมีคาเฟ่ ร้านน้ำชา และร้านอาหารท้องถิ่นให้แวะพักเติมพลังกันด้วยค่ะ
หากเพื่อนๆมีโอกาสได้มาเที่ยวที่จังหวัดคาโกชิม่า อย่าลืมแวะมาทานอาหารท้องถิ่นอร่อยๆและชมวิวสวยๆที่สวนเซ็นกังเอ็นกันนะคะ
ข้อมูลเกี่ยวกับสวนเซ็นกังเอ็น (SENGAN-EN)
วิธีเดินทาง
- จากสถานี Kagoshima-Chuo ให้นั่งรถบัส Kagoshima City View ไปลงที่ Senganen-mae ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
- นั่งรถยนต์ส่วนตัวจากสถานี Kagoshima-Chuo ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ที่อยู่
- 9700-1 Yoshinocho, Kagoshima, 892-0871
ติดต่อ
- +81992471551
วันและเวลาทำการ
- เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:00 น.
เว็บไซต์
พิกัด
3. พิพิธภัณฑ์เหมืองถ่านหินมันดะ (Manda Coal Mine Museum)
พิพิธภัณฑ์เหมืองถ่านหินมันดะ (Manda Coal Mine Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองอาราโอะ จังหวัดคุมาโมโตะ แต่เดิมที่นี่เคยเป็นเหมืองถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ก่อนจะกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก
ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานถ่านหินมาเป็นน้ำมัน ทำให้อุตสาหกรรมถ่านหินที่เคยรุ่งเรืองในอดีตต้องปิดตัวลงในปี 1997 เพราะความต้องการของตลาดที่ลดลงนั่นเอง
ในปัจจุบันทางพิพิธภัณฑ์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้านในเหมืองด้วยค่ะ สิ่งที่เราจะได้ชมก็คือการจัดแสดงสิ่งของอันเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน
ถ้าเพื่อนๆได้มาเที่ยวคุมาโมโตะเมื่อไหร่ ก็ลองแวะมาชมเหมืองถ่านหินสุดล้ำค่าแห่งนี้กันนะคะ
ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์เหมืองถ่านหินมันดะ (Manda Coal Mine Museum)
วิธีเดินทาง
- จากสี่แยกมันดะนิชิ (Manda Nishi) บนทางหลวงหมายเลข 208 ถนนเมืองอาราโอะฝั่งตะวันออก ให้นั่งรถยนต์หรือรถแท็กซี่ไปตามถนนเส้น Nankan เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
- นั่งรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Arao จากนั้นเดินไปยังพิพิธภัณฑ์โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- นั่งรถบัสไปลงที่สวนสาธารณะมันดะ โดยใช้เวลาประมาณ 4 – 5 นาที
- ดูรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> คลิก!
ที่อยู่
- 200-2 Haramanda, Arao, Kumamoto 864-0001, japan
ติดต่อ
- +81968579155
วันและเวลาทำการ
- เปิดตั้งแต่เวลา 9:30 – 17:00 น.
- หมายเหตุ : ปิดทุกวันจันทร์
ค่าสถานที่
- ผู้ใหญ่ : 400 เยน อัตรากลุ่ม (20 คนขึ้นไป) 320 เยน
- นักเรียนอายุ 16 – 18 ปี : 300 เยน / หากมาเป็นกลุ่ม 20 คนขึ้นไป มีค่าเข้าชม 240 เยน
- นักเรียนอายุ 7 – 15 ปี : 200 เยน / หากมาเป็นกลุ่ม 20 คนขึ้นไป มีค่าเข้าชม 160 เยน
- เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี : ไม่มีค่าใช้จ่าย
เว็บไซต์
พิกัด
ที่มา (Reference)
- Facebook : Onsen Island Kyushu – ท่องเที่ยว คิวชู
- Instagram : onsenislandkyushuth
- Website : Visit Kyushu
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับภูมิภาคคิวชู
- เทรนด์ฮิตคิวชู 21012022 : ความงามยามหิมะโปรยปราย ณ ‘ภูเขาสึรุมิ’
- เทรนด์ฮิตคิวชู 28012022 : กินลมชมวิวสุดชิลล์ที่ ‘เส้นทางรถไฟมัตสึอุระ’
- เทรนด์ฮิตคิวชู 04022022 : หน้าหนาวทั้งทีก็ต้องไปเล่นสกีที่เทือกเขาคุจูสิคะ!
- เทรนด์ฮิตคิวชู 11022022 : ชมความตระการตาของ ‘เทศกาลโคมไฟนางาซากิ’
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