ใบขับขี่ญี่ปุ่นสอบง่ายจริงไหม? ต่างชาติแห่ต่อคิวทำใบอนุญาตขับขี่ญี่ปุ่นตั้งแต่เช้ามืด!
ม.ค. 23, 2025
ใบขับขี่ญี่ปุ่นสอบง่ายจริงไหม? ต่างชาติแห่ต่อคิวทำใบอนุญาตขับขี่ญี่ปุ่นตั้งแต่เช้ามืด!
“ว่ากันว่าหากจะทำใบอนุญาตขับขี่ที่ญี่ปุ่นให้ไปรอตั้งแต่ 4 ทุ่มของเมื่อวานจะดีกว่า”
ตามรายงานของสำนักข่าวญี่ปุ่นระบุว่า เมื่อช่วงเช้ามืดของวันหนึ่ง เวลาประมาณตี 5 มีชาวต่างชาติจำนวนมากมายืนต่อแถวยาวเหยียดบริเวณด้านหน้าทางเข้าศูนย์สอบใบอนุญาตขับขี่ฟุชูที่โตเกียว (Fuchu Driver’s License Center) นำโดยชาวศรีลังกา ตามด้วยชาวจีนและชาวอินโดนีเซีย มีจำนวนรวมกันประมาณ 30 คน บางคนถึงกับนำเก้าอี้พับสำหรับตั้งแคมป์มานั่งหลับด้วย
และในอีกวันหนึ่ง ณ ศูนย์สอบใบอนุญาตขับขี่ซาเมซุในเขตชินากาวะ (Samezu Driver’s License Center) ก็มีผู้คนจำนวนประมาณ 60 – 70 คน มายืนต่อคิวตั้งแต่ก่อนเปิดทำการด้วยเช่นกัน
ทำไมชาวต่างชาติถึงต้องอดหลับอดนอน เพื่อมารอสอบใบอนุญาตขับขี่ญี่ปุ่น?
คุมิโกะ คาโตะ นักข่าวไลฟ์สไตล์-ด้านยานยนต์ กล่าวว่า “เป้าหมายของพวกเขาคือ ‘การเปลี่ยน’ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของประเทศตนให้เป็นใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า ‘การเปลี่ยนใบขับขี่ต่างประเทศ’ (外免切替) ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาชาวต่างชาติที่อยู่ทั่วญี่ปุ่นแห่กันมาเพื่อยื่นสมัครสอบ ยกตัวอย่างเช่น ที่ศูนย์ใบอนุญาตขับขี่ของตำรวจจังหวัดคานากาว่าและศูนย์สอบใบอนุญาตขับขี่คาโดมะในจังหวัดโอซาก้าระบุว่า ในการสอบข้อเขียนต้องรอคิวจองประมาณสี่เดือน”
สำหรับการเปลี่ยนใบขับขี่ต่างประเทศจะประกอบด้วย การสอบข้อเขียนและการสอบทักษะการขับขี่ ตั้งแต่ในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว เงื่อนไขการสอบถูกผ่อนปรนมากขึ้นและเพิ่มจำนวนภาษาที่รองรับจาก 5 ภาษาเป็น 24 ภาษา ที่ศูนย์สอบในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเพื่อดึงดูดแรงงานต่างชาติ แต่ก็มีประเด็นบางประการที่ต้องพิจารณาเช่นกัน
อันดับแรก ข้อสอบข้อเขียนนั้นง่ายเกินไป เนื่องจากข้อสอบแบบเลือกตอบนั้นมีเพียง 10 ข้อ หากตอบถูก 7 ข้อ ก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว ซึ่งจำนวนข้อสอบเพียงเท่านี้มันครอบคลุมความรู้เกี่ยวกับกฎจราจรและมารยาทการขับขี่ที่จำเป็นหรือไม่?
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะข้อสอบนั้นง่ายเกินไป อย่างในช่วงปี 2023 -2024 ที่ผ่านมา การเปลี่ยนใบขับขี่ต่างประเทศได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่หนุ่มสาวชาวจีนขนาดถึงขั้นมีคลิปวิดีโอท้าแข่งกันว่าใครจะได้ใบอนุญาตขับขี่ญี่ปุ่นเร็วกว่ากัน
แม้แต่ชาวเคิร์ดที่อยู่ในระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราวหลังจากแอบอพยพเข้ามาญี่ปุ่นก็ยังสามารถเปลี่ยนใบขับขี่ต่างประเทศได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะที่ญี่ปุ่นนั้นไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านผู้พักอาศัยในประเทศญี่ปุ่น แค่ใช้ใบรับรองถิ่นที่อยู่ชั่วคราวที่ออกโดยโรงแรมก็สามารถยื่นสมัครสอบได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาอุบัติเหตุจากการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนที่เกิดจากชาวต่างชาติก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากชาวจีน โดยในปี 2023 มีอุบัติเหตุมากถึง 1,571 เคส ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19
และในเดือนกันยายน ปี 2024 ในจังหวัดไซตามะ มีเยาวชนชายชาวจีนอายุ 18 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับย้อนศรด้วยความเร็วกว่า 100 กม./ชม. ชนชายชาวญี่ปุ่นอายุ 50 ปี จนเสียชีวิต
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีชาวต่างชาติใช้ใบอนุญาตขับขี่ญี่ปุ่นเป็น ‘บันได’ ไปยังจุดมุ่งหมายอื่นด้วย เช่น ประเทศจีนไม่ได้เข้าร่วมอนุสัญญาเจนีวาหรือสนธิสัญญาจราจรระหว่างประเทศอื่นๆ ดังนั้น ใบอนุญาตขับขี่ของประเทศจีนจึงไม่สามารถใช้ขับในหลายๆประเทศได้ แต่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับขี่ญี่ปุ่นแล้ว จากนั้นขอเป็นใบขับขี่สากลก็จะสามารถขับรถยนต์ได้กว่า 100 ประเทศ
ที่มา
https://news.yahoo.co.jp/articles/9a530b3ac793edd238ebce2733ef623ec013ffc1
อ่านบทความอื่นๆจาก fromJapan
- “เมืองคาวากุจิ” ถูกจัดให้เป็นเมืองที่คนไม่อยากอาศัยอยู่ที่สุดในไซตามะ เนื่องจากมีชาวเคิร์ดและชาวจีน
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิโมเสะ จ.ฮิโรชิม่า คว้ารางวัล Prix Versailles ‘พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สวยที่สุดในโลก”
-
ฤดูใบไม้ผลิ ปี 2025 รถไฟชินคันเซ็นโนโซมิ เตรียมลดจำนวนที่นั่งแบบไม่ต้องจอง!
- จัดอันดับคนดวงดีแบบญี่ปุ่น ปี 2025 (ปีนักษัตร + ราศี + กรุ๊ปเลือด)
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