รีวิวเที่ยว “คามิโคจิ” และวิธีเดินทาง ฉบับคนไปครั้งแรก!
พ.ย. 07, 2023
รีวิวเที่ยว “คามิโคจิ” และวิธีเดินทาง ฉบับคนไปครั้งแรก!
“คามิโคจิ” (Kamokochi) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมาก ที่นี่เป็นที่ราบสูงซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือในจังหวัดนากาโนะ เส้นทางเดินป่าในคามิโคจินั้นมีระยะทางรวมกันประมาณ 10 กม. พื้นที่โดยรอบก็รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เช่น ภูเขา แม่น้ำ บ่อน้ำ ป่าไม้ และพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ทิวทัศน์ของคามิโคจิยังมีความสวยงามที่แปรเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศในแต่ละฤดูอีกด้วย
ในครั้งนี้คุณชิฟจากเพจ Shifdiary จะพาทุกคนไปเที่ยวคามิโคจิฉบับคนไปครั้งแรก พร้อมทั้งนำวิธีการเดินทางง่ายๆมาฝากกันด้วยค่ะ
เอาเป็นว่าเราขอส่งต่อให้คุณชิฟเป็นคนนำทางทริปเที่ยวคามิโคจิในครั้งนี้กันเลยนะคะ 😊
Shifdiary | คามิโคจิ
คามิโคจิ เป็นที่ราบระหว่างเทือกเขา
ที่ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึโมโตะ จังหวัดนากาโนะ
เราเริ่มต้นการเดินทางจากโตเกียว
นั่งรถไฟจากสถานีชินจูกุมายังสถานีมัตสึโมโตะ
โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ระยะทางไม่ไกลมาก นั่งต่อเดียวถึงชิลล์ๆ
เราเห็นคนไทยชอบไปคามิโคจิกัน
ไอ้เราอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปีแต่ไม่เคยได้ไปสักที
เลยคุยกับเพื่อนที่อยู่นากาโนะอยู่แล้วว่า “ไปกัน!”
ก่อนที่เพื่อนจะย้ายมาโตเกียว แล้วเราก็คิวงานเยอะมาก
ว่างวันเดียวคือวีควันที่ 29 ต.ค.
เราเลยตัดสินใจไปวันนี้
นับว่าโชคชะตาเห็นใจคนงานยุ่งมาก
อากาศดีฟ้าใส ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีได้ที่พอดีเลย
– คนเขามาดูอะไรกันที่คามิโคจิ? –
แน่นอนว่าหนึ่งในจุดเช็คอินยอดฮิตก็ต้องนี่เลย มุมถ่ายรูปมหาชน “สะพานคัปปะบาชิ” (Kappabashi/ 河童橋)
พอเดินทางมาถึงคามิโคจิแล้ว เราก็ต้องไปแวะถ่ายรูปมุมมหาชนเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย
ตอนแรกก็อยากรู้ว่าที่นี่มันมีอะไร เพราะเห็นผู้คนมากมายพยายามมาถ่ายรูปที่มุมนี้ แต่พอได้มาเห็นทิวทัศน์ของสะพานคัปปะบาชิเองกับตา ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงชอบมากัน
วิวทิวทัศน์ที่นี่สวยงามมาก ธารน้ำใสสะอาด ภูเขาก็เป็นทรงสวยได้รูป แถมใบไม้ก็ค่อยๆไล่เปลี่ยนสีอย่างงดงาม
นอกจากจุดชมวิวแห่งนี้แล้ว คามิโคจิยังมีจุดเดินเล่นในป่าและภูเขาที่ดีมากอีกด้วย ทางเดินขึ้นภูเขาก็เดินง่าย ไม่ชันจนเกินไป
– เริ่มเดินทางจากที่ไหน? –
เราเริ่มต้นการเดินทางที่สถานีชินจูกุในโตเกียว
ออกเดินทางเวลาประมาณ 7:00 น.
ด้วยรถไฟ JR สาย Azusa
และนั่งไปลงที่สถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto Station)
สามารถจองตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์สถานี JR ได้เลยจ้า
*หมายเหตุ : เนื่องจากเป็นรถไฟด่วนแบบระบุที่นั่ง
