รวมที่เที่ยวเด็ดใน ‘จิจิบุ’ จังหวัดไซตามะ
มี.ค. 09, 2021
มารู้จักเมือง ‘จิจิบุ’ สถานที่น่าเที่ยวของจังหวัดไซตามะกันเถอะ!
จิจิบุ (Chichibu) เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดไซตามะ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ทั้งนี้เมืองจิจิบุนั้นแตกต่างจากเมืองอื่นที่อยู่ในจังหวัดไซตามะตรงที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา และพื้นที่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติจิจิบุทามะไค (Chichibu-Tama-Kai National Park) ส่วนประชากรจะนิยมอาศัยอยู่ตามบริเวณที่ราบแม่น้ำอารากาวะ
เนื่องจากภูมิประเทศของจิจิบุไม่เหมาะต่อการทำเกษตรกรรม ประชาชนจึงนิยมเลี้ยงไหมและทำอุตสาหกรรมหินปูนในบริเวณภูเขาบุโกะ (Mount Bukō)
ด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสวยงามของจิจิบุ เมืองนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างไกลจากโตเกียวนัก
สารบัญ
เราจะมาเริ่มด้วยเทศกาลฤดูหนาวของเมือง ‘จิจิบุ’ นางเอกของเราในทริปนี้กันก่อนเลย! เพราะถ้าหน้าหนาวใครมาจิจิบุก็ต้องมาเช็กอินที่นี่ล่ะค่ะ เทศกาลน้ำแข็งย้อยชื่อดังทั้งสามแห่งของ ‘จิจิบุ’
Sandy Hyochu (หรือ ‘ซันไดเฮียวจู’ อ่านยากจริงๆ) เป็นเทศกาลน้ำแข็งย้อยจิจิบุกับการประดับไฟยามค่ำคืน (Light up หรือ illumination นั่นเอง)
เนื่องจากอากาศหนาวเย็นและเป็นพื้นที่ที่หิมะตกน้อย ความเย็นจะทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะตามเขา กลายเป็นศิลปะอันสวยงามทั้ง 3 แห่ง ได้แก่
- Ashigakubo no Hyochu
- Misotsuchi no Hyochu
- Onouchi no Hyochu
ซึ่งในทริปนี้เราไปสถานที่หมายเลข 1 และ 2 มาแล้วค่ะ~