fbpx

3 places 3 moods in KANSAI (Osaka-Kyoto-Nara)

มิ.ย. 04, 2020

บทความที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 จากแคมเปญ After covid-19
โดย ธนัชพร เอี่ยมสะอาด

3 places 3 moods in KANSAI (Osaka-Kyoto-Nara)

ภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่นนั้นได้รับความนิยมไม่แพ้ภูมิภาคอื่นเลย นอกจากจะมีจังหวัดที่เต็มไปด้วยแสงสีและความสนุกอย่างโอซาก้า และเมืองแห่งประวัติศาสตร์อย่างโตเกียวและนารา ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามซ่อนอยู่มากมายในจังหวัดเหล่านี้

วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่ถูกล้อมไปด้วยธรรมชาติที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะก่อให้เกิด mood (อารมณ์) หลากหลายในการท่องเที่ยว เดินทางไปญี่ปุ่นทั้งที เชื่อว่าหลายๆคนคงอยากได้รูปสวยๆกลับไป ใครที่ชอบถ่ายรูปห้ามพลาดเลย เพราะเราจะพาไปดูว่าสถานที่เหล่านี้เขามีมุมอะไรให้ถ่ายกันบ้าง แล้วภาพที่ถ่ายออกมาจะได้โทนประมาณไหนกันนะ… ไปติดตามกันเลยดีกว่าค่ะ

 Sweet mood

เริ่มต้นที่โอซาก้า จังหวัดที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานครื้นเครง แต่หารู้ไม่ว่าที่นี่ก็มีสถานที่โรแมนติกที่เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจกับคนที่เรารักเช่นกัน

“ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)” ถือเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จ.โอซาก้า มีทั้งหมด 8 ชั้น ภายในปราสาทจะมีการจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการก่อสร้างปราสาทโอซาก้าของนักรบไดเมียว นามว่า Toyotomi Hideyoshi

แต่วันนี้เราไม่ได้จะมาโชว์ภาพภายในปราสาท เราอยากให้ทุกคนได้เห็นบรรยากาศโดยรอบของที่นี่กันมากกว่า

ชั้นบนสุดของปราสาทยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ 360 องศา ทำให้เห็นสภาพบ้านเมืองอย่างชัดเจน

ใครอยากถ่ายรูปคู่กับปราสาทโอซาก้า แนะนำให้ไปถ่ายบริเวณสวนสาธารณะที่อยู่โดยรอบนะคะ จะเห็นเป็นภาพปราสาททั้งหมดจากระยะไกล ซึ่งจะได้องค์ประกอบที่สวยงามกว่าถ่ายใกล้ๆ

 

หากพูดถึงปราสาทโอซาก้าแล้ว สถานที่ที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ ‘สวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า (Osakajo-koen)’ เป็นสวนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า และปราสาทโอซาก้าก็ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยสวนแห่งนี้เช่นกัน

เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจต่างๆ เช่น ปิกนิก เดินเล่น หรือแม้แต่การออกห่างจากโทรศัพท์มือถือ แล้วมานั่งคิดทบทวนสิ่งต่างๆที่นี่ก็น่าจะเป็นไอเดียที่ดีทีเดียว เพราะบรรยากาศที่สงบแบบนี้น่าจะทำให้คุณได้อะไรดีๆกลับไปอยู่บ้าง

นอกจากนี้ เรายังได้สังเกตเห็นกลุ่มช่างภาพชาวญี่ปุ่นมารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมถ่ายรูปนกชนิดหนึ่ง ถือว่าสวนสาธารณะแห่งนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมที่หลากหลายจริงๆ

หากไปช่วงฤดูไม้ผลิ ก็จะได้เพลิดเพลินไปกับการชมดอกซากุระและดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนโรแมนติกแบบนี้ ทางเราก็เลยลองไปนั่งชมซากุระประหนึ่งว่าเป็นนางเอกซีรีส์ แล้วก็ได้ภาพโทนหวานๆออกมา มั่นใจว่าทุกคนจะเผลอหลงไปกับความงามของสวนแห่งนี้จนลืมดูเวลาไปเลย

การเดินทาง

  • รถไฟ JR : ลงที่สถานี JR Osakajokoen และเดินต่อประมาณ 10 นาที
  • รถไฟใต้ดิน : ลงที่สถานี Tanimachi-yonchome และเดินต่อประมาณ 10 นาที

Fresh mood

สถานที่ต่อมาขอปักหมุดไว้ที่เกียวโต เมืองที่ขึ้นชื่อด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม พอพูดแบบนี้อาจจะฟังดูน่าเบื่อสำหรับบางคน วันนี้เราจึงขอเสนอ “อาราชิยาม่า (Arashiyama)” สถานที่ที่เหมาะกับผู้คนทุกกลุ่ม หากคุณได้ชมภาพแล้วจะต้องอดที่จะมาเยี่ยมชมที่นี่ไม่ได้อย่างแน่นอน

เนื่องจากอาราชิยาม่าถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ แม้จะเป็นเพียงแค่ทิวทัศน์ระหว่างทางก็ยังสวยงามถึงเพียงนี้

สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานทอดยาวข้ามแม่น้ำโฮซุ สะพานแห่งแรกสร้างขึ้นตั้งแต่พันปีที่แล้วในสมัยเฮอัน แต่ปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1930

ฤดูไม้ผลิ ถือเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ได้รับความนิยม เพราะจะได้เห็นดอกซากุระบานท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามากันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมแม่น้ำโฮซุ เป็นเรือไม้ท้องแบนและมีผู้พายให้ สามารถชื่นชมความงามของธรรมชาติได้ตั้งแต่คาเมะโอกะ (Kameoka) ลงไปถึงอาราชิยาม่า (Arashiyama) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่าย 4,100 เยน

ระหว่างนั่งพักที่อาราชิยาม่า เราได้สังเกตเห็นว่าอาราชิยาม่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถดึงดูดผู้คนได้ทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ จะมาเดี่ยว แพ็คคู่ หรือเป็นกลุ่มก็มีหมด คุณสามารถมาพักผ่อนที่นี่ได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแรงกดดันจากคนรอบข้างเลย

 

 

บริเวณนั้นมีร้านค้าแผงลอยเรียงรายอยู่มากมาย ลองนึกภาพว่ากำลังรับประทานทาโกะยากิอุ่นๆไปพร้อมกับการนั่งรับลมเย็นๆ คงจะฟินไม่น้อยเลย

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบริเวณอาราชิยาม่าก็คือ ป่าไผ่ (Bamboo Groves) ถือเป็นจุดถ่ายรูปที่ใครมาอาราชิยาม่าแล้วจะพลาดไม่ได้ หากต้องการถ่ายรูปอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องผู้คนที่ติดมาในภาพ ขอแนะนำให้ไปช่วงเช้า ไม่เกิน 8 โมงเช้า เพราะถ้าช่วงสายๆเป็นต้นไปนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก และหากมีเลนส์กล้องแบบละลายหลังก็ควรพกไป จะทำให้สะดวกต่อการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา และได้ภาพถ่ายบุคคลกับป่าไผ่ที่สวยงามมากยิ่งขึ้น

ในบริเวณป่าไผ่ยังมีศาลเจ้าโนโนะมิยะ (Nonomiya Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าเล็กๆที่ขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรด้านความรักและคู่ครอง และที่ขาดไปไม่ได้สำหรับนักช้อป ที่นี่ยังมีเครื่องรางนำโชคขายอีกด้วย เปรียบเสมือนจุดซื้อของน่ารักๆกลับไปฝากเพื่อนๆอีกจุดเลย

อาราชิยาม่าถือเป็นเมืองหนึ่งที่ซ่อนสถานที่ท่องเที่ยวไว้ครบครันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป สายบุญ ถ้าใครมาเกียวโตก็อย่าลืมวางแพลนเที่ยวที่นี่ไว้สักวันหนึ่งนะคะ แค่มานั่งชมวิวที่นี่ก็เหมือนได้เติมความสดชื่นให้กับชีวิตที่กำลังเหนื่อยล้า และพร้อมที่จะมุ่งหน้าเดินทางกันต่อไปแล้ว

การเดินทาง

  • รถราง Randen : ลงที่ Arashiyama Keifuku Railway Arashiyama
  • รถไฟ Hankyu : ลงที่สถานี  Arashiyama
  • รถไฟ JR : ลงที่ JR Saga Arashiyama และเดินต่อประมาณ 15 นาที
  • รถบัส : สาย 28 ป้าย Arashiyama Tenryu-ji mae

Playful mood

สถานที่ที่จะแนะนำอีกหนึ่งที่ในคันไซ คงจะขาด นาราไปไม่ได้ ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองแห่งกวาง เชื่อกันว่ากวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า เราสามารถพบกวางได้แทบทุกหนแห่งในเมืองนาราเลย และวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมความน่ารักของน้องกวางที่สวนกวางนารา (Nara Park) กันค่ะ

ก่อนอื่น เพื่อให้ครบสูตรนักท่องเที่ยว เราจึงขอแวะไปซื้อเซมเบ้ ซึ่งเป็นขนมข้าวอบกรอบมาป้อนน้องกวางกันก่อนค่ะ ราคาเพียง 150 เยนเท่านั้น ทริปนี้เราไปกับลูกพี่ลูกน้องอีก 3 คน แต่ไม่มีใครมาซื้อป้อนเลยเพราะกลัวน้องกวางกัน เราจึงขอเป็นผู้กล้าที่ยังไม่รู้ชะตากรรมในอนาคตอันใกล้…

น้องกวางมารอตั้งแต่ตอนเราเข้าคิวซื้อเซมเบ้เลยค่ะ ไม่รู้ว่าน้องหิวโหยมาจากไหน ทั้งๆที่นักท่องเที่ยวก็มาให้อาหารกันเยอะมาก

หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ได้หันหลังกลับไป และคิดว่าฉันคงจะได้ถ่ายรูปสวยๆ ยืนป้อนอาหารน้องกวางแบบน่ารักๆ แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด เพียงเสี้ยววินาทีเดียว

