สำรวจ 4 สถานที่ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในมิเอะ ด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus!
ธ.ค. 20, 2024
สำรวจ 4 สถานที่ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในจังหวัดมิเอะ ด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus!
เสน่ห์ของจังหวัดมิเอะในฤดูหนาว
จังหวัดมิเอะ (Mie Prefecture) เปรียบเสมือนไข่มุกแห่งภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และมรดกทางวัฒนธรรม และสำหรับในฤดูหนาวนี้จังหวัดมิเอะก็มีเสน่ห์แตกต่างดูดีไม่เหมือนที่ใดๆค่ะ
บทความนี้เราจะอธิบายรายละเอียดและวิธีการเที่ยวมิเอะด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน แน่นอนว่าเน้นความสวยงามของสถานที่และความคุ้มค่า! เพื่อให้ทุกคนได้วางแผนการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในจังหวัดมิเอะได้นั่นเองค่ะ
1.เที่ยวสบายด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass
บัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซ สำหรับบัตรโดยสารนี้ไม่เพียงแต่ให้ความสะดวกในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะคุณสามารถโดยสารรถไฟคินเท็ตสึได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น โอซาก้า เกียวโต นารา และมิเอะ
โดยบัตรนี้มีทั้งหมด 4 ประเภท ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน แต่ในวันนี้เราจะมาแนะนำบัตรโดยสารแบบ 5-Day plus ซึ่งคุ้มค่าที่สุดค่ะ
คุณสมบัติของบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass ประกอบด้วย:
- โดยสารรถไฟคินเท็ตสึได้ไม่จำกัด (ต้องซื้อตั๋วเพิ่มสำหรับรถไฟด่วนพิเศษ)
- โดยสารรถบัสในนาราได้ไม่จำกัด (ยกเว้นบัตร Kintetsu Rail Pass 5-Day)
- ส่วนลดและข้อเสนอพิเศษในสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ
- ครอบคลุมพื้นที่นาโกย่าและอิเสะ (เฉพาะบัตร Kintetsu Rail Pass 5-Day และ 5-Day plus)
วิธีการซื้อบัตร:
- จองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Kintetsu
- เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่สถานีหลัก
- ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่สนามบินคันไซ
- บริษัทท่องเที่ยว
ราคาบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus อยู่ที่ประมาณ 6,700 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 3,350 เยนสำหรับเด็ก (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
2.สถานที่ท่องเที่ยวที่คัดสรรมาอย่างดี
2.1 ยูโนยามะ ออนเซ็น (Yunoyama Onsen) ยูโนยามะ ออนเซ็นตั้งอยู่ในเมืองโคโมโนะ จังหวัดมิเอะ ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีชื่อเสียงด้านคุณภาพน้ำพุร้อนที่ดีเยี่ยมและทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม การมาเยือนในฤดูหนาวเพิ่มความพิเศษให้คุณได้ชื่นชมหิมะที่เปล่งประกายระยิบระยับในขณะที่เพลิดเพลินกับความอบอุ่นของน้ำพุร้อน
เรามาทำความรู้จักกับพื้นที่น้ำพุร้อนที่มีเสน่ห์แห่งนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกันค่ะ!
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน การกำเนิดจากพรของขุนเขาและป่าไม้:
ประวัติของยูโนยามะ ออนเซ็นย้อนกลับไปถึงสมัยเอโดะ มีตำนานเล่าขานถึงกวางที่บาดเจ็บได้รับการเยียวยาจากน้ำพุร้อน จนทำให้ที่นี่ได้รับสมญานามว่า “น้ำพุกวาง” ในปัจจุบัน ยูโนยามะออนเซ็นยังคงรักษาเสน่ห์แบบดั้งเดิมไว้ได้ด้วยอาคารไม้ที่เรียงรายตลอดถนนน้ำพุร้อน และเส้นทางคดเคี้ยวตามลำธารภูเขาที่แผ่กลิ่นอายของอดีต
คุณสมบัติพิเศษของน้ำพุร้อนที่ช่วยบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจ:
ยูโนยามะออนเซ็นมีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการบรรเทาอาการปวดต่างๆ และช่วยบำรุงการไหลเวียนของเลือด ซึ่งการแช่ตัวในน้ำอุ่นให้ความรู้สึกนุ่มนวลดุจแพรไหม ราวกับว่าความเหนื่อยล้าทั้งหมดจะระเหยไปพร้อมกับไอน้ำ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่ามอบการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกทั้งร่างกายและจิตใจของทุกคนค่ะ
