สำรวจ 4 สถานที่ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในมิเอะ ด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus!
ธ.ค. 20, 2024
สำรวจ 4 สถานที่ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในจังหวัดมิเอะ ด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus!
เสน่ห์ของจังหวัดมิเอะในฤดูหนาว
จังหวัดมิเอะ (Mie Prefecture) เปรียบเสมือนไข่มุกแห่งภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยภูมิทัศน์ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และมรดกทางวัฒนธรรม และสำหรับในฤดูหนาวนี้จังหวัดมิเอะก็มีเสน่ห์แตกต่างดูดีไม่เหมือนที่ใดๆค่ะ
บทความนี้เราจะอธิบายรายละเอียดและวิธีการเที่ยวมิเอะด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน แน่นอนว่าเน้นความสวยงามของสถานที่และความคุ้มค่า! เพื่อให้ทุกคนได้วางแผนการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวในจังหวัดมิเอะได้นั่นเองค่ะ
1.เที่ยวสบายด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass
บัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซ สำหรับบัตรโดยสารนี้ไม่เพียงแต่ให้ความสะดวกในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังคุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะคุณสามารถโดยสารรถไฟคินเท็ตสึได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น โอซาก้า เกียวโต นารา และมิเอะ
โดยบัตรนี้มีทั้งหมด 4 ประเภท ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน แต่ในวันนี้เราจะมาแนะนำบัตรโดยสารแบบ 5-Day plus ซึ่งคุ้มค่าที่สุดค่ะ
คุณสมบัติของบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass ประกอบด้วย:
- โดยสารรถไฟคินเท็ตสึได้ไม่จำกัด (ต้องซื้อตั๋วเพิ่มสำหรับรถไฟด่วนพิเศษ)
- โดยสารรถบัสในนาราได้ไม่จำกัด (ยกเว้นบัตร Kintetsu Rail Pass 5-Day)
- ส่วนลดและข้อเสนอพิเศษในสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ
- ครอบคลุมพื้นที่นาโกย่าและอิเสะ (เฉพาะบัตร Kintetsu Rail Pass 5-Day และ 5-Day plus)
วิธีการซื้อบัตร:
- จองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Kintetsu
- เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่สถานีหลัก
- ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่สนามบินคันไซ
- บริษัทท่องเที่ยว
ราคาบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus อยู่ที่ประมาณ 6,700 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 3,350 เยนสำหรับเด็ก (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
2.สถานที่ท่องเที่ยวที่คัดสรรมาอย่างดี
2.1 ยูโนยามะ ออนเซ็น (Yunoyama Onsen) ยูโนยามะ ออนเซ็นตั้งอยู่ในเมืองโคโมโนะ จังหวัดมิเอะ ที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีชื่อเสียงด้านคุณภาพน้ำพุร้อนที่ดีเยี่ยมและทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม การมาเยือนในฤดูหนาวเพิ่มความพิเศษให้คุณได้ชื่นชมหิมะที่เปล่งประกายระยิบระยับในขณะที่เพลิดเพลินกับความอบอุ่นของน้ำพุร้อน
เรามาทำความรู้จักกับพื้นที่น้ำพุร้อนที่มีเสน่ห์แห่งนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกันค่ะ!
ประวัติศาสตร์อันยาวนาน การกำเนิดจากพรของขุนเขาและป่าไม้:
ประวัติของยูโนยามะ ออนเซ็นย้อนกลับไปถึงสมัยเอโดะ มีตำนานเล่าขานถึงกวางที่บาดเจ็บได้รับการเยียวยาจากน้ำพุร้อน จนทำให้ที่นี่ได้รับสมญานามว่า “น้ำพุกวาง” ในปัจจุบัน ยูโนยามะออนเซ็นยังคงรักษาเสน่ห์แบบดั้งเดิมไว้ได้ด้วยอาคารไม้ที่เรียงรายตลอดถนนน้ำพุร้อน และเส้นทางคดเคี้ยวตามลำธารภูเขาที่แผ่กลิ่นอายของอดีต
คุณสมบัติพิเศษของน้ำพุร้อนที่ช่วยบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจ:
