เปิดประสบการณ์ออกเรือไปล่าปลาตัวใหญ่ครั้งแรก! ณ อ่าวคิงโคะ จ.คาโกชิม่า

ไปตกปลาตัวใหญ่ ณ อ่าวคิงโคะ จ.คาโกชิม่า กันค่ะ!!

ทะเลสีครามที่ล้อมรอบเกาะภูเขาไฟซากุระจิมะนั้นรู้จักกันในชื่อ “อ่าวคิงโคะ” (Kinko Bay) หรืออ่าวคาโกชิม่า ซึ่งมีปลาอาศัยอยู่กว่า 1,000 สายพันธุ์ ด้วยเหตุนี้ อ่าวคิงโคะของคาโกชิม่าจึงเป็นหนึ่งในอ่าวทะเลญี่ปุ่นที่มีสัตว์ทะเลอุดมสมบูรณ์

ในครั้งนี้ เราจะพาทุกคนมาเปิดประสบการณ์ออกเรือไปตกปลาตัวใหญ่กับผู้เชี่ยวชาญในอ่าวคิงโคะ โดยในกิจกรรมนี้เราจะได้เพลิดเพลินไปกับการจับปลานานาชนิดตามแต่ละฤดู พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ของ ‘ภูเขาไฟซากุระจิมะที่ยังคุกรุ่นอยู่’ ในมุมมองที่แตกต่างออกไป

เอาเป็นว่าอย่ารอช้า ออกเรือแล้วไปล่าปลาตัวใหญ่ในอ่าวคิงโคะกันเลย!

เสน่ห์ของอ่าวคิงโคะ!

อ่าวคิงโคะ (Kinko Bay) เป็นอ่าวที่มีความลึกกว่า 200 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคาโกชิม่าไม่ไกลมากนัก และท่าเรือประมงสำหรับทัวร์ตกปลาก็เข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ใกล้กับย่านชอปปิ้งเท็นมงคัง

อ่าวคิงโคะ เกิดจากการที่แผ่นดินถล่มลงมาหลังการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟในสมัยโบราณ ส่งผลทำให้น้ำทะเลไหลเข้าสู่ปากปล่องภูเขาไฟจนกลายเป็นอ่าว และด้วยความที่เป็นทะเลในซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขา อ่าวคิงโคะจึงมีลักษณะสงบและมีสภาพอากาศไม่ค่อยเลวร้ายเท่าทะเลในบริเวณอื่น ดังนั้น อ่าวแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับการตกปลาเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักตกปลาเลยทีเดียว

สัมผัสประสบการณ์การตกปลาในอ่าวคิงโคะ!

สำหรับทริปนี้ เราไปประมาณช่วงกลางเดือนธันวาคมด้วยเรือประมงคาริน (Karin fishing boat) โดยเริ่มออกเดินทางจากเมืองโจนันโช ซึ่งอยู่ห่างจากย่านเท็นมงคังประมาณ 15 นาที ทางทัวร์เรือนัดรวมตัว 6 โมงเช้า บริเวณท่าเรือใกล้ตลาดปลา จากนั้นก็สวมเสื้อชูชีพแล้วออกเรือกันเลย!

ในวันนั้นมีเพื่อนร่วมทริปทั้งหมด 4 คน ตอนเรือออกจากท่าท้องฟ้ายังคงมืดอยู่ จากนั้นเรือก็แล่นมุ่งหน้าไปยังจุดตกปลา ในระหว่างทาง มองเห็นวิวภูเขาไฟซากุระจิมะที่ถูกแต่งแต้มด้วยแสงตะวันยามเช้าด้วย เป็นภาพทิวทัศน์ที่งดงามมาก

ถึงจุดตกปลา

หลังจากนั่งเรือประมาณ 30 นาที ก็ถึงบริเวณนอกชายฝั่งฮิราคาวะซึ่งเป็นจุดตกปลา สำหรับเป้าหมายของเราในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกจากราชาแห่งปลา นั่นคือ “ปลามะได” หรือปลากะพงแดงญี่ปุ่น

ในสมัยก่อน ดูเหมือนว่าจะเคยจับปลามะไดได้ในอ่าวคิงโคะ แถมก่อนหน้านี้ยังมีคนจับได้เยอะมาก ทำเอาตื่นเต้นและเริ่มมีหวังอยู่บ้างแล้ว~

สำหรับการตกปลาที่นี่จะใช้วิธีแบบ ‘ไทราบะ’ ซึ่งเป็นวิธีที่มีโอกาสจับปลามะไดได้สูงและยังได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไทราบะเป็นเครื่องมือตกปลาที่สืบทอดกันมาในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ เดิมทีเป็นเครื่องมือใช้งานของชาวประมง ซึ่งต่อมาได้ดัดแปลงเป็นเหยื่อปลอมและใช้มาจนถึงปัจจุบัน

โดยขั้นตอนการใช้งานนั้นง่ายมาก เพียงแค่หย่อนเหยื่อลงไปให้ลึกถึงก้นทะเลประมาณ 100 เมตร จากนั้นก็ม้วนกลับขึ้นทันที ทำแบบนี้ซ้ำๆจนกว่าปลาจะติดเบ็ด ซึ่งก่อนเริ่มตกปลา กัปตันจะมาบรรยายพร้อมสาธิตวิธีการตกปลาให้ดู จากนั้นก็จะเริ่มแจกจ่ายอุปกรณ์ตกปลาให้ อีกทั้งบนเรือยังมีห้องน้ำด้วยนะ สะดวกสบายมาก 

ต่อไปก็ถึงเวลาเริ่มตกปลาแล้ว จะจับปลามะไดได้ไหมนะ?

เริ่มตกปลากันเลย!