น้องกวางมาล้อมเราทั้งหน้าและหลังเต็มเลย และเพื่อนร่วมทริปที่มาด้วยกัน จากที่ยืนอยู่ใกล้ๆตอนนั้นคือยืนห่างออกไปไกลลิบตา

น้องกวางไม่ได้ตัวเล็ก น่ารัก ควบคุมง่ายอย่างที่คิดไว้ และน้องตัวใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก ตัวจะเท่าเราเลยค่ะ ตอนนั้นคือคิดจะป้อนแค่ตรงนั้นเพียงส่วนหนึ่งก่อน แล้วไปป้อนต่อในสวน แต่พยายามเดินแหวกออกไปเท่าไรก็ออกไปไม่ได้ค่ะ น้องๆมากั้นไว้เยอะมาก แบบว่าฉันจะกินให้หมดเลยเจ้ามนุษย์! เราก็เลยต้องยืนป้อนหน้าร้านเซมเบ้ไปทั้งหมด และก็ไม่เหลือไปป้อนน้องกวางในสวนต่อ เพราะ คิดว่าถึงไปซื้อใหม่ ยังไงฉันก็คงไม่รอดจากน้องกวางที่อยู่บริเวณนี้ ในรูปคือตอนที่เซมเบ้ใกล้หมดแล้วค่ะ น้องกวางเลยเหลือตามในรูป แต่ตอนที่เพิ่งซื้อเสร็จนี่มารุมกันเยอะมาก

จากประสบการณ์ที่ได้พบเจอมา แนะนำให้ผู้ที่สนใจจะไปแต่งตัวให้ทะมัดทะแมง ไม่ค่อยแนะนำให้ใส่กระโปรง เผื่อน้องกวางมาดึงเครื่องแต่งกายระหว่างป้อนอาหาร จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลังนะคะ

เข้าไปชมบรรยากาศในสวนกวางนารากันดีกว่า!

ถ่ายรูปกับน้องกวางนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องหามุมดีๆเวลาน้องผลุบโผล่มาหา หรือไม่ก็ตอนที่น้องกำลังนอนอยู่ก็แอบไปนั่งใกล้ๆ

 

นี่เป็นรูปน้องที่ไปกับเราค่ะ ไม่รู้ว่าใครตกใจใครกันแน่

*รูปที่นำมาลงขออนุญาตเจ้าตัวมาเรียบร้อยแล้ว

 

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องบอกลาน้องกวาง… ตอนที่พวกเราเดินออกไปเรื่อยๆก็ได้เจออีกสวนหนึ่ง ซึ่งสวนนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว และน้องกวางดูว่านอนสอนง่ายกว่าสวนที่เราไป แอบเสียดายมาก แต่ตอนนั้นคือใช้พลังงานกับน้องสวนนั้นไปเยอะแล้ว เลยขอไม่สู้ต่อและเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆแทนค่ะ

จากรูป น้องกวางคงแอบขำในใจว่าทำไมตอนนั้นไม่เดินออกมาอีกสักหน่อยล่ะเจ้ามนุษย์ ฮ่าๆๆ

ถึงแม้น้องกวางจะซน แต่ไม่ดุหรือน่ากลัวแต่อย่างใดนะคะ เพราะน้องดูคุ้นเคยกับผู้คน เป็นสวนที่เหมาะทั้งมาแบบครอบครัวและกลุ่มเพื่อน อยากให้ทุกคนลองมาใช้เวลาเพลิดเพลินกับน้องกวางในสวนนี้ดู

การเดินทาง

  • รถไฟ JR : ลงที่สถานีนารา และเดินต่อประมาณ 20 นาที
  • รถไฟ Kintetsu : ลงที่สถานีนารา และเดินต่อประมาณ 10 นาที
  • รถบัส : จากสถานี JR Nara หรือ Kintetsu Nara โดยสารรถบัสหมายเลข 1 หรือ 5 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ลงที่ป้าย Todaiji Daibutsuden

คงจะดีไม่น้อย ถ้าผู้อ่านได้ไปเห็นทิวทัศน์ต่างๆในภาพด้วยตาตนเอง หากหมดวิกฤติโควิด-19 นี้ไปแล้วใครมีแพลนจะเดินทางไปในภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ก็ขอฝากปักหมุดสถานที่เหล่านี้ไว้ในแพลนด้วยนะคะ รับประกันได้เลยว่าทุกคนจะต้องหลงเสน่ห์ในธรรมชาติอันงดงาม และเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่เหล่านี้อย่างแน่นอน

ผู้เขียน : ธนัชพร เอี่ยมสะอาด

อ่านบทความของผู้ชนะแคมเปญ After covid-19 ท่านอื่นๆได้ที่นี่

เที่ยว Shizuoka สถานีรถไฟเหนือทะเลสาบกับสะพานแขวนแห่งความฝัน (จุดขอพรความรักเน้นๆ)

เกียวโตและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่