ยูโนยามะออนเซ็นมีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการบรรเทาอาการปวดต่างๆ และช่วยบำรุงการไหลเวียนของเลือด ซึ่งการแช่ตัวในน้ำอุ่นให้ความรู้สึกนุ่มนวลดุจแพรไหม ราวกับว่าความเหนื่อยล้าทั้งหมดจะระเหยไปพร้อมกับไอน้ำ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่ามอบการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกทั้งร่างกายและจิตใจของทุกคนค่ะ
ความงามของธรรมชาติช่วยชำระล้างจิตวิญญาณ:
ยูโนยามะออนเซ็นล้อมรอบด้วยป่าทึบและลำธารใสสะอาด มอบบรรยากาศที่สดชื่นและทัศนียภาพอันรื่นรมย์ การเดินเล่นตามเส้นทางในป่า ฟังเสียงนกร้องและเสียงแมลงขับขาน สัมผัสความสงบและความงดงามของธรรมชาติ จึงช่วยชำระล้างจิตวิญญาณได้อย่างแท้จริง
สัมผัสวัฒนธรรมออนเซ็น โอบรับวิถีชีวิตที่แสนผ่อนคลาย:
ยูโนยามะออนเซ็นมอบประสบการณ์การพักผ่อนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่นี่คุณสามารถสวมชุดยูกาตะ ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมออนเซ็นแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง: ลงที่สถานี Yunoyama Onsen Station (K30) ของรถไฟคินเท็ตสึ
- ที่อยู่: 8522 Komono, Mie-gun, Mie
- เว็บไซต์: https://www.yunoyama-onsen.com/english/
2.2 อควาอิกนิส (AQUAIGNIS)
อควาอิกนิส (AQUAIGNIS) ซ่อนตัวอยู่ลึกในภูเขาของจังหวัดมิเอะ สถานที่แห่งนี้คือรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่นี่ไม่เพียงแต่มีน้ำพุร้อนที่อุดมสมบูรณ์ แต่ยังดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกด้วยสไตล์ที่ล้ำสมัยและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างไฟและน้ำ:
คำว่า อควาอิกนิส (AQUAIGNIS) มาจากภาษาละติน แปลว่า “น้ำและไฟ” แนวคิดการออกแบบอาคารและสถาปัตกรรมจึงเป็นการผสมผสานธาตุไฟและน้ำเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้พื้นที่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความลึกลับ
บ่อน้ำพุร้อนที่เหนือจินตนาการ:
อควาอิกนิสมีบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกสรร ตั้งแต่บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งแบบดั้งเดิมไปจนถึงบ่อในร่มแสนทันสมัย ตอบสนองทุกความต้องการ โดยสิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษคือน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีผลต่อความงามและช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด
อีกอย่างที่น่าสนใจคือบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่จะมีเสน่ห์เป็นพิเศษในฤดูหนาว เมื่อไอน้ำจากบ่อน้ำร้อนปะทะกับอากาศเย็น ก่อให้เกิดหมอกสีขาวบางเบา สร้างบรรยากาศที่ชวนฝันค่ะ
ประสบการณ์พิเศษที่ท้าทายประสาทสัมผัสของคุณ:
นอกเหนือจากการแช่น้ำพุร้อน อควาอิกนิส ยังนำเสนอประสบการณ์พิเศษมากมาย เช่น…
- บาร์บีคิวบนหินภูเขาไฟ: ย่างเนื้อบนหินภูเขาไฟ ลิ้มลองรสชาติแสนอร่อยของมื้ออาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิก
- ชมทิวทัศน์ในป่า: เดินเล่นในป่า สูดอากาศบริสุทธิ์และกลิ่นหอมจากธรรมชาติ
- การดูดาว: เงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน สัมผัสความกว้างใหญ่และความลึกลับของจักรวาล
- เก็บสตรอว์เบอร์รี: สนุกกับการเก็บสตรอว์เบอร์รีในฟาร์มที่ซึ่งปลูกสตรอว์เบอร์รีด้วยปุ๋ยอินทรีย์และใช้ยาฆ่าแมลงน้อยมาก
เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้การเข้าพักในฤดูหนาว ที่นี่ก็มีพื้นที่พักผ่อนในร่มที่อบอุ่นและสบายสำหรับแขกที่ต้องการผ่อนคลาย พื้นที่นี้จะติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้สบายแม้ในอากาศหนาว โดยแขกทุกท่านสามารถมานั่งอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ตามอัธยาศัยค่ะ
สไตล์การออกแบบที่เรียบง่ายและทันสมัย:
การออกแบบสถาปัตยกรรมของอควาอิกนิสนั้นเรียบง่ายและทันสมัย อีกทั้งยังผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติโดยรอบได้อย่างลงตัว ส่วยภายในห้องพักก็ตกแต่งอย่างหรูหรา และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เรียกได้ว่าสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง: นั่งรถบัสมิเอะ โคทสึ จากสถานี Yunoyama Onsen Station (K30) ของรถไฟคินเท็ตสึ และลงที่ป้าย AQUAIGNIS ใช้เวลาเดินเพียง 8 นาที
- ที่อยู่: 4800-1 Konono, Konono-cho, Mie-gun, Mie
- เว็บไซต์: https://aquaignis.jp/en/
2.3 ภูเขาโกไซโช (Gozaisho Mountain)
ภูเขาโกไซโชเป็นสถานที่ลี้ลับที่ซ่อนอยู่ในเทือกเขาทางตอนใต้ของจังหวัดมิเอะ ด้วยภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีความเชื่อทางศาสนาที่เป็นเอกลักษณ์ ที่แห่งนี้ดึงดูดนักผจญภัยและผู้รักธรรมชาติให้มาสำรวจมากมายในทุกปี
ภูมิประเทศอันยิ่งใหญ่และปรากฏการณ์ทะเลเมฆ:
ณ ระดับความสูง 1,212 เมตร ภูเขาโกไซโชมีภูมิประเทศเป็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่ มีเมฆและหมอกลอยวนเวียนรอบยอดเขา ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทะเลเมฆที่น่าทึ่ง จากยอดเขา โดยคุณจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้งหมดของจังหวัดมิเอะและสัมผัสความงดงามตระการตาของธรรมชาติได้ที่นี่
วิธีที่สะดวกที่สุดในการขึ้นไปถึงยอดเขาคือการนั่ง กระเช้าลอยฟ้าโกไซโช ด้วยความยาวทั้งหมดประมาณ 2.1 กิโลเมตร จึงถือเป็นหนึ่งในกระเช้าลอยฟ้าแบบวงเดียวที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น และในระหว่างการไต่ระดับขึ้นไปอย่างช้าๆ คุณสามารถชื่นชมทิวทัศน์ภูเขาที่เปลี่ยนไป จากความเขียวขจีที่เชิงเขาไปจนถึงโลกที่ปกคลุมด้วยหิมะบนยอดเขา แสดงให้เห็นถึงความงามที่แตกต่างของธรรมชาติ
สำหรับตัวกระเช้าได้รับการออกแบบเป็นพิเศษด้วยหน้าต่างพาโนรามาขนาดใหญ่ ช่วยให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับวิวพาโนรามา 360 องศาได้อย่างเต็มที่ค่ะ!
เส้นทางเดินป่าเหมาะกับคนที่ชอบความท้าทาย:
ภูเขาโกไซโชมีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทางค่ะ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับสูง เหมาะสำหรับนักเดินป่าที่มีทักษะแตกต่างกัน ระหว่างทางคุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งป่าไม้ ลำธาร และน้ำตกได้อีกด้วย
กิจกรรมแห่งฤดูหนาว สัมผัสความสนุกของดินแดนหิมะ:
ในฤดูหนาวบนภูเขาโกไซโชมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก แม้จะไม่ใช่รีสอร์ทสกีขนาดใหญ่ แต่ก็มีลานสกีขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ
กิจกรรมค่างๆก็ เช่น การปั้นตุ๊กตาหิมะและการเล่นปาหิมะ นอกจากนี้ยังมีบริการให้เช่าอุปกรณ์ต่างๆ ช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถสนุกกับฤดูหนาวได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขนอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่มาด้วยเลยค่ะ
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง: ลงที่สถานี Yunoyama Onsen Station (K30) และนั่งรถบัสมิเอะ โคทสึ ไปยังสถานีกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช (Yunoyama Onsen · Gozaisho Ropeway Front) ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการขึ้นไปถึงยอดเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้าค่ะ
- ที่อยู่: Konono, Komono-cho, Mie-gun, Mie Prefecture
- เว็บไซต์: https://www.gozaisho.co.jp/en/
2.4 นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)
นาบานะ โนะ ซาโตะ เป็นสวนดอกไม้ครบวงจรซึ่งมีดอกไม้สวยงามหลากหลายชนิดบานสะพรั่งตลอดทั้งปี ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหนับการชื่นชมความงามของธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับโลกแห่งกลิ่นหอมของดอกไม้ และพิเศษสุดโดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่นี่ก็จะจัดเทศกาลไฟประดับที่อลังการตระการตาที่สุดค่ะ บอกเลยว่าห้ามพลาด!
