เที่ยวหมู่บ้านอาสึกะ ปั่นจักรยานชมธรรมชาติและเมืองเก่าที่งดงามของจังหวัดนารา
ก.ค. 20, 2023
เที่ยวหมู่บ้านอาสึกะ ปั่นจักรยานชมธรรมชาติและเมืองเก่าที่งดงามของจังหวัดนารา
ณ ถนนสายชนบทที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์อันสวยงามในจังหวัดนารา มีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า หมู่บ้านอาสึกะ (Asuka Village) ซุกซ่อนอยู่ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นดั่งสมบัติล้ำค่าซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของสถานที่ต่างๆ ธรรมชาติรอบตัวก็แสนงดงาม ส่วนใครที่สนใจกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมที่นี่ก็มีให้เข้าร่วมด้วยค่ะ
หากย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 538 – 710 “อาสึกะ” นั้นเคยเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นมาก่อน ในปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นเมืองอาสึกะจึงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมมากมาย
วันนี้เราจะมาแนะนำการท่องเที่ยวหมู่บ้านอาสึกะแบบจัดเต็ม! โดยทุกคนจะได้ไปเที่ยวรอบๆบริเวณหมู่บ้านและสำรวจสถานที่ต่างๆที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นสุสานหินโบราณอิชิบุไต (Ishibutai Kofun) นาขั้นบันไดอินะบูชิ (Inabuchi Terraced Rice Fields) วัดอาสึกะเดระ (Asuka-dera Temple) ซึ่งวิธีการท่องเที่ยวนั้นก็แสนเพลิดเพลิน เพราะเราจะปั่นจักรยานชมวิวชนบทอันสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้กันค่ะ
เรียกได้ว่า “หมู่บ้านอาสึกะ” นั้นเป็นส่วนผสมที่แสนลงตัวของธรรมชาติอันงดงาม ความรุ่มรวยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ดังนั้นหากใครกำลังมองหาที่เที่ยวชิลล์ๆพร้อมด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่นยุคโบราณ ลองนั่งรถไฟคินเท็ตสึมาเก็บความทรงจำดีๆด้วยการ เที่ยวหมู่บ้านอาสึกะ จังหวัดนารากันดูนะคะ
สารบัญ (Index)
- 1. วิธีเดินทางไปหมู่บ้านอาสึกะ
- 2. ชมโบราณสถานท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามที่ “สุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุน”
- 3. ไหว้เสริมสิริมงคล ณ “วัดอาสึกะเดระ” วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
- 4. แวะชม “นาขั้นบันไดอินะบูชิ” นาข้าวที่มีวิวสวยขึ้นกล้องที่สุดในจังหวัดนารา
- 5. เพลิดเพลินไปกับการปั่นจักรยานชมวิวรอบเมืองอาสึกะ
- 6. แวะชิมอาหารท้องถิ่นและซื้อของฝากจากหมู่บ้านอาสึกะ
1. วิธีเดินทางไปหมู่บ้านอาสึกะ
สำหรับการเดินทางไปยังหมู่บ้านอาสึกะ วิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ (Kintetsu Railway) ซึ่งทำให้สามารถเดินทางมาได้จากหลายๆสถานที่ในญี่ปุ่นเลยค่ะ แต่ครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีเดินทางด้วยรถไฟฟ้าคินเท็ตสึที่สะดวกที่สุดสำหรับการไปหมู่บ้านอาสึกะนะคะ
- หากเริ่มต้นการเดินทางจากโอซาก้าหรือเกียวโต ให้นั่งรถไฟด่วนพิเศษของคินเท็ตสึจากสถานี Osaka-Namba หรือสถานี Kyoto ไปลงที่สถานี Kashiharajingu-mae เพื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟไปนั่งสาย Asuka Line
