รวมที่เที่ยวใน ‘เมืองโอคาซากิ’ 7 แห่ง วันเดียวก็ไปได้
เม.ย. 01, 2020
รวมที่เที่ยวใน ‘เมืองโอคาซากิ’ 7 แห่ง วันเดียวก็ไปได้
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำเมืองแสนน่ารักน่าเที่ยว เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความอบอุ่นอย่าง ‘เมืองโอคาซากิ’ (岡崎) ซึ่งหลายๆคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อเมืองนี้มากนัก วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเมืองนี้กันดีกว่าค่ะ
สารบัญ
1. ‘เมืองโอคาซากิ’ อยู่ที่ไหน?
2. ชมซากุระเดือน 2 ที่ Aoisakura
3. ชมสวนดอกบ๊วยที่ศาลเจ้า Iwazu Tenmangu (岩津天満宮)
4. ทานน้ำแข็งไสของฟาร์มผลไม้ พร้อมเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆที่ Jyokaen Café (常果園カフェ)
5. ชมโรงงานฮัทโจมิโสะชื่อดังของเมืองโอคาซากิ ‘Kakukyu Hatcho Miso’
6. เขียนแผ่นป้ายคำอธิษฐานน่ารักๆที่ศาลเจ้าซุกาโอะ (Sugao Shrine)
7. ชมปราสาทโอคาซากิอันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่สวนโอคาซากิ
8. นั่งคาเฟ่ริมแม่น้ำทานขนมหวานสุดอลังการที่ Sakura Moon
9. Okazaki New Grand Hotel โรงแรมที่เห็นวิวปราสาทโอคาซากิและบรรยากาศรอบเมืองได้
1. ‘เมืองโอคาซากิ’ อยู่ที่ไหน?
เมืองโอคาซากิ (Okazaki City) ตั้งอยู่ในจังหวัดไอจิ สามารถเดินทางจากนาโกย่าซึ่งเป็นตัวเมืองหลักของจังหวัดไอจิได้ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ที่เมืองแห่งนี้มีประชากรอยู่ถึง 360,000 คน มีของขึ้นชื่อคือฮัทโจมิโสะ (八丁味噌) รวมถึงปราสาทโอคาซากิ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายภายในเมือง โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ เมืองแห่งนี้จะถูกย้อมไปด้วยสีชมพูของต้นซากุระที่เรียงรายอยู่ริมแม่น้ำขนาดใหญ่ของเมือง เป็นเมืองที่น่ารักและโรแมนติก
มาสคอตของเมืองโอคาซากิคือ โอคาซาเอม่อน (Okazaemon)
เพียงแค่มองทุกคนก็อาจจะสงสัยว่าเจ้านี่มันตัวอะไรกัน…
คาแรคเตอร์ของมาสคอตนี่น่าสนใจมากๆเลยค่ะ เป็นคุณลุงอายุ 48 ปี สูง 180 เซนติเมตร นิสัยอ่อนโยนแต่ใจร้อน เลือดกรุ๊ปโอ มีลูกวัย 4 ขวบ 1 คน โดนภรรยาทิ้งหนีไป ปัจจุบันสถานะโสด
ที่บริเวณใบหน้าของมาสคอตเขียนไว้ด้วยตัวอักษร ‘โอกะ’ บริเวณลำตัว ‘ซากิ’
เราสามารถพบกับคาแรคเตอร์โอคาซาเอม่อนได้ตามจุดต่างๆทั่วเมืองนี้ โดยเฉพาะบริเวณตู้กดน้ำและร้านขายของฝาก
ในครั้งนี้เราได้เดินทางมากับ แป้งโกะ จินตนัดดา นักร้องและนักแสดงมากความสามารถค่ะ ^^
เมื่อเดินทางมาถึงสถานี Higashi-Okazaki ของรถไฟสาย Meitetsu แล้ว ก็เริ่มออกเดินทางกันได้เลย!!
