fbpx

สะพานคินไทเคียว จ. ยามากุจิ สะพานไม้ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ก.ย. 21, 2020

สะพานคินไทเคียว จ. ยามากุจิ สะพานไม้ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

สะพานคินไทเคียว (Kintaikyo Bridge) เป็นสะพานไม้ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองอิวะคุนิ จังหวัดยามากุจิ มีลักษณะเป็นสะพานไม้ 5 โค้ง กว้าง 5 เมตร ยาว 193.3 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับสะพานคินไทเคียวกันให้มากขึ้นครับ

สารบัญ

1.จุดเด่นของสะพานคินไทเคียว

2.ประวัติของสะพานคินไทเคียว

3.บรรยากาศดีๆที่สะพานคินไทเคียว

4.ข้อมูลของสะพานคินไทเคียว (Kintaikyo Bridge)

1. จุดเด่นของสะพานคินไทเคียว

จุดเด่นของสะพานคินไทเคียวนั้น นอกจากรูปร่างที่สวยงามแล้วก็ยังมีเรื่องของวิธีการสร้างสะพาน โดยสะพานถูกดัดให้โค้งด้วย Makikin หรือ สายรัดเหล็ก และมีการใช้เทคนิคการประกอบไม้ที่เรียกว่า คะซุไง หรือการใช้ตะปู 2 ตัวในการยึดปลายให้ติดกัน ตะปูที่ว่านี้เป็นตะปูปลายแหลม 2 ด้านรูปตัว U สำหรับตอกเชื่อมไม้สองชั้น

คะซุไงนับว่าเป็นเทคนิคการประกอบไม้ระดับสูง ด้วยเทคนิคนี้ ยิ่งสะพานได้รับแรงกดทับจากด้านบนมากเท่าไร สะพานก็จะยิ่งมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น

Back To Index

2. ประวัติของสะพานคินไทเคียว

สำหรับความเป็นมาของสะพานคินไทเคียวนั้น เดิมที คิกคาวะ ฮิโรอิเอะ ไดเมียวของอาณาจักรอิวะคุนิเริ่มวางแผนสร้างสะพานแห่งนี้เพื่อใช้ป้องกันข้าศึกรุกรานในช่วงปี ค.ศ. 1600 แต่ต่อมาสะพานคินไทเคียวที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างก็เกิดความเสียหายเนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำนิชิกิซัดเข้าใส่

จนในที่สุดก็มีการสร้างสะพานใหม่ขึ้นมาทดแทนของเดิมที่พังทลายจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก โดย คิกคาวะ ฮิโรโยชิ ไดเมียวคนที่ 3 ของอาณาจักรอิวะคุนิได้ออกแบบรูปทรงสะพานให้มีความคงทนและเป็นเอกลักษณ์ดังที่เห็นในปัจจุบัน จนในปี ค.ศ. 1673 สะพานคินไทเคียวก็เสร็จสมบูรณ์

นับตั้งแต่นั้นสะพานคินไทเคียวก็คงอยู่ได้เรื่อยมา จนในที่สุดเมืองอิวะคุนิก็เจอพายุไต้ฝุ่นในปี 1950 และสะพานก็ถูกพายุพัดทำลาย

ขณะนั้นญี่ปุ่นเพิ่งแพ้สงครามโลกครั้งที่สองมาได้ไม่นาน สะพานจึงถูกทิ้งไว้ในสภาพปรักหักพัง แต่ในที่สุดก็มีการรวบรวมเงินบริจาคของชาวเมืองเพื่อสร้างสะพานอีกครั้งในปี 1953 ทำให้สะพานคินไทเคียวอยู่คู่เมืองอิวะคุนิมาได้จนถึงปัจจุบัน

Back To Index

3. บรรยากาศดีๆที่สะพานคินไทเคียว

ทิวทัศน์รอบสะพานคินไทเคียวนั้นสวยสบายตามากๆ เราจะเห็นทั้งวิวทิวทัศน์ของภูเขาและแม่น้ำนิชิกิ (Nishiki River) และเมื่อเดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ เราจะเจอ ปราสาทอิวะคุนิ (Iwakuni Castle) ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาด้วย

ฝั่งปราสาทอิวะคุนิจะมีแลนด์มาร์กที่เราสามารถไปเยี่ยมชมกันได้ นั่นคือรูปปั้นของ ซาซากิ โคจิโร่ ซามูไรผู้เป็นคู่ปรับคนสุดท้ายของ ‘มิยาโมโตะ มุซาชิ’ ซามูไรชื่อดัง (ไม่ใช่มุซาชิ โคจิโร่ในโปเกมอนนะ คนละคนกัน!)

ถ้าให้เล่าสั้นๆเกี่ยวกับโคจิโร่ก็คือ เขาเป็นยอดฝีมือดาบโนดาชิ หรือดาบยาวที่เหมาะสำหรับใช้ในการทำสงคราม อาวุธคู่ใจของเขาคือ ‘ดาบโมโนโฮชิซาโอ (Monohoshizao)’ ที่แปลว่าราวตากผ้า แต่ในท้ายที่สุดนั้นโคจิโร่ก็แพ้มุซาชิและจบชีวิตลงในการดวลครั้งนั้น

ที่มา : https://www.suruga-ya.jp/database/pics/game/120013825.jpg

หลายๆคนอาจจะพอคุ้นกับการ์ตูนเรื่อง ‘ไยบะ’ ที่เขียนโดยโกโช อาโอยาม่า (คนเดียวกับที่เขียนการ์ตูนเด็กแว่นมรณะ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน) โคจิโร่ก็คือหนึ่งในตัวละครหลักของการ์ตูนเรื่องนี้นั่นเองครับ

และในช่วงกลางคืน ที่สะพานคินไทเคียวจะมีการเปิดไฟประดับด้วย ถ่ายรูปได้เพลินๆครับ วิวสวยดี

Back To Index

4. ข้อมูลของสะพานคินไทเคียว (Kintaikyo Bridge)

ที่อยู่
  • Kintaikyo Bridge, Iwakuni, Iwakuni City, Yamaguchi Prefecture 741-0062
โทร
  • 0827-29-5107
วันและเวลาทำการ
  • สะพานเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
  • ค่าเดินข้ามสะพาน (ไป-กลับ) : 310 เยน (ไปกลับ)
  • รวมค่าเข้าปราสาทอิวะคุนิและค่าขึ้น Ropeway ไปยังปราสาท : 970 เยน
การเดินทาง
  • จากสถานีรถไฟ Hiroshima ให้ขึ้นรถไฟสาย Sanyo ไปลงที่สถานี Iwakuni (ใช้เวลา 50 นาที ค่าโดยสาร 770 เยน ใช้ JR PASS ได้) แล้วนั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Kintaikyo (ใช้เวลา 20 นาที ค่าโดยสาร 300 เยน) แล้วเดินต่ออีก 3 นาที
  • สำหรับผู้ที่ต้องการนั่งรถไฟชินคันเซ็น ให้ขึ้นรถไฟแบบ Kodama ไปลงที่สถานี Shin Iwakuni (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 1,640 เยน สำหรับตั๋วไม่จองที่นั่ง 3,000 เยน สำหรับตั๋วจองที่นั่ง ใช้ JR PASS ได้) แล้วนั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Kintaikyo (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 350 เยน)  แล้วเดินต่ออีก 3 นาที
แผนที่ Google Map

เว็บไซต์

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดยามากุจิ

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top