รวมข้อมูล ‘จังหวัดโอกินาว่า’ และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต
พ.ย. 08, 2022
จังหวัดโอกินาว่า (Okinawa) เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่ามีทะเลและชายหาดสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น จนหลายคนถึงกับเรียกที่นี่ว่าเป็น ‘ฮาวายของญี่ปุ่น’ เลยทีเดียว แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่เพียงทะเลเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยสีสันของวัฒนธรรมอันหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีแหล่งมรดกโลกที่สำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่โอกินาว่าจะเป็นจังหวัดที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ต้องมาให้ได้สักครั้ง
วันนี้ fromJapan จะมาเล่าประวัติศาสตร์ของโอกินาว่าและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ รวมถึงแนะนำอาหารเลิศรสด้วย เรามั่นใจว่าทุกคนจะต้องสนุกไปกับบรรยากาศ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดโอกินาว่าอย่างแน่นอน!
- มาดูเสน่ห์ของจังหวัดโอกินาว่าผ่านคลิปกันเถอะ!
สารบัญ (Index)
ประวัติศาสตร์ของจังหวัดโอกินาว่า
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโอกินาว่า
อาหารท้องถิ่นของโอกินาว่า
อื่นๆ
ประวัติศาสตร์ของจังหวัดโอกินาว่า
สมัยราชอาณาจักร
จังหวัดโอกินาว่าเคยเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรริวกิวในอดีต ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น อาณาจักรริวกิวก่อตั้งขึ้นในปลายปีศตวรรษที่ 9 โดยโช ฮาชิ (Sho Hashi) องค์ปฐมกษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โชรุ่นแรก โช ฮาชิได้รวบรวมสามอาณาจักรที่สำคัญอย่าง Nanzan, Chuzan และ Hokuzan เข้าด้วยกัน ต่อมาตระกูลโชก็ได้ครองบัลลังก์และเริ่มต้นราชวงศ์โชที่สอง ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของโอกินาว่านี้เป็นที่รู้จักกันในนาม ‘ยุคทองแห่งการค้าขาย’
ในช่วงที่อาณาจักรริวกิวทำการค้าขายทางทะเลกับจีน ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ได้สร้างวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของริวกิวขึ้นมา จากความหลากหลายของวัฒนธรรมที่ได้รับในระหว่างการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้ากับต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 อาณาจักรริวกิวถูกรวมเข้าไว้ในระบบศักดินาของญี่ปุ่นภายใต้การปกครองของโชกุน และผนวกเข้ากับญี่ปุ่นในยุคของรัฐบาลเมจิ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเป็นจุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรริวกิวที่มีมานานกว่า 500 ปี แต่เหตุการณ์เดียวกันนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของจังหวัดโอกินาว่าด้วย
วัฒนธรรมของโอกินาว่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารในพระราชวัง Ryukyuan, ศิลปะ งานฝีมือ และเครื่องเขิน ทั้งหมดต่างมีรากฐานมาจากครั้นที่ยังเป็นราชอาณาจักรริวกิวในฐานะประเทศแห่งการค้าขาย
เดิมทีศิลปะการแสดงของโอกินาว่าก็มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความบันเทิงแก่คณะฑูตจากประเทศจีนที่เข้ามาทำการค้า
ศิลปะการเต้นรำแบบดั้งเดิมอย่าง Kumi-odori ที่นักเต้นจะต้องสวมเครื่องแต่งกายปราณีต ร่ายรำประสานกับท่วงทำนองที่บรรเลงด้วยซอ (Sanshin) และโคโตะ (จะเข้ญี่ปุ่น) แสดงให้เห็นถึงความสง่างามและความเป็นริวกิว
ดังนั้นเราจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวัฒนธรรมและประเพณีเหล่านี้ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้อย่างกว้างขวาง
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน
ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นบริเวณน่านน้ำในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก และในปี 1941 โอกินาว่าได้รับความเสียหายอย่างมากจากการสงครามครั้งนี้ เหตุการณ์ที่รุนแรงมากที่สุดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็น 1ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในเกาะ ในช่วงหลังสงคราม โอกินาว่าถูกปกครองภายใต้การปกครองจากสหรัฐเป็นเวลา 27 ปี จนกว่าจะกลับสู่การควบคุมของญี่ปุ่นเหมือนเดิม
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโอกินาว่า
ในปัจจุบันจังหวัดโอกินาว่าได้ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเป็นพิเศษ ด้วยสภาพอากาศที่อบอุ่นและวัฒนธรรมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติถึง 6,000,000 คนเลยทีเดียว
จังหวัดโอกินาว่าแบ่งออกเป็นเกาะหลักและหมู่เกาะรอบนอก ซึ่งเกาะหลักนั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือโอกินาว่าตอนใต้ โอกินาว่าตอนกลาง และโอกินาว่าตอนเหนือ
จังหวัดโอกินาว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวใดที่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย!