ที่บริเวณทางออกของสถานี Higashi-Okazaki รถไฟ Meitetsu จะมีจุดให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว หรือ ‘Okazaki City Tourist Information Center’ หากมีข้อสงสัยอะไรในการท่องเที่ยว เราสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่นี่ค่ะ
เวลาทำการของ Okazaki City Tourist Information Center
9:00 – 17:00 น.
หลังจากเกริ่นมานาน เราไปชมเสน่ห์ของเมืองโอคาซากิกันเลยดีกว่า!!
2. ชมซากุระเดือน 2 ที่ Aoisakura
ก่อนอื่นเราจะมาเริ่มทริปกันที่ Aoisakura เป็นถนนที่มีชื่อเสียงในการชมซากุระเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ ถนนสายนี้มีต้น คาวาซุซากุระ เรียงกันริมแม่น้ำยาวถึง 3 กม.
ซากุระของที่นี่มีสีชมพูเข้ม เมื่ออยู่คู่กับท้องฟ้าอันสดใสและแม่น้ำแสนสะอาดของเมือง ซากุระที่ Aoisakura ก็ยิ่งดูงดงามกว่าที่ไหนๆ เราสามารถชมความงามของซากุระบนถนนสายนี้ได้ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีด้วยค่ะ
การเดินทาง
- เดินจากสถานี Higashi Okazaki ประมาณ 20 นาที > นั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Okazakishi Tatsumigaoka Hall (竜美丘会館前) > เดินจากป้ายรถเมล์ 1 นาที (มีลานจอดรถ)
แผนที่
3. ชมสวนดอกบ๊วยที่ศาลเจ้า Iwazu Tenmangu (岩津天満宮)
เวลาที่ทุกคนเห็นดอกไม้สีชมพูน่ารักๆก็คงคิดว่าเป็นดอกซากุระใช่ไหมคะ? จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่ก็ได้น๊า เพราะจริงๆแล้ว ‘ดอกบ๊วย’ นั้นคล้ายซากุระมากค่ะ
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม ที่ญี่ปุ่นจะเป็นฤดูกาลของดอกบ๊วย ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีสีชมพูและขาว หากมองเผินๆจะมีลักษณะคล้ายกับดอกซากุระ
แต่ดอกบ๊วยนั้นมีใบเป็นลักษณะกลมๆ น่ารัก ไม่ได้มีกลีบยาวๆเหมือนซากุระ หากมองใกล้ๆเราจะสามารถรับรู้ถึงความน่ารักของมันได้อย่างแน่นอน
แล้ววันนี้เราก็มาอยู่ที่ สวนดอกบ๊วยของศาลเจ้า Iwazu Tenmangu สวนแห่งนี้มีดอกบ๊วยมากถึง 400 ต้นเลยค่ะ!!
ทุกพื้นที่ภายในศาลเจ้าแห่งนี้เป็นเขตปลอดบุหรี่ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุอัคคีภัย ใครที่สูบบุหรี่ ถ้ามาที่นี่ห้ามสูบเด็ดขาดเลยนะ!
จะเห็นได้ว่าใบของดอกบ๊วยมีลักษณะกลม ไม่มีแฉกเหมือนซากุระ
ดอกบ๊วยเองก็มีทั้งสีขาว สีชมพู และสีชมพูเข้มเช่นเดียวกับซากุระ
เวลาทำการของสวนบ๊วย
- เปิดกลางเดือน ก.พ. – กลางเดือน มี.ค. ในเวลา 8:00 – 17:00 น.
หลังจากชมดอกบ๊วยแล้วก็แวะมาที่ฝั่งศาลเจ้ากันบ้าง
มีประตูแดงเรียงเยอะๆ ให้ถ่ายรูปสวยๆดูเป็นญี่ปุ่นอยู่ด้วยนะ
น้องวัวทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้เอ่ย?
