โคยะซัง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธไว้มากกว่า 1,200 ปี

โคยะซัง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธไว้มากกว่า 1,200 ปี

โคยะซัง หรือ ภูเขาโคยะ (Koyasan/高野山) เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในทางพุทธศาสนาของญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,200 ปี ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดวาคายามะ

ในสมัยก่อนเมื่อประมาณปี ค.ศ. 816 มีพระภิกษุองค์หนึ่งนามว่า “คูไค” ได้ก่อตั้งพุทธศาสนานิกายชินกอนขึ้นในญี่ปุ่น (ภายหลังท่านได้รับการขนานนามหลังจากมรณภาพว่า “โคโบ ไดชิ”) พระองค์นี้เป็นผู้สร้างวัดวาอารามต่างๆบนภูเขาโคยะมากถึง 117 แห่ง และในปัจจุบันก็มีการพบร่องรอยของสถานที่ที่เคยเป็นวัดมาก่อนถึง 2,000 แห่ง ด้วยเหตุนี้ ‘โคยะซัง’ จึงเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ‘โคยะซัง’ ยังมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามทั้งในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวอีกด้วย

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยว “โคยะซัง” ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จะทำให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวพุทธญี่ปุ่นกันค่ะ

สารบัญ (Index) : โคยะซัง

• แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภูเขาโคยะ
  • 1. วัดคงโกบุจิ (Kongobuji Temple)
  • 2. วัดดันโจการัน (Danjo Garan Temple)
  • 3. ศาลเจ้าเซ็นเนียวริวโอ (Zennyo Ryuo Shrine)
  • 4. พิพิธภัณฑ์โคยะซัง เรโฮคัง (Koyasan Reihokan Museum)
  • 5. วัดโอคุโนะอิน (Okunoin Temple)
  • 6. พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลโคยะซัง (Koyasan Digital Museum)
• แนะนำร้านอาหารและคาเฟ่ที่ภูเขาโคยะ
  • 1. “นิชิริ” (ni-shi-ri) ร้านอุด้งพื้นเมืองของโคยะ
  • 2. คาเฟ่ Koyasan Cafe Shizuku
• วิธีการเดินทางไปยังภูเขาโคยะ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใน “โคยะซัง”

1. วัดคงโกบุจิ (Kongobuji Temple)

“วัดคงโกบุจิ” (Kongobuji Temple) เป็นวัดหลักของภูเขาโคยะและเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูเขาแห่งนี้ด้วย วัดคงโกบุจิถือเป็นวัดสำนักงานใหญ่ของนิกายชินงอน จุดเด่นของวัดคืออาคารสถาปัตยกรรมที่ทำจากไม้อันงดงาม ทำให้รู้สึกได้ถึงการสร้างขึ้นมาอย่างประณีต

ส่วนงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของวัดแห่งนี้ก็คือ หม้อหุงข้าวโบราณขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านบนหลังคา โดยมีมังกรที่แกะสลักขึ้นอย่างละเอียดอ่อนตั้งอยู่คู่กัน เชื่อว่ามังกรทั้ง 2 ตัวนี้เป็นเทพที่คอยทำหน้าที่ปกป้องรักษาวัดคงโกบุจิ

งานแกะสลักไม้ของวัดแห่งนี้มีความละเอียดอ่อนและงดงามมาก

สถานที่แต่ละส่วนภายในวัดก็ล้วนมองเห็นผลงานการแกะสลักไม้ที่มีความประณีตและละเอียดมากๆได้อย่างชัดเจน

แต่ก็ยังมีบางส่วนของวัดที่ไม่ได้มีการแกะสลักเอาไว้…เหตุผลก็เพราะว่าวัดแห่งนี้มีความเชื่อว่า “หากความเสร็จสมบูรณ์เกิดขึ้น ย่อมเท่ากับถึงเวลาแห่งกาลอวสาน”

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงทางเข้าหน้าวัดคงโกบุจิก็ดูงดงามมากเช่นกัน จุดนี้จึงกลายเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

รายละเอียดของวัดคงโกบุจิ

ที่อยู่

• 132 Koyasan, Koya, Ito District, Wakayama 648-0294

เว็บไซต์

• https://www.koyasan.or.jp

พิกัด

Back To Index

2. วัดดันโจการัน (Danjo Garan Temple)