เมืองนาฮะและโอกินาว่าตอนใต้
1. ถนนโคกุซาอิโดริ (Kokusaidori street)
ถนนโคกุซาอิโดริ (Kokusai Dori street) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาฮะ (Naha) ยาวไปตามถนนประมาณ 2 กม. รอบบริเวณถนนแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ โรงแรม ร้านขายของที่ระลึก ร้านบูติก และห้างสรรพสินค้า
ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการจนถึงเวลา 22:00 น. นอกจากนี้ยังมีดนตรีสดที่บรรเลงขึ้นจากร้านอาหารหลายแห่ง
เป็นย่านที่สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและอาหารรสเลิศ รวมถึงแหล่งชอปปิ้งสุดพิเศษที่สายช้อปไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ข้อมูลเกี่ยวกับถนนโคกุซาอิโดริ (Kokusaidori street)
วิธีเดินทาง
- จากสนามบิน Naha นั่งรถไฟ Yui Rale ลงที่สถานี Miebashi เดิน 10 นาที
พิกัด
- 1-1 Makishi, Naha City, Okinawa
เวลาทำการ
- 9:00 – 22:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
2. ตลาดสดมากิชิ (Makishi Public Market)
ตลาดสดมากิชิ (Makishi Public Market) เป็นตลาดสดของเมืองนาฮะที่มีมานานกว่า 60 ปี และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้ออาหารสดจากโอกินาว่าได้ ของที่นำมาขายที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นปลา ผัก ผลไม้ และอาหารปรุงสำเร็จจากโอกินาว่า
โดยเฉพาะบริเวณชั้น 2 นั้นจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร เราสามารถซื้อกับข้าวจากชั้นล่างขึ้นไปทานที่ชั้น 2 ได้ หรือจะซื้ออาหารสดมาให้ทางร้านอาหารปรุงรสก็ได้นะ
ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดสดมากิชิ (Makishi Public Market)
วิธีเดินทาง
- เดิน 10 นาที จากสถานี Miebashi
พิกัด
- 2-10-1, Matsuo, Naha-City, Okinawa
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
3. ซากปราสาทชูริ (Shuri Castle)
ปราสาทชูริ (Shuri Castle) สถาปัตยกรรมสีแดงสดใสที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ริวกิวนั้น นับว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง การทูต และวัฒนธรรมของอาณาจักรริวกิวเมื่อครั้งอดีตตั้งแต่ปี 1945 อาคารหลักของปราสาทนั้นทำจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรริวกิว ภายในตัวปราสาทมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมจีนเเละญี่ปุ่นผสมผสานกันอย่างลงตัวจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของริวกิว
“อุนา” หรือลานกว้างหน้าอาคารหลักปูด้วยแผ่นกระเบื้องสีแดงสลับกับสีขาวเป็นบริเวณที่ใช้ทำพิธีการของเหล่าขุนนาง ส่วนห้องอ่านหนังสือที่เชื่อมกับห้องโถงหลักนั้น นอกจากจะเป็นสถานที่ทรงงานของกษัตริย์แล้วก็ยังเป็นห้องรับรองผู้ส่งสารจากจีนและเจ้าหน้าที่จากซัทสึมะอีกด้วย
แม้ว่าวัฒนธรรมของราชอาณาจักรริวกิวถูกทิ้งให้อยู่ในซากปรักหักพัง แต่ในปี 1992 ปราสาทชูริได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการระลึกถึงปีที่ 20 นับของการกลับคืนสู่ญี่ปุ่นของโอกินาว่า
ในเดือนธันวาคมปี 2000 ปราสาทชูริได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแห่งที่ 11 ของญี่ปุ่น
- *หมายเหตุ : ปราสาทชูริประสบเหตุไฟไหม้เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2019 ขณะนี้ทางการกำลังบูรณะปราสาทขึ้นใหม่อีกครั้ง
ข้อมูลเกี่ยวกับซากปราสาทชูริ (Shuri Castle)
วิธีเดินทาง
- เดิน 4 นาทีจากสถานี Shuri
พิกัด
- 1 Chome-2 Shurikinjocho, Naha, Okinawa 903-0815
เวลาทำการ
- 8:00 – 19:30 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
4. โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World Culture Kingdom Gyokusendo)
โอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World Culture Kingdom Gyokusendo) เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของจังหวัด และเป็นธีมพาร์คที่เน้นวัฒนธรรมดั้งเดิมของโอกินาว่า ภายในมีหมู่บ้านอาณาจักรริวกิว (Kingdom Village) ถ้ำเกียวคุเซนโด (Gyokusendo) และพิพิธภัณฑ์สวนงูฮาบุพาร์ค (Habu Museum Park) ทั้งนี้สถานที่แต่ละแห่งจะมีค่าเข้าชมไม่เท่ากัน
เนื่องจากโอกินาว่าเคยเป็นราชอาณาจักรริวกิวที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์และวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีความสวยงามตามแบบฉบับริวกิว นอกจากจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศย้อนยุคแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถศึกษาประวัติศาสตร์โอกินาว่าในยุคริวกิวและร่วมสนุกกับกิจกรรม workshop งานฝีมือได้ในหมู่บ้านหัตถกรรมดั้งเดิม
หากทอดสายตาไปรอบๆ เราจะเห็นบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนน หลังคาบ้านทำด้วยกระเบื้องสีแดง รวมถึงร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ
นอกจากนี้ เรายังสามารถชมถ้ำหินปูนรูปร่างสวยงามตระการตาที่เกิดมาจากแนวปะการังและเพลิดเพลินไปกับการแสดงท้องถิ่นของโอกินาว่าได้อีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับโอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World Culture Kingdom Gyokusendo)