ความงามของธรรมชาติช่วยชำระล้างจิตวิญญาณ:
ยูโนยามะออนเซ็นล้อมรอบด้วยป่าทึบและลำธารใสสะอาด มอบบรรยากาศที่สดชื่นและทัศนียภาพอันรื่นรมย์ การเดินเล่นตามเส้นทางในป่า ฟังเสียงนกร้องและเสียงแมลงขับขาน สัมผัสความสงบและความงดงามของธรรมชาติ จึงช่วยชำระล้างจิตวิญญาณได้อย่างแท้จริง
สัมผัสวัฒนธรรมออนเซ็น โอบรับวิถีชีวิตที่แสนผ่อนคลาย:
ยูโนยามะออนเซ็นมอบประสบการณ์การพักผ่อนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่นี่คุณสามารถสวมชุดยูกาตะ ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมออนเซ็นแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง: ลงที่สถานี Yunoyama Onsen Station (K30) ของรถไฟคินเท็ตสึ
- ที่อยู่: 8522 Komono, Mie-gun, Mie
- เว็บไซต์: https://www.yunoyama-onsen.com/english/
2.2 อควาอิกนิส (AQUAIGNIS)
อควาอิกนิส (AQUAIGNIS) ซ่อนตัวอยู่ลึกในภูเขาของจังหวัดมิเอะ สถานที่แห่งนี้คือรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่นี่ไม่เพียงแต่มีน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์ แต่ยังดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกด้วยสไตล์ที่ล้ำสมัยและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างไฟและน้ำ:
คำว่า อควาอิกนิส (AQUAIGNIS) มาจากภาษาละติน แปลว่า “น้ำและไฟ” แนวคิดการออกแบบอาคารและสถาปัตกรรมจึงเป็นการผสมผสานธาตุไฟและน้ำเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้พื้นที่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความลึกลับ
บ่อน้ำพุร้อนที่เหนือจินตนาการ:
อควาอิกนิสมีบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกสรร ตั้งแต่บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งแบบดั้งเดิมไปจนถึงบ่อในร่มแสนทันสมัย ตอบสนองทุกความต้องการ โดยสิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษคือน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีผลต่อความงามและช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด
อีกอย่างที่น่าสนใจคือบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่จะมีเสน่ห์เป็นพิเศษในฤดูหนาว เมื่อไอน้ำจากบ่อน้ำร้อนปะทะกับอากาศเย็น ก่อให้เกิดหมอกสีขาวบางเบา สร้างบรรยากาศที่ชวนฝันค่ะ
ประสบการณ์พิเศษที่ท้าทายประสาทสัมผัสของคุณ:
นอกเหนือจากการแช่น้ำพุร้อน อควาอิกนิส ยังนำเสนอประสบการณ์พิเศษมากมาย เช่น…
- บาร์บีคิวบนหินภูเขาไฟ: ย่างเนื้อบนหินภูเขาไฟ ลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยของมื้ออาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิก
- ชมทิวทัศน์ในป่า: เดินเล่นในป่า สูดอากาศบริสุทธิ์และกลิ่นหอมจากธรรมชาติ
- การดูดาว: เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน สัมผัสความกว้างใหญ่และความลึกลับของจักรวาล
- เก็บสตรอว์เบอร์รี: สนุกกับการเก็บสตรอว์เบอร์รีในฟาร์มที่ซึ่งปลูกสตรอว์เบอร์รีด้วยปุ๋ยอินทรีย์และใช้ยาฆ่าแมลงน้อยมาก
เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้การเข้าพักในฤดูหนาว ที่นี่ก็มีพื้นที่พักผ่อนในร่มที่อบอุ่นและสบายสำหรับแขกที่ต้องการผ่อนคลาย พื้นที่นี้จะติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้สบายแม้ในอากาศหนาว โดยแขกทุกท่านสามารถมานั่งอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ตามอัธยาศัยค่ะ
สไตล์การออกแบบที่เรียบง่ายและทันสมัย:
การออกแบบสถาปัตยกรรมของอควาอิกนิสนั้นเรียบง่ายและทันสมัย อีกทั้งยังผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติโดยรอบได้อย่างลงตัว ส่วยภายในห้องพักก็ตกแต่งอย่างหรูหรา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เรียกได้ว่าสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง: นั่งรถบัสมิเอะ โคทสึ จากสถานี Yunoyama Onsen Station (K30) ของรถไฟคินเท็ตสึ และลงที่ป้าย AQUAIGNIS ใช้เวลาเดินเพียง 8 นาที
- ที่อยู่: 4800-1 Konono, Konono-cho, Mie-gun, Mie