จริงๆแล้วศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่ผู้คนในเมืองโอคาซากินิยมมาขอพรเรื่องการสอบกันค่ะ โดยเฉพาะในช่วงใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยจะยิ่งมีคนหนาแน่นเป็นพิเศษ ทุกคนจะมาซื้อเครื่องรางของที่นี่เพื่ออวยพรให้ตัวเองหรือคนรู้จักสอบผ่าน
นอกจากเครื่องรางสำหรับพกพาทั่วไปแล้วก็ยังมีเครื่องรางรูปวัวด้วยค่ะ คนที่มาสักการะขอพรให้ตัวเองสอบผ่านที่นี่ เมื่อสอบผ่านแล้วจะนำตุ๊กตาวัวกลับมาวางที่ถาดนี้
ทีนี้ก็เข้าใจแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมถึงมีน้องวัวอยู่ที่หน้าทางเข้า
ภายในบริเวณศาลเจ้าเองก็มีดอกบ๊วยให้ชมเช่นกัน
แม้แต่แผ่นป้ายเอมะสำหรับเขียนคำอธิษฐานก็ยังเป็นลาย “ขอให้สอบผ่าน” ใครที่กำลังจะสอบครั้งใหญ่ ลองแวะมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้กันดูนะคะ ^^ หรือจะซื้อเครื่องรางกลับไปฝากคนอื่นก็ได้เช่นกันค่ะ
การเดินทาง
- จากสถานี Higashi-Okazaki ของรถไฟสาย Meitetsu ให้ขึ้นรถบัสที่ป้ายหมายเลข 4 ที่ทางออกทิศเหนือ ลงรถที่ป้าย Iwazutengukuchi (岩津天神口) แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
แผนที่ป้ายรถเมล์
แผนที่
*มีลานจอดรถให้บริการ
4. ทานน้ำแข็งไสของฟาร์มผลไม้ พร้อมเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆที่ Jyokaen Café (常果園カフェ)
ที่เมืองนี้มีฟาร์มผลไม้อยู่เป็นจำนวนมาก ฟาร์มที่เป็นที่นิยมของเมืองคือฟาร์มสตรอว์เบอร์รีและองุ่น ช่วงนี้กำลังจะเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว เราเลยมาเด็ดสตรอว์เบอร์รีที่ ฟาร์ม Jyokaen (常果園) ค่ะ
ก่อนไปเด็ดสตรอว์เบอร์รีที่ฟาร์ม เราจะไปแวะทานน้ำแข็งไสขึ้นชื่อของเมืองนี้กันที่คาเฟ่ Jyokaen Café ซึ่งทางฟาร์มผลไม้ได้เปิดให้บริการเองเลย
ร้านอยู่ติดกับถนนใหญ่ มีลานจอดรถให้บริการค่ะ
เมนูน้ำแข็งไสประจำฤดูใบไม้ผลินั้นไม่พ้นสตรอว์เบอร์รีอย่างแน่นอน!!
ขอบอกเลยว่ามันอร่อยมากๆ ค่ะ เป็นน้ำแข็งไสที่หวานและหอมธรรมชาติมากๆ เหมือนได้ทานสตรอว์เบอร์รีหวานๆสดๆในสัมผัสของน้ำแข็งไสเลย
นอกจากนี้ยังมีเมนูน้ำแข็งไสรสอื่นๆด้วย สมกับเป็นร้านน้ำแข็งไสที่ฟาร์มผลไม้เป็นคนทำเองจริงๆ ทุกคนต้องมาลองกันให้ได้นะคะ!!
เฟซบุ๊ก Jyokaen Café
หลังจากทานน้ำแข็งไสจนอิ่มแล้ว เราว่าในท้องเรายังมีที่เหลือสำหรับทานผลไม้ต่อค่ะ! ฮ่าๆ เราเลยมาเก็บสตรอว์เบอร์รีต่อที่ฟาร์ม
อะไรจะดีไปกว่าการได้เด็ดสตรอว์เบอร์รีจากต้นแล้วทานสดๆกันเลยล่ะ ^^
ฟาร์มผลไม้ที่ญี่ปุ่นนั้นไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เราจึงสามารถเด็ดแล้วทานได้เลยโดยไม่ต้องล้างค่ะ ปลอดภัยไว้วางไว้ใจได้
แต่ฟาร์มแห่งนี้ต้องจองไว้ก่อนเท่านั้นถึงจะมาเก็บได้นะ!