วิธีเดินทาง
- จากสถานี Asahibashi ขึ้นรถบัสหมายเลข #54 (สาย Maekawa) หรือ #83 (สาย Gyokusendo) และลงที่ป้ายรถบัส Gyokusendo-mae
พิกัด
- 1336 Tamakimaegawa, Nanjo City, Okinawa
เวลาทำการ
- 9:00 – 18:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
5. ถนนชูริคินโจ (Shuri Kinjo-Cho Road)
ถนนชูริคินโจ (Shuri Kinjo-Cho Road) สร้างขึ้นในรัชสมัยกษัตริย์โชชินเพื่อเป็นทางเดินเชื่อมต่อจากปราสาทชูริไปยังท่าเรือ แต่เดิมถนนสายนี้มีความยาวถึง 10 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 300 เมตรเท่านั้น
ความโดดเด่นของถนนชูริคินโจคือทั้งถนนทำจากหินปูนริวกิว ระหว่างทางเดินจะมีจุดนั่งพักที่เราสามารถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของสถานที่แห่งนี้ได้ บ้านเรือนเก่าแก่ของโอกินาว่าที่เรียงรายไปตลอดสองฝั่งทางเดินนั้นช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลเกี่ยวกับถนนชูริคินโจ (Shuri Kinjo-Cho Road)
วิธีการเดินทาง
- นั่งโมโนเรลโอกินาว่ายูอิเรลไปลงที่สถานีชูริ แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
พิกัด
- 2 Chome-84-3 Shurikinjocho, Naha, Okinawa 903-0815
แผนที่ Google Map
โอกินาว่าตอนกลาง
1. แหลมซัมปะ (Cape Zanpa)
แหลมซัมปะ (Cape Zanpa) เป็นหน้าผาสูง 30 เมตรที่ทอดยาวไปตลอด 2 กิโลเมตร บริเวณสุดขอบผาจะมีประภาคารสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ จนเปรียบเสมือนเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่
ยิ่งไปกว่านั้น แหลมซัมปะยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่มีชื่อเสียงของโอกินาว่าอีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับแหลมซัมปะ (Cape Zanpa)
วิธีการเดินทาง
- จากสนามบินนาฮะ สามารถเดินทางไปที่แหลมซัมปะได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- รถยนต์ : นั่งรถแท็กซี่หรือเช่ารถยนต์ขับไป โดยใช้เวลาประมาณ 80 นาที / หรือถ้าใช้ทางแยกต่างระดับ Okinawa Kita IC จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที
- รถบัส : นั่งรถบัสสาย 28 ไปลงที่ป้ายซัมปะมิซากิโคเอ็น แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
พิกัด
- 675 Uza, Yomitan, Nakagami District, Okinawa 904-0328
ติดต่อ
- 0989580038
เบอร์โทรศัพท์
- 098-958-0038
แผนที่ Google Map
2. สวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Botanical Gardens)
สวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Botanical Gardens) เป็นสวนที่เราสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันร่มรื่นได้อย่างเพลิดเพลิน โดยมีพืชพรรณสวยงามแปลกตามากกว่า 1,300 ชนิด และที่พิเศษสุดๆก็คือสถานที่แห่งนี้มีต้นยุซุระยาชิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น!
นอกจากนี้ภายในสวนก็ยังมีร้านอาหารเพื่อสุขภาพ และเราสามารถเล่นกับสัตว์ต่างๆได้อย่างใกล้ชิดที่นี่ด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับสวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Botanical Gardens)
วิธีการเดินทาง
- จากสนามบินนาฮะ สามารถเดินทางไปที่สวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- รถยนต์ : นั่งรถแท็กซี่หรือเช่ารถยนต์ขับไป โดยใช้เวลาประมาณ 60 นาที / หรือถ้าใช้ทางแยกต่างระดับ Okinawa Kita IC จะใช้เวลาเพียง 5 นาที
- รถบัส : นั่งรถบัสสาย 90 ไปลงที่ป้ายโนมินเค็งคิวเซ็นทามาเอะ แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
พิกัด
- 2146 Chibana, Okinawa, 904-2143 ญี่ปุ่น
เวลาทำการ
- 9:00 – 22:00 น.
ค่าเข้าชม
- บุคคลทั่วไป/ผู้ใหญ่ : 1,500 เยน
- นักเรียนมัธยมปลาย : 1,000 เยน
- นักเรียนประถมและมัธยมต้น : 500 เยน
เบอร์โทรศัพท์
- 098-939-2555
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
3. ซากปราสาทคัทสึเร็น (Katsuren Castle)
ปราสาทคัทสึเร็น (Katsuren Castle) เป็นปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในอดีตปราสาทแห่งนี้เป็นที่พำนักของกษัตริย์มานานหลายร้อยปี ก่อนจะกลายเป็นจังหวัดโอกินาว่ามาจนถึงปัจจุบัน ปราสาทคัทสึเร็นเป็นปราสาทแบบ Teikaku-shiki คือตั้งอยู่บนพื้นที่ราบทั้งสี่ และมีโครงสร้างเป็นรูปแบบบันได
กำแพงปราสาทถูกสร้างขึ้นโดยใช้ภูมิทัศน์จากธรรมชาติ โดยใช้กำแพงหินเป็นเสมือนขอบหน้าผาชัน กำแพงนี้มีความสูงมากกว่าระดับน้ำทะเล 98 เมตร มีบันไดโค้งและเนินลาดชัน ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันข้าศึก
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบกระเบื้องญี่ปุ่นโบราณและเสาหินสลักจำนวนมาก อาคารหลังคากระเบื้องที่ถูกสร้างขึ้นแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของปราสาทในอดีต
ข้อมูลเกี่ยวกับซากปราสาทคัทสึเร็น (Katsuren Castle)
วิธีเดินทาง
- นั่งรถไฟสาย Yui Rail ไปลงที่สถานี Asahibashi จากนั้นเดินไปที่สถานีขนส่ง Naha โดยใช้เวลา 5 นาที จากนั้นให้นั่งรถบัสสาย Yokatsu (#52) ไปลงที่ป้ายรถบัส Katsuren Danchimae แล้วเดินประมาณ 5 นาที
พิกัด
- 3807-2 Katsurenhaebaru, Uruma, Okinawa 904-2311, Japan
