ทริปเดินป่าชมต้นสนพันปีที่ ‘ยาคุสึกิแลนด์’ (Yakusugi Land) มือใหม่ก็เดินได้!

รีวิวเที่ยวเกาะยากุชิมะประจำสัปดาห์นี้ เราจะมาแนะนำหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่ดีที่สุดบนเกาะยากุชิมะกัน นั่นก็คือ “ยาคุสึกิแลนด์” (Yakusugi Land) ป่านันทนาการที่ก่อตั้งร่วมกันระหว่างกรมป่าไม้และกรมอุทยานยากุชิมะค่ะ ยาคุสึกิแลนด์ถูกจัดให้เป็นป่าที่ดีที่สุดบนเกาะยากุชิมะ เนื่องจากบรรยากาศภายในป่าดูเงียบสงบ อากาศสดชื่น รวมถึงตลอดเส้นทางเดินป่ายังโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวขจีของต้นไม้ใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ และยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างเดินเราจะพบกับต้นไม้หายากที่ใกล้สูญพันธุ์ของญี่ปุ่นอย่าง “ต้นสนยาคุสึกิ” หรือต้นสนซีดาร์พันธุ์ยาคุสึกิที่มีอายุหลายพันปีอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ ‘ต้นสนยาคุสึกิ’ ในยาคุสึกิแลนด์ยังมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน เช่น

• ต้นสนซีดาร์พันธุ์ ‘คิเกนสึกิ’ (Kigen-sugi Cedar) มีอายุมากถึง 3,000 ปี ขนาดความสูง 19.5 เมตร และมีเส้นรอบวง 8.1 เมตร
• ต้นสนซีดาร์พันธุ์ ‘ฮะฮาโกะสึกิ’ (Hahako-sugi Cedar) มีอายุมากถึง 2,600 ปี ต้นสนสายพันธุ์นี้มีความสูง 31.1 เมตร และ 29.5 เมตร ส่วนเส้นรอบวงประมาณ 9 เมตร และ 6.3 เมตรตามลำดับ
• ต้นสนซีดาร์พันธุ์ ‘โอดะสึกิ’ (Oda-sugi Cedar) มีอายุมากถึง 2,500 ปี ขนาดความสูง 28.6 เมตร และมีเส้นรอบวง 8.2 เมตร
• ต้นสนซีดาร์พันธุ์ ‘บุดดาสึกิ’ (Buddha-sugi Cedar) มีอายุมากถึง 1,800 ปี ขนาดความสูง 21.5 เมตร และมีเส้นรอบวง 8 เมตร

อย่างไรก็ดี นอกจากสายพันธุ์ของต้นสนที่แอดฯได้กล่าวไปนั้น ที่นี่ยังมีต้นสนยาคุสึกิอีกหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์เซนเนงสึกิ (Sennen-sugi Cedar) สายพันธุ์ฟุตาโกะสึกิ (Futago-sugi Cedar) หรือสายพันธุ์คุกุริสึกิ (Kuguri-sugi Cedar)

ไม่เพียงเท่านั้น ภายในยาคุสึกิแลนด์ยังมีพันธุ์ไม้อีกนานาชนิดที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ 

สำหรับเส้นทางเดินป่าในยาคุสึกิแลนด์แห่งนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้นักเดินป่าได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ผืนป่าแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 270.33 เฮกตาร์ โดยตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 – 1,300 เมตร ยาคุสึกิแลนด์มีคอร์สเดินป่าทั้งหมด 5 คอร์ส โดยมีระยะเส้นทางเดินตั้งแต่ 0.8 กม. ไปจนถึง 4.4 กม. ทั้งนี้เราสามารถเลือกคอร์สเดินป่าตามพละกำลังและเวลาได้เลยค่ะ

• เส้นทางที่ 1 ระยะทาง 0.8 กม. ใช้เวลา 30 นาที
• เส้นทางที่ 2 ระยะทาง 1.2 กม. ใช้เวลา 50 นาที
• เส้นทางที่ 3 ระยะทาง 2 กม. ใช้เวลา 80 นาที
• เส้นทางที่ 4 ระยะทาง 3 กม. ใช้เวลา 150 นาที
• เส้นทางที่ 5 ระยะทาง 4.4 กม. ใช้เวลา 240 นาที

สำหรับทริปเดินป่าที่ยาคุสึกิแลนด์ในครั้งนี้ แอดฯเลือกเป็นคอร์สเส้นทางที่ 3 ระยะทางประมาณ 2 กม. ใช้เวลา 80 นาทีค่ะ โดยเส้นทางนี้เราจะต้องเดินข้ามสะพานแขวนไปเมื่อเราลองมองลงไปใต้สะพานก็จะพบกับโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายไปตามลำธาร มุมนี้ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากทีเดียวค่ะ 

หลังจากข้ามสะพานแล้วเดินต่อไปสักพัก เราจะพบกับต้นสนซีดาร์พันธุ์ ‘เซนเนงสึกิ’ (Sennen-sugi Cedar) หรือต้นสนยาคุสึกิพันปีและต้นสนซีดาร์พันธุ์ “บุดดาสึกิ” (Buddha-sugi Cedar) หรือเรียกได้อีกอย่างว่า “ต้นสนพระพุทธเจ้า” ซึ่งที่มาของชื่อนี้มาจากลักษณะของต้นสนพันธุ์นี้ที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยรูกลวงตรงกลางลำต้น รวมถึงผิวลำต้นที่มีตุ่มขรุขระจำนวนมากที่ชวนให้นึกถึงเศียรของพระพุทธเจ้านั่นเอง