เทศกาลดอกไม้ตามฤดูกาล:
นาบานะ โนะ ซาโตะ มีดอกไม้หลากหลายชนิดกว่า 1 ล้านต้น มีตั้งแต่ทิวลิปและดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกทานตะวันและกุหลาบในฤดูร้อน เบญจมาศและดอกคอสมอสในฤดูใบไม้ร่วง ไปจนถึงดอกบ๊วยและดอกแดฟโฟดิลในฤดูหนาว เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาตลอดทั้งปีค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ: เป็นฤดูที่มีสีสันมากที่สุดที่นาบานะ โนะ ซาโตะ เพราะมีดอกซากุระ ทิวลิป และดอกอาซาเลียบานแข่งกัน
ต้นฤดูร้อน: สวนกุหลาบกลายเป็นไฮไลท์ของสวน เหมาะสำหรับการออกเดท นอกจากกุหลาบแล้ว ไฮเดรนเยียก็เป็นดอกไม้เด่นในช่วงต้นฤดูร้อนด้วย
กลางฤดูร้อน: ดอกทานตะวันและดอกลิลลี่เป็นตวเอกเลยค่ะ ทุกคนจะได้ชมทะเลดอกทานตะวันสีทอง และความสง่างามของดอกลิลลี่ นอกจากนี้ยังมีสระบัวที่เป็นไฮไลท์สำคัญในฤดูร้อนนี้ด้วยค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง: โดดเด่นด้วยเบญจมาศเปอร์เซียขนาดใหญ่และกุหลาบ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเบญจมาศนับพันต้นในรูปแบบต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการจัดสวนของญี่ปุ่นค่ะ
ฤดูหนาว: ถึงเวลาของเรือนกระจกในร่มที่จัดแสดงพืชเขตร้อนและกึ่งร้อนตลอดทั้งปี โดยยังพื้นที่สำหรับจัดแสดงกล้วยไม้พันธุ์หายากจากทั่วโลกอีกด้วย
นาบานะ โนะ ซาโตะ ส่องสว่างในค่ำคืนฤดูหนาวด้วยทะเลไฟประดับราวกับฝัน:
สำหรับที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่จัดแสดงไฟประดับฤดูหนาวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ โดนจะเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป
อุโมงค์แห่งแสง: ซุ้มไฟยาวกว่า 200 เมตร ประกอบด้วยหลอดไฟ LED กว่า 1.3 ล้านดวง ประดับด้วยสายไฟหลากสีที่ห้อยอยู่ทั้งสองข้าง เปลี่ยนธีมสีไปตามฤดูกาล
แม่น้ำแห่งแสง: ใช้หลอดไฟ LED นับล้านดวง สร้างทัศนียภาพของแม่น้ำระยิบระยับบนพื้นที่หญ้ากว้าง ทะเลไฟสีฟ้าโยกไหวไปตามสายลมและเอฟเฟกต์คลื่นที่เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตชีวา
พื้นที่จัดแสดงพิเศษตามธีม: ในปีนี้มีพื้นที่จัดแสดงที่นำเสนอสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น นั่นคือภูเขาไฟฟูจิ โดยใช้แสงและเสียงสุดแฟนตาซี
การประดับไฟในฤดูหนาวที่นาบานะ โนะ ซาโตะ ไม่เพียงแต่เป็นงานที่เหมาะแก่การชมความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นความอบอุ่นในฤดูหนาว ด้วยทะเลไฟอันตระการตา การตกแต่งที่ประณีตและบรรยากาศสุดโรแมนติก จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือนสำหรับการท่องเที่ยวในฤดูหนาว ไม่ว่าจะมากับครอบครัวหรือคนรัก คุณก็จะได้ความทรงจำอันงดงามกลับไปแน่นอนค่ะ
วิธีการเดินทาง:
- การเดินทาง:
- [ในช่วงเทศกาลประดับไฟ] นั่งรถบัส Mie Kotsu จากสถานี Kintetsu Nagashima Station (E12) ไปลงที่ป้าย Nakahana no Sato เมื่อลงรถบัสจะถึงจุดหมายทันที
- [นอกช่วงเทศกาลประดับไฟ] นั่งรถบัส Mie Kotsu จากสถานี Kuwana Station (E13) ไปลงที่ป้าย Nakahana no Sato เมื่อลงรถบัสจะถึงจุดหมายทันที
- ที่อยู่: 270 Komae Urushihata, Nagashima-cho, Kuwana-shi, Mie Prefecture
- เว็บไซต์: https://www.nagashima-onsen.co.jp/
ก่อนจะจากกันไปในครั้งนี้ เราเชื่อว่าการท่องเที่ยวในจังหวัดมิเอะด้วยบัตรโดยสาร Kintetsu Rail Pass 5-Day plus ไม่เพียงแต่เป็นแพลนการเที่ยวที่อำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับทุกคนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณได้ซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่นของญี่ปุ่นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพราะฤดูหนาวในจังหวัดมิเอะนั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ตั้งแต่บ่อน้ำพุร้อน อาหารรสเลิศ ไปจนถึงการแสดงไฟอันสวยงาม เราเชื่อว่าทั้งหมดนี้สามารถสร้างความทรงจำจากญี่ปุ่นที่ไม่มีวันลืมให้กับคุณได้แน่นอนค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจจาก fromJapan
- ชวนลิ้มลองข้าวหน้าปลาไหลย่างถ่าน เสิร์ฟพร้อม ‘ข้าวอากิโฮนามิ’ พันธุ์แท้จากคาโกชิม่า @ Satsuma Gashotei
- สัมผัสความหรูหราในการเดินทางแสนพิเศษกับรถไฟคินเท็ตสึ Shimakaze และ Hinotori
- เที่ยวแถบชานเมืองโตเกียว คาวาโกเอะ ฮันโน จิจิบุ ด้วยบัตร SEIBU 1Day Pass
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