เวลาทำการ
- 09:00 – 18:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
4. หาดทรอปิคอล (Tropical Beach)
หาดทรอปิคอล (Tropical Beach) เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนท้องถิ่น รวมถึงชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ชายหาดแห่งนี้มีโต๊ะและเก้าอี้ให้เช่าสำหรับปาร์ตี้บาร์บีคิว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้องอาบน้ำ ร้านค้า รวมถึงอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ
ด้วยเหตุนี้ หาดทรอปิคอลจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเที่ยวในช่วงวันหยุดของญี่ปุ่น
ข้อมูลเกี่ยวกับหาดทรอปิคอล (Tropical Beach)
วิธีเดินทาง
- จากสถานีขนส่ง Naha Bus Terminal ให้นั่งรถบัสสาย Naha Airport Limousine Bus ไปลงป้าย Convention center mae
พิกัด
- 4-chōme-2-1 Mashiki, Ginowan, Okinawa 901-2224
เวลาทำการ
- 9:00 – 21:30 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล)
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
5. ถนนกลางทะเล (Mid-Sea Road)
ประสบการณ์ที่ต้องลองสักครั้งก็คือ ‘การขับรถบนมหาสมุทร’ และเราสามารถทำแบบนี้ได้ที่ ถนนกลางทะเล (Mid-Sea Road) จังหวัดโอกินาว่า
Mid-Sea Road เป็นถนนที่รายล้อมไปด้วยทะเล ทั้งสองฝั่งของถนนสายนี้เชื่อมกับเกาะ 4 แห่งที่อยู่รอบนอกเกาะหลัก และยังเชื่อมกับ Katsuren Peninsula และเกาะ Henza ด้วย
นอกจากนี้ จุดพักรถ Kaichudoro Road Park ที่อยู่บนถนนสายนี้ก็ยังมีร้านค้าที่ขายสินค้าจากท้องถิ่นและร้านอาหารอีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับถนนกลางทะเล (Mid-Sea Road)
วิธีเดินทาง
- ขับรถจากทางแยกต่างระดับ Okinawa Kita IC โดยใช้ทางด่วนโอกินาว่า ผ่านถนน Okinawa Prefectural Road สาย 36 และ 10 ไปยัง Yonashiroyahira
พิกัด
- Yonashiroyahira, Uruma-shi
เวลาทำการ
- ตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
โอกินาว่าตอนเหนือ
1. หมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura Village)
หมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura Village) เป็นธีมพาร์คขนาดเล็กที่มีคอนเซปต์เป็นการเผยแผ่วัฒนธรรมดั้งเดิมของโอกินาว่าในสมัยราชวงศ์ริวกิว
หมู่บ้านริวกิวประกอบไปด้วยบ้านพักแบบดั้งเดิมที่มุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดง ล้อมรอบตัวบ้านด้วยกำแพงหิน นอกจากนี้ก็จะมีศาลเจ้าและกิจกรรมเวิร์กชอปต่างๆที่ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าร่วมได้
เราจะได้ทดลองประดิษฐ์สิ่งของต่างๆในสไตล์ริวกิว ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องปั้นดินเผา ถักที่รองแก้ว หรือทาสีรูปปั้น Shisa ขนาดเล็ก ส่วนใครเป็นสายดนตรีก็สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ได้ด้วยการเล่นเครื่องดนตรีท้องถิ่นอย่าง Sanshin
นอกจากนี้ เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการแสดงต่างๆได้มากมาย อาทิ การแสดงตีกลอง Eisa Taiko การแสดงระบำริวกิว คอนเสิร์ต ขบวนพาเหรด รวมถึงพิธีกรรมต่างๆที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยริวกิว
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถทานอาหารยอดนิยมของโอกินาว่าและซื้อของที่ระลึกจากท้องถิ่นได้อีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้านริวกิว (Ryukyu Mura Village)
วิธีเดินทางนั่งรถบัส
- Naha ไปยัง Nago แล้วลงที่ป้าย Ryukyu mura ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
พิกัด
- 1130 Yamada, Onna, Kunigami District, Okinawa 904-0416
เวลาทำการ
- 09:00 – 17:30 น.
ค่าธรรมเนียม
- ผู้ใหญ่ : 1,500 เยน
- นักเรียนมัธยม : 1,300 เยน
- นักเรียนประถม : 600 เยน
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ : เข้าชมฟรี
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
2. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ถ้าหากเราไม่ได้ไปเยือนก็จะเหมือนมาไม่ถึงโอกินาว่า!
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิถือเป็นส่วนหนึ่งของ Ocean Expo Park และจัดว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก เพราะมีความจุใหญ่มากพอที่จะให้ฉลามวาฬว่ายน้ำเล่นได้
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Motobu ปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำถึง 740 ชนิด
ใครมีโอกาสได้มาเที่ยวโอกินาว่า ห้ามพลาดที่นี่เลย!
ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)
วิธีเดินทาง
- หากเดินทางมาจากสนามบินนาฮะ สามารถโดยสารรถ Express Bus, รถบัสท้องถิ่น และแท็กซี่มาที่อควาเรียมแห่งนี้ได้ หากเช่ารถขับหรือนั่งรถแท็กซี่จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (ผ่านทางด่วนโอกินาว่า) ส่วนรถ Express Bus จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
พิกัด
- 424 Azaishikawa, Motobu, Kunigami District, Okinawa
เวลาทำการ
- เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ : เปิดเวลา 8:30 – 18:30 น.
- เดือนมีนาคม – กันยายน : เปิดเวลา 8:30 – 20:00 น.