พอเราเดินต่อไปเรื่อยๆก็จะพบกับต้นสนที่โน้มเข้าหากันเป็นอุโมงค์ให้เดินลอดผ่านไป ซึ่งต้นสนในบริเวณนี้คือต้นสนซีดาร์พันธุ์ ‘คุกุริสึกิ’ (Kuguri-sugi Cedar) ค่ะ 

การได้มาเดินป่าที่ยาคุสึกิแลนด์แห่งนี้นั้น นอกจากเราจะได้ชมต้นสนพันปีเหล่านี้แล้ว ทั่วทั้งผืนป่าก็ยังเต็มไปด้วยมอสสีเขียวชอุ่ม และอากาศที่นี่ก็ยังเย็นสบายชุ่มชื้นอีกด้วยค่ะเส้นทางเดินป่าที่ยาคุสึกิแลนด์ก็ไม่ได้เดินยากอย่างที่คิด เราสามารถเดินได้เรื่อยๆชิลล์ๆ ไม่รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป และที่สำคัญทางเดินค่อนข้างปลอดภัย ไม่ค่อยมีทางลาดชันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นนักเดินป่ามืออาชีพหรือมือใหม่ก็สามารถเดินไปตามเส้นทางนี้ได้สบายๆโดยไม่ต้องกังวลเลยค่ะ 

ยาคุสึกิแลนด์เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราอยากให้ทุกคนลองมาเดินสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้อายุมากกว่าพันปี หากเพื่อนๆคนไหนมีเวลา แอดฯแนะนำให้เลือกคอร์สเส้นทางเดินที่ยาวที่สุดนะคะ เพราะเราจะได้ใช้เวลาดื่มด่ำไปกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ รวมถึงได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของต้นสนยาคุสึกิที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณอีกด้วยค่ะ 

คำแนะนำเพิ่มเติม 

สำหรับคนที่ยังไม่มีอุปกรณ์เดินป่า ที่เกาะยากุชิมะมีร้านบริการเช่าอุปกรณ์ให้ครบทุกอย่างเลยค่ะ มาแต่ตัวเลยก็ยังได้ ภายในร้านจะมีทั้งเสื้อ กางเกง รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋าสะพายสำหรับเดินป่า ไม้ประคองสำหรับช่วยพยุงระหว่างเดินป่า หมวก และชุดกันฝน เป็นต้น

สิ่งที่เราควรเตรียมไปก็คือ ‘ถุงซิปล็อค’ เพราะในป่ามีความชื้นและมีฝนตกประปราย การพกถุงซิปล็อคไปด้วยจะช่วยป้องกันสิ่งของในกระเป๋าไม่ให้เปียกชื้น แอดฯแนะนำให้ใส่ถุงเท้าหนาๆและใส่รองเท้าแบบกันน้ำด้วยก็ดีค่ะ หากใครมาเดินในช่วงฤดูที่อากาศเย็น ควรพกเสื้อกันหนาวหรือใส่เสื้อเพิ่มอีกชั้นนะคะ รวมถึงพกร่มกันฝนและขนมต่างๆไว้เผื่อรู้สึกหิวระหว่างทางด้วยค่ะ 

ข้อมูลเกี่ยวกับยาคุสึกิแลนด์

ที่อยู่

• Yakusugi Land, Anbo, Yakushima-cho, Kumage District, Kagoshima, 891-4311, Japan

วันและเวลาทำการ 

• เปิดตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 น. (*หมายเหตุ: อาจปิดทำการในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีหิมะตก)

ค่าบริการ 

• 500 เยน/คน

วิธีเดินทาง 

•  รถยนต์ : จากตัวเมือง Anbo (安房) สามารถขับรถยนต์ไปได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
•  รถบัส : จากตัวเมือง Anbo (安房) จะมีรถบัสไป Yakusugi Land วันละ 2 รอบ ให้นั่งไปลงที่ป้าย Yakusugi Land (ใช้เวลา 40 นาที) รถจะไปจอดที่หน้าประตูทางเข้าอุทยานพอดี

เว็บไซต์ 

• https://y-rekumori.com/

 พิกัด

ที่มา

เฟซบุ๊ก Kagoshima Thailand

• https://www.facebook.com/KagoshimaThailand/

เว็บไซต์จังหวัดคาโกชิม่า

• https://www.kagoshima-kankou.com/for/attractions/51260 

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดคาโกชิม่า

• รีวิวเที่ยว “เกาะยากุชิมะ” แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น พร้อมวิธีการเดินทาง
• เที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ด้วย ‘รถรางเมืองคาโกชิม่า’
• 6 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในคาโกชิม่า 2023
• ชวนสัมผัสประสบการณ์ขี่ม้ากลางทุ่งหญ้า ชมวิวทิวเขาสุดตระการตาที่ “ฟาร์มม้า HORSE TRUST”

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top