“วัดดันโจการัน” (Danjo Garan Temple) เป็นสถานที่แห่งแรกบนภูเขาโคยะที่ท่านโคโบ ไดชิสร้างขึ้นมา โดยท่านเป็นผู้เดินทางมาที่นี่และอุทิศตนเพื่อสร้างเจดีย์รวมถึงอารามอื่นๆจำนวนมากในบริเวณนี้

หากมาถึงวัดดันโจการันแล้ว เราจะพบกับ “เจดีย์คมปงไดโตะ” หรือ “Konpon Daito” (根本大塔) ซึ่งเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ว่ากันว่าเจดีย์แห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 816-887 และนับว่าเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมแห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย

เจดีย์คมปงไดโตะของวัดดันโจการันเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในภูเขาโคยะ โดยมีความสูงถึง 48.5 เมตร แต่ด้วยวิธีการสร้างในสมัยนั้นเจดีย์จึงยังไม่มีความแข็งแรงมากนัก เมื่อกาลเวลาผ่านไปเจดีย์องค์นี้จึงพังทลายลงมาหลังจากสร้างเสร็จไปได้ประมาณ 40 ปีให้หลัง ส่วนเจดีย์สีแดงที่เราเห็นกันอยู่นี้คือเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1937

“เจดีย์ไซโตะ” (Saitou) เป็นเจดีย์ที่สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 886 โดยมีความสูง 27.27 เมตร ในช่วงที่ท่านโคโบ ไดชิสร้างที่นี่ขึ้นมานั้น ท่านตั้งใจจะให้เจดีย์คมปงไดโตะและเจดีย์ไซโตะเป็นสถานที่หลักสำหรับใช้ปฏิบัติธรรม

รายละเอียดของวัดดันโจการัน

ที่อยู่

• 152 Koyasan, Koya, Ito District, Wakayama 648-0211

เว็บไซต์

• https://th.visitwakayama.jp/venues/venue_2/

พิกัด

Back To Index

3. ศาลเจ้าเซ็นเนียวริวโอ (Zennyo Ryuo Shrine)

“ศาลเจ้าเซ็นเนียวริวโอ” (Zennyo Ryuo Shrine) เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ริมบ่อบัวที่มีชื่อเสียง ในสมัยก่อนบ่อบัวนี้เต็มไปด้วยดอกบัวบานอันงดงาม แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ในปัจจุบันบ่อน้ำแห่งนี้จึงไม่ค่อยมีดอกบัวเหมือนเมื่อก่อน แม้ว่าจะไม่มีดอกบัวให้เห็นกันมากนัก แต่บ่อบัวที่นี่ก็มีสะพานแดงทอดไปยังศาลเจ้า ซึ่งนับว่าเป็นจุดไฮไลต์ที่สวยงามของที่นี่

นอกจากนี้ยังมีความเชื่อด้วยว่า “ศาลเจ้าเซ็นเนียวริวโอ” เป็นศาลเจ้าของลูกสาวเทพมังกรใหญ่ ซึ่งเป็น 1 ใน 8 เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ในบันทึกยังกล่าวอีกด้วยว่าในระหว่างที่ท่านไคโบ ไดชิกำลังทำพิธีขอฝนอยู่นั้น ได้มีงูสีทองตัวหนึ่งซึ่งมีความยาว 24 ซม. ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าท่าน ต่อมาคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่างูสีทองตัวนั้นคือเทพเจ้าแห่งฝน

รายละเอียดของศาลเจ้าเซ็นเนียวริวโอ

ที่อยู่

• 338 Koyasan, Koya, Ito District, Wakayama 648-0211

พิกัด

Back To Index

4. พิพิธภัณฑ์โคยะซัง เรโฮคัง (Koyasan Reihokan Museum)

“พิพิธภัณฑ์โคยะซัง เรโฮคัง” (Koyasan Reihokan Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เริ่มเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1921 โดยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของภูเขาโคยะเอาไว้ เช่น ภาพวาดโบราณ พระพุทธรูป เป็นต้น

หากใครเป็นนักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ ที่นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรแวะมาเยี่ยมชมอย่างยิ่งหากได้มาเที่ยวที่ภูเขาโคยะ

