‘ปราสาทมารุโอกะ’ หรือปราสาทหมอกควัน 1 ใน 100 จุดชมซากุระชั้นนำของญี่ปุ่น
ส.ค. 13, 2020
‘ปราสาทมารุโอกะ’ หรือปราสาทหมอกควัน 1 ใน 100 จุดชมซากุระชั้นนำของญี่ปุ่น
ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle) ปราสาทโบราณแห่งเมืองซาไก ในจังหวัดฟุกุอิ เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม รวมถึงทุกคนที่มีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น เพราะปราสาทแห่งนี้มีกิมมิคทั้งสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น รวมถึงวิวทิวทัศน์อันแปลกตาของปราสาทในฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง เพราะปราสาทจะดูเหมือนลอยอยู่เหนือปุยเมฆสีชมพู
ใครชื่นชอบปราสาทญี่ปุ่นโบราณและสถาปัตยกรรมสวยๆ หรืออยากชื่นชมดอกซากุระในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ตาม fromJapan มาเที่ยวกันเลยค่ะ!
สารบัญ
1. ปราสาทมารุโอกะ ปราสาทที่สวยงามทุกฤดูกาล
2. 1 ใน 100 จุดชมดอกซากุระชั้นนำของญี่ปุ่น
4. ชมวิวเมืองซาไกจากยอดปราสาทมารุโอกะ
5. ข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทมารุโอกะ
1. ปราสาทมารุโอกะ ปราสาทที่สวยงามทุกฤดูกาล
ปราสาทมารุโอกะ (Maruoka Castle) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2119 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ปราสาทแห่งนี้มีความงดงามตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิรอบๆปราสาทก็จะรายล้อมไปด้วยดอกซากุระสีชมพู แต่งแต้มให้บรรยากาศดูสดใส หรือมีครั้งหนึ่งเราเคยได้ไปเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อากาศแจ่มใส เราก็ได้เพลิดเพลินไปกับการชมสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามในยามนั้น
2. 1 ใน 100 จุดชมดอกซากุระชั้นนำของญี่ปุ่น
เรากำลังยืนอยู่ที่ 1 ใน 100 จุดชมดอกซากุระชั้นนำของญี่ปุ่น!
เมื่อซากุระประมาณ 400 ต้นบานในฤดูใบไม้ผลิ ภาพที่เราเห็นจะเหมือนกับว่าปราสาทกำลังล่องลอยอยู่เหนือปุยเมฆสีชมพูพาสเทล ปราสาทแห่งนี้จึงมีฉายาว่า คาสึมิกะโจ หรือ ปราสาทหมอกควัน
ปัจจุบันนี้ ปราสาทมารุโอกะได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมดอกซากุระชั้นนำของญี่ปุ่นด้วยค่ะ
3. จุดเด่นของปราสาทมารุโอกะ
ปราสาทมารุโอกะเป็นปราสาทที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดา 12 ปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น ปราสาทแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้นและสร้างขึ้นด้วยไม้ในสมัยนั้น ส่วนหลังคาเป็นกระเบื้องหิน ซึ่งโดยปกติแล้วหลังคาปราสาทในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะทำจากกระเบื้องธรรมดา ดังนั้นหลังคากระเบื้องหินของปราสาทแห่งนี้จึงเป็นจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองซาไก
กระเบื้องหลังคาปราสาทมารุโอกะนั้นทำจากหินชาคุดานิของจังหวัดฟุกุอิ ซึ่งจังหวัดฟุกุอิมีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับหินชาคุดานิมาอย่างยาวนาน อย่างที่เราได้ยินเรื่องเล่าตามสถานที่ต่างๆที่ได้ไปกันมา
หินชาคุดานิจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวธรรมชาติอย่างงดงามเมื่อเจอกับความเปียกหรือความชื้น สมัยก่อนหินชนิดนี้ถูกขุดพบในภูเขาอะซุวะ จังหวัดฟุกุอิ ปราสาทมารุโอกะจึงเป็นปราสาทแห่งเดียวที่ใช้หินชาคุดานิในการสร้าง
นอกจากนี้ ปราสาทมารุโอกะก็ยังมีจุดเด่นอีกมากมาย เช่น บันไดในรูปด้านบนนี้ ซึ่งเป็นบันไดที่ดูเหมือนจะปีนขึ้นไปได้ยาก เพราะมันถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่ใช้ป้องกันภัยจากการรุกรานของข้าศึก
ตามคำอธิบายของอาสาสมัครผู้ใจดี เขากล่าวว่านี่เป็นบันไดที่สูงชันที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้จึงมีรายการทีวีของญี่ปุ่นมาถ่ายทำที่นี่ด้วย! การปีนขึ้นบันไดนี้อาจจะยากเล็กน้อย แต่เราสามารถจับเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดานเพื่อทรงตัวระหว่างปีนขึ้นไปได้
4. ชมวิวเมืองซาไกจากยอดปราสาทมารุโอกะ
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราชื่นชอบจังหวัดฟุกุอิคือ จังหวัดนี้ล้อมรอบด้วยภูเขา (และทะเล!)
เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมทิวทัศน์ของเมืองซาไกและบริเวณโดยรอบได้จากยอดปราสาท! เมื่อได้ยืนอยู่ท่ามกลางภูเขาอันกว้างใหญ่และงดงาม เราก็จะรู้สึกประทับใจในความงดงามของภูมิภาคนี้ขึ้นมาทันที
ทั้งนี้ ปราสาทมารุโอกะนั้นมีวิวที่สวยจนกระทั่งได้ขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 100 ทิวทัศน์บ้านเกิดของจังหวัดฟุกุอิ ซึ่งเป็นการจัดอันดับเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความงามของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเกษตรในจังหวัดฟุกุอิ
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดฟุกุอิ
รวมสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปโดนสักครั้งของ ‘จังหวัดฟุกุอิ’
ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามของห้าทะเลสาบแห่งมิกาตะที่สวนลอยฟ้า Rainbow Line Summit Park
สำรวจเมืองปราสาทยุคเซ็งโงกุ (Sengoku) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี
5. ข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทมารุโอกะ
ที่อยู่
Maruoka Castle, 1-59 Kasumi-cho, Maruoka-cho, Sakai city, Fukui Prefecture
โทร
+81776660303
วันเปิดทำการ
เปิดทุกวัน
เวลาเปิดทำการ
8:30 น. – 17:00 น. (คิวเข้าชมสุดท้าย 16:30 น.)
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 450 เยน
- นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 150 เยน
ค่าเข้าชมนี้เป็นราคารวมสำหรับเข้าชมปราสาทมารุโอกะ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มารุโอกะ และ Letter Museum
เว็บไซต์ทางการของปราสาท (ภาษาญี่ปุ่น)
http://www.maruoka-kanko.org/400_special/010_castle/
แผนที่
แหล่งอ้างอิง
เว็บไซต์
https://www.fuku-e.com/lang/thai/
https://www.instagram.com/experience_fukui/