5 ของดีและที่เที่ยวคาโกชิม่า ที่ได้รับรางวัลการันตีความปัง!

สวัสดีค่ะทุกคน! คิดถึงคาโกชิม่ากันไหมคะ!? ห่างหายจากการท่องเที่ยวไปนาน ถึงเวลาที่ทุกคนจะได้มาเยือนคาโกชิม่ากันแล้วค่ะ

หลังจากประเทศญี่ปุ่นประกาศผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวแบบฟรีวีซ่า 15 วัน ในปี 2023 นี้ จังหวัดคาโกชิม่าก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบแล้วค่ะ!

“คาโกชิม่า” เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคคิวชู คาโกชิม่านั้นประกอบไปด้วยคาบสมุทรขนาดใหญ่ 2 แห่ง รวมถึงหมู่เกาะกึ่งเขตร้อนอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในญี่ปุ่นที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ 

และตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา จังหวัดคาโกชิม่าก็ได้รับรางวัลอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อหรือสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดก็ล้วนได้รับการยอมรับจากองค์กรที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ระดับประเทศไปจนถึงระดับโลกเลยล่ะ!

ซึ่งนั่นก็หมายความว่าในปีนี้ทุกคนจะได้พบกับประสบการณ์การท่องเที่ยวคาโกชิม่ารูปแบบใหม่เป็นครั้งแรก! รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ

ต่อไปเราจะมาแนะนำ 5 ของดีและที่เที่ยวคาโกชิม่า ที่ได้รับรางวัลการันตีความปัง! ตามมาชมกันได้เลยค่ะ ^^

สารบัญ (Index)

1. ‘วัวดำคาโกชิม่า’ เนื้อวากิวชั้นนำที่คว้าแชมป์อันดับหนึ่งในการแข่งขัน “Wagyu Olympics”
2. ‘เกาะอามามิโอชิมะ’ & ‘เกาะโทคุโนะชิมะ’ สองเกาะงามที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโก
3. ‘เกาะอามามิโอชิมะ’ & ‘เกาะโยรอน’ สถานที่ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก!
4. ‘ศาลเจ้าคิริชิมะ’ สมบัติประจำชาติญี่ปุ่นแห่งใหม่ในคาโกชิม่า
5. ‘พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งเมืองอิซุมิ’ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสัญญาแรมซาร์

1. ‘วัวดำคาโกชิม่า’ เนื้อวากิวชั้นนำที่คว้าแชมป์อันดับหนึ่งในการแข่งขัน “Wagyu Olympics” 

“วัวดำคาโกชิม่า” หรือ “Kagoshima Kuroushi” เป็นวัวดำสายพันธุ์คาโกชิม่าที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘วากิว’ อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นในงาน “Wagyu Olympics”

เมื่อเดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา คาโกชิม่าได้รับเลือกให้เป็นแหล่งกำเนิดเนื้อวากิวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ในการแข่งขันประกวดเนื้อวากิวญี่ปุ่นแห่งชาติครั้งที่ 12 หรือ “งานวากิวโอลิมปิก” (Wagyu Olympics) ซึ่งใช้ระยะเวลาในการจัดงานทั้งหมด 5 วัน

ในปีนี้มีวัวสายพันธุ์ดีเข้าร่วมประชันคุณภาพเป็นจำนวนถึง 438 ตัว โดยมาจากฟาร์มวัวทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น การแข่งขันครั้งนี้ได้ผ่านไปอย่างดุเดือด และในที่สุดเนื้อวัวจากคาโกชิม่าก็ได้รับรางวัลชนะเลิศสุดยอดเนื้อวากิวชั้นนำของญี่ปุ่น! รวมถึงรางวัลแหล่งกำเนิดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์วากิวที่ดีเยี่ยมอีกด้วยค่ะ โดยได้รับคะแนนโหวตมากถึง 6 แผนก จากทั้งหมด 9 แผนก 

ส่วนเรื่องรสชาติและความละมุนลิ้นของเนื้อวัวดำคาโกชิม่านั้นก็อร่อยไม่แพ้หมูดำคุโรบุตะเลยค่ะ อีกทั้งเนื้อวัวดำคาโกชิม่ายังสามารถรังสรรค์เป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะทานแบบสุกี้ยากี้ แบบยากินิคุ หรือแบบชาบูก็อร่อยฟินสุดๆไปเลยค่ะ

หากทุกคนมาเที่ยวคาโกชิม่าแล้ว ก็อย่าลืมมาลองสัมผัสการทานเนื้อวากิวชั้นนำของญี่ปุ่นกันดูสักครั้งนะคะ อร่อยติดใจอย่างแน่นอน 

ที่มา : https://www.kagoshima-kankou.com/for/highlights/kuroushi

Back To Index

2. ‘เกาะอามามิโอชิมะ’ & ‘เกาะโทคุโนะชิมะ’ สองเกาะงามที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโก ️

อิน-โนะ-โจฟุตะ

“เกาะอามามิโอชิมะ” (Amami Oshima) และ “เกาะโทคุโนะชิมะ” (Tokunoshima) เกาะสองแห่งนี้เป็นเกาะย่อยของหมู่เกาะอามามิที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโกในเดือนกรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา

อุโมงค์ต้นปรงสาคู “คานามิซากิ”

เกาะทั้งสองแห่งได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ป่ากึ่งเขตร้อนขนาดใหญ่ โดยมีพืชพันธุ์ดึกดำบรรพ์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์นานาชนิด รวมถึงมีความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์

นอกจากนี้ บนเกาะยังมี “กระต่ายอามามิ” (Amami Rabbit) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อาศัยอยู่ด้วย ในสมัยก่อนกระต่ายอามามิจะอาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินใหญ่ในทวีปเอเชีย แต่ในปัจจุบันเราสามารถพบกระต่ายอามามิได้ที่เกาะอามามิโอชิมะและเกาะโทคุโนะชิเท่านั้นค่ะ 

แอ่งหินรูปหัวใจ

นอกจากนี้ คาโกชิม่ายังเป็นจังหวัดเดียวในญี่ปุ่นที่มีสถานที่ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโกถึง 2 แห่งด้วยกัน โดยสถานที่แรกที่ได้เป็นมรดกโลกคือ “เกาะยากุชิมะ” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 1993  

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>> UNESCO ประกาศให้ ‘เกาะอามามิโอชิมะ’ & ‘เกาะโทคุโนะชิมะ’ เป็นมรดกโลก!

