OKADA MUSEUM OF ART พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในฮาโกเนะ
ก.พ. 17, 2021
เสพงานอาร์ตที่ OKADA MUSEUM OF ART พิพิธภัณฑ์ที่มีพื้นที่จัดแสดงใหญ่ที่สุดในฮาโกเนะ
OKADA MUSEUM OF ART (พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอคาดะ) มีผลงานจัดแสดงกว่า 450 ชิ้น เป็นงานประเภทจิตรกรรม เครื่องกระเบื้อง และเครื่องปั้นดินเผาของญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศแถบเอเชียตะวันออก ด้วยพื้นที่ของห้องจัดแสดงอันกว้างขวางและใหญ่ที่สุดในฮาโกเนะ ทุกคนจึงสามารถดื่มด่ำกับงานศิลป์ได้อย่างจุใจเลยล่ะ
เมื่อได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ในฮาโกเนะแล้ว จะไม่พูดถึงออนเซ็นก็ไม่ได้นะ เพราะไฮไลต์อย่างหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ก็คือ คาเฟ่ออนเซ็นเท้า ที่จะทำให้เราผ่อนคลายสุดๆ แถมยังอิ่มเอมใจไปกับความสวยงามของจิตรกรรมฝาผนังสุดอลังการขนาด 30 x 12 เมตร ซึ่งผลงานนี้สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวญี่ปุ่นชื่อดัง แถมในระหว่างที่แช่ออนเซ็น เราจะชิมของหวานไปด้วยก็ย่อมได้
ยิ่งไปกว่านั้น พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ยังมีสวนขนาดใหญ่ที่คอยสร้างบรรยากาศแสนสงบและสดชื่นให้กับเราอีกด้วย เรียกได้ว่านอกจากจะได้เสพงานอาร์ตดีๆแล้ว เรายังได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติสีเขียวอันแสนร่มรื่นอีกด้วย
เอาล่ะ! พวกเรามาพักผ่อนพร้อมกับหาแรงบันดาลใจใหม่ๆที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอคาดะกันเถอะ!
สารบัญ
-
- มารู้จักพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอคาดะ (OKADA MUSEUM OF ART) กันเถอะ!
- พักผ่อนหย่อนใจกับสวนภายในพิพิธภัณฑ์โอคาดะ
- อิ่มท้องด้วยของกินแสนอร่อยในไคกาเต (Kaikatei)
- ฟุตบาธคาเฟ่ (Footbath Cafe) จะมานั่งเสพงานอาร์ตทั้งที ก็ต้องมีกาแฟแก้วโปรดด้วยสิ
- ก่อนกลับบ้านจะลืมของฝากได้ไง~ มาแวะช้อปที่ Museum Shop กันเถอะ
- วิธีการเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอคาดะ
1. มารู้จักพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอคาดะ (OKADA MUSEUM OF ART) กันเถอะ!
ยินดีต้อนรับสู่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอคาดะ สวรรค์แดนศิลป์แห่งเมืองฮาโกเนะ สถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะกว่า 450 ชิ้นซึ่งจัดเรียงตามยุคสมัยไว้ด้วยกันในพื้นที่จัดแสดงขนาด 5,000 ตารางเมตร!
ยิ่งไปกว่านั้น ไฮไลต์เด็ดของที่นี่ก็คือการจัดแสดงอาร์ตคอลเลกชันต่างๆด้วย ทั้งนี้ ทางพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงงานศิลปะแต่ละคอลเลกชันตามระยะเวลาที่กำหนด เราจึงมีโอกาสได้ชมงานอาร์ตอย่างหลากหลายเลยล่ะ