เราจำเป็นต้องจองก่อนขึ้นน้า
หรือถ้าใครอยากนั่งรถบัสไป
ก็สามารถอ่านรายละเอียดในเว็บไซต์นี้ได้เลย >> https://www.alpico.co.jp/th/
– จาก Matsumoto ไป Kamikochi –
เรานั่งรถไฟมาถึงสถานีมัตสึโมโตะในเวลาประมาณ 9:35 น. จากนั้นต้องไปขึ้นรถบัสต่อที่หน้าสถานี
ส่วนตั๋วรถบัสสามารถซื้อที่นี่ได้เลย ราคาประมาณ 2,500 เยน หรือไม่ก็จองล่วงหน้าไว้ก่อนก็ดี เพราะที่นั่งอาจเต็มได้ค่ะ
-
- เช็คตารางรถบัสและจองตั๋ว (ภาษาไทย) >>> https://www.alpico.co.jp/th/
- หากใครอาศัยอยู่ญี่ปุ่นสามารถจองในเว็บไซต์นี้ได้เลย (ภาษาญี่ปุ่น) >>> https://www.highwaybus.com/
– ขึ้นรถไปกันเลย –
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้วให้มาขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 9
จะมีรูปคามิโคจิขึ้นให้เห็นชัดๆเลย
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมาตรวจตั๋วก่อนขึ้นรถทุกคนจ้า
ส่วนใครที่จองผ่านเว็บไซต์มา
สามารถยื่นหน้าจอให้เจ้าหน้าที่ดูได้เลย
ไม่ต้องใช้ตั๋วกระดาษฮะ
– ระหว่างทาง –
ช่วงที่นั่งรถบัสไป
เราก็จะได้พบกับทิวทัศน์ของภูเขาและแม่น้ำ
ที่นี่น้ำใสมากจนเป็นสีฟ้า
เทือกเขาก็มีลักษณะลาดและสลับซับซ้อนได้รูป
พอมีใบไม้สีส้มเหลืองแดงมาประดับก็ยิ่งงดงามขึ้นไปอีก
– ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง –
คือประมาณจริงๆนะ อาจจะเร็วหรือช้ากว่านี้
เรามาถึงนี่ตอนเที่ยงพอดี
ก็เท่ากับว่าใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 1 ชม.ครึ่ง
อาจจะเร็วหรือช้ากว่านี้ก็ได้นะ
พอถึงปุ๊ปก็ว้าวเลยยยยย~ 🍁
เพราะต้นไม้เป็นสีเหลืองทองอร่ามเมื่อสะท้อนกับแสงแดด
มันสวยมากกก
(ขออภัยไม่ได้พกแว่นไป เลยไม่รู้ว่าต้นอะไร 😅)
– มองจากมุมไหนก็สวยไปหมด –
แม้ว่าคนจะดูเยอะ แต่ก็ไม่ทำให้ความงามของทิวทัศน์ลดลงไปเลย
– คนก็เยอะอยู่นะ –
ที่สถานีรถบัสคนค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับแออัด
รถบัสวิ่งเข้าออกรับ-ส่งผู้โดยสารกันตลอดเวลา
เพื่อให้เพียงพอต่อปริมาณนักท่องเที่ยว
– สีหน้าคนง่วงและหิว –
เราตื่นตี 5 เพราะไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า
กว่าจะมาถึงก็ตอนเที่ยงแล้ว 🥱
– เติมพลังก่อนออกเดินทางไกล –
บนตึกของเคาน์เตอร์จองรถบัสมีร้านอาหารอยู่
เราเลยว่าจะลองเข้าไปกินดูสักหน่อย
ดูซิว่าจะอร่อยไหม?
พอเดินเข้ามาก็เจอป้ายต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอันดับแรก
หลังจากโควิดซาลงแล้ว
ที่นี่ก็กลับมาต้อนรับทุกคนได้สักที
เป็น 3 ปีที่ยาวนานเหลือเกิน
– คนเยอะ รอคิวเล็กน้อย –
ระหว่างรอคิว
เราก็แวะไปดูของฝากและถ่ายรูปภายในร้าน
มองเห็นวิวใบไม้เหลืองผ่านกระจกร้านด้วย
– ผลไม้ชื่อดังของนากาโนะ “แอปเปิล” –
ใครชอบทานแอปเปิลอย่าลืมซื้อกลับไปด้วยนะ
เพราะจังหวัดนี้เขาขึ้นชื่อเรื่ององุ่น แอปเปิล และไวน์ขาว
นากาโนะนับว่าเป็นจังหวัดที่ผลิตไวน์ขาวได้มากที่สุดในญี่ปุ่นเลย
– ‘โซบะ’ หรือ ‘ไก่ทอด’ ดีนะ? –
เปิดเมนูมาก็รู้สึกลังเลเลย
เพราะไก่ทอดน่ากินมาก
