ขับรถในญี่ปุ่นต้องระวัง! ‘การฝ่าฝืนกฎจราจรโดยประมาท 5 ข้อ’ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นก็เผลอทำโดยไม่รู้ตัว!

มิ.ย. 17, 2025

Clip

ขับรถในญี่ปุ่นต้องระวัง ‘การฝ่าฝืนกฎจราจรโดยประมาท 5 ข้อ’ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นก็เผลอทำโดยไม่รู้ตัว!

หลายคนอาจจะมีอิมเมจว่าถนนในประเทศญี่ปุ่นนั้นดูปลอดภัย แต่ความจริงแล้วมีผู้ขับขี่ชาวญี่ปุ่นบางคน โดยเฉพาะคนที่ขับรถมานานมักจะคิดว่าตัวเองขับแบบนี้แล้วคงจะไม่เป็นอะไรแน่ๆ จนบางครั้งก็เผลอทำผิดกฎจราจรไปโดยไม่รู้ตัว

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง “การฝ่าฝืนกฎจราจรโดยประมาท 5 ข้อ” ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นก็เผลอทำโดยไม่รู้ตัว และยิ่งถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่กำลังแพลนจะเช่ารถขับเที่ยวในญี่ปุ่นก็ยิ่งต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เพราะถ้าหากประมาทหรือโชคไม่ช่วยก็อาจจะทำให้เราเกิดอุบัติเหตุได้

1. ความแตกต่างของ “การแซง” กับ “การขับแซง” ที่มักเข้าใจผิดกัน

ทุกคนเคยขับรถแซงคันข้างหน้าบนถนนที่มีเครื่องหมาย “ห้ามแซง” หรือเปล่า? ถ้าหากเคยทำ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่านั่นคือ “การขับแซง” อย่างถูกต้อง

ในประเทศญี่ปุ่นจะมีวิธีการแซงรถคันหน้าหลักๆอยู่ 2 แบบ คือ ‘การแซง’ และ ‘การขับแซง’ โดยตามกฎหมายจราจรทางบกของญี่ปุ่น “การแซง” (追越し) หมายถึงการเปลี่ยนเลนเพื่อขับแซงรถคันข้างหน้า และ “การขับแซง” (追い抜き) หมายถึงการขับผ่านไปโดยไม่เปลี่ยนเลน โดยเฉพาะเส้นแบ่งเลนกลางถนนเป็นเส้นทึบสีขาวหรือสีเหลือง ซึ่งการแซงโดยล้ำเข้าไปในเลนตรงข้ามดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายเหมือนกับประเทศไทย

ถ้าหากคุณขับรถข้ามเส้นด้วยการตัดสินใจของคุณเอง อย่าง ‘แค่นิดเดียวเอง…’ หรือ ‘คันหน้าขับช้าเกินไป…’ คุณก็อาจกลายเป็นผู้กระทำผิดกฎจราจรโดยไม่รู้ตัว และยิ่งถ้าหากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่มานานก็ยิ่งจะประมาทได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เราควรมีมุมมองที่ถอยออกมาเพื่อทบทวนพฤติกรรมของตัวเองอยู่เสมอ

2. หมุนพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายอย่างรอบคอบหรือไม่?

เวลาที่ขับรถเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยก คุณแค่มองกระจกแล้วรีบหมุนพวงมาลัยเลยใช่หรือเปล่า?

ในประเทศญี่ปุ่นนั้นโดยเฉพาะในเขตตัวเมืองมักจะมีจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ขับพุ่งเข้ามาทางด้านซ้ายอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวขึ้นได้

ตามกฎหมายจราจรทางบกของญี่ปุ่น ผู้ขับมีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อป้องกันการชนขณะเลี้ยวซ้าย ถ้าหากตรวจสอบไม่รอบคอบจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับจะต้องรับผิดในข้อหาประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

กับดักสำหรับคนที่มีประสบการณ์ขับขี่มานานก็คือ พวกเขามักจะประมาทโดยคิดแค่ว่า ‘เพราะเป็นเส้นทางที่เลี้ยวไปเลี้ยวมาหลายร้อยครั้งแล้ว คงจะไม่เป็นไรหรอก’ แต่หารู้ไม่ว่า การตรวจสอบอย่างรอบคอบทุกครั้งถือเป็นวิธีการขับรถที่ยอดเยี่ยมและปลอดภัยที่สุด

3. บนเส้นทางที่ต้องขับรวมเลน “คุณขับตามคันหน้าชิดเกินไป” หรือเปล่า?