- เมื่อเปลี่ยนขบวนไปนั่งสาย Asuka Line แล้ว ให้นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Asuka ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง
- หลังจากเดินออกมาจากสถานี Asuka คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆของหมู่บ้านอาสึกะได้เลย
เว็บไซต์รถไฟฟ้าคินเท็ตสึ
2. ชมโบราณสถานท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามที่ “สุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุน”
“สุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุน” (Ishibutai Kofun) เป็นหลุมฝังศพโบราณที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 6 หรือในยุคอาสึกะของญี่ปุ่น คำว่า ‘โคฟุน’ (Kofun) ในชื่ออิชิบุไตโคฟุนนั้น หมายถึงสุสานหินที่มีช่องเป็นห้องตรงกลางคล้ายรูกุญแจ สุสานหินที่มีรูปทรงเช่นนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานฝังศพของบุคคลที่เป็นผู้นำหรือคนชนชั้นสูงในสมัยก่อน
สำหรับสุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุนที่อยู่ในบริเวณหมู่บ้านอาสึกะแห่งนี้ เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังศพของท่านแม่ทัพโซงะ โนะ อุมาโกะ (Soga no Umako) หัวหน้าตระกูลโซงะซึ่งเป็นตระกูลผู้นำทางการเมืองของญี่ปุ่นในยุคนั้นนั่นเอง
“สุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุน” นั้นมีรูปร่างลักษณะที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากหลุมฝังศพทั่วไป เพราะสุสานแห่งนี้เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีช่องตรงกลาง ซึ่งกว้างมากพอที่จะเป็นห้องให้เราเดินลอดเข้าไปข้างในได้ รวมถึงมีแท่นหินเป็นฐานของทั้งสุสานอีกด้วย โดยรวมแล้วหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ประกอบกันเป็นสุสานแห่งนี้มีน้ำหนักถึงประมาณ 75 ตัน โดยมีความสูงอยู่ที่ 5.2 เมตร ยาว 8.4 เมตร และกว้าง 9.4 เมตร นอกจากนี้สุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุนยังตั้งอยู่บนเนินดินรูปทรงกลมอีกด้วย ซึ่งการมีฐานเป็นเนินดินแบบนี้นับว่าเป็นลักษณะเด่นหนึ่งของสุสานหินโบราณ ‘โคฟุน’ รูปทรงรูกุญแจ (keyhole-shaped kofun) นั่นเอง
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมด้านในห้องของสุสานหินอิชิบุไตโคฟุนได้ โดยทุกคนจะได้เห็นสุสานโบราณในมุมมองใหม่ๆซึ่งหาโอกาสชมไม่ได้ง่ายนัก เมื่อเข้าไปด้านในเราจะได้ชมแผ่นหินด้านบนที่วางปิดเป็นเพดาน รวมถึงผนังหินด้านในสุสาน การได้ชมสถาปัตยกรรมโบราณอันน่าทึ่งเช่นนี้อย่างใกล้ชิดนับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริงๆค่ะ และสำหรับใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์ของที่นี่ ภายในสุสานก็มีป้ายภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษให้เราได้อ่านข้อมูลความเป็นมาด้วยนะคะ
นอกจากนี้ บริเวณรอบๆสุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุนยังมีวิวธรรมชาติที่สวยงามด้วยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานเต็มที่ สุสานแห่งนี้จะกลายเป็นอุทยานดอกไม้ที่สวยงามมากค่ะ
ข้อมูลของสุสานหินโบราณอิชิบุไตโคฟุน
ที่อยู่
