ลองเที่ยวรอบชายฝั่งทะเล ‘เมืองฮาโกดาเตะ’ ด้วยรถบัสและรถไฟ วิธีนี้ทำได้จริงไหม?
ก.ย. 16, 2025
ลองเที่ยวรอบชายฝั่งทะเล ‘เมืองฮาโกดาเตะ’ ด้วยรถบัสและรถไฟ วิธีนี้ทำได้จริงไหม?
เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางตอนใต้ของฮอกไกโด (Hokkaido) เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรคาเมดะโดยปลายสุดของพื้นที่จะติดกับช่องแคบสึการุและมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้เมืองฮาโกดาเตะแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยท้องทะเลเกือบทุกด้าน (ยกเว้นบริเวณเขตชายแดนด้านใน)
บริเวณรอบนอกของเมืองฮาโกดาเตะ มีถนนทางหลวงหมายเลข 278 (Japan National Route 278) เป็นถนนเลียบชายฝั่งทะเลที่มีสภาพดี เหมาะแก่การขับรถส่วนตัวหรือเช่ารถเที่ยววนรอบเมือง หรือถ้าหากใช้รถส่วนตัวขับวนรอบเมืองอย่างเดียวในระยะทางประมาณ 130 กม. จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก็สามารถวนได้ครบรอบ
อย่างไรก็ตาม ถ้านึกดูแล้วว่าการที่มีทั้งถนนที่ใช้งานสะดวกและยังเลียบแนวชายฝั่งทะเล แถมยังคงอยู่ในเขตเมืองเดียวกันอีก การใช้ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถบัสก็น่าจะสามารถวนรอบเมืองได้เหมือนกันไหมนะ?
ในครั้งนี้เราจะพาทุกคน ลองเที่ยวรอบชายฝั่งทะเล ‘เมืองฮาโกดาเตะ’ ด้วยรถบัสและรถไฟ โดยเริ่มต้นกันที่ ‘สถานีฮาโกดาเตะ’ (JR Hakodate Station) กันค่ะ
เริ่มเดินทางแบบวนทวนเข็มนาฬิกา
ในครั้งนี้จะเป็นทริปเช้าไปเย็นกลับ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องคำนวณตารางรถบัสและรถไฟให้ดี ซึ่งการเดินทางวนรอบเมืองแบบทวนเข็มนาฬิกาดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ยุ่งยากน้อยที่สุด
เราเริ่มต้นที่ Hakodate Bus Center ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามสถานีฮาโกดาเตะ และรถบัสที่เราจะขึ้นคือ Hakodate Bus สาย 91A มุ่งหน้าสู่ Esan-Misaki (恵山御崎) ซึ่งมีปลายทางเป็นพื้นที่เขตท้องถิ่น ดังนั้น จำนวนเที่ยวรถบัสจึงมีไม่มากนัก โดยเฉพาะสาย 91A คันนี้เลย
เราขึ้นรถบัสรอบ 9:53 น. รถเริ่มแล่นออกจากชานชาลาหมายเลข 6 ไปสักพัก ทางด้านขวามือจะเป็นทิวทัศน์ของท้องทะเลแบบพาโนรามายาวๆ สวยมาก วิวสวยแบบนี้ตลอดเส้นทางเลย หลังจากที่นั่งไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 278 เลียบชายฝั่งซึ่งมุ่งหน้าลงไปทางทิศใต้ไปสักพักก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนรถบัสคันต่อไป
แต่ปัญหาตอนนี้คือจะลงที่ไหนถึงจะสะดวกที่สุด?
และแล้วเราก็ตัดสินใจลงที่ป้าย Hinonhama Danchi (日ノ浜団地) บอกเลยว่าเป็นป้ายรถบัสที่ให้บรรยากาศคลาสสิกด้วยลานกลับรถที่ยังเป็นดินซึ่งไม่ค่อยเห็นในปัจจุบันนี้แล้ว ให้อารมณ์ชนบทญี่ปุ่นมากๆ
จากจุดเริ่มต้นมาจนถึงตรงนี้ใช้เวลาประมาณ 43 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 1,700 เยน สามารถใช้บัตร IC ขนส่งสาธารณะจ่ายได้ด้วย สะดวกสุดๆ
การผจญภัยย่อมมีกำแพงรอเราอยู่!