- เว็บไซต์: https://aquaignis.jp/en/
2.3 ภูเขาโกไซโช (Gozaisho Mountain)
ภูเขาโกไซโชเป็นสถานที่ลี้ลับที่ซ่อนอยู่ในเทือกเขาทางตอนใต้ของจังหวัดมิเอะ ด้วยภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีความเชื่อทางศาสนาที่เป็นเอกลักษณ์ ที่แห่งนี้ดึงดูดนักผจญภัยและผู้รักธรรมชาติให้มาสำรวจมากมายในทุกปี
ภูมิประเทศอันยิ่งใหญ่และปรากฏการณ์ทะเลเมฆ:
ณ ระดับความสูง 1,212 เมตร ภูเขาโกไซโชมีภูมิประเทศเป็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่ มีเมฆและหมอกลอยวนเวียนรอบยอดเขา ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทะเลเมฆที่น่าทึ่ง จากยอดเขา โดยคุณจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้งหมดของจังหวัดมิเอะและสัมผัสความงดงามตระการตาของธรรมชาติได้ที่นี่
วิธีที่สะดวกที่สุดในการขึ้นไปถึงยอดเขาคือการนั่ง กระเช้าลอยฟ้าโกไซโช ด้วยความยาวทั้งหมดประมาณ 2.1 กิโลเมตร จึงถือเป็นหนึ่งในกระเช้าลอยฟ้าแบบวงเดียวที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น และในระหว่างการไต่ระดับขึ้นไปอย่างช้าๆ คุณสามารถชื่นชมทิวทัศน์ภูเขาที่เปลี่ยนไป จากความเขียวขจีที่เชิงเขาไปจนถึงโลกที่ปกคลุมด้วยหิมะบนยอดเขา แสดงให้เห็นถึงความงามที่แตกต่างของธรรมชาติ
สำหรับตัวกระเช้าได้รับการออกแบบเป็นพิเศษด้วยหน้าต่างพาโนรามาขนาดใหญ่ ช่วยให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับวิวพาโนรามา 360 องศาได้อย่างเต็มที่ค่ะ!
เส้นทางเดินป่าเหมาะกับคนที่ชอบความท้าทาย:
ภูเขาโกไซโชมีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางค่ะ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูง เหมาะสำหรับนักเดินป่าที่มีทักษะแตกต่างกัน ระหว่างทางคุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งป่าไม้ ลำธาร และน้ำตกได้อีกด้วย
กิจกรรมแห่งฤดูหนาว สัมผัสความสนุกของดินแดนหิมะ:
ในฤดูหนาวบนภูเขาโกไซโชมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก แม้จะไม่ใช่รีสอร์ทสกีขนาดใหญ่ แต่ก็มีลานสกีขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ
กิจกรรมค่างๆก็ เช่น การปั้นตุ๊กตาหิมะและการเล่นปาหิมะ นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่าอุปกรณ์ต่างๆ ช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถสนุกกับฤดูหนาวได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขนอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่มาด้วยเลยค่ะ
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง: ลงที่สถานี Yunoyama Onsen Station (K30) และนั่งรถบัสมิเอะ โคทสึ ไปยังสถานีกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช (Yunoyama Onsen · Gozaisho Ropeway Front) ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการขึ้นไปถึงยอดเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้าค่ะ
- ที่อยู่: Konono, Komono-cho, Mie-gun, Mie Prefecture
- เว็บไซต์: https://www.gozaisho.co.jp/en/
2.4 นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)
นาบานะ โนะ ซาโตะ เป็นสวนดอกไม้ครบวงจรซึ่งมีดอกไม้สวยงามหลากหลายชนิดบานสะพรั่งตลอดทั้งปี ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหนับการชื่นชมความงามของธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับโลกแห่งกลิ่นหอมของดอกไม้ และพิเศษสุดโดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่นี่ก็จะจัดเทศกาลไฟประดับที่อลังการตระการตาที่สุดค่ะ บอกเลยว่าห้ามพลาด!
เทศกาลดอกไม้ตามฤดูกาล:
นาบานะ โนะ ซาโตะ มีดอกไม้หลากหลายชนิดกว่า 1 ล้านต้น มีตั้งแต่ทิวลิปและดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกทานตะวันและกุหลาบในฤดูร้อน เบญจมาศและดอกคอสมอสในฤดูใบไม้ร่วง ไปจนถึงดอกบ๊วยและดอกแดฟโฟดิลในฤดูหนาว เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาตลอดทั้งปีค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ: เป็นฤดูที่มีสีสันมากที่สุดที่นาบานะ โนะ ซาโตะ เพราะมีดอกซากุระ ทิวลิป และดอกอาซาเลียบานแข่งกัน