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าชิ้นงานยังมีจอแอลซีดีระบบสัมผัส (LCD touch screen) ที่คอยบอกข้อมูลและรายละเอียดของชิ้นงานนั้นอีกด้วย พอถึงตรงนี้ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าเราจะอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะคำอธิบายของเขามีให้ถึง 4 ภาษาเลยทีเดียว นั่นก็คือภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ทำให้ผู้เข้าชมสามารถดื่มด่ำกับงานอาร์ตอย่างมีอรรถรสได้มากยิ่งขึ้น
ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางแบบนี้ ผู้เข้าชมจึงเพลิดเพลินกับงานเสพงานอาร์ตได้นานตามที่ใจต้องการ
มาเปิดประสบการณ์ชมความงามของศิลปะญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกกันเถอะ!
ถ้าใครอยากรู้ว่าช่วงนี้ทางพิพิธภัณฑ์กำลังจัดแสดงอาร์ตคอลเลกชันไหนอยู่ สามารถเช็กได้ตามที่อยู่ของลิงก์นี้เลย >>> Click Here!
สำหรับอาร์ตคอลเลกชันของที่นี่ ก็จะแบ่งออกตามชนิดของชิ้นงานเป็น 5 แบบ ดังนี้
-
- งานจิตรกรรมญี่ปุ่น (Japanese Painting) : ชิ้นงานส่วนใหญ่เป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียงในช่วงยุคเอโดะ (A.D. 1603-1868) ซึ่งสร้างสรรค์โดยจิตรกรของโรงเรียนศิลปะริมปะ (Rinpa) นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่และศิลปะร่วมสมัยอีกด้วย
- เครื่องเซรามิกตะวันออก (Oriental Ceramics) : งานเซรามิกที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีทั้งเครื่องสังคโลกจีนในยุคราชวงศ์ชิง เครื่องจานเซรามิกสีน้ำเงิน-ขาว และเครื่องจานพอร์ซเลนสีขาวของเกาหลีในสมัยโครยอและสมัยโชซอน นอกจากนี้ยังมีคอลเลกชันงานเซรามิกของญี่ปุ่นอย่างพวกภาชนะดินเผาแบบฮิเซ็น (Hizen ware) และแบบเคียว (Kyo ware) ที่ปั้นจากดินและดินเหนียวของญี่ปุ่น
- เครื่องเขินเอเชีย (Asian Lacquerware) : มาถึงตรงนี้ก็คงมีคนสงสัยว่าเครื่องเขินคืออะไร ถ้างั้นก่อนจะเล่าต่อเราขออธิบายให้ฟังก่อนดีกว่า เครื่องเขินคือภาชนะของใช้ที่มีโครงเป็นเครื่องจักสานหรือไม้ เคลือบทาด้วยยางรักเพื่อความคงทน กันน้ำและความชื้น ทั้งเป็นการเพิ่มความสวยงามวิจิตรแก่พื้นผิวของภาชนะ ส่วนเครื่องเขินที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายก็จะมีเชี่ยนหมาก พาน ขันโอ ขันน้ำ และถาด[1] ฟังดูแล้วเจ้าเครื่องเขินเนี่ยก็นับว่าเป็นศิลปะของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเราๆมาก แต่อันที่จริงทางเอเชียตะวันออกก็มีเครื่องเขินด้วยนะ เพราะที่พิพิธภัณฑ์โอคาดะแห่งนี้ก็มีการจัดแสดงเครื่องเขินของจีนในราชวงศ์หมิง ของเกาหลีในราชวงศ์โชซอน และของญี่ปุ่นในยุคเอโดะ รวมถึงของอาณาจักรริวกิว โดยเครื่องเขินของทางเอเชียตะวันออกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกล่องเก็บของใบเล็กที่มีลวดลายวิจิตรงดงามมาก
- เครื่องโลหะจีน (Chinese Metalwork) : สำหรับชิ้นงานโลหะจะเป็นงานหล่อทองแดงของจีนในสมัยราชวงศ์ซาง อย่างขวดใส่ไวน์ทรงสี่เหลี่ยม หรือหม้อที่มี 3 ขาของราชวงศ์ถัง