ค่าธรรมเนียม
- ผู้ใหญ่ : 1,800 เยน
- นักเรียนมัธยม : 1,250 เยน
- นักเรียนประถม : 620 เยน
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ : เข้าชมฟรี
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
3. ซากปราสาทนากิจิน (Nakijin Castle)
ปราสาทนากิจิน (Nakijin Castle) ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Motobu ทางตอนเหนือของโอกินาว่า และเป็นหนึ่งในปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นอกจากปราสาทนากิจินจะมีความสวยงามเทียบเท่ากับปราสาทชูริแล้ว ปราสาทแห่งนี้ยังตั้งอยู่ในพื้นที่ปลอดผู้คนอีกด้วย เราจึงสามารถเดินถ่ายรูปเล่นได้แบบชิลล์ๆ
หากมองไปยังกำแพงปราสาท เราจะเห็นว่าบนกำแพงมีก้อนหินริวกิววางซ้อนเป็นเส้นโค้งอย่างงดงาม กลมกลืนไปกับภูมิประเทศและบรรยากาศอันแสนสดชื่นที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม สร้างเอกลักษณ์ความเป็นปราสาทนากิจินได้เป็นอย่างดี
ปราสาทนากิจินสร้างขึ้นในช่วงปลายยุค 1200 ย้อนไปในสมัยโบราณ ราชอาณาจักรริวกิวมีช่วงของยุคสงครามกลางเมืองที่เรียกกันว่า ‘ยุคสมัยซันซัง’ ในช่วงเวลานั้นราชอาณาจักรริวกิวได้แบ่งออกเป็น 3 ก๊ก อันได้แก่ โฮคุซัง (Hokuzan) , ชูซัง (Chuzan) และ นันซัง (Nanzan)
ครั้งหนึ่งปราสาทนากิจินเคยอยู่ภายใต้การครอบครองของราชาแห่งโฮคุซัง ซึ่งปกครองพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่ตอนเหนือของโอกินาว่าไปจนถึงภูมิภาคอามามิ แต่แล้วในปี 1416ปราสาทก็ถูกโจมตีโดย ‘โชฮาชิ’ ซึ่งเป็นผู้ปกครองชูซัง อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดแล้วโชฮาชิก็ได้รวบรวม 3 ก๊กเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน จนกำเนิดเป็นราชอาณาจักรริวกิว
นอกจากซากปรักหักพังของปราสาทแล้ว ที่นี่ก็ยังมีศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอีกด้วย ที่หมู่บ้านนากิจินจะมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆซึ่งจัดแสดงสิ่งของที่ถูกค้นพบในบริเวณปราสาท เช่น เครื่องปั้นดินเผา เหรียญจีน และเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของหมู่บ้านนากิจินในอดีตอีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับซากปราสาทนากิจิน (Nakijin Castle)
วิธีเดินทาง
- ขึ้นรถบัสด่วนสาย #111 ที่สนามบินนาฮะ ไปลงที่สถานีขนส่ง Nago ซึ่งเป็นป้ายรถเมล์สุดท้าย จากนั้นให้ขึ้นรถบัสสาย # 66 ไปลงที่สถานีขนส่ง Nago แล้วลงที่ป้าย Nakijin Joseki Iriguchi จากนั้นก็เดินประมาณ 15 นาที
พิกัด
- 5101 Imadomari, Nakijin, Kunigami District, Okinawa 905-0428
เวลาทำการ
- 9:00 – 18:00 น.
ค่าธรรมเนียม
- 400 เยน (สำหรับเข้าชมทั้งปราสาทและพิพิธภัณฑ์)
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
4. แหลมมังซาโมะ (Cape Manzamo)
แหลมมังซาโมะ (Cape Manzamo) เป็นหน้าผาปะการังอันสวยงามที่หันออกไปทางทะเลจีนตะวันออก พื้นที่บริเวณแหลมแห่งนี้ล้วนอุดมไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ ที่นี่จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติของโอกินาว่า
หากเดินเล่นไปตามทางเดิน เราจะเห็นหน้าผาปะการังรูปช้าง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียง
แหลมมังซาโนะนั้นไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์ที่แสนงดงามของมหาสมุทรเท่านั้น แต่ทัศนียภาพยามอาทิตย์ตกดินก็สวยงามไม่แพ้สถานที่ใดๆในโอกินาว่าเลย
ข้อมูลเกี่ยวกับแหลมมังซาโมะ (Cape Manzamo)
วิธีเดินทาง
- จากสถานีรถบัส Kokusaisen Ryokaku (Naha bus terminal) ให้นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Onna Son Yakuba mae (ใช้เวลา 2 ชม.) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 13 นาที
พิกัด
- Manzamo Onna, Kunigami District, Okinawa
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
5. แหลมมาเอดะและถ้ำใต้น้ำ (Cape Maeda & Blue cave)
แหลมมาเอดะ (Cape Maeda) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันตกของโซนใจกลางโอกินาว่า ลักษณะของแหลมแห่งนี้เป็นโขดหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแนวปะการังซึ่งยกตัวสูงขึ้นเหนือระดับน้ำทะเล ด้านล่างสามารถมองเห็นมหาสมุทรสีเขียวมรกตและแนวปะการังที่สวยงามของโอกินาว่าได้
สำหรับ ถ้ำใต้น้ำ Blue Cave นั้นเป็นสถานที่ที่ผู้ชื่นชอบการดำน้ำจะพลาดไม่ได้เลย เพราะทัศนียภาพภายในถ้ำเป็นสีฟ้าสมชื่อ Blue Cave เป็นภาพที่สวยงามและอันซีนสุดๆ
นักดำน้ำสามารถดำได้ลึกถึง 30 เมตรสู่บริเวณ Manza Dream Hole หรือถ้าใครไม่สะดวกดำน้ำก็สามารถนั่งเรือท้องกระจกของ Busena Marine Park เพื่อชมความงามของที่นี่ก็ได้เช่นกัน
ข้อมูลเกี่ยวกับแหลมมาเอดะและถ้ำใต้น้ำ (Cape Maeda & Blue cave)
วิธีเดินทาง
- นั่งรถบัสจากสนามบิน Naha ไปยังสถานีขนส่ง Ryukyu-Mura (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) จากนั้นเดินไปยัง Cape Maeda (ที่ถ้ำ Blue Cave) โดยใช้เวลามากกว่า 30 นาที หรือถ้านั่งแท็กซี่จะใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