แต่โซบะของนากาโนะที่ชื่อว่า “ชินชูโซบะ”
ก็เป็นของขึ้นชื่ออีก 😅
– คำตอบ : ไม่ต้องเลือก –
สรุปเราสั่งทั้งไก่ทอดและโซบะมาทานเป็นซุป
ไม่ต้องเลือกหรอกเนอะ สั่งมันทั้งสองอย่างไปเลย 😅
ขอบอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ
ไก่อร่อยมากกกกก 🥹💕
สมกับเป็นเมนูเด็ดของร้านนี้จริงๆ
ใครมาแล้วห้ามพลาดเลย!!!
-
- รีวิวของกินที่คามิโคจิเพิ่มเติม >>> คลิกที่นี่
– ชินชูโซบะ –
เชื่อไหมว่ามานากาโนะก็หลายครั้ง
ไปกินชินชูโซบะมาก็หลายที่
แต่รู้สึกว่าที่นี่อร่อยตรงเทสต์เรามากที่สุดเลยค่ะ
โซบะเป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ชอบ
ถึงขนาดที่ว่า “สามารถกินได้ทุกวัน”
ศาสตร์ของรสชาติโซบะนั้น
เป็นสิ่งที่คนต่างชาติอย่างเราอาจจะเข้าถึงได้ยาก
และต้องใช้เวลาในการอินกับมัน
แต่สำหรับโซบะที่นี่
เราพูดได้เต็มปากเลยว่า “อร่อย!”
– เดินไปมุมมหาชนกัน –
‘สะพานคัปปะบาชิ’
วิวนี้รู้ไหมกว่าเราจะถ่ายมาได้
ต้องหลบหัวคนอยู่นานมาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมรูปเบี้ยว
จริงๆนี่เบี้ยวน้อยสุดแล้วนะ 😅
แต่เอาเป็นว่ามันสวยมากจริงๆ
นี่จบหลังกล้อง(ฟูจิ)
ไม่ได้ปรับไรเพิ่มใดๆ ไม่ปรับสีส้มเหลืองด้วย
ใบไม้สีประมาณนี้จริงๆ
– ระหว่างที่ชมบรรยากาศ เพื่อนร่วมทางก็หายไป –
ที่นี่คนเยอะพอสมควรเลยค่ะ
ส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่น คนเวียดนาม และคนเกาหลี
ส่วนคนไทยพอมีประปราย
เรากับเพื่อนอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกัน
ก็รู้สึกได้ว่านักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาแล้ว
แต่ว่าเพื่อนเราหายไปไหนนะ..?
– คนดังท่านหนึ่งจาก X (ทวิตเตอร์) –
เพื่อนเราแอบไปซื้อแผนที่อยู่นี่เอง
ครั้งนี้เพื่อนจะเป็นคนนำเที่ยว
เลยแวะไปซื้อแผนที่ศึกษาเส้นทางไว้สักหน่อย
– แผนที่ดูดีมาก!! –
ปกแผนที่เป็นพลาสติกอย่างดี
กางออกมาคุณภาพกระดาษก็ดีมากด้วย
แน่นอนว่ามันไม่ฟรีเหมือนแผนที่ทั่วๆไปนะคะ
ราคา 100 เยนจ้า
ใครที่เพิ่งเคยมาคามิโคจิ
หรือเป็นมือใหม่หัดซื้อแผนที่
สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ฝั่งตรงข้ามสะพาน
พอมีแผนที่แล้วให้ความรู้สึกแบบคนเดินป่าดี
– คุณลุงผู้เป็นสีสันของคามิโคจิ –
เจอคุณลุงผู้โด่งดังที่ชอบมาวาดรูปสีน้ำมันที่นี่ทุกวันด้วย
ภาพเขาสวยจริง
ชุดที่คุณลุงใส่อยู่ก็คิดมาแล้วแน่ๆ
ว่าเข้ากับทิวทัศน์ข้างหลัง
ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยแน่นอน!!!
พอคุณลุงถ่ายรูปคู่กับวิวแล้วดูไม่เกะกะกล้องเลย
ในทางกลับกัน คุณลุงเป็นแบบที่ดีมาก!
– เอาล่ะ เริ่มเดินเล่นกันดีกว่า –
เราเดินเล่นตามแมปที่เพื่อนนำทางมา
ชมวิวต้นไม้ไปพลาง ลำธารไปพลาง
รู้สึกดีมากค่ะ
โซนนี้มีจุดถ่ายรูปท่ามกลางธรรมชาติเยอะมาก
แสงวันนั้นก็ดีมากจนอยากเก็บไว้ทุกบรรยากาศ
– วิวภูเขาที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ –
สวย…แบบว่าสวย!
ให้รูปอธิบายละกัน พิมพ์ไปเยอะแล้ว 😁
– สีฟ้าของลำธารกับท้องฟ้า ประกบภูเขากับใบไม้เปลี่ยนสี –