หลังจากลงรถบัสมาเวลาก็ล่วงเลยไปประมาณ 11:33 น. เราเลยลองหารถบัสนั่งคันต่อไป
แต่สรุปว่า….ไม่มีเลยสักคัน?! 🥲 แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติและเป็นเสน่ห์ของการเดินทางด้วยรถบัสในชนบทดีนะ
ในสถานการณ์แบบนี้วิธีการเดินทางที่ดีที่สุดก็คือ การเดิน ซึ่งจุดหมายปลายทางที่เราจะไปมีชื่อว่า Todohokke (椴法華) เพราะที่นั่นมีป้าย Todohokke Shisho-mae (椴法華支所前) ของรถบัส Hakodate Bus อยู่ และยังมีรถบัสที่วิ่งเลียบชายฝั่งขึ้นไปทางเหนือของเมืองฮาโกดาเตะด้วย
เพื่อจะขึ้นรถบัสคันนั้น เราจะเริ่มเดินยาวๆจากป้าย Hinonhama Danchi (日ノ浜団地) มุ่งหน้าไปยังป้าย Todohokke Shisho-mae (椴法華支所前) ระยะทางรวม 6.9 กม. ซึ่งรอบรถบัสที่ออกคือ เวลา 13:17 น. ตอนนี้ก็ต้องทำเวลากันหน่อยละ
เมื่อดูแผนที่คร่าวๆน่าจะใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ซึ่งเดินไปก็น่าจะทันอยู่นะ เส้นทางเดินนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของถนนทางหลวงหมายเลข 278 แต่ด้วยลักษณะภูมิประเทศ ถนนจะตัดเข้าด้านใน เราเลยไม่ได้เดินเลียบชายฝั่งตลอดทาง ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วมันคือถนนบนเขาที่เงียบเหงานั่นเอง นานๆทีจะมีรถขับผ่านสักคัน ถึงแม้ถนนจะปูยางมะตอยเรียบร้อยซึ่งก็ดูน่าจะเดินง่าย แต่สำหรับคนที่เดินเท้าแล้วมันให้อารมณ์เหมือนพร้อมหลงป่าได้ทุกเวลาเลย… 😅
หลังจากที่เดินมาเรื่อยๆเราก็พบสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ บริเวณนี้ในสมัยก่อนน่าจะเคยมีรถบัสวิ่งผ่านมาก่อน เพราะยังเหลือร่องรอยของป้ายรถบัสเก่าอยู่ริมทาง เราเลยลองไปค้นตารางเดินรถเก่าๆดูก็พบว่ามีอยู่จริง แสดงว่าเมื่อก่อนเคยมีบัสวิ่งผ่านมาจริง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว…
จะนั่งบัสยาวๆไปเลยก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ว่า…
สำหรับการเดินทางจากป้าย Hinonhama Danchi มายังป้าย Todohokke Shisho-mae ใช้เวลาเดินจริงๆประมาณ 1.23 ชั่วโมง ซึ่งก็ยังเหลือเวลาชิลล์ๆทันขึ้นรถบัส Hakodate Bus สาย 99A ไป Hakodate Bus Center (函館バスセンター) แน่นอน
หลังเดินพอเดินเล่นรอบๆฆ่าเวลาไปสักพัก เราก็มายืนรอที่ป้ายรถบัส ปรากฏว่ามีรถบัสขนาดกลางของมิตซูบิชิสีสันคล้ายกับ Tokyu Bus โผล่มาพร้อมกับเร่งเครื่องวิ่งตรงผ่านเราไปทันที
ในตอนนั้นเองเราก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า เดี๋ยวก่อนนน! เราจะพลาดรถคันนี้ไปอีกไม่ได้แล้ว ทำไมไม่จอด เราก็ยืนรออยู่ตรงป้ายชัดๆเลยนิ จากนั้นเราเลยรีบโบกมือ คนขับก็ยังทำหน้าตกใจเหมือนกับคิดว่า “อ้าว!? คุณจะขึ้นบัสนี้เหรอ!?”