พิกัด
- 469-1 Maeda, Onna, Kunigami District, Okinawa 904-0417, Japan
เว็บไซต์
- แหลมมาเอดะ : https://maedamisaki.jp/eng
- เรือท้องกระจก Busena Marine Park : https://www.busena-marinepark.com/english/index.html
แผนที่ Google Map
หมู่เกาะรอบนอก
1. เกาะโทกะชิกิ (Tokashiki Island)
เกาะโทกะชิกิ (Tokashiki Island) เป็นเกาะที่กินพื้นที่มากที่สุดในวนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเครามะ ใช้เวลาเดินทางเพียง 35 นาทีจากท่าเรือโทมาริ เกาะแห่งนี้มีหอชมวิวที่เมื่อทอดสายตาออกไปก็จะเห็นทิวทัศน์ของทะเลสีครามอันสวยงาม นอกจากนี้บนเกาะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคณะเยาวชนที่ต้องการค้างแรมอีกด้วย เกาะแห่งนี้จึงได้รับความนิยมอย่างมากจากหนุ่มสาวชาวโอกินาว่าและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ทางฝั่งตะวันตกของเกาะมีหาดโทคะชิคุ (Tokashiku Beach) และหาดอาฮะเรน (Aharen Beach) ซึ่งเป็นหาดที่สวยงามและเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องด้วยหาดเหล่านี้มีวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลสีฟ้าใสอันสวยงาม อีกทั้งยังมีบริการห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ และร้านค้าให้พร้อมสรรพ นอกจากนี้ยังมีร้านบริการให้เช่าชุดอุปกรณ์ดำน้ำลึกและสนอร์เกิลอีกด้วย
หากมาเที่ยวที่เกาะโทกะชิกิ เราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติทางทะเลที่เต็มไปด้วยระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลหลากชนิด แนวปะการังที่สวยงาม หรือบางครั้งเราอาจจะเห็นแม่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่บนชายหาดด้วยนะ
ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะโทกะชิกิ (Tokashiki Island)
วิธีเดินทาง
- นั่งเรือจากท่าเรือโทมาริ – ท่าเรือโทกะชิกิ โดยใช้เวลาดังต่อไปนี้
- เรือด่วน : ใช้เวลา 35 นาที
- เรือเฟอร์รี่ : ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที
- *ไม่สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้
พิกัด
- Tokashiki, Shimajiri District, Okinawa, Japan
แผนที่ Google Map
2. เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)
เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island) เป็นหนึ่งในเกาะรอบนอกของจังหวัดโอกินาว่าที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ใหญ่อันดับ 3 รองจากเกาะหลักโอกินาว่าและเกาะอิริโอโมเตะ
ด้วยความที่เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และการคมนาคม บรรยากาศในเมืองจึงเต็มไปด้วยสีสันของผู้คนที่สัญจรไปมา แต่เราก็ยังคงเพลิดเพลินไปกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติได้พร้อมๆกัน ณ เกาะแห่งนี้
ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)
- การเดินทางจากสนามบิน Naha ถึงสนามบิน New Ishigaki Airport โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- *หมายเหตุ : ไม่สามารถเดินทางโดยเรือเฟอร์รีได้
แผนที่ Google Map
3. เกาะมิยาโกะ (Miyako Island)
เกาะมิยาโกะ (Miyako Island) เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของจังหวัดโอกินาว่า เนื่องจากมีพื้นที่ราบเรียบและไม่มีภูเขาสูง จึงทำให้มองเห็นทัศนียภาพของชายทะเลได้จากหลายจุด พร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศสดชื่นผ่อนคลายด้วยวิวทิวทัศน์ที่แสนงดงาม
ว่ากันว่าชายหาดบนเกาะมิยาโกะสวยงามมาก แนวปะการังรอบเกาะก็เหมาะกับกิจกรรมดำน้ำตื้นมากที่สุด ที่สำคัญที่สุดคือเราสามารถไปเที่ยวเกาะมิยาโกะได้ตลอดทั้งปีด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปเที่ยวเกาะแห่งนี้จะอยู่ระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน เพราะอากาศในช่วงนี้จะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงสุดไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้น้ำทะเลอุ่นกำลังดี
ข้อมูลเกี่ยวกับเกาะมิยาโกะ (Miyako Island)
วิธีเดินทาง
- จากสนามบินนาฮาถึงสนามบินมิยาโกะ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
- *หมายเหตุ : ไม่สามารถเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ได้
แผนที่ Google Map
4. เกาะคุเมะ (Kume Island)
เกาะคุเมะ (Kuma Island) ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลจีนตะวันออก ซึ่งมีระยะห่างจากเกาะหลักโอกินาว่าไปทางทิศตะวันตกประมาณ 100 กิโลเมตร นอกจากจะเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโอกินาว่าแล้ว เกาะคุเมะยังเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยแนวปะการังอันแสนงดงามอีกด้วย
ในสมัยราชวงศ์ริวกิว เกาะคุเมะเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมากที่สุด จนได้รับการยกย่องว่าเป็น คุมิโนะชิมะ (Kumi no Shima) ซึ่งหมายถึง ‘เกาะที่สวยงามราวอัญมณี’ หรือ ‘เกาะที่มีความสวยงามโดดเด่นมากที่สุดในบรรดาเกาะแก่งต่างๆของหมู่เกาะริวกิว’
พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะคุเมะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติประจำจังหวัดโอกินาว่า นอกจากนี้กระแสน้ำคุโรชิโอะที่อยู่ใกล้ชายฝั่งของเกาะคุเมะยังก่อให้เกิดเขตประมงที่อุดมสมบูรณ์ จนที่นี่ได้กลายมาเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากเหล่านักตกปลา
เกาะคุเมะ (Kume Island)
วิธีการเดินทาง
- จากสนามบินนาฮา – สนามบิน ใช้เวลาเกาะคุเมะ ใช้ประมาณ 30 นาที
นั่งเรือจากท่าเรือโทมาริ – ท่าเรือคาเนะกุซุคุ, เกาะคุเมะ เรือเฟอร์รี่ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง
พิกัด
- Kumejima, Shimajiri District, Okinawa, Japan
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
5. เกาะฮาเตะโนะฮามะ (Hatenohama Island)
เกาะฮาเตะโนะฮามะ (Hatenohama Island) เป็นเกาะที่มีเพียงหาดทรายและปราศจากพื้นดิน เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะคุเมะ ว่ากันว่านี่เป็นเกาะที่งดงามที่สุดในซีกโลกตะวันออก และเป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เกาะฮาเตะโนะฮามะจึงถูกจัดอันดับความนิยมไว้เป็นอันดับต้นๆของชายหาดที่สวยงามในโอกินาว่าเสมอ
เมื่อมองไปรอบๆเกาะ เราจะเห็นเพียงหาดทรายสีขาวสะอาดตากับท้องทะเลสีเขียวมรกต เกาะแห่งนี้ไม่มีร่มเงาจากต้นไม้หรือโขดหินสูงเลย เพราะเกาะฮาเตะโนะฮามะเป็นเกาะร้าง! ดังนั้นถ้าใครได้ไปเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมพกครีมกันแดดไปด้วยนะ
เกาะฮะเตะโนะฮามะ (Hatenohama Island)
วิธีการเดินทาง
- นั่งเรือจากเกาะคุเมะ ใช้เวลา 20 นาที
พิกัด
- Japan, 〒901-3100 Okinawa, Shimajiri District, Kumejima, o日本
เบอร์ติดต่อ
- 098-851-7973
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
แผนที่ Google Map
อาหารท้องถิ่นของโอกินาว่า
จังหวัดโอกินาว่า นั้นมีความแตกต่างอย่างมากจากจังหวัดอื่นๆในญี่ปุ่น อาหารที่นี่จึงมีเอกลักษณ์อันเกิดจากการผสมผสานกันของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกของโอกินาว่า จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่โอกินาว่าจะมีอาหารรสเลิศมากมายที่เราสามารถพบได้แค่บนเกาะแห่งนี้เท่านั้น
จุดเด่นของอาหารโอกินาว่านั้นเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการซึ่งดีต่อสุขภาพ
เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดนี้จะมีอะไรบ้าง
สารบัญย่อย
- ชัมปุรุ (Champuru)
- โอกินาว่าโซบะ (Okinawa Soba)
- ทาโคไรซ์ (Taco Rice)
- ซาชิมิเนื้อแพะ (Yagi Sashimi)
- ไอศกรีมเกลือ (Salt Ice cream)
- อะวาโมริ (Awamori)
1. ชัมปุรุ (Champuru)
คำว่า ชัมปุรุ (Champuru) นั้นมีความหมายว่า ผัด ในภาษาท้องถิ่นของโอกินาว่า อีกทั้งยังหมายถึงส่วนผสมต่างๆของอาหารจานนี้ที่ผ่านการปรุงสุกมาด้วยวิธีผัด
เมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Goya Champuru หรือมะระโอกินาว่าที่มีรสขม ผัดกับเต้าหู้ ไข่ และหมู
นอกจากนี้ยังมีการผัดแบบอื่น ได้แก่ Champuru Fu (กลูเตนข้าวสาลี) , Champuru เต้าหู้, และ Champuru มะละกอ
2. โอกินาว่าโซบะ (Okinawa Soba)
ถ้าเทียบกับอาหารบ้านเรา เมนูนี้มีความนิยมเทียบเท่ากับต้มยำกุ้งเลยทีเดียว เพราะ โอกินาว่าโซบะ (Okinawa Soba) มีความแตกต่างจากโซบะทั่วๆไป จากการใช้ส่วนผสมของข้าวสาลีมากกว่าแป้งบัควีทนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เนื้อสัมผัสของเส้นโอกินาว่าโซบะจึงให้ความรู้สึกคล้ายเส้นอุด้งมากกว่าเส้นโซบะญี่ปุ่นทั่วไป
โอกินาว่าโซบะนั้นมีลักษณะคล้ายกับราเมนที่นำเส้นมาเสิร์ฟในน้ำซุปพร้อมทอปปิ้งหลากหลายชนิด ทอปปิ้งส่วนใหญ่จะเป็นหมูตุ๋น เรียกว่าโซกิโซบะ อีกทั้งยังมีต้นหอม คามาโบโกะ (เค้กปลา) และขิงแดงด้วย
3. ทาโคไรซ์ (Taco Rice)
แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนสำหรับต้นกำเนิดของ ทาโคไรซ์ (Taco Rice) แต่ที่รู้กันแน่ๆคือมีการค้นพบเมนูนี้ที่โอกินาว่าในช่วงก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
หน้าตาของทาโคไรซ์นั้นดูละม้ายคล้ายกับข้าวราดแกงบ้านเรา แต่ส่วนผสมของกับจะเน้นไปที่เนื้อ ผักสลัด มะเขือเทศ และซอสซัลซา โดยราดลงบนข้าวสวยเม็ดอ้วนกลมร้อนๆ นอกจากนี้ก็มักจะมีทอปปิ้งอื่นๆเพิ่มเข้ามาด้วย เช่น ชีสหรือหัวหอม
แม้ว่าโดยปกติแล้วคนญี่ปุ่นจะคุ้นเคยกับการใช้ตะเกียบทานข้าว แต่สำหรับการทานทาโคไรซ์นั้นจะนิยมใช้ช้อนมากกว่า อาหารชนิดนี้จึงได้รับความนิยมจากชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในโอกินาว่าเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือเป็นเมนูที่ราคาจับต้องได้ เรียกว่าอิ่มจังตังค์เหลือเยอะก็ว่าได้ 😂
4. ซาชิมิเนื้อแพะ (Yagi Sashimi)
Yagi Sashimi หรือ ซาชิมิเนื้อแพะ เป็นหนึ่งในอาหารสุดท้าทายที่ต้องลองเมื่อมาเยือนโอกินาว่า เนื้อแพะซาชิมิที่นี่จะเสิร์ฟมาในรูปแบบเดียวกับซาชิมิอาหารทะเลทั่วไป อาหารจานนี้มีรสชาติและกลิ่นที่ค่อนข้างแรง อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวเป็นพิเศษอีกด้วย
ใครอยากทานเมนูที่ท้าทายขึ้นมาหน่อยเมื่อเทียบกับอาหารทั่วๆไป ต้องลองซาชิมิเนื้อแพะแล้วล่ะ!