ส่วนช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนตุลาคม ที่ฟาร์มโจคะเอ็นจะมีบริการให้เก็บองุ่นค่ะ
เห็นผลสตรอว์เบอร์รี่สีแดงๆนี้ไหมคะ? น่าทานไหมเอ่ย อิอิ
ฟาร์มโจคะเอ็นเปิดให้เก็บสตรอว์เบอร์รีได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ขอย้ำว่าต้องจองมาก่อนเท่านั้นค่ะ
โทรจองได้ที่
- 0564-45-7322
- 090-1479-5660
วันให้บริการ
- วันอาทิตย์
เวลาทำการ
- 9:30 – 12:00 น. (รอบสุดท้าย 11:30 น.)
ค่าบริการ
- ผู้ใหญ่ : 1,800 เยน
- นักเรียนประถม : 1,600 เยน
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ : 1,400 เยน
แผนที่
5. ชมโรงงานฮัทโจมิโสะชื่อดังของเมืองโอคาซากิ ‘Kakukyu Hatcho Miso’
จากที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่าของขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ ฮัทโจมิโสะ (八丁味噌) เพื่อนๆก็อาจจะสงสัยว่ามิโสะที่นี่ต่างจากที่อื่นยังไง เราสามารถมาหาคำตอบกันได้ที่โรงงานมิโสะ Kakukyu Hatcho Miso ค่ะ
โดยปกติแล้ว มิโสะนั้นมีส่วนผสมหลัก 4 อย่างในการทำ คือถั่วเหลือง ข้าว เกลือ โคจิ
แต่ฮัทโจมิโสะนั้นใช้ถั่วเหลืองและเกลือในการทำเท่านั้น เป็นวิธีการทำที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เอกลักษณ์ของรสชาติมิโสะที่นี่จึงไม่มีรสหวานของข้าวเหมือนมิโสะที่อื่น
แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นรสเค็มธรรมดานะ เพราะมิโสะของที่นี่มีรสชาตินุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์ของฮัทโจมิโสะ ไม่ใช่รสเค็มอย่างที่ทุกคนคิด และยังเป็นมิโสะที่แข็งที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วย!!
ประวัติของฮัทโจมิโสะนั้นน่าสนใจมากค่ะ เพื่อนๆสามารถเข้ามาทัศนศึกษาชมประวัติของมิโสะและโรงงานทำมิโสะได้ที่นี่เลย
ระยะเวลาลงทะเบียนเข้าทัศนศึกษา
- วันธรรมดา 10:00 – 16:00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ 9:30 – 16:00 น.
*ใช้เวลาเที่ยวชมประมาณ 30 นาที
หลังจากทัศนศึกษาแล้วก็มีซอสมิโสะให้ชิมด้วย รสชาติเข้มข้นและนุ่มลึกกว่ามิโสะของที่อื่นจริงๆด้วย!!
มาต่อกันค่ะ เราไปลองชิมไอศกรีมมิโสะกันดีกว่า รสชาติจะเป็นยังไงน๊า
คนต่อแถวกันยาวมากเลย!! ไอศกรีมมิโสะเป็นที่นิยมของชาวเมืองโอคาซากิขนาดนี้เลยหรอ!?
ตัวไอศกรีมอร่อยมากเลยค่ะ มีรสเค็มของมิโสะพอหอมปากหอมคอ อีกทั้งยังมีกลิ่นเฉพาะตัว ด้านบนโรยด้วยมิโสะพาวเดอร์เพื่อเพิ่มความหอม และยังมีคุกกี้มิโสะผสมลงไปด้วย โดยรวมแล้วรู้สึกเหมือนทานไอศกรีมรสคาราเมลมากกว่ามิโสะอีก อร่อยมาก!!