ในความเป็นจริง รอบๆของป้ายรถบัสไม่มีใครเลย ซึ่งอาจจะให้ทำให้คนขับคิดว่า “ตรงนี้ไม่มีคนขึ้นอยู่แล้ว” เรียกได้ว่าเป็นภาพชินตาที่เจอได้บ่อยๆกับรถบัสชนบท
สุดท้าย รถก็เบรกและเปิดประตูให้เราขึ้นมาได้สำเร็จ จากนั้นเราก็มองไปที่ปลายทางของรถบัสสาย 99A ซึ่งเขียนว่า Hakodate Bus Center พอเห็นแบบนี้ก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย…
รถบัสคันนี้ถ้านั่งต่อไปเรื่อยๆก็จะสามารถตรงกลับไปยังสถานีรถไฟฮาโกดาเตะได้เลย ซึ่งจะมีช่วงที่รถเลี้ยวเข้าไปบริเวณก่อนถึงเขตเมืองฮาโกดาเตะ แต่เราอยากลองไปเที่ยวให้ลึกกว่านั้นสักหน่อย เลยต้องเปลี่ยนรถกันอีกครั้ง เราเลยจึงตัดสินใจลงที่ป้าย Minamikayabe Shisho-mae (南茅部支所前) ซึ่งหลังจากออกเดินทางมาใช้เวลาประมาณ 38 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 850 เยน
เรากำลังจะไปซ้ำรอยเดิมอีกแล้วเหรอ?
ป้ายรถบัส Minamikayabe Shisho-mae เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางเล็กๆของระบบคมนาคมในพื้นที่ เพราะมีรถบัสหลายสายมาบรรจบกันที่นี่ เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของแต่ละสาย โดยรถบัสคันที่ 3 ที่จะขึ้นต่อไปคือ สาย 99 วิ่งมุ่งหน้าไปยัง Shikabe Shuchoujo (鹿部出張所)
ในตอนนั้นเราเดินทางมาถึงที่นี่เวลา 13:55 น. แต่เมื่อดูตารางเวลารถแล้ว สาย 99 รอบถัดไปจะมาตอน 16:08 น. ถือว่าเรามีเวลาว่างเกือบ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
พอลองสังเกตตารางเวลารถบัสอีกรอบก็พบว่า เมื่อก่อนเคยมีรถที่วิ่งเชื่อมต่อกันพอดีหลังจากมาถึง แต่ช่วงหลังมานี้เหมือนจะถูกลดเที่ยววิ่งไป น่าเสียดายมากเพราะถ้ายังมีอยู่จะสะดวกมากเลย
บริเวณรอบๆไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง พิพิธภัณฑ์หรือสวนสนุกที่ช่วยให้ฆ่าเวลาว่างเกือบ 2 ชั่วโมงได้เลย แต่แทนที่จะให้นั่งรอเวลาอยู่เฉยๆ เราเลยเลือกเดินเล่นไปเรื่อยๆอาจจะทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วก็ได้ ดังนั้น ข้อสรุปก็เหมือนเดิม ใช้วิธีการเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ
เราตัดสินใจเดินเลียบถนนไปตามเส้นทางรถบัส โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะไปขึ้นรถบัสสาย 99 คันเดียวกัน ที่จะวิ่งมาตามหลังในเวลา 16:08 น. พอดี โดยแผนก็คือเราจะเดินมาที่ป้ายถัดไป แล้วค่อยขึ้นรถที่นั่น
ในระหว่างทางมีสถานที่พักอย่าง สถานีริมทาง Michi-no-Eki (道の駅) และโบราณสถานคาคิโนะชิมะ (Kakunoshima Site) ซึ่งเป็นแหล่งโบราณสถานสมัยโจมงที่ถูกจัดภูมิทัศน์ใหม่ให้เข้าชมได้ ซึ่งเวลายังเหลืออยู่เราก็เลยแวะเข้าไปดูด้านในแปบนึง
หลังจากเดินชมด้านในไม่นาน เราก็เริ่มเดินทางต่อไปยังป้าย Nisoma (二艘澗) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นประมาณ 7.5 กม.
และนี่ก็คือสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับการรอรถบัส!
หลังจากเดินมาถึงป้าย Nisoma เราก็นั่งรอเพลินๆ มองวิวทิวทัศน์รอบๆไปพลาง ไม่นานรถบัสสาย 99 คันใหญ่ก็วิ่งตามมาทันพอดี แต่ต่อให้นั่งรถคันนี้ไปเราก็ยังต้องเปลี่ยนรถอีกครั้งอยู่ดี และดูเหมือนจะต้องรอประมาณอีก 1 ชั่วโมงอีกแล้ว เราเลยคิดว่าจะลงตรงไหนถึงจะไม่เหลือเวลามากเกินไป
หลังจากคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจลงที่ป้าย Michi-no-Eki Shikabe Geyser Park (道の駅しかべ間歇泉公園) โดยใช้เวลาประมาณ 24 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 600 เยน
หลังลงรถสาย 99 ป้าย Michi-no-Eki (道の駅) ซึ่งชื่อของป้ายนี้จะแปลว่า “สถานีริมทาง” เพราะว่าที่นี่มีสถานีริมทางและร้านค้าเปิดให้บริการ เราสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนไกเซอร์ที่อยู่ติดกันได้ ดังนั้น เวลา 1 ชั่วโมง ที่คิดว่านานคงจะผ่านไปเร็วแน่ๆ เราเลยเดินไปที่ทางเข้า0ของสถานีริมทางและเดินไปที่ประตู…แต่ดันเปิดไม่ได้?!
จริงๆแล้วเราอยากกินเมนูในภาพด้านบนนี้มากเลย แต่เพราะว่าเราไปถึงตอนเวลา 16:49 น. สถานีริมทางและน้ำพุร้อนไกเซอร์ปิดบริการไปแล้ว ตอนนั้นรู้สึกช็อกเหมือนหยิบยาสีฟันมาล้างหน้า ทำไมร้านปิดเร็วขนาดนี้นะ!
แต่ในความโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่บ้างเพราะห้องน้ำยังเปิดให้เข้าใช้ได้ จากตอนแรกที่คิดว่าเวลา 1 ชั่วโมง มันจะผ่านไปเร็ว ตอนนั้นกลับรู้สึกว่ามันยาวนานขึ้นมาทันที
หลุดออกมาจากเขตเมืองฮาโกดาเตะ
เมื่อเราเดินมาถึงสถานีริมทางชิคาเบะไกเซอร์ปาร์ค (Michi-no-Eki Shikabe Geyser Park) ก็เท่ากับว่าเราออกมาจากเขตเมืองฮาโกดาเตะแล้ว ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างเขตเมืองอยู่ในเขตภูเขาที่ไม่มีถนนตัดผ่าน
หลังจากนั่งรอไปสักพักรถบัส Shika Bus (しかバス) ก็มาจอด ถ้าหากใครที่ขึ้นรถบัสสายนี้รอบแรกไม่ทันก็ไม่ต้องกังวลไปนะ เพราะรถจะวนกลับมาที่ป้ายเดิมอีกครั้งโดยใช้เวลาไม่กี่นาที
บรรยากาศรอบๆเริ่มเปลี่ยนเป็นโทนสลัว รถบัสที่เราขึ้นจากป้าย Michi-no-Eki (道の駅) คือ Shika Bus (しかバス) เป็นรถที่บริหารจัดการโดย Hakodate Bus หมายเลขสาย 222A
ปลายทางของรถบัสสายนี้คือ สถานีชิคาเบะ (Shikabe Station) ของรถไฟ JR Hakodate สายหลัก ในตอนนั้นเวลาประมาณ 17:49 น. รถบัส Shika Bus ซึ่งเป็นรถ Hino Pon’cho (มินิบัสญี่ปุ่นยอดนิยม) ก็เริ่มออกเดินทาง
หลังจากนั่งรถบัสมาประมาณ 21 นาที ก็มาถึงด้านสถานีชิคาเบะ (Shikabe Station) ซึ่งเป็นป้ายสุดท้าย ค่าโดยสารเพียง 100 เยนเท่านั้น ถือว่าถูกมากกก!
และนี่ก็คือรถไฟขบวนสุดท้ายของวัน รถไฟพลังงานดีเซลคาร์ จำนวน 1 โบกี้! บอกเลยว่าถ้าไม่ไปชนบท ไม่น่าจะมีโอกาสได้นั่งรถไฟแบบนี้เลย
เมื่อนั่งมาถึงสถานีรถไฟแล้วก็หมดกังวลเรื่องการต่อรถบัส ตอนนี้นั่งไปยาวๆแบบสบายๆได้เลย เรามาถึงสถานีเวลา 18:10 น. พอดี จากนั้นก็รอขึ้นรถไฟขบวนธรรมดาไปฮาโกดาเตะ ซึ่งรถไฟจะออกเวลา 18:26 น. โดยขบวนที่มาถึงคือ KiHa 150 ซึ่งเดิมทีเคยวิ่งอยู่บนสาย Furano Line (富良野線) มาก่อน
ทริปบัสสุดโหดที่เผาผลาญแคลอรีได้ดีมาก
เรานั่งรถไฟที่มีกลิ่นอายความเป็นชนบทโยกไปโยกมาเป็นเวลาประมาณ 57 นาที ก็ถึงสถานีฮาโกดาเตะแล้ว ตอนนั้นเวลา 19:23 น. ฟ้าเริ่มมืดสนิทแล้ว แต่ในท้ายที่สุดก็สามารถทำให้จุดเริ่มต้นกลายเป็นเส้นชัยได้สำเร็จ!