- 254 Shimasho, Asuka Village, Takaichi District, Nara, Japan
เวลาทำการ
- 8:30 – 17:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
3. ไหว้เสริมสิริมงคล ณ “วัดอาสึกะเดระ” วัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
วัดอาสึกะเดระ (Asuka-dera Temple) ตั้งอยู่ย่านอาสึกะอันเงียบสงบ วัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ย้อนกลับไปเมื่อ 1,400 ปีก่อน โบราณสถานแห่งนี้มีความสำคัญในแง่การเป็นศูนย์รวมความศรัทธาทางจิตวิญญาณ ปัจจุบันวัดแห่งนี้จึงเป็นเสมือนหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่มรวยวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น สถาปัตยกรรมอันสวยงามของวัดอาสึกะเดระสะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีส่วนผสมของประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมวัดเก่าแก่แห่งนี้จะได้สัมผัสถึงความเรียบง่ายอันสง่างามและความประณีตของงานศิลป์ยุคโบราณ
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในวัดอาสึกะเดระเราจะรู้สึกราวกับได้ย้อนกลับไปในอดีต บรรยากาศอันร่มเย็นช่วยกล่อมเกลาให้จิตใจเรานิ่งสงบ ได้มีช่วงเวลาพิจารณาไตร่ตรองชีวิตอย่างลึกซึ้ง ห้องโถงกลางของวัดที่เรียกว่า ‘Kondo’ นั้นเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของความเลื่อมใสศรัทธา พระพุทธรูปและโบราณวัตถุที่ตั้งเรียงรายแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นพุทธศาสนิกชนของเหล่าผู้ศรัทธา
ข้อมูลของวัดอาสึกะเดระ
ที่อยู่
- 682 Asuka Village, Takaichi District, Nara, Japan
เวลาทำการ
- 9:00 – 17:30 น.
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
แผนที่ Google Map
4. แวะชม “นาขั้นบันไดอินะบูชิ” นาข้าวที่มีวิวสวยขึ้นกล้องที่สุดในจังหวัดนารา
นาขั้นบันไดอินะบูชิ (Inabuchi Terrace Fields) ตั้งอยู่ในย่านที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามในเมืองอาสึกะ จังหวัดนารา นาขั้นบันไดแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงทัศนียภาพทางธรรมชาติและภูมิปัญญาของคนท้องถิ่น นาข้าวที่นี่จะเรียงรายลดหลั่นกันลงมาตามแนวเชิงเขาเป็นแถวๆ ทำให้เกิดภาพทิวทัศน์นาข้าวเขียวชอุ่มเรียงกันเป็นลวดลายสวยงาม และสีสันของนาขั้นบันไดจะแปรผันไปตามฤดูกาลอีกด้วย
นอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว ทุกคนยังได้สัมผัสกับการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมของภูมิภาคนี้อีกด้วย เกษตรกรท้องถิ่นจะคอยสืบทอดวัฒนธรรมการปลูกข้าวแบบนาขั้นบันไดจากรุ่นสู่รุ่น โดยนำจุดเด่นของลักษณะภูมิประเทศในย่านนี้มาใช้ประโยชน์ด้านการกระจายแหล่งน้ำและการกสิกรรม นาขั้นบันไดอินะบูชิจึงเป็นสถานที่บันทึกประวัติศาสตร์ของเมืองอาสึกะที่เชื่อมโยงกับผืนแผ่นดินอย่างลึกซึ้ง หรือในแง่หนึ่งก็คือนาขั้นบันไดแห่งนี้เป็นดั่งสัญลักษณ์ของสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาตินั่นเอง
