เที่ยวศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะและฮินจิทสึคังที่เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ

ม.ค. 27, 2020

Clip
Share

ศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ (Futami Okitama Shrine)

หินคู่แต่งงาน (Meoto Iwa) เป็นหินที่มีลักษณะเคียงคู่กัน โดยหินก้อนใหญ่เปรียบเสมือนเทพอิซานางิซึ่งเป็นเทพฝ่ายชาย และหินก้อนเล็กเปรียบเสมือนเทพอิซานามิหรือเทพฝ่ายหญิง ซึ่งตามตำนานเทพปกรณัมของศาสนาชินโต (โปรดอย่าเข้าใจผิด พอดีผมอ่านเจอมาเยอะว่าคนส่วนใหญ่ชอบใช้คำว่าพุทธนิกายชินโต ซึ่งไม่ใช่เลยครับ พุทธกับชินโตเป็นคนละศาสนากัน แต่สองศาสนานี้ปรองดองกัน อยู่กันได้อย่างสันติครับ) เทพอิซานางิและเทพอิซานามิเป็นเทพคู่สามีภริยาผู้ให้กำเนิดญี่ปุ่น

ซึ่งจริงๆแล้วหินคู่แบบนี้ในญี่ปุ่นมีอยู่หลายที่เหมือนกัน เช่น อิโตชิมะ จังหวัดฟุกุโอกะ แต่ที่ที่ดังที่สุดน่าจะเป็นศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะนี่แหละครับ (ขอแอบบอกว่าที่ดังมากเพราะถ่ายรูปสวย แนะนำว่าให้มาถ่ายตอนพระอาทิตย์ขึ้นนะครับถ้าเป็นไปได้)

สังเกตดูจากรูปนะครับ จะมีการเอาเจ้าเชือกชิเมนาวะหรือเชือกฟางตามพิธีของชินโตมาห้อยบนหินสองก้อนนี้ เขาห้อยไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงจุดแบ่งระหว่างโลกวิญญาณและโลกมนุษย์ อีกทั้งยังแสดงถึงความรักใคร่ปรองดองระหว่างคู่สามีภริยา ทำให้ที่นี่เป็นที่ซึ่งคนมาไหว้ขอพรเรื่องความรักกันเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีแฟนอยู่แล้ว โดยเขาจะมาไหว้ขอพรให้มีความรักที่ยั่งยืนไปนานๆ ส่วนคนโสดที่มาไหว้ขอพรที่นี่ก็มีไม่น้อยเช่นกันครับ โดยจะไหว้ขอพรเพื่อให้พบเจอเนื้อคู่

ที่มา : https://japanshrinestemples.blogspot.com/2016/01/sarutahiko.html

อีกจุดสังเกตคือบรรดาพี่กบ

แต่เอ…แล้วทำไมต้องเป็นกบหว่า?

ว่ากันว่ากบเป็นสัตว์ประจำตัวของเทพซารุตาฮิโกะ เทพประจำศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งคำว่ากบ (kaeru 蛙) ในภาษาญี่ปุ่นมีคำพ้องเสียงกับคำว่าการกลับมา (kaeru 帰る) ในภาษาญี่ปุ่น (ภาษาญี่ปุ่นมีคำพ้องเสียงที่เขียนด้วยคันจิคนละตัวและมีความหมายต่างกันเยอะมาก) ทำให้เชื่อว่าถ้าบูชากบจะทำให้สิ่งที่รักนั้นกลับคืนมา (ส่วนมากคนที่มาไหว้ขอก็คือขอให้คนรักรวมถึงแฟนเก่ากลับมา)

นอกจากนี้ยังสามารถขอพรให้การเดินทางราบรื่นปลอดภัยได้ รวมถึงใช้กับเรื่องเงินทองให้ไหลกลับมาหาตัวเราได้อีกด้วย (ในเรื่องความปลอดภัยนั้นมีเรื่องเล่าอยู่ว่า มีทหารนายหนึ่งไปสงครามโลกแล้วรอดกลับมาได้เพราะเครื่องรางรับกระสุนที่ยิงเข้าไปแทน)