หลังจากลองเที่ยวจริงๆแล้วก็ได้ข้อสรุปว่า การเดินทางเที่ยวรอบเมืองฮาโกดาเตะโดยใช้รถบัสและรถไฟไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากเราบริหารเวลาให้ดี การเดินทางแบบวันเดียวจบก็เป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวที่สนุกไปอีกรสชาติเหมือนกัน
สุดท้ายนี้ แม้เส้นทางจะวางพื้นฐานด้วยการใช้ “ขนส่งสาธารณะเป็นหลัก” แต่ระหว่างทางกลับมีการเดินเท้า แถมแวะข้างทางเพลินๆอยู่ตลอด ทำให้จำนวนก้าวรวมทั้งวันทะลุ 30,000 ก้าว เลยทีเดียว! เรียกได้ว่าเป็นทริปบัสที่เผาผลาญแคลอรีอย่างหนักหน่วงจริงๆ สำหรับใครที่อยากจะลองเดินทางแบบนี้ดู แนะนำให้ลองวางแผน วางตารางเวลาให้ดีก่อน จะได้ไม่พลาดอะไรกันนะ!
สรุปเส้นทริปรอบเมืองฮาโกดาเตะในในทริปนี้
- ป้ายรถบัส Hakodate Eki-mae→【Hakodate Bus สาย 91A】→ ป้ายรถบัส Hinonhama Danchi
- ป้ายรถบัส Hinonhama Danchi →【เดินเท้า】→ ป้ายรถบัส Todohokke Shisho-mae
- ป้ายรถบัส Todohokke Shisho-mae →【Hakodate Bus สาย 99A】→ ป้ายรถบัส Minamikayabe Shisho-mae
- ป้ายรถบัส Minamikayabe Shisho-mae →【เดินเท้า】→ ป้ายรถบัส Nisoma
- ป้ายรถบัส Nisoma →【Hakodate Bus สาย 99】→ ป้ายรถบัส Michi-no-Eki Shikabe Geyser Park
- ป้ายรถบัส Michi-no-Eki Shikabe Geyser Park →【Hakodate Bus สาย 222A】→ สถานีรถไฟ Shikabe Eki-mae
- สถานีชิคาเบะ (Shikabe Station) →【JR Hakodate รถไฟขบวนธรรมดา】→ สถานีฮาโกดาเตะ (JR Hakodate Station)
-
- ระยะทางโดยสารขนส่งสาธารณะ : 129.5 กม.
- ระยะทางเดินเท้า : 14.4 กม. + แวะเดินเล่น 6.1 กม.
- ระยะทางรวมทั้งหมด : 150 กม.
- เวลาที่ใช้ทั้งหมด : 9 ชั่วโมง 30 นาที
- ค่าโดยสารรวมทั้งหมด : 4,290 เยน
- จำนวนก้าวทั้งหมด: 31,900 ก้าว
ที่มา
https://bestcarweb.jp/busmagazine/1292032
อ่านบทความที่น่าสนใจจาก fromJapan
- รถไฟคินเท็ตสึร่วมมือกับจังหวัดมิเอะและโปเกมอน ชวนนั่ง “Oshawott Liner” รถไฟด่วนพิเศษในธีมโปเกมอน!
- วิธีการเดินทางจากสนามบินคันไซสู่นัมบะอย่างง่ายดายไม่มีหลง!!
- บินตรงจากไทยไปญี่ปุ่น มีสนามบินอะไรบ้าง?
- เช่ารถเที่ยวญี่ปุ่น ต้องเตรียมตัวอย่างไร? พร้อมแนะนำบริษัทรถเช่าในญี่ปุ่น