ภาพนี้พอถ่ายเป็นแนวตั้งแล้วเราชอบมาก
ตามไปดูรูปในไอจีภาพถ่ายของเราได้นะ >>> https://www.instagram.com/yumehana
– เฮ้อ~ สวย! แต่อ้าว! ดันหลงซะงั้น –
สรุปแผนที่ราคา 100 เยนพาเราหลงทิศมาเจอมุมสวยๆค่ะ แต่ยังไม่ตรงกับจุดที่ตั้งใจจะไป
สุดท้ายก็ต้องพึ่ง Google Map 😅
– เดินเกือบ 1 ชม. มาที่มุมใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนน้ำ –
บอกก่อนว่ามุมนี้ตั้งอยู่ในศาลเจ้าค่ะ
มีค่าเข้าคนละ 500 เยน
กว่าจะมาถึงตรงนี้ปวดเข่าและขามาก
ใครเป็นชาวปวดเอว หลัง ขา
แนะนำว่าค่อยๆเดินมา ไม่ต้องรีบนะ
ทางนี้มาถึงช้า(เที่ยง) เลยไม่ค่อยมีเวลาค่ะ
มุมนี้สวยมากจริงๆค่ะ
น้ำใส ฟ้าโปร่ง ภูเขางาม
รูปนี้ถ่ายหลังจากเดินขึ้นเขามาเกือบหนึ่งชั่วโมง
แต่พอเห็นวิวแบบนี้แล้วรู้สึกว่าคุ้มอยู่นะ 😊
พิกัด (Myojin Pond/ 明神池)
– สวยคุ้มราคา 500 เยน –
สวยจริง!
แต่ตอนนั้นกำลังกังวลเรื่องเวลากลับ
และกลัวว่ารถบัสจะเต็ม
เลยดูวิวอย่างไม่ค่อยเป็นสุขเท่าไหร่
แต่ก็คุ้มที่เดินมานะ
– เหลืองอร่าม –
ดูสิว่าสีเหลืองของใบไม้มันสะท้อนแดดขนาดไหน
ถ้าหากใครมาถึงคามิโคจิแล้ว
จะตั้งแคมป์หรือนอนโรงแรมข้างบนนี้ก็ได้นะ
จะได้มีเวลาเดินเล่นมากกว่านี้
ยังไงทุกคนก็ลองวางแผนกันดูนะคะ
– เสาโทริอิที่ต้องต่อแถวถ่ายรูป –
ถ้าเราอยากถ่ายรูปมุมนี้จากด้านหน้า
ก็ต้องต่อแถวสักหน่อยนะคะ
มาถึงทั้งที แวะถ่ายรูปมุมมหาชนไว้ก็ไม่เสียหาย
– แสงแดดยามเย็นตกกระทบกับผิวน้ำ –
สุดท้ายขากลับก็กลับทันแหละ
ใช้เวลาเดินลง 30 นาทีเท่านั้น
ไม่เหนื่อยเท่าตอนมา
– ซื้อตั๋วกลับที่เคาน์เตอร์รถบัสได้เลย –
ตั๋วรถบัสราคา 2,710 เยน
แต่รอบนี้เราต้องต่อรถบัส → รถไฟ
รวมๆเวลาขากลับแล้ว ถ้าออกเดินทางจากคามิโคจิเวลา 16:40 น. จะถึงสถานีมัตสึโมโตะเวลา 18:20 น. (รวมเวลาต่อรถไฟแล้ว)
ใครที่อยากกลับโตเกียวก็อาจจะต้องเดินทางต่ออีก
ส่วนเราจะไปกินข้าวและพักห้องเพื่อนต่อ เลยมาถึงแค่นี้ค่ะ
ทุกคนลองคำนวณเวลาตามเส้นทางที่ต้องการกันดูน้า
– จบการเดินทาง –
การเดินทางมาคามิโคจินั้นไม่ยากเลย
หน้าเว็บไซต์ทางการก็ต้อนรับคนไทยอย่างดี
เพราะมีภาษาไทยให้ด้วย
หากสนใจจองรถจากชินจูกุหรือมัตสึโมโตะ
สามารถจองผ่านเว็บไซต์นี้ได้ทั้งหมดเลย! >>> https://www.alpico.co.jp/th/
.
.
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนสนุกกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นนะคะ 💛
ที่มา (Reference)
ติดตาม Shif Diary
Facebook Fanpage
Blog
อ่านบทความอื่นๆจาก Shif Diary
- เที่ยวไอจิ : ‘มินามิชิตะ’ เกาะปลาหมึกกับปลาปักเป้าแห่งความสุข
- เที่ยวไอจิ : ‘เซโตะ’ เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แมวกวักที่ทาสแมวห้ามพลาด!
- ร้านขนมปังแมวเหมียว NEKO NEKO MILK100% SHOKUPAN
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
ชูบุ

จังหวัด ไอจิ

จังหวัด ชิซูโอกะ

จังหวัด ยามานาชิ

จังหวัด นากาโนะ

จังหวัด กิฟุ

จังหวัด นีงาตะ

จังหวัด โทยามะ

จังหวัด อิชิกาวะ

จังหวัด ฟุกุอิ