ซึ่งศาลเจ้าเองก็ขายกบสำหรับตั้งบูชาอยู่เหมือนกันครับ

ส่วนตรงจุดนี้คือเชือกร้อยที่เชื่อกันว่า ถ้านำมาร้อยกับแท่นแล้วจะช่วยปัดเสนียดจัญไร ทำให้ชีวิตมีความก้าวหน้า อ่ะ! ก็ลองดูกันได้ครับถ้าสนใจ

ที่มา : https://japaneseclass.jp/dictionary/%E7%B6%BF%E6%B4%A5%E8%A6%8B

อีกจุดย่อยหนึ่งคือศาลเจ้าริวกุฉะ สถานที่สักการะเทพแห่งทะเลวาทัตสึมิ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ซึ่งผู้คนมักจะมาไหว้ขอพรในเรื่องความปลอดภัยเวลาเดินเรือ หรือขอให้จับปลาได้เยอะๆ

สำหรับเครื่องรางของที่นี่ เนื่องจากเป็นหินคู่ก็เลยมีเครื่องรางคู่ขาย ลวดลายดีไซน์ตามหินคู่สวยงามมากครับ ใครสนใจก็ลองซื้อกลับมาพกคู่กับแฟนดู น่าจะดีไม่น้อย

ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ (Futami Okitama Shrine)

ที่อยู่

Futami Okitama Shrine
575 Futamichoe, Ise City, Mie Prefecture 519-0602

โทร

0596-43-2020

วันและเวลาทำการ

เปิดทำการทุกวัน ในช่วงเวลา 7:30 น. – 16:30 น.

ค่าเข้าชม

ไม่มีค่าเข้าชม

การเดินทาง

จากสถานี Iseshi ขึ้นรถไฟสาย Kintetsu หรือสาย JR ไปลงที่สถานี Futaminoura (ค่ารถไฟ 210 เยน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) แล้วเดินต่อจากสถานีอีกประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถบัสจากสถานี Iseshi ไปลงที่ป้าย Meoto Iwa Higashiguchi (ค่ารถ 470 เยน ใช้เวลา 50 นาที) แล้วเดินต่อจากป้ายรถบัสอีกประมาณ 5 นาที (ระหว่างทางจะมีจุดที่น่าสนใจด้วย เช่น ศาลเจ้าอิเสะชั้นนอก ศาลเจ้าอิเสะชั้นใน)

สำหรับใครที่มี Kintetsu Rail Pass แบบ 5 day สามารถขึ้นรถไฟ Kintetsu หรือรถบัสได้แบบไม่จำกัดเที่ยวนะครับ

แผนที่

https://goo.gl/maps/Rv2hnniuAdbqTc4f8

ฮินจิทสึคัง (Hinjitsukan)

‘ฮินจิทสึคัง’ เป็นอาคารที่สร้างขึ้นในปี 1887 เพื่อใช้เป็นสถานที่รองรับราชวงศ์และบุคคลสำคัญต่างๆที่เดินทางมาแสวงบุญที่เมืองอิเสะ ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ของพื้นที่โดยรอบในช่วงยุคเมจิ

พอเข้ามา สิ่งแรกที่เราจะเจอเลยก็คือสวนญี่ปุ่นที่สวยมาก อันนี้สร้างเพื่อรองรับแขกระดับสูง เพื่อให้มีสวนให้ชมเพลินๆครับ

ลักษณะของห้องข้างใน ส่วนมากเป็นการตกแต่งห้องแบบญี่ปุ่น

ที่มา : https://www.japan-guide.com/e/e4312.html

แต่จะมีห้องโถงกลางชั้น 2 ที่ตกแต่งแบบโมโมยามะ ซึ่งก็คือมีการปิดทอง และยังมีโคมไฟแบบตะวันตกด้วย

ส่วนชั้น 1 จะมีโซนแสดงเอกสารต่างๆที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองฟุตามิ รวมถึงงานศิลปะของนากามูระ ซาชู ศิลปินท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง