ม่านบังแดดป้องกันรถยนต์ได้ดีแค่ไหน? ทำไมคนญี่ปุ่นถึงนิยมใช้ในช่วงหน้าร้อน

ก.ค. 22, 2025

Clip

ม่านบังแดดป้องกันรถยนต์ได้ดีแค่ไหน? ทำไมคนญี่ปุ่นถึงนิยมใช้ในช่วงหน้าร้อน

สภาพอากาศที่ญี่ปุ่นในปีนี้ โดยเฉพาะทางภูมิภาคตะวันตกดูเหมือนฤดูฝนจะผ่านไปเร็วกว่าปกติทำให้อากาศในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ซึ่งหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่าร้อนระอุไม่แพ้บ้านเราเลย ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีรถยนต์ยิ่งต้องระวังให้มากขึ้น เพราะนับเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ภายในรถยนต์ของเราจะกลายเป็น “เตาอบ”

สำหรับคนญี่ปุ่นหลายๆคนมักจะคิดถึงการใช้งานม่านบังแดดเพื่อกันแสงแดดโดยตรง แต่ก็ยังเกิดคำถามในใจว่า การใช้งานม่านบังแดดนั้นมันมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่?

‘ม่านบังแดดรถยนต์’ เป็นเพียงตัวช่วยชั่วคราวหรือเป็นเพื่อนคู่ใจที่ไว้ใจได้?

เมื่อจอดรถทิ้งไว้กลางลานจอดที่มีแสงแดดจ้าในช่วงฤดูร้อน แค่เปิดประตูก็จะรู้สึกถึงไอความร้อนที่พุ่งออกมาจากภายในรถทันที โดยไอเทมยอดนิยมที่หลายคนใช้ในสถานการณ์แบบนี้ก็คือ “ม่านบังแดด” แต่คำถามคือ การวางเอาไว้หน้ารถแบบนั้นมันมีประสิทธิภาพได้ดีแค่ไหน?

จากผลการทดลองโดยสมาคมยานยนต์แห่งญี่ปุ่น (Japan Automobile Federation : JAF) พบว่า การใช้ม่านบังแดดจะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิภายในรถยนต์ได้เพียงเล็กน้อย แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์สีขาวที่มีการสะท้อนความร้อนได้ดีอยู่แล้ว

สำหรับผลลัพธ์การทดลองที่ออกมาก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ดังนั้น จึงไม่สามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้เท่าไหร่ แต่ว่าถ้าหากเป้าหมายคือ “ต้องการการลดอุณหภูมิภายในรถยนต์” เพียงอย่างเดียว การเปิดกระจกหน้าต่างเอาไว้ประมาณ 3 ซม. ก็จะสามารถช่วยลดความร้อนได้ดีกว่าม่านบังแดด เพราะในสถานการณ์แบบนี้การระบายอากาศถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด แต่ทว่าสิ่งนี้มันอาจทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยในแง่ของการป้องกันการโจรกรรม หรือฝนตกกระทันหันที่ทำให้น้ำกระเซ็นเข้ามาในตัวรถได้

แล้วการใช้ม่านบังแดดไม่มีประโยชน์เลยอย่างงั้นหรอ? คำตอบคือ “ไม่ใช่” เพราะในด้านอื่นๆ ม่านบังแดดยังให้ประโยชน์ที่น่าประทับใจได้อย่างชัดเจนอยู่

ม่านบังแดดเท่านั้นที่จะช่วยปกป้องแดชบอร์ดได้!

ความสามารถที่แท้จริงของม่านบังแดดคือ “ช่วยลดอุณหภูมิบริเวณพื้นผิวแดชบอร์ด” ซึ่งส่วนของแดชบอร์ด คือ ส่วนแผงหน้าของรถยนต์ เช่น แผงมาตรวัด พวงมาลัย ช่องเก็บของข้างคนขับ คอนโซล เป็นต้น โดยบริเวณดังกล่าวนี้เป็นส่วนที่อยู่ตรงกระจกหน้ารถที่รับกับแสงแดดโดยตรงอยู่ตลอดเวลา

จากการทดลองของ JAF ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้พบว่า หากไม่ใช้ม่านบังแดด อุณหภูมิบนพื้นผิวแดชบอร์ด (สำหรับรถที่มีสีตัวถังเป็นสีดำ) อาจสูงถึง 79°C แต่ถ้าหากใช้ม่านบังแดดจะสามารถทำให้อุณหภูมิลดลงเหลือ 52°C ซึ่งต่างกันถึง 27°C เลยทีเดียว!

โดยการลดอุณหภูมิได้มากขนาดนี้จะช่วยลดความรู้สึก “ร้อนจี๋!” เวลาที่เราเผลอไปแตะโดนตอนที่ขึ้นรถทันที หลังจากที่จอดตากแดดไว้นานๆ ซึ่งม่านบังแดดนั้นนอกจากจะช่วยลดความร้อนบริเวณพื้นผิวแดชบอร์ดแล้วยังช่วยลดอุณหภูมิที่พวงมาลัยได้อีกด้วย

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ประสิทธิภาพในการลดความร้อนของม่านบังแดดยังเหนือกว่าเครื่องปรับอากาศอีกด้วย แม้จะเปิดแอร์โดยไม่ใช้ม่านบังแดด อุณหภูมิของแดชบอร์ดก็ยังพุ่งสูงขึ้นไปถึง 61°C ซึ่งในขณะที่ใช้ม่านบังแดดอุณหภูมิอยู่เพียง 52°C เท่านั้น

ในปัจจุบัน รถยนต์หลายรุ่นเริ่มมีการติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ไว้ที่แดชบอร์ด แม้จะผ่านการทดสอบการทนความร้อนจากผู้ผลิตแล้ว แต่การป้องกันไม่ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดนแสงแดดโดยตรงย่อมดีกว่าแน่นอน ซึ่งการใช้ม่านบังแดดจึงถือว่ามีความหมายและมีคุณค่าเป็นอย่างมากสำหรับการปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้

แม้ว่าม่านบังแดดอาจจะไม่สามารถรับมือกับความร้อนภายในรถในช่วงฤดูร้อนได้ 100% แต่ในแง่ของการควบคุมความร้อนบริเวณแดชบอร์ดนั้นถือว่ามีประสิทธิภาพดีเลยทีเดียว และยิ่งถ้าเป็นในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี ม่านบังแดดถือว่าเป็นไอเทมสำคัญที่ควรมีไว้ติดรถ