นาขั้นบันไดอินะบูชิจะมอบประสบการณ์ดีๆในการชื่นชมความงามของชนบทญี่ปุ่น รวมถึงได้สัมผัสกับวิถีเกษตรกรรมดั้งเดิมของพื้นที่ย่านนี้ เราขอแนะนำให้ทุกคนมาลองปล่อยใจเดินชมวิวสบายๆ ชมแสงอาทิตย์ที่เต้นระยิบระยับบนผิวน้ำของนาข้าว สัมผัสสายลมที่พัดโชยมาสัมผัสกับรวงข้าวสีทองอย่างอ่อนโยน ทัศนียภาพของนาขั้นบันไดอินะบูชิจะทำให้การเดินเล่นครั้งนี้เต็มไปด้วยความสงบร่มเย็นที่ทำให้จิตใจปลอดโปร่ง นอกจากนี้วิวนาขั้นบันไดยังเหมาะกับการพกกล้องมาเก็บภาพสวยๆเป็นอย่างยิ่ง
หากมีโอกาสได้มาเที่ยวเมืองอาสึกะ อย่าลืมมาเที่ยวชม “นาขั้นบันไดอินะบูชิ” ที่เป็นเสมือนมรดกแห่งการเกษตรอันยั่งยืนและความงามอันเป็นนิรันดร์ของชนบทญี่ปุ่นกันนะคะ
ข้อมูลของนาขั้นบันไดอินะบูชิ
ที่อยู่
- Inabuchi, Asuka Village, Takaichi District, Nara, Japan
เวลาทำการ
- เที่ยวชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แผนที่ Google Map
5. เพลิดเพลินไปกับการปั่นจักรยานชมวิวรอบเมืองอาสึกะ
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดของการไปเที่ยวหมู่บ้านอาสึกะอันรุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันงดงามก็คือ “การปั่นจักรยานชมเมือง” ด้วยทิวทัศน์เมืองชนบท สองฝั่งข้างทางที่สงบสวยงาม และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่มากมาย อาสึกะจึงเป็นย่านที่เหมาะกับการปั่นจักรยานชมวิวเป็นอย่างมาก ขณะลัดเลาะไปตามเส้นทางอันคดเคี้ยว เราจะได้ผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหลุมฝังศพโบราณ วัดอันแสนวิจิตรตระการตา ฟาร์มเพาะปลูกอันอุดมสมบูรณ์ เราจึงได้ซึมซับความงามอันไม่มีที่สิ้นสุดของชนบทญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง
ระหว่างที่ปั่นจักรยานสำรวจหมู่บ้านอาสึกะ วิวข้างทางอันเป็นฉากประกอบการเดินทางก็จะแปรผันไปเรื่อยๆ เราจะได้ค้นพบโบราณสถานมากมายที่เป็นสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรม โครงสร้างปราสาทอาสึกะที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยความสง่างาม พระพุทธรูปหินแกะสลักของวัดโอกะเดระที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ของญี่ปุ่นเมื่อครั้งอดีตได้เป็นอย่างดี การปั่นจักรยานจะช่วยให้เราเก็บรายละเอียดความงามระหว่างทางได้มากยิ่งขึ้น เราจะได้ด่ำดิ่งไปกับความสงบสวยงามของเมืองชนบทแห่งนี้อย่างลึกซึ้ง
นอกเหนือจากการได้ชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว การปั่นจักรยานรอบหมู่บ้านอาสึกะยังเป็นโอกาสในการค้นพบที่เที่ยวดีๆซึ่งซุกซ่อนอยู่ระหว่างทาง รวมถึงได้สัมผัสกับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นและความเอื้ออารีของคนท้องถิ่นด้วย นอกจากนี้ริมสองฝั่งข้างทางยังเต็มไปด้วยคาเฟ่บรรยากาศดีที่เราสามารถแวะไปนั่งชิลล์จิบเครื่องดื่มได้ นอกจากนี้ตามรายทางยังมีที่พักสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมและร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยๆเต็มไปหมด เราจึงสามารถนั่งสนทนากับผู้คนท้องถิ่นที่จริงใจตามสถานที่เหล่านี้ได้
ทริปปั่นจักรยานที่หมู่บ้านอาสึกะเป็นส่วนผสมของการผจญภัย การเรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิม และการเติมพลังความสดชื่นสดใสให้กับตัวเองอีกครั้ง หมู่บ้านโบราณที่แสนมีเสน่ห์แห่งนี้จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่ลืมไม่ลงให้กับคุณ
