เทรนด์ฮิตคิวชู 01042022 : ชมซากุระงดงามผลิบานกลางทุ่งดอกคาโนล่า

เม.ย. 01, 2022

Clip
Share

บทนำ : เทรนด์ฮิตคิวชู 01042022

ในบทความเทรนด์ฮิตคิวชูประจำสัปดาห์ที่ 1 ของเดือนเมษายน 2022 เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่จังหวัดคาโกชิม่า (Kagoshima) ต่อกันที่จังหวัดโออิตะ (Oita) และปิดท้ายกันที่จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka)

ว่าแต่สถานที่ท่องเที่ยวสุดบรรเจิดที่ทีมงานคุณภาพภูมิใจนำเสนอนั้นจะเป็นที่ไหนและน่าสนใจอย่างไร เราตามมาดูกันดีกว่าค่ะ!

สารบัญ : เทรนด์ฮิตคิวชู 01042022

ลิ้มรสน้ำส้มสายชูดำสูตรเด็ดแห่งคาโกชิม่า
ออนเซ็นสวยสุดฟิน ‘ยูโนะฮิระออนเซ็น’ (Yunohira Onsen)
ชมซากุระกลางทุ่งดอกคาโนล่า ณ เกาะโนโคโนะชิมะ (Nokonoshima Island Park)

1. ลิ้มรสน้ำส้มสายชูดำสูตรเด็ดแห่งคาโกชิม่า

น้ำส้มสายชู เป็นหนึ่งในเครื่องปรุงเก่าแก่พอๆกับเกลือ และเป็นเครื่องปรุงที่มีความสำคัญต่อรสชาติอาหาร โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นที่นิยมใช้น้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุงหลักสำหรับหลายๆเมนู

นานมาแล้ว ณ เมืองคิริชิมะ จังหวัดคาโกชิม่า ชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “อากิโอะ ซากาโมโตะ” (Akio Sakamoto) ได้คิดค้นสูตรการหมักน้ำส้มสายชูดำที่เรียกกันว่า Kurozu (คุโรซุ) ซึ่งเป็นน้ำส้มสายชูดำที่ทำมาจากข้าวกล้องญี่ปุ่น โดยผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันจากโรงงาน จากนั้นก็นำไปบรรจุลงในไหแบบดั้งเดิม

น้ำส้มสายชูคุโรซุนี้ใช้เวลาหมักนานถึง 1-3 ปี จนกว่าจะได้น้ำส้มสายชูดำที่มีกลิ่นและรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ค่ะ

และที่จังหวัดคาโกชิม่าก็มีโรงงานผลิตน้ำส้มสายชูดำที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โรงงานแห่งนี้มีชื่อว่า ‘Kurozu no sato KAKUIDA’

เมื่อเข้ามาด้านในโรงงาน เราจะเห็นไหหมักน้ำส้มสายชูดำเรียงรายอยู่ประมาณ 20,000 ไห นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟซากุระจิมะได้จากที่นี่ด้วย

โรงงานแห่งนี้มีศูนย์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำน้ำส้มสายชูดำที่เรียกว่า “Sakamoto Kurozu Information Center” ด้านในจะมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายความเป็นมาของน้ำส้มสายชูดำ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตด้วยค่ะ

หลังจากฟังเจ้าหน้าที่อธิบาย เราจึงสรุปได้ว่าน้ำส้มสายชูดำนั้นเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมด้านอาหารที่สะท้อนรากฐานของประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี มันจึงเป็นเครื่องปรุงที่ได้รับการยกย่องให้เป็น Food Culture ประจำจังหวัดคาโกชิม่า และเป็นเครื่องปรุงที่คงอยู่มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงปัจจุบันค่ะ

นอกจากนี้ ที่โรงงาน KAKUIDA ก็ยังมีภัตคารขนาดใหญ่ที่เปิดให้บริการทุกวัน ดังนั้นหากมาเที่ยวโรงงานแห่งนี้ สิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือการทานอาหารรสเลิศ ที่สำคัญคืออาหารของที่นี่ใช้น้ำส้มสายชูดำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารด้วยค่ะ โดยมีบุฟเฟ่ต์ให้ทานกันได้แบบไม่อั้น กินกันแบบจุกๆไปเลย!