บนเส้นทางที่ต้องบังคับให้รวมเลนและเราอยู่บนเส้นทางหลัก หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์พยายามขับชิดคันหน้า เพื่อไม่ให้รถคันอื่นเข้ามาแทรกตรงกลางได้ ซึ่งสิ่งนั่นถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างอันตรายเลยทีเดียว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นได้มีการรณรงค์ให้ใช้วิธี “การรวมแบบซิป” หรือการให้รถเข้าเลนสลับกันทีละคันเพื่อช่วยลดการชนและการเบรกกะทันหัน

หลายคนอาจคิดว่า “เราอยู่ทางหลักจึงมีสิทธิ์มากกว่า” ซึ่งมันเป็นแนวคิดที่เก่าไปแล้ว ในปัจจุบัน “การรู้จักให้ทาง” ต่างหากที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราคือผู้ขับขี่ที่มีทักษะและน้ำใจอย่างที่แท้จริง

4. “การชะลอความเร็ว” หมายถึงความเร็วที่สามารถหยุดรถได้ทันที

คนญี่ปุ่นหลายคนอาจจะเห็นป้าย “ลดความเร็ว” และเผลอขับด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการชะลอความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดไว้

ตามกฎหมาย “การชะลอความเร็ว” หมายถึงการขับด้วยความเร็วที่สามารถหยุดรถได้ทันที ความเร็วที่เหมาะสมควรไม่เกิน 10 กม./ชม. หรือต่ำกว่านั้น โดยเฉพาะทางแยก ถนนหน้าโรงเรียนและชุมชน เนื่องจากบริเวณนั้นอาจจะมีเด็กหรือคนเดินเท้าอยู่ ดังนั้น การลดความเร็วเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้มาก แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่สูงที่มั่นใจในความเร็วจากความรู้สึกก็ควร “ตรวจสอบ” ตัวเลขดังกล่าวให้ชัวร์อีกครั้ง

5. สัญญาณไฟเหลืองไม่ได้หมายความว่า “ไปได้” ตามกฎหมายคือ “ต้องหยุด”

เวลาขับรถผ่านสี่แยกแล้วไฟเปลี่ยนเป็นสีเหลือง คุณเคยเผลอเหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วไปโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า?

สำหรับข้อนี้คนไทยเองก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดีใช่ไหมละคะ? แต่จริงๆแล้ว ความหมายที่แท้จริงของไฟเหลืองก็คือ “ถ้าหยุดได้ ควรหยุด” พูดง่ายๆก็คือ ไม่ใช่ “เหยียบคันเร่ง” แต่ “ต้องหยุด” นั่นเอง

ถ้าหากทุกคนเคยชินกับการเหยียบคันเร่งตอนไฟเหลือง อาจทำให้เสี่ยงต่อการฝ่าไฟแดงหรือเกิดอุบัติเหตุได้ในอนาคต อย่างที่เคยกล่าวไปข้างต้นว่า ยิ่งเป็นคนที่ขับรถมานาน อย่าเพิ่งมั่นใจแค่ในประสบการณ์ แต่ต้องอย่าลืมกลับไปทบทวนกฎจราจรที่ถูกต้องอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้มากเลยทีเดียว

หลายครั้งที่มีการตัดสินใจจากความเคยชินหรือความเข้าใจผิด อาจกลายเป็นการทำผิดกฎจราจรโดยไม่รู้ตัว ในทางกลับกัน เพียงแค่เราทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็สามารถช่วยป้องกันการทำผิดกฏหมาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับตนเองและผู้อื่นได้เช่นเดียวกัน

และนี่ก็คือการฝ่าฝืนกฎจราจรโดยประมาท 5 ข้อ ที่ควรระวังหากขับรถในญี่ปุ่น ก่อนจากกัน เราขอส่งท้ายด้วยประโยคที่ว่า “ยิ่งเป็นผู้ขับที่มีประสบการณ์มาก ความปลอดภัยก็ยิ่งเพิ่มขึ้น หากคุณมั่นกลับไปทบทวนการขับขี่พื้นฐานอย่างมีสติอีกครั้ง” เพราะไม่ใช่แค่ “จนถึงตอนนี้ก็ไม่เป็นไรนิ” แต่ต้องเป็น “ต่อจากนี้ไปก็จะไม่เป็นไร” นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ประเทศญี่ปุ่นเองที่หลายประเทศมองว่าท้องถนนนั้นมีความปลอดภัยสูง แต่ความเป็นจริงก็ยังมีคนที่ขับรถโดยประมาทอยู่จำนวนมาก ดังนั้น เราจึงอยากให้ทุกคนหันกลับมามองท้องถนนในประเทศไทยว่า เราควรจะขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยและไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร และอยากฝากให้ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกชนิดลองกลับไปเช็คพฤติกรรมการขับรถของตัวเองอีกครั้งโดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ดูกันนะคะ