6. แวะชิมอาหารท้องถิ่นและซื้อของฝากจากหมู่บ้านอาสึกะ
“หมู่บ้านอาสึกะแห่งจังหวัดนารา” ไม่ได้มีเพียงแหล่งอารยธรรมโบราณและประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาหารอร่อยๆที่ชวนให้น้ำลายสอ เมนูที่เราขอแนะนำว่าต้องลองชิมให้ได้คือ “อาสึกะนาเบะ” (Asuka Nabe) หม้อไฟที่เต็มไปด้วยส่วนผสมของผักสดหลากหลายชนิด เนื้อท้องถิ่นที่คัดสรรคุณภาพมาอย่างดี และน้ำซุปสุดเข้มข้น ความเอร็ดอร่อยของเมนูหม้อไฟนี้จะถูกปรุงขึ้นบนโต๊ะ ทำให้เราได้ดื่มด่ำกับคุณค่าความอร่อยของวัตถุดิบท้องถิ่น และยังเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้แบ่งปันความสุขร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงอีกด้วย อาหารมื้อนี้จะเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความทรงจำที่ดีอย่างแน่นอน
สำหรับของฝากจากหมู่บ้านอาสึกะนั้นก็มีให้เลือกสรรมากมาย ซึ่งล้วนเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าและสะท้อนเอกลักษณ์ของชุมชน เช่น เครื่องปั้นดินเผาทำมือที่มีลวดลายสไตล์ญี่ปุ่นโบราณและใช้เทคนิคการทำแบบดั้งเดิม เป็นของฝากที่เต็มไปด้วยคุณค่าของศิลปะวัฒนธรรมประจำหมู่บ้านอาสึกะอย่างแท้จริง ส่วนเครื่องแก้วเซรามิกที่มีความวิจิตรบรรจงนั้นก็เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเป็นของที่ระลึก ของชิ้นนี้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของศิลปะสไตล์โมเดิร์นและเสน่ห์แบบเรียบง่ายของเมืองชนบท ส่วนของฝากอื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คืองานไม้แกะสลักหรือผ้าทอที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันสวยงาม ของฝากทำมือทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณและคุณค่าของงานศิลปะดั้งเดิมประจำหมู่บ้านอาสึกะ
ส่วนใครที่เป็นสายของหวาน “อาสึกะยากิ” (Asuka-yaki) เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง! ขนมหวานแสนอร่อยไซส์เล็กกะทัดรัดนี้มีลักษณะคล้ายแพนเค้กราดด้วยถั่วแดง ความอร่อยของอาสึกะยากิทำให้สูตรขนมชนิดนี้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาหลายชั่วอายุคน ความหวานละมุนละไมของอาสึกะยากิที่ผสมผสานเสน่ห์ความเรียบง่าย เป็นภาพสะท้อนของรสชาติความอร่อยแบบท้องถิ่นที่ปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถันในหมู่บ้านอาสึกะ เราสามารถนำรสชาติความอร่อยแบบนี้กลับบ้านไปทานเพื่อรำลึกถึงความทรงจำอันล้ำค่าในทริปท่องเที่ยวหมู่บ้านอาสึกะได้
*.。.*゚*.。.*゚*
หลังจากอ่านรีวิว “เที่ยวหมู่บ้านอาสึกะ” กันไปแล้ว รู้สึกยังไงบ้างคะทุกคน? เริ่มสนใจหมู่บ้านโบราณสุดชิลล์แห่งนี้มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ? 😊 หากใครสนใจและมีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดนารา อย่าลืมแวะไปปั่นจักรยานเที่ยวหมู่บ้านอาสึกะกันนะคะ
อ่านบทความอื่นๆจาก fromJapan
- แนะนำที่เที่ยวในโซน “อิเสะชิมะ” เพชรเม็ดงามของภูมิภาคคันไซ
- สวนดอกไม้ Nabana no Sato สวนสวยที่เผยโฉมความงามของมวลบุปผาในทุกๆฤดูกาล
- รวบรวมมาให้แบบจัดเต็ม! 12 กิจกรรมน่าทำในภูมิภาคคันไซ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