รายละเอียดของพิพิธภัณฑ์โคยะซัง เรโฮคัง

ที่อยู่

• 306 Koyasan, Koya, Ito District, Wakayama 648-0211

เว็บไซต์

• https://www.reihokan.or.jp/en/index.html

เวลาทำการ

• เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม : 8:30 – 17:30 น. (รอบสุดท้าย 17:00 น.)
• เดือนพฤศจิกายน – เมษายน : 8:30 – 17:00 น. (รอบสุดท้าย 16:30 น.)
• ปิดทำการ : ช่วงปีใหม่ 28 ธันวาคม – 4 มกราคม

ค่าเข้าชม

• ผู้ใหญ่ : 1,300 เยน
• นักเรียนมัธยมและนักศึกษา : 800 เยน (จำเป็นต้องยื่นบัตรนักเรียน)
• นักเรียนประถม : 600 เยน

พิกัด

Back To Index

5. วัดโอคุโนะอิน (Okunoin Temple)

“วัดโอคุโนะอิน” (Okunoin Temple) เป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดของภูเขาโคยะ ตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงสุสานของท่านโคโบ ไดชิมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร โดยระหว่างทางจะมีป้ายหลุมศพเรียงรายอยู่มากกว่า 2 แสนป้าย เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ เราจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

บริเวณต้นทางที่เข้ามาจากถนนสายหลักเป็นที่ตั้งของป้ายหลุมศพที่ยังดูใหม่อยู่ แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆเราจะพบกับป้ายหลุมศพเก่าแก่อายุหลายร้อยหลายพันปี

ในบริเวณนี้มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมกันด้วย

จากภาพนี้จะเห็นได้ว่าต้นไม้ที่นี่มีความสูงมากกว่าต้นไม้ทั่วไป

ว่ากันว่าต้นไม้เป็นเครื่องบ่งบอกถึงอายุของสถานที่แห่งนั้นได้เป็นอย่างดี แม้จะระบุได้ไม่ชัดเจนมากนัก แต่ก็คาดกันว่าต้นไม้ในสถานที่แห่งนี้น่าจะมีอายุมากกว่าพันปีเลยทีเดียว

หากมองจากภาพ เสาโทริอิภายในวัดโอคุโนะอินก็น่าจะมีอายุเก่าแก่มากๆ

“สะพานโกะเบียวบาชิ” (Gobyo-bashi Bridge) เป็นสะพานที่จะพาทุกคนข้ามไปสู่สุสานของท่านโคโบ ไดชิ ก่อนที่จะเดินข้ามไปเราต้องโค้งคำนับ 1 ครั้งเพื่อเป็นการให้เกียรติท่าน หลังจากข้ามสะพานไปแล้วที่นี่จะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปค่ะ

รายละเอียดของวัดโอคุโนะอิน

เว็บไซต์ของวัดโอคุโนะอิน

• https://th.visitwakayama.jp/venues/venue_3/

พิกัดของวัดโอคุโนะอิน

พิกัดของสะพาน Gobyo-bashi Bridge

Back To Index

6. พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลโคยะซัง (Koyasan Digital Museum)

พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลโคยะซัง (Koyasan Digital Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีคอนเซปต์ว่า “ทางเข้าของการเดินทางไปยังหัวใจที่ปล่อยวาง” พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นำเสนอวัฒนธรรมที่เลอค่าของภูเขาโคยะผ่านเทคโนโลยี VR ซึ่งช่วยให้เราได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาที่ยาวนานถึง 1,200 ปีของภูเขาโคยะซัง นอกจากนี้ในโซนพิพิธภัณฑ์ยังมีคาเฟ่ที่เราสามารถทานอาหาร ขนม หรือจิบกาแฟได้อีกด้วย

รายละเอียดพิพิธภัณฑ์ดิจิทัลโคยะซัง

ที่อยู่

• 360 Koyasan, Koya, Ito District, Wakayama 648-0211

เวลาทำการ

• เวลา 10:00 – 17:00 น.