ต้นฤดูร้อน: สวนกุหลาบกลายเป็นไฮไลท์ของสวน เหมาะสำหรับการออกเดท นอกจากกุหลาบแล้ว ไฮเดรนเยียก็เป็นดอกไม้เด่นในช่วงต้นฤดูร้อนด้วย
กลางฤดูร้อน: ดอกทานตะวันและดอกลิลลี่เป็นตวเอกเลยค่ะ ทุกคนจะได้ชมทะเลดอกทานตะวันสีทอง และความสง่างามของดอกลิลลี่ นอกจากนี้ยังมีสระบัวที่เป็นไฮไลท์สำคัญในฤดูร้อนนี้ด้วยค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง: โดดเด่นด้วยเบญจมาศเปอร์เซียขนาดใหญ่และกุหลาบ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเบญจมาศนับพันต้นในรูปแบบต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการจัดสวนของญี่ปุ่นค่ะ
ฤดูหนาว: ถึงเวลาของเรือนกระจกในร่มที่จัดแสดงพืชเขตร้อนและกึ่งร้อนตลอดทั้งปี โดยยังพื้นที่สำหรับจัดแสดงกล้วยไม้พันธุ์หายากจากทั่วโลกอีกด้วย
นาบานะ โนะ ซาโตะ ส่องสว่างในค่ำคืนฤดูหนาวด้วยทะเลไฟประดับราวกับฝัน:
สำหรับที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่จัดแสดงไฟประดับฤดูหนาวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ โดนจะเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป
อุโมงค์แห่งแสง: ซุ้มไฟยาวกว่า 200 เมตร ประกอบด้วยหลอดไฟ LED กว่า 1.3 ล้านดวง ประดับด้วยสายไฟหลากสีที่ห้อยอยู่ทั้งสองข้าง เปลี่ยนธีมสีไปตามฤดูกาล
แม่น้ำแห่งแสง: ใช้หลอดไฟ LED นับล้านดวง สร้างทัศนียภาพของแม่น้ำระยิบระยับบนพื้นที่หญ้ากว้าง ทะเลไฟสีฟ้าโยกไหวไปตามสายลมและเอฟเฟกต์คลื่นที่เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตชีวา
พื้นที่จัดแสดงพิเศษตามธีม: ในปีนี้มีพื้นที่จัดแสดงที่นำเสนอสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น นั่นคือภูเขาไฟฟูจิ โดยใช้แสงและเสียงสุดแฟนตาซี
การประดับไฟในฤดูหนาวที่นาบานะ โนะ ซาโตะ ไม่เพียงแต่เป็นงานที่เหมาะแก่การชมความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นความอบอุ่นในฤดูหนาว ด้วยทะเลไฟอันตระการตา การตกแต่งที่ประณีตและบรรยากาศสุดโรแมนติก จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือนสำหรับการท่องเที่ยวในฤดูหนาว ไม่ว่าจะมากับครอบครัวหรือคนรัก คุณก็จะได้ความทรงจำอันงดงามกลับไปแน่นอนค่ะ
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง:
- [ในช่วงเทศกาลประดับไฟ] นั่งรถบัส Mie Kotsu จากสถานี Kintetsu Nagashima Station (E12) ไปลงที่ป้าย Nakahana no Sato เมื่อลงรถบัสจะถึงจุดหมายทันที
- [นอกช่วงเทศกาลประดับไฟ] นั่งรถบัส Mie Kotsu จากสถานี Kuwana Station (E13) ไปลงที่ป้าย Nakahana no Sato เมื่อลงรถบัสจะถึงจุดหมายทันที
- ที่อยู่: 270 Komae Urushihata, Nagashima-cho, Kuwana-shi, Mie Prefecture
- เว็บไซต์: https://www.nagashima-onsen.co.jp/
ก่อนจะจากกันไปในครั้งนี้ เราเชื่อว่าการท่องเที่ยวในจังหวัดมิเอะด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus ไม่เพียงแต่เป็นแพลนการเที่ยวที่อำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับทุกคนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณได้ซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่นของญี่ปุ่นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพราะฤดูหนาวในจังหวัดมิเอะนั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ตั้งแต่บ่อน้ำพุร้อน อาหารรสเลิศ ไปจนถึงการแสดงไฟอันสวยงาม เราเชื่อว่าทั้งหมดนี้สามารถสร้างความทรงจำจากญี่ปุ่นที่ไม่มีวันลืมให้กับคุณได้แน่นอนค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจจาก fromJapan
- ชวนลิ้มลองข้าวหน้าปลาไหลย่างถ่าน เสิร์ฟพร้อม ‘ข้าวอากิโฮนามิ’ พันธุ์แท้จากคาโกชิม่า @ Satsuma Gashotei
- สัมผัสความหรูหราในการเดินทางแสนพิเศษกับรถไฟคินเท็ตสึ Shimakaze และ Hinotori
- เที่ยวแถบชานเมืองโตเกียว คาวาโกเอะ ฮันโน จิจิบุ ด้วยบัตร SEIBU 1Day Pass
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
คันไซ

จังหวัด โอซาก้า

จังหวัด เกียวโต

จังหวัด เฮียวโกะ

จังหวัด นารา

จังหวัด มิเอะ

จังหวัด ชิกะ

จังหวัด วาคายามะ