ลิ้มชิมรสน้ำส้มสายชูดำ ของดีจังหวัดคาโกชิม่า ที่ ‘Tsubobatake’
ส.ค. 10, 2020
ลิ้มชิมรสน้ำส้มสายชูดำ ของดีจังหวัดคาโกชิม่า ที่ ‘Tsubobatake’
เวลาไปเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ เราเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องอยากแวะซื้อสินค้าขึ้นชื่อของที่นั่นใช่ไหมล่ะคะ ^^ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ Kurozu Factory Shop & Restaurant ‘Tsubobatake’ หรือ สึโบบาตาเกะ โรงงานผลิตน้ำส้มสายชูดำซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของเมืองฟุกุยามะ จังหวัดคาโกชิม่ากันค่ะ
ภายในพื้นที่ของสึโบบาตาเกะมีทั้งโรงงานผลิตน้ำส้มสายชูดำ ร้านขายผลิตภัณฑ์จากน้ำส้มสายชูดำ พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติของน้ำส้มสายชูดำ รวมถึงร้านอาหาร และเรายังสามารถชมทัศนียภาพของภูเขาไฟซากุระจิมะจากที่นี่ได้อีกด้วย
ว่าแล้วเราก็ไปลิ้มชิมรสของน้ำส้มสายชูดำที่สึโบบาตาเกะกันเลยดีกว่า!
สารบัญ
1.รู้จักกับน้ำส้มสายชูดำที่สึโบบาตาเกะ
2.ปัจจัยในการผลิตน้ำส้มสายชูดำให้มีคุณภาพ
3.น้ำส้มสายชูดำ ของดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
5.ร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์น้ำส้มสายชูดำ
6.ข้อมูลเกี่ยวกับ Kurozu Factory Shop & Restaurant ‘Tsubobatake’
รู้จักกับน้ำส้มสายชูดำที่สึโบบาตาเกะ
น้ำส้มสายชูที่สึโบบาตาเกะเป็นน้ำส้มสายชูที่เรียกว่า ‘Artisan Amber Rice Vinegar’ หรือ ‘น้ำส้มสายชูดำที่ผลิตจากข้าวกล้องญี่ปุ่น’ นั่นเอง รสชาติของน้ำส้มสายชูชนิดนี้จะเปรี้ยวแบบละมุน เพราะข้าวญี่ปุ่นจะช่วยปรับความเปรี้ยวให้อ่อนลง
น้ำส้มสายชูดำ Artisan Amber Rice Vinegar ผลิตขึ้นที่โรงงาน Sakamoto Kurozu ซึ่งตั้งอยู่ในสึโบบาตาเกะแห่งนี้ โดยผู้ก่อตั้งโรงงานก็คือตระกูลซากาโมโตะ ตระกูลซากาโมโตะได้เริ่มคิดค้นสูตรทำน้ำส้มสายชูตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 พวกเขาค้นพบว่าพื้นที่และสภาพอากาศของเมืองฟุกุยามะนั้นเหมาะแก่การหมักน้ำส้มสายชูเป็นอย่างยิ่ง
ปัจจัยในการผลิตน้ำส้มสายชูดำให้มีคุณภาพ
เว็บไซต์ของโรงงาน Sakamoto Kurozu ได้อธิบายไว้ว่าการทำน้ำส้มสายชูดำให้ได้คุณภาพดีต้องอาศัยปัจจัยในการผลิตดังนี้
- พื้นที่ผลิตจะต้องมีสภาพภูมิอากาศแบบอบอุ่น
- ใช้ข้าวคุณภาพดีในการหมัก
- น้ำที่ใช้หมักจะต้องสะอาด ไม่มีสิ่งใดเจือปน และต้องกะปริมาณน้ำให้พอดี
- ต้องมีพื้นที่สำหรับวางไหที่ใช้ในการหมัก ซึ่งไหที่ใช้หมักจะเป็นไหเคลือบดินเผา Satsuma ceramic jars
เทคนิคการผลิตน้ำส้มสายชูดำนี้ผ่านการพัฒนามากว่า 200 ปี ทางโรงงานได้ทำการทดสอบคุณภาพและควบคุมปริมาณของส่วนผสมอย่างพิถีพิถัน จนในที่สุดก็ได้น้ำส้มสายชูดำที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม นอกจากนี้โรงงาน Sakamoto Kurozu ยังผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO-9001:2000 และ HACCP อีกด้วย เรียกได้ว่ามีการการันตีคุณภาพอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
น้ำส้มสายชูดำ ของดีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ในแง่ของคุณค่าทางโภชนาการ มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่าน้ำส้มสายชูดำมีประโยชน์ต่อสุขภาพ คือช่วยลดภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยเรื่องการย่อยอาหารและการหลั่งน้ำลาย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้ระบบการทำงานของตับดีขึ้น ฯลฯ
ประเภทของน้ำส้มสายชูดำ
หากต้องการซื้อน้ำส้มสายชูดำกลับบ้านละก็ เราขอแนะนำน้ำส้มสายชูดำแบบต่างๆเพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ : )
- น้ำส้มสายชู Kurozu : เป็นน้ำส้มสายชูดำแบบออริจินัล ใช้เวลาในการหมัก 1 ปี
- น้ำส้มสายชู Kurozu Satsuma : รสชาติจะนุ่มนวลกว่าแบบออริจินัลนิดหน่อย ใช้เวลาในการหมัก 2 ปี
- น้ำส้มสายชู Kurozu Tenju : เป็นน้ำส้มสายชูที่รสชาติดีเยี่ยมที่สุด ใช้เวลาในการหมัก 3 ปี
- น้ำส้มสายชู Ringo Kurozu : เป็นน้ำส้มสายชูดำผสมน้ำแอปเปิล นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดฮิตเช่นกัน
ร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์น้ำส้มสายชูดำ
เมื่อก้าวเข้ามาที่สึโบบาตาเกะ นอกจากเราจะได้ชมขั้นตอนการผลิตน้ำส้มสายชูที่โรงงานและแวะซื้อสินค้าคุณภาพดีกลับบ้านแล้ว เรายังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของน้ำส้มสายชูดำได้อีกด้วย
หรือจะแวะร้านอาหารของโรงงานเพื่อทานมื้อกลางวันที่ใช้น้ำส้มสายชูดำเป็นวัตถุดิบก็ได้นะ
ราคาของเซ็ตอาหารกลางวันจะอยู่ที่ 1,500 – 2,000 เยน (ยังไม่รวมภาษี)
ส่วนเวลาเปิดทำการของร้านอาหารคือ 10:00 – 17:00 น. และสามารถสั่งอาหารได้จนถึงเวลา 16:00 น. ค่ะ
หวังว่าทุกคนจะเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมโรงงานน้ำส้มสายชูดำ และพอใจกับรสชาติอันยอดเยี่ยมของผลิตภัณฑ์จากจังหวัดคาโกชิม่ากันนะคะ
สำหรับวันนี้เราคงต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ ^^
อ่านบทความเกี่ยวกับจังหวัดคาโกชิม่าจาก fromJapan
สนุกกับพร็อพถ่ายรูปสุดครีเอทที่หาดคามิกาวะ จ. คาโกชิม่า
ดื่มด่ำวิวชนบทและรสผลไม้ที่ ‘สวนบลูเบอร์รีเมืองอิสะ’ จ. คาโกชิม่า
น้ำตกโองาวะ น้ำตกแสนสวยสีมรกตในจังหวัดคาโกชิม่า
ข้อมูลเกี่ยวกับ Kurozu Factory Shop & Restaurant ‘Tsubobatake’
ที่อยู่
3075 Fukuyamacho Fukuyama, Kirishima, Kagoshima 899-4501, Japan
โทร
0995-54-7200
เวลาทำการ
9:00 – 17:00 น.
วิธีเดินทาง
Tsubobatake ตั้งอยู่ในย่านชนบทของจังหวัดคาโกชิม่า เราจึงสามารถเดินทางไปได้ด้วยรถยนต์เท่านั้น หากขับรถหรือนั่งแท็กซี่จากตัวเมืองคาโกชิม่าจะใช้เวลา 50 นาที หรือหากไปจากสนามบินจะใช้เวลา 30 นาที
แผนที่
https://goo.gl/maps/JoArBvGtdn8vPR9h8
ที่มา
เฟซบุ๊ก Kagoshima Thailand
https://www.facebook.com/KagoshimaThailand/