5. ไอศกรีมเกลือ (Salt Ice-cream)
ไอศกรีมเกลือ (Salt Ice-cream) เป็นชื่อที่อ่านแล้วอาจจะตกใจ หลายๆคนก็สงสัยด้วยว่าถ้างั้นมันก็เป็นไอศกรีมรสเค็มน่ะสิ!? แต่เชื่อเถอะว่าหากรู้ที่มาแล้วทุกคนจะต้องอยากชิมแน่นอน!
Yukishio หรือ เกลือหิมะ นั้นถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพจากเกาะมิยาโกะในโอกินาว่า ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่ามีแร่ธาตุหลากหลายชนิดมากที่สุดในโลก เกลือหิมะนั้นมีรสชาติอันหลากหลายให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรสชบา, โกโก้, วาซาบิ, พริกไทย, งาดำ, ชาเขียว ฯลฯ และเป็นเกลือชนิดนี้นี่เองที่ผสมอยู่ในไอศกรีมเกลือดังกล่าว
ทีนี้หลายๆคนคงเริ่มอยากลิ้มลองกันขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะ ^^
6. อะวาโมริ (Awamori)
อะวาโมริ (Awamori) เป็นสุรากลั่นที่มีลักษณะเฉพาะของโอกินาว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ระหว่าง 30-40 เปอร์เซ็นต์ เครื่องดื่มชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกันกับเหล้าโชจูของภูมิภาคคิวชู แต่แตกต่างกันตรงที่ว่าอะวาโมรินั้นทำจากข้าวไทยและใช้ราดำในการหมัก
อาวะโมรินับเป็นเครื่องดื่มพื้นเมืองของจังหวัดโอกินาว่า อีกทั้งยังมีจำหน่ายอย่างกว้างขวางทั่วทั้งเกาะอีกด้วย
สายดื่มคนไหนได้มาเที่ยวโอกินาว่า ห้ามพลาดเลย!
อื่นๆ : แหล่งชอปปิ้งในโอกินาว่า
1. AEON MALL Okinawa Rycom
สำหรับผู้ที่รักการชอปปิ้งเป็นชีวิตและจิตใจ คงพลาดไม่ได้ที่จะไม่มาสถานที่แห่งนี้
AEON MALL Okinawa Rycom เป็นศูนย์การค้าที่มีร้านค้าให้ช้อปกว่า 220 ร้าน รวมถึงอาหารอร่อยๆมากมาย อีกทั้งยังมีสิ่งให้ความบันเทิงทางวัฒนธรรม รวมความหลากหลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอกินาว่าเอาไว้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้เราจะสังเกตเห็นว่าทางเข้ามีรูปปั้น Shiisaa ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความเป็นโอกินาว่าอย่างแท้จริง
ข้อมูลเกี่ยวกับ AEON MALL Okinawa Rycom
วิธีเดินทาง
- นั่งรถบัสสาย #125 หรือ #152 จาก Naha Bus Terminal ไปลงที่ป้าย Aeon Mall Okinawa Rycom : Express Line ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 24 นาที
พิกัด
- 1 rycom kitanakagusuku-son nakagami-gun okinawa
เวลาทำการ
- 10:00 – 22:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
2. American Village
American Village เป็นศูนย์รวมร้านอาหารและย่านชอปปิ้งที่มีชื่อเสียงของโอกินาว่า เราสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้านำเข้าจากอเมริกา ไปจนถึงร้านค้าขายของท้องถิ่นของโอกินาว่า นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการให้เช่าจักรยานด้วย
ภายในมีห้างสรรพสินค้ากลางแจ้งขนาดใหญ่สไตล์อเมริกันแห่งนี้จะมีชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ รวมถึงร้านเสื้อผ้าแบรนด์อเมริกัน นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารอเมริกันแท้ๆ ซึ่งมีเมนูอย่างฮอตดอกและแฮมเบอร์เกอร์ให้ทานเล่น
ยิ่งไปกว่านั้น เราสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติกได้ด้วยการนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินริมหาดในบริเวณใกล้ๆกันได้ด้วย และในยามพลบค่ำเราสามารถสนุกสนานไปกับบรรยากาศของค่ำคืนที่ไม่ยอมหลับใหลได้
ข้อมูลเกี่ยวกับ American Village
วิธีเดินทาง
- นั่งรถบัสสาย 28, 29, 120 จาก Naha Bus Terminal ไปลงที่ป้าย Kuwae ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
พิกัด
- American Village, 9-1 Mihama, Chatan, Okinawa
เวลาทำการ
- 10:00 – 22:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
3. Blue Seal Makiminato
ร้านอาหารอเมริกัน Blue Seal Makiminato แห่งแรกที่เปิดในจังหวัดโอกินาว่าก็คือ สาขามากิมินาโตะ แห่งนี้นี่เอง! ด้วยการออกแบบและการตกแต่งภายในร้านให้เป็นแบบอเมริกันย้อนยุค เราจึงรู้สึกเหมือนได้ไปอเมริกาทั้งที่ยังอยู่ในโอกินาว่า
นอกจากนี้เรายังสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารอเมริกันได้อย่างหลากหลาย เช่น แฮมเบอร์เกอร์ และอาหารอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงขนมหวาน เช่น ไอศกรีมและพาร์เฟ่ต์
หากใครเกิดเบื่ออาหารญี่ปุ่นขึ้นมาขณะที่เที่ยวอยู่ในโอกินาว่า ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ข้อมูลเกี่ยวกับ Blue Seal Makiminato
วิธีเดินทาง
- นั่งรถบัสจาก Kokusaisen Ryokaku Terminal mae สาย #120 ไปลงที่ป้าย Daiichi Makiminato
พิกัด
- 5 Chome-5-6 Makiminato, Urasoe, Okinawa 901-2131, Japan
เวลาทำการ
- 10:00 – 23:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
แหล่งอ้างอิง
-
- เว็บไซต์แนะนำจังหวัดโอกินาว่า
- รายละเอียดเพิ่มเติมจาก fromJapan
*ข้อมูลอัปเดตเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