ทานของหวานแล้วยังทานข้าวได้ต่อ!! เรามาทานอาหารที่ทำจากมิโสะชื่อดังของเมืองที่ฟู้ดคอร์ทกันต่อ
ที่นี่มีกระจกใสให้เราเห็นบรรยากาศของโรงหมักมิโสะด้วย
ทางโรงงานบอกว่าหากนำมิโสะของที่นี่ไปผสมกับแกงกะหรี่จะอร่อยขึ้น!! แกงกะหรี่จะมีความหอมนุ่มลึกมากขึ้น จะอร่อยหรือไม่อร่อยก็สามารถมาชิมด้วยตัวเองได้ที่นี่ค่ะ
ใครไม่อยากทานข้าว ราเมนก็มีน๊า
และนี่คืออุด้งซุปมิโสะแดง เป็นซุปขึ้นชื่อของเมืองนี้เช่นกัน
ขอบอกว่าอร่อยมากเลยค่ะ!! ด้วยน้ำซุปมิโสะแดง จึงให้มีรสชาตินุ่มลึกต่างจากมิโสะของที่อื่น เป็นรสชาติที่สามารถลิ้มลองได้ที่เมืองนี้เท่านั้น!!
ยัง!! ยังทานต่อ!! เมื่อทานของคาวอิ่มแล้วก็ต้องปิดท้ายด้วยของหวาน!!
ยังมีน้ำแข็งไสมิโสะให้ทานอีก!! น้ำแข็งไสถังใหญ่นี้โรยด้วยมิโสะพาวเดอร์ ทอปปิ้งมิโสะป็อปคอร์น นอกจากนี้ด้านในยังสอดไส้ไอศกรีมมิโสะที่เหมือนกับร้านขายไอศกรีมเมื่อสักครู่นี้ แล้วภายใต้ไอศกรีมยังมีซอสมิโสะสอดไส้ไว้ข้างในอีก
น้ำแข็งไสถังนี้จะทำให้คุณได้ลิ้มรสความอร่อยของมิโสะอย่างเต็มที่แน่นอน
หากชิมมิโสะแล้วถูกใจ มาเลือกซื้อของฝากกันต่อได้เลย
ฮัทโจมิโสะอร่อยจริงๆ ต้องซื้อกลับบ้านแล้ว!!
การเดินทาง
- จากสถานี Higashi-Okazaki รถไฟสาย Meitetsu ให้นั่งแท็กซี่ไปประมาณ 10 นาที > ขึ้นรถบัสจากสถานี Higashi-Okazaki ป้ายหมายเลข 1 จากนั้นนั่งรถบัสวิ่งไปทาง Anjo station (安城駅前行き) หรือ Kitano Kitaguchi (北野北口行き) แล้วลงที่ป้าย Itayachoguchi (板屋町口) เดินต่ออีก 5 นาที > เดินจากสถานี Okazaki Koenmae 5 นาที > เดินจาก Naka-Okazaki ประมาณ 5 นาที
*มีลานจอดรถ
เว็บไซต์
แผนที่
6. เขียนแผ่นป้ายคำอธิษฐานน่ารักๆที่ศาลเจ้าซุกาโอะ (Sugao Shrine)
ศาลเจ้าซุกาโอะ (Sugao Shrine) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดในเมืองโอคาซากิ มีอายุมากถึง 110 ปี เชื่อกันว่าเป็นศาลเจ้าที่มีเทพเจ้าคอยคุ้มครองปราสาทโอคาซากิ ในฤดูร้อนของทุกๆปีจะมีการจัดงานเทศกาลใหญ่ TOP 3 ของเมืองโอคาซากิที่ศาลเจ้าแห่งนี้ด้วย
วันนี้เราจะมาเขียนป้ายคำอธิษฐานสุดแสนน่ารักรูปทรงหัวใจสีชมพู Rune Girl
บริเวณหน้าศาลเจ้า
ภายในศาลเจ้ามีประตูแดงด้วย
เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีพลังในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป ใครที่รู้สึกว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี ลองมาไหว้พระสักการะขอพรที่นี่กันดูไหมคะ?
จุดขายป้ายเขียนคำอธิษฐานและเครื่องรางต่างๆ
เซียมซีที่ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ มีทั้งปลา หนู จิ้งจอก น่ารักทุกอันเลย
ป้ายคำอธิษฐานสีชมพูรูปหัวใจที่ว่าอยู่ตรงนี้นี่เอง!!
เขาบอกกันว่าป้ายเขียนคำอธิษฐานนี้จะช่วยให้เราได้พบคนที่ใช่ล่ะ ใครที่เนื้อคู่ฉันยังไม่มา ลองเขียนคำอธิษฐานที่ป้ายนี้กันดูนะ ราคาของป้าย 800 เยนค่ะ
การเดินทาง
- จากสถานี Higashi-Okazaki รถไฟสาย Meitetsu เดินไปอีกประมาณ 10 นาที > นั่งรถบัส Meitetsu ไปลงที่ป้าย Tonobashi (殿橋)
*มีที่จอดรถในศาลเจ้าฟรี 5 ที่
เวลาทำการ
- 9:00 – 17:00 น.
แผนที่
7. ชมปราสาทโอคาซากิอันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่สวนโอคาซากิ
สวนโอคาซากิ เป็นสวนประจำเมืองโอคาซากิ ภายในสวนมีปราสาทโอคาซากิซึ่งเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่น ภายในสวนนอกจากจะมีต้นไม้ร่มรื่นแล้ว ยังมีดอกไม้ประจำฤดูกาลให้ชมด้วย ไม่ว่าจะเป็นซากุระ ดอกฟูจิ ดอกสึสึจิ ไม่ว่าจะมาฤดูไหนเราก็สามารถชมความงามของธรรมชาติได้พร้อมกับวิวปราสาทโอคาซากิ
แผนที่ภายในสวน จะเห็นได้ว่าสวนมีบริเวณกว้างมากเลยค่ะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บริเวณฝั่งปราสาทจะกลายเป็นสีชมพูของซากุระ
ขนาดตู้โทรศัพท์ยังเป็นหลังคาปราสาทเลย เท่มาก!!
ปราสาทโอคาซากิเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงเพราะมีนักรบชื่อดังถือกำเนิดขึ้นที่นี่ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1959 และได้ลงทะเบียนเป็นหนึ่งในปราสาทที่สำคัญ 100 แห่งในญี่ปุ่น
ค่าเข้าชมปราสาท
- ผู้ใหญ่ : 200 เยน
- เด็ก : 100 เยน
มีนักรบซามูไรออกมาต้อนรับแป้งโกะด้วยค่ะ
ภายในสวนมีร้านขายของฝากประจำเมืองโอคาซากิอยู่ด้วย หากใครกำลังหาของฝากประจำเมืองโอคาซากิหรือสินค้ามาสคอตประจำเมือง ที่นี่มีขายจ้า
การเดินทาง
- เดินจากสถานี Higashi-Okazaki รถไฟสาย Meitetsu ประมาณ 15 นาที > ขึ้นรถบัสที่วิ่งไปทาง Daiuji จากสถานี Higashi-Okazaki แล้วลงที่ป้าย Koseicho (康生町) > เดินจากสถานี Naka-Okazaki 10 นาที
*มีลานจอดรถ
แผนที่
8. นั่งคาเฟ่ริมแม่น้ำทานขนมหวานสุดอลังการที่ Sakura Moon
มาถึงเมืองโอคาซากิแล้วจะไม่มาร้าน Sakura Moon ก็คงไม่ได้ เพราะนี่คือคาเฟ่ขนมหวานสุดอลังการ
เชฟทำขนมของที่นี่จะบรรจงทำขนมหวานทุกจานให้ลูกค้าอย่างปราณีต รวมถึงมีการตกแต่งจานเพื่อให้เข้ากับอิมเมจของลูกค้าแต่ละคนในทุกๆจาน
Sakura Moon เป็นร้านที่ได้ความนิยมมาก จึงต้องจองทุกครั้งก่อนที่จะมานะคะ