- ศาสนศิลป์ (Religious Art) : แน่นอนว่าถ้าพูดถึงศิลปะย้อนยุคของญี่ปุ่นแล้วนั้น จะขาดงานศิลปะในด้านศาสนาไปได้อย่างไรกันล่ะ~ อย่างที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นนั้นได้มีการเผยแพร่ศาสนาพุทธครั้งแรกในช่วงยุคอาสึกะ (Asuka period) เราจึงเห็นได้ว่ามีพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน (Heian period) และสมัยคามาคุระ (Kamakura period) นอกจากนี้ยังมีงานจิตรกรรมอีกด้วย อย่างภาพที่ชื่อว่า The Mandala of the Two Realms และ The Raigō
สำหรับคนที่อยากดูคอลเลกชันงานอาร์ตก็สามารถเข้าไปดูได้ตามลิงก์นี้เลยจ๊ะ >>> Click Here!
เนื่องด้วยพื้นจัดแสดงที่แสนกว้างขวางและอลังการงานสร้างของพิพิธภัณฑ์โอคาดะ เราเลยรู้สึกว่าเวลาในการเข้าชม 1 วันนั้นแสนสั้นเหลือเกิน T^T
แต่รู้หรือไม่? ว่าเราสามารถเก็บบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์วันแรกมาเป็นส่วนลดค่าเข้าชมวันที่สองได้นะ แถมลดไปอีกตั้ง 1,000 เยน! ทีนี้เราก็ได้เสพงานอาร์ตได้อย่างจุใจแล้ว เย้เย~
2. พักผ่อนหย่อนใจกับสวนภายในพิพิธภัณฑ์โอคาดะ
เมื่อมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นอกจากเราจะได้ดื่มด่ำกับงานศิลป์แล้วก็ยังได้พักผ่อนจิตใจกับธรรมชาติด้วย เพราะในบริเวณของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีสวนสวยๆให้ทุกคนเดินเล่นชิลล์ๆด้วย บอกเลยว่าสวยทุกฤดู!
สำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็สวยไม่แพ้กันเลย และดอกไม้ที่ปลูกอยู่ในสวนแห่งนี้ต่างก็มีฤดูกาลที่เหมาะแก่การผลิบานเป็นของตัวเอง ต่อให้มาซ้ำสักกี่รอบก็ให้บรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันไป
3. อิ่มท้องด้วยของกินแสนอร่อยในไคกาเต (Kaikatei)
ไคกาเต (Kaikatei) เป็นร้านอาหารสไตล์บ้านญี่ปุ่นที่กลายเป็นทรัพย์สินของพิพิธภัณฑ์เมื่อปลายศตวรรษที่ 19 จะเห็นว่าอีกด้านหนึ่งของประตูกระจกใสบานใหญ่มีบ่อปลาคาร์ปอยู่ด้วย ต้นไม้สีเขียวที่เป็นฉากหลังนั้นก็ทำให้บรรยากาศร่มรื่นมากเลยทีเดียว
สำหรับอาหารของที่นี่ก็จะแบ่งออกเป็นแบบอุด้ง (Udon) กับแบบเบนโตะ (Bento)
สามารถดูเมนูได้ที่นี่ >>> Click Here!
4. ฟุตบาธคาเฟ่ (Footbath Cafe) จะมานั่งเสพงานอาร์ตทั้งที ก็ต้องมีกาแฟแก้วโปรดด้วยสิ
สำหรับคาเฟ่แห่งนี้ ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเลยก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนังสุดอลังการ โดยผลงานนี้เป็นของคุณฟุกุอิ โคทาโร่ (Fukui Kotaro) ศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดฮิตของพิพิธภัณฑ์ แถมตรงนี้ยังมีคาเฟ่ออนเซ็นเท้าด้วย หากได้ดื่มกาแฟแก้วโปรดไปพร้อมๆกับนั่งแช่เท้าชิลล์ๆ รวมถึงได้ชมงานศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติของฮาโกเนะ บอกเลยว่าฟินมากเว่อร์~
หลังเสพงานศิลป์จะสั่งซอฟต์ครีมหรือพาร์เฟ่ต์มานั่งทานเพลินๆด้วยก็ได้นะ