คนแรกที่จับปลามะไดได้คือเพื่อนร่วมทริป พอเห็นแล้วรู้สึกอิจฉามากเพราะปลามะไดที่เขาจับได้ตัวใหญ่มาก 😅 หลังจากจับปลาตัวแรกได้ทุกคนบนเรือก็เริ่มตื่นเต้นกันใหญ่ เห็นกัปตันบอกว่าบางวันก็ตกปลาอะไรไม่ได้เลย แต่คราวนี้มีคนจับได้แล้วถือว่าเราเริ่มมีหวัง!

ในขณะที่เรากำลังตั้งใจจับปลามะไดอยู่นั้น จู่ๆ ก็รู้สึกถึงแรงดึงที่คันเบ็ด เราจึงม้วนสายขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 40 เมตร แล้วปล่อยออกไปอีกครั้งที่ประมาณ 90 เมตร ทำแบบนี้อยู่ซ้ำๆ หลังจากที่ต่อสู้กับปลาอย่างหนักหน่วงอยู่ประมาณ 50 นาที จนแขนเริ่มหมดแรง ในที่สุดเราก็จับปลาได้ ซึ่งมันคือ ‘ปลาบุริ’ หรือปลาหางเหลือง!!

อ่าวคิงโคะเป็นแหล่งที่มีปลาชุกชุมอย่างอุดมสมบูรณ์ที่แท้จริง เพราะไม่เพียงจับปลามะไดได้เท่านั้น แต่ยังจับปลาหางเหลืองได้ นอกจากนี้ เรายังจับปลาอาจิและปลาทรายแดงได้อีกด้วย 

เมื่อเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงวัน กิจกรรมตกปลาของเราในครั้งนี้ก็สิ้นสุดลง

ลิ้มลองปลาแสนอร่อย

หลังจากที่เราตกปลาขึ้นมาได้ กัปตันจะเตรียมปลาด้วยการทำลายเส้นประสาทและดูดเลือดออกทันที วิธีการจับปลานั้นดูเป็นมืออาชีพมาก

สำหรับขั้นตอนนี้ถือเป็นหัวใจหลักเลย เพราะมันจะทำให้ปลาที่เราจับมาได้มีรสชาติดีขึ้นเมื่อนำกลับไป และหากใครอยากทานปลาที่จับมาได้แต่ไม่อยากทำเอง สามารถสอบถามกัปตันได้เลย เขาจะแนะนำร้านดีๆให้อย่างแน่นอน    

สำหรับทัวร์ตกปลาในอ่าวคิงโคะครั้งนี้ เราใช้เวลาครึ่งวันตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงก็สามารถจับปลาได้เยอะมากแล้ว ในระหว่างทาง มีฝนตกลงมาเป็นระยะจึงทำให้มองเห็นสายรุ้งที่สวยงามในอ่าวคิงโคะด้วย ถือว่าเป็นทัวร์ตกปลาที่คุ้มค่ามากจริงๆ 

หมายเหตุ : โดยทั่วไปแล้วทะเลจะสงบ หากใครกังวลเรื่องอาการเมาเรือ แนะนำว่าให้ทานยาแก้เมาเรือป้องกันมาก่อนได้

แนะนำเรือตกปลาที่อยู่ใกล้กับใจกลางเมืองคาโกชิม่า

1. Karin fishing boat : Kinko Bay Fishing Experience

คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการตกปลาได้ตามฤดูกาล ตั้งแต่ตกปลาบริเวณอ่าวไปจนถึงตกปลาตัวใหญ่ในทะเลลึก!

• ราคาคอร์ส : ราคาต่อคนพร้อมอุปกรณ์ 9,000 เยน
• การจอง : ติดต่อได้ที่ Instagram หรือ Inbox ใน Facebook
• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.kagoshima-kankou.com/for/attractions/70760

2. Fishing boat Hitomi-Maru 

มามือเปล่าก็ได้! ยินดีต้อนรับมือใหม่และคุณหนูๆที่สนใจการตกปลา 

ท่าเรือประมง Fishing boat Hitomi-Maru นั้นเดินทางเข้าถึงได้สะดวกมาก ห่างจากย่านเท็นมงคังหรือใจกลางเมืองคาโกชิม่าประมาณ 5 นาที มีบริการทัวร์ตกปลา 2 รอบต่อวัน แบ่งเป็นช่วงเช้าและช่วงบ่าย รองรับผู้ที่สนใจตกปลาทุกเพศทุกวัย

• ราคาคอร์ส : (ครึ่งวัน)

– ผู้ใหญ่ : ราคา 8,000 เยนต่อคน พร้อมอุปกรณ์

– เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี : ราคา 4,000 เยนต่อคน

• การจอง : สามารถจองได้ทางโทรศัพท์ อีเมล และผ่านข้อความทาง LINE
• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.kagoshima-kankou.com/for/attractions/70759

ที่มา

เฟซบุ๊ก Kagoshima Thailand

• https://www.facebook.com/KagoshimaThailand/

เว็บไซต์จังหวัดคาโกชิม่า

• https://www.kagoshima-kankou.com/for/highlights/fishing

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดคาโกชิม่า 🥰

• ชวนไปชมดอกไฮเดรนเยียหลากสีสันกลางเนินเขา ณ สวนอิโคอิโนซาโตเอ็น (Ikoino Satoen)
• “สะพานหินโค้งเก่าแก่แห่งคาโกชิม่า” อายุ 150 ปี ณ สวนอนุสรณ์สถานอิชิบาชิ
• MINATO CAFE. คาเฟ่ลับวิวปังบนเกาะ “ภูเขาไฟซากุระจิมะ”
• ชวนเที่ยวงาน “เทศกาลทรายฟุคิอาเกะ” สีสันในช่วง Golden Week ของคาโกชิม่า!

Back To Top