บริเวณหน้าร้านให้บรรยากาศชิคๆ น่ารักมากเลยค่ะ
เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าขนมหวานของร้านนี้จะอลังการขนาดไหน
ทะแด่น~ มาแล้วค่ะ! ขนมหวานตกแต่งจานด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน
ปกติทางร้านจะจัดดอกไม้บนจานและเลือกสีให้เข้ากับชุดของลูกค้าของแต่ละคน เวลาถ่ายรูปลงโซเชียลจะได้ดูสวยมากยิ่งขึ้น
ใส่ใจลูกค้าถึงขนาดนี้ รักเลยค่ะ ^^
นอกจากการแต่งจานแล้ว ดีเทลบนของหวานก็ละเอียดมาก
ใครที่เลือกไม่ถูกก็สามารถสั่งจานที่รวมของหวานทุกอย่างไว้ในจานเดียวได้
ไม่ว่าเมนูไหนก็ทั้งสวยอลังการและอร่อยมากเลยค่ะ
หากมาถึงโอคาซากิแล้ว อย่าลืมแวะมาทานกันให้ได้นะคะ
เวลาทำการ
- 11:00 – 21:00 น. (Last order 20:30 น.)
โทร
- 0564-77-0156
เฟซบุ๊กร้าน Sakura Moon
แผนที่
9. Okazaki New Grand Hotel โรงแรมที่เห็นวิวปราสาทโอคาซากิและบรรยากาศรอบเมืองได้
โรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียวในเมืองนี้คือ Okazaki New Grand Hotel ห้องพักจะเป็นยังไงเราไปดูกันเลย!
บริเวณทางเข้าห้องพักเดี่ยว กว้างขนาดที่สามารถวางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้สบายเลยค่ะ
ห้องพักสวยงาม แถมยังมีชุดสำหรับไปแช่บ่อน้ำร้อนด้วยค่ะ
จากห้องอาหารชั้น 9 สามารถเห็นบรรยากาศของเมืองโดยรอบได้
เห็นปราสาทโอคาซากิด้วย ♪
ห้องอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ มีอาหารที่หลากหลายทั้งตะวันตก ตะวันออก อาหารญี่ปุ่น และของขึ้นชื่อของเมืองโอคาซากิ
อาหารจานหลักสามารถเลือกได้ว่าจะทานปลา เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือแฮมเบิร์ก อร่อยทุกอย่างเลย~~
สามารถตรวจสอบราคาและห้องพักได้ที่หน้าเว็บไซต์หลักของโรงแรม >> Okazaki New Grand Hotel Official Website
ภาพสุดท้ายนี้คือฝาท่อของเมืองโอคาซากิค่ะ ลายของฝาท่อจะเป็นรูปปราสาทโอคาซากิ ดอกซากุระ และดอกไม้ไฟ ซึ่งเป็น 3 สิ่งขึ้นชื่อของเมืองโอคาซากิค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ อยากเที่ยวเมืองโอคาซากิกันขึ้นมาหรือยัง? ^^
หากมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้า อย่าลืมมาเที่ยวชมซากุระที่เมืองโอคาซากิกันนะคะ
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดไอจิ
- เดินทางอย่างอิ่มท้อง ด้วยคาเฟ่บนรถไฟด่วนพิเศษ ‘ชิมะคาเสะ (SHIMAKAZE)’
- ไขปริศนาแผ่นไม้ขอพรรูปหัวใจที่ศาลเจ้าซังโคอินาริ
- ทริปอิ่มบุญที่วัดนาริตะและศาลเจ้าฮาริตสึนะ เมืองอินุยามะ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