เว็บไซต์ : https://world-natural-heritage.jp/en/amami-okinawa/

ที่มา : https://www.kagoshima-kankou.com/for/news/174

Back To Index

3. ‘เกาะอามามิโอชิมะ’ & ‘เกาะโยรอน’ สถานที่ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก! 

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2021 หน่วยงานระดับโลกอย่าง Green Destinations Foundation ได้จัดอันดับให้เกาะอามามิโอชิมะและเกาะโยรอนของจังหวัดคาโกชิม่าเป็น ‘แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก’ ประจำปี 2021

ป่าชายเลนอามามิ

“เกาะอามามิโอชิมะ” (Amami Oshima) เป็นเกาะที่มุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญเรื่องวัฒนธรรมประจำเกาะ ด้วยเหตุนี้เกาะอามามิโอชิมะจึงได้รับการยกย่องให้เป็นเกาะที่มีระบบนิเวศดีเยี่ยม โดยมีรากฐานมาจากผู้คนท้องถิ่น นอกจากนี้การดำรงชีวิตของผู้คนบนเกาะยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าน้อยที่สุดอีกด้วยค่ะ

เกาะโยรอน

ส่วน “เกาะโยรอน” (Yoron Island) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของโอกินาว่า เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ได้รับการยอมรับด้านความสมบูรณ์ของธรรมชาติจากโครงการอนุรักษ์ปะการัง สำหรับโครงการนี้นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ผ่านกิจกรรมทำความสะอาดที่นำโดยแหล่งชุมชน

หาดยูริกะฮามะ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกาะทั้งสองแห่งจะตั้งอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติแวะเวียนมาเที่ยวชมกันไม่ขาดสายเลยค่ะ

ที่มา : https://www.kagoshima-kankou.com/for/news/190

Back To Index

4. ‘ศาลเจ้าคิริชิมะ’ สมบัติประจำชาติญี่ปุ่นแห่งใหม่ในคาโกชิม่า ️

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2022 กระทรวงวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ประกาศให้ “ศาลเจ้าคิริชิมะ” เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมประจำชาติ อีกทั้งอาคารของศาลเจ้ายังถูกยกย่องให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องโถงหลัก หอสักการะ โถงทางเดิน เป็นต้น

ส่วนอาคารของศาลเจ้าคิริชิมะที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี 1715 โดยขุนนางชั้นสูงแห่งแคว้นซัตสึมะ นอกจากนี้ศาลเจ้าคิริชิมะยังโดดเด่นเรื่องความงดงามของศาลเจ้าและตัวอาคารที่มีการไล่ระดับลงมาเหมือนกับขั้นบันได ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถชมทัศนียภาพของอาคารศาลเจ้าจากด้านหน้าทางเข้าได้เกือบทั้งหมดเลยค่ะ

นอกจากนี้ ด้านหน้าของศาลเจ้าจะมี “ริวบาชิระ” หรือ “เสามังกร” ตั้งโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้มาเยือน เสามังกรของศาลเจ้าคิริชิมะถือเป็นสัญลักษณ์ของภูมิภาคคิวชูตอนใต้ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกอย่างอาณาจักรริวกิวและจีนในยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดีค่ะ

ที่มา : https://www.kagoshima-kankou.com/for/news/189

Back To Index

5. ‘พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งเมืองอิซุมิ’ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสัญญาแรมซาร์ ️

“พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งเมืองอิซุมิ” ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของคาโกชิม่า เมืองอิซุมิเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2021 พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งเมืองอิซุมิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์ของญี่ปุ่น

ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี เราจะพบเหล่านกกระเรียนที่บินอพยพมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้มากถึง 10,000 ตัว รวมถึงนกสายพันธุ์อื่นๆด้วย เรียกได้ว่ามีนกจำนวนมากที่สุดในบรรดาพื้นที่ชุ่มน้ำของประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ 

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถชมนกกระเรียนที่ “ศูนย์สังเกตการณ์นกกระเรียนเมืองอิซุมิ” (Izumi Crane Observation Centre) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคมได้ด้วยค่ะ

• อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>> ศูนย์สังเกตการณ์นกกระเรียนเมืองอิซุมิ จุดท่องเที่ยวบรรยากาศดีในคาโกชิม่า

ที่มา

เฟซบุ๊ก Kagoshima Thailand

• https://www.facebook.com/KagoshimaThailand/

เว็บไซต์จังหวัดคาโกชิม่า

• https://www.kagoshima-kankou.com/for/news/194

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดคาโกชิม่า

• พิกัดถ่ายรูปสวยลงไอจีที่คาโกชิม่า ตอนที่ 12
• พิกัดถ่ายรูปสวยลงไอจีที่คาโกชิม่า ตอนที่ 11
• พิกัดถ่ายรูปสวยลงไอจีที่คาโกชิม่า ตอนที่ 10

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top