5. ก่อนกลับบ้านจะลืมของฝากได้ไง~ มาแวะช้อปที่ Museum Shop กันเถอะ
ที่โซนขายที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีงานอาร์ตสุดเก๋จำหน่ายด้วย อย่างช็อกโกแลตพิมพ์ลายภาพของศิลปินญี่ปุ่นชื่อดังที่สวยจนเราแทบไม่กล้าทานเลยล่ะ โดยรูปที่ทุกคนเห็นอยู่ตอนนี้คือช็อกโกแลตพิมพ์ลายภาพคลื่นยักษ์นอกฝั่งคานางาวะ (The Great Wave off Kanagawa) กับภาพภูเขาไฟฟูจิสีแดง (Fine wind, Clear morning) ผลงานภาพพิมพ์ทั้งสองนี้เป็นหนึ่งในคอลเลกชันทัศนียภาพ 36 มุมของภูเขาฟูจิ (Thirty-six Views of Mount Fuji) ของคัตสึชิกะ โฮกุไซ (Katsushika Hokusai) ศิลปินที่โด่งดังในสมัยเอโดะ
นอกจากนี้ยังมีลายพิมพ์ที่เป็นผลงานของศิลปินท่านอื่นให้เลือกอีกด้วย แถมยังมีหนังสือภาพ โปสการ์ด กระดาษเขียนจดหมาย และของที่ระลึกอื่นๆอีกมากมายให้เราเลือกช้อป ณ จุดๆนี้คงต้องกำกระเป๋าสตางค์กันไว้ให้แน่นๆเลยล่ะ!
6. วิธีการเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอคาดะ
สำหรับการเดินทางก็มาตามนี้กันได้เลยยย
- จากสถานี Hakone-Yumoto (OH51) นั่งรถไฟสายฮาโกเนะโทซัง (ใช้เวลาประมาณ 35 นาที) มาลงที่สถานี Kowakidani (OH55) แล้วเปลี่ยนมาขึ้นรถบัสสายฮาโกเนะโทซัง นั่งมาลงที่ป้ายรถบัสโควากิเอ็น หรือ Kowakien : 137 (ใช้เวลาประมาณ 2 นาที) จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีกนิดก็จะพบพิพิธภัณฑ์ทันที
- หรือใครจะนั่งรถบัสสายฮาโกเนะโทซัง สาย H จากสถานี Hakone-Yumoto (OH51) มาลงที่ป้ายโควากิเอ็น (Kowakien:137) เลยก็ได้เหมือนกัน เดินต่ออีกนิดก็จะถึงพิพิธภัณฑ์เลย ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้นเอง
เราสามารถใช้ตั๋ว Hakone Freepass หรือ Hakone KamakuraPass ในการเดินทางมาที่นี่ได้เลย ยิ่งกว่านั้น เพียงเพื่อนๆโชว์ตั๋วเดินทางตอนซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ก็จะได้รับส่วนลด 200 เยนสำหรับค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ นอกจากจะช่วยประหยัดค่าเดินทางแล้วยังมีส่วนลดค่าเข้าที่เที่ยวให้อีกด้วย คุ้มมากๆ
อ่านข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> https://www.okada-museum.com/en/access/
ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์โอคาดะ (OKADA MUSEUM OF ART)
การเดินทาง
-
- นั่งรถบัสสายฮาโกเนะโทซังไปลงที่สถานี Kowakien แล้วเดินไปอีกนิดจะเจอพิพิธภัณฑ์ทันที
วันและเวลาทำการ
-
- 9:00 – 17:00 น. (เปิดให้เข้าได้จนถึงเวลา 16:30 น.)
- ปิดทำการวันที่ 31 ธ.ค. – 1 ม.ค. และปิดชั่วคราวในช่วงเวลาจัดเปลี่ยนนิทรรศการ
ค่าเข้าชม
-
- ผู้ใหญ่ : 2,800 เยน
- นักเรียนประถม-มัธยมปลาย : 1,800 เยน
เว็บไซต์
แผนที่
ที่มา
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
คันโต

จังหวัด โตเกียว

จังหวัด คานากาวะ

จังหวัด ชิบะ

จังหวัด ไซตามะ

จังหวัด กุนมะ

จังหวัด อิบารากิ

จังหวัด โทชิงิ