เมื่อกินคาวแล้วก็ต้องกินหวาน ดังนั้นเราจะมาปิดท้ายมื้ออาหารกันด้วยของหวานของที่นี่กันค่ะ ของหวานที่โรงงานแห่งนี้มีให้เลือกทานหลายอย่าง อีกทั้งยังมีเครื่องดื่มที่จะเสิร์ฟเฉพาะในฤดูกาลต่างๆด้วยนะ

ได้ดื่มด่ำกับอาหารรสเลิศ พร้อมกับชมทัศนียภาพของทุ่งไหขนาดใหญ่และภูเขาไฟซากุระจิมะ นับว่าเป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆไปเลยค่ะ

หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารและเรียนรู้กระบวนการผลิตน้ำส้มสายชูดำกันแล้ว อย่าลืมแวะซื้อของฝากกันด้วยนะคะ

ไว้มาเที่ยวชมโรงงานน้ำส้มสายชูดำที่คาโกชิม่ากันน๊า

ข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานน้ำส้มสายชูดำ Kurozu no sato KAKUIDA

วิธีเดินทาง

จากสถานี Kagoshima-chuo ให้นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Kokubu (ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที) แล้วนั่งรถบัสไปลงที่สถานี Komawari โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที (หมายเหตุ : รถบัสมีรอบจำนวนจำกัดต่อวัน) จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาทีก็จะถึงโรงงานน้ำส้มสายชูดำ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม >>คลิก!

ที่อยู่

3075 Fukuyamacho Fukuyama, Kirishima, Kagoshima 899-4501, Japan

ติดต่อ

0995-54-7200

ค่าเข้าสถานที่

เข้าชมฟรี

วันและเวลาทำการ

โรงงาน : เปิดทุกวัน เวลา 9:00 –17:00 น. / ปิดเฉพาะวันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่
ภัตตาคาร : เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 17:00 น. / ปิดเฉพาะวันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่

เว็บไซต์

http://www.tsubobatake.jp/

พิกัด

Back To Index

2. ออนเซ็นสวยสุดฟิน ‘ยูโนะฮิระออนเซ็น’ (Yunohira Onsen)

ยูโนะฮิระออนเซ็น (Yunohira Onsen) เป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ออนเซ็นแห่งนี้ก่อตั้งมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยคามาคุระ หรือเมื่อประมาณ 800 ปีที่แล้วค่ะ

โครงสร้างของเมืองออนเซ็นที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นเมืองออนเซ็นเวอร์ชั่นที่สร้างเสร็จในช่วงสมัยเอโดะตอนปลาย เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือทางเดินหินกรวด ซึ่งสร้างโดยชาวบ้านในสมัยเอโดะเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้วค่ะ

นอกจากนี้ ยูโนะฮิระออนเซ็นยังได้รับการยอมรับในระดับโลก ตีคู่ไปกับบ่อน้ำแร่ของฝรั่งเศสอีกด้วย

ออนเซ็นของที่นี่เป็นที่กล่าวขานกันว่าช่วยคลายอาการปวดเส้นประสาท ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ ไหล่แข็ง เป็นต้น โดยบ่อออนเซ็นของหมู่บ้านยูโนะฮิระออนเซ็นจะมีห้องอาบน้ำรวมทั้งหมด 5 แห่ง คือคินโนะยุ (Kin no Yu) นากาโนะยุ (Naka no Yu) บ่อทรายร้อน (Sand Bath) กินโนะยุ (Gin no Yu) และฮาชิโมโตะออนเซ็น (Hashimoto Onsen) ซึ่งคุณสมบัติของออนเซ็นแต่ละแห่งก็จะแตกต่างกันออกไป สามารถเลือกแช่กันได้ตามอัธยาศัยค่ะ

แต่ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภัยธรรมชาติจากฝนตกหนักเมื่อกรกฎาคมปี 2020 ที่ผ่านมา ปัจจุบันบ่อออนเซ็นทั้ง 5 แห่งจึงยังคงอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมค่ะ

เมื่อสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอยู่คู่กับเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เมืองออนเซ็นแห่งนี้จึงยังคงหลงเหลือกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมผสมผสานอยู่ อีกทั้งรอบๆเมืองล้วนเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวขจี สีสันของใบไม้ก็เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เป็นภาพที่สวยงามมากๆค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติกันอย่างใกล้ชิด

หากใครมาเที่ยวภูมิภาคคิวชู ลองแวะมาแช่ออนเซ็นสูดอากาศบริสุทธิ์กันที่นี่นะคะ

ข้อมูลเกี่ยวกับยูโนะฮิระออนเซ็น (Yunohira Onsen)