เว็บไซต์

• https://www.dmckoyasan.com

พิกัด

Back To Index

แนะนำร้านอาหารและคาเฟ่ที่ภูเขาโคยะซัง

1. “นิชิริ” (ni-shi-ri) ร้านอุด้งพื้นเมืองของโคยะ

ที่ภูเขาโคยะซังมีร้านอาหารมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารสำหรับพระสงฆ์ที่เรียกว่า “โชจิน” (精進料理) ร้าน “นิชิริ” (ni-shi-ri) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาปฏิบัติธรรมและกำลังมองหาร้านอาหารระหว่างการท่องเที่ยว

ร้านนิชิรินั้นขายอุด้งเป็นเมนูหลัก เมนูอุด้งของร้านนี้เป็นสูตรอุด้งท้องถิ่นของเมืองโคยะโดยเฉพาะ นอกจากนี้ร้านนิชิริยังมีเมนูขนมหวานญี่ปุ่นให้เลือกทานกันอีกมากมาย

สำหรับการทานอุด้งที่ร้านนิชิรินั้นเราสามารถเลือกน้ำซุปได้ โดยมีทั้งน้ำซุปดาชิแบบทั่วไปและน้ำซุปแกงกะหรี่ ส่วนเนื้อสัมผัสของเส้นอุด้งร้านนี้ก็นุ่มและสดใหม่มาก

และที่เหนือความคาดหมายก็คือเต้าหู้ที่นี่อร่อยมาก! ว่ากันว่าเมืองที่อยู่บนภูเขามักจะทำเต้าหู้อร่อย เพราะบนภูเขามีน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่ใสสะอาดนั่นเอง

รายละเอียดของร้านนิชิริ

ที่อยู่

• 784 Koyasan, Koya, Ito District, Wakayama 648-0211

เวลาทำการ

• ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 น. (ปิดทำการทุกวันพฤหัสบดี)

พิกัด

Back To Index

2. คาเฟ่ Koyasan Cafe Shizuku

“Koyasan Cafe Shizuku” (高野山 Café雫) เป็นคาเฟ่บนภูเขาโคยะที่บรรยากาศดีมาก จากภายในร้านเราสามารถมองเห็นบรรยากาศของธรรมชาติในแต่ละฤดูได้ตลอดทั้งปี กาแฟร้านนี้ใช้สูตรต้นแบบจากร้าน Sarutahiko Coffee ซึ่งเป็นร้านกาแฟชื่อดังในโตเกียว นอกจากนี้เมนูอาหารและขนมหวานของคาเฟ่แห่งนี้ยังใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นส่วนผสมหลักอีกด้วย

ส่วนบรรยากาศภายในร้านมีการผสมผสานงานศิลปะสมัยใหม่ให้เข้ากับบรรยากาศอบอุ่นของคาเฟ่ได้อย่างลงตัว เป็นคาเฟ่ที่เหมาะมากสำหรับการนั่งพักผ่อนหลังจากเดินชมวัดบนภูเขาโคยะมาทั้งวัน นอกจากนี้ภายในคาเฟ่ยังมีโซน Koyasan Digital Museum ด้วย ซึ่งโซนพิพิธภัณฑ์นี้จะเปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ

บรรยากาศภายในร้านดูอบอุ่นมาก อีกทั้งยังสอดแทรกงานศิลปะในการตกแต่งร้านได้อย่างลงตัว

เมนูของหวานขึ้นชื่อของคาเฟ่ Koyasan Café Shizuku คือขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีชื่อว่า “ขนมโมนากะ” ในปัจจุบันได้มีการประยุกต์รูปร่างของขนมให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถทำขนมโมนากะเป็นลาย ‘โคยะคุง’ ซึ่งเป็นตัวคาแรคเตอร์ของภูเขาโคยะด้วยตัวเองได้

ส่วนวิธีการทำขนมโมนากะนั้น เราจะนำส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงไปในตัวโคยะคุง ไม่ว่าจะเป็นโมจิ ไอศกรีม และถั่วแดงบด จากนั้นประกบด้วยแผ่นแป้งโคยะคุงอีกด้านก็เป็นอันเสร็จสิ้น รสชาติอร่อยมากสมกับที่เป็นเมนูขึ้นชื่อเลยค่ะ นอกจากนี้ในเซ็ตขนมโมนากะยังมีกาแฟโคยะซังของร้าน Sarutahiko Coffee เสิร์ฟคู่มาอีกด้วย

หากทุกคนมีโอกาสได้มาเที่ยวที่ภูเขาโคยะซัง ลองแวะมาทานขนมโคยะคุงที่ร้าน Koyasan Café Shizuku กันดูนะคะ

รายละเอียดเกี่ยวกับร้าน Koyasan Cafe Shizuku

ที่อยู่

• 360 Koyasan, Koya, Ito District, Wakayama 648-0211

เวลาทำการ

• ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 17:00 น.

เว็บไซต์

• https://www.dmckoyasan.com/digitalmuseum/#museum-cafe

พิกัด

Back To Index

วิธีการเดินทางไปยังภูเขาโคยะซัง

แนะนำบัตรโดยสารสุดคุ้ม

สำหรับวิธีการเดินทางมายังภูเขาโคยะจากจังหวัดโอซาก้า ให้เริ่มต้นที่สถานี Nankai Namba Station ประตูทิศเหนือ 3F แล้วนั่งไปลงที่สถานี Gokurakubashi Station

ในการเดินทางครั้งนี้เราใช้บัตรรถไฟด่วน Koya แบบเที่ยวเดียว + บัตร Koyasan-World Heritage ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้โดยสารยานพาหนะภายในบริเวณภูเขาโคยะได้แบบไม่อั้น จากราคาปกติ 4,510 เยนจะลดเหลือ 3,630 เยน (ราคาสำหรับเด็กประมาณ 1,830 เยน)

หมายเหตุ : ขากลับไปยังโอซาก้าจำเป็นจะต้องซื้อบัตรรถไฟด่วนเพิ่ม

รถไฟด่วนพิเศษโคยะ หมายเลข 3 (Koya Limited Express No.3)

รถไฟด่วนพิเศษโคยะ หมายเลข 3 (Koya Limited Express No.3) ของบริษัทรถไฟ Nankai Electric Railway เป็นรถไฟที่ถูกดีไซน์ขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 1,200 ปีของภูเขาโคยะ รถไฟสายนี้จะวิ่งระหว่างสถานี Nankai Namba Station กับสถานี Gokurakubashi Station

ภายในขบวนรถไฟตกแต่งเบาะนั่งด้วยสีเทาเข้มและสีแดง ส่วนระยะห่างของแต่ละแถวก็เอื้อให้มีพื้นที่ใช้สอยมากพอสมควร ไม่ได้แคบจนเกินไป

หลังจากนั่งรถไฟด่วนพิเศษโคยะ หมายเลข 3 มาถึงสถานี Gokurakubashi Station แล้ว ให้นั่งกระเช้า Koyasan Cable Car กันต่อเพื่อขึ้นไปบนภูเขาโคยะค่ะ การนั่งกระเช้าจะใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น

กระเช้า Koyasan Cable Car เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 และเป็นหนึ่งในกระเช้าของประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ นอกจากนี้กระเช้า Koyasan Cable Car ยังเป็นยานพาหนะหลักที่ผู้คนบนภูเขาโคยะใช้เดินทาง รวมถึงผู้ที่ต้องการเดินทางไปสักการะบูชาวัดบนภูเขาแห่งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อลงจากกระเช้าแล้วทุกคนจำเป็นจะต้องนั่งรถบัสต่อเพื่อขึ้นไปยังภูเขาโคยะ เราจะนำบัตร Koyasan-World Heritage ที่ซื้อมาพร้อมกับบัตรรถไฟด่วนพิเศษโคยะในตอนแรกมาใช้กันในขั้นตอนนี้ โดยเราสามารถยื่นบัตรให้พนักงานขับรถบัสดูได้เลย บัตรโดยสารนี้สามารถใช้เดินทางภายในภูเขาโคยะได้อย่างอิสระและไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมด้วยค่ะ

อ่านวิธีการใช้บัตรรถไฟด่วนพิเศษ Koya เที่ยวเดียว + Koyasan-World Heritage ได้ที่นี่ >>> Koyasan-World Heritage Ticket

แนะนำที่เที่ยวอื่นๆในภูมิภาคคันไซ

• พลาดไม่ได้กับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ “ภูเขาโยชิโนะ” จุดชมธรรมชาติชื่อดังไม่ไกลจากโอซาก้า (คลิกที่รูปได้เลย)

• ชมดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีแสนงดงามที่ “เมืองโอสึ” แหล่งท่องเที่ยวใกล้เกียวโตที่เราอยากแนะนำ (คลิกที่รูปได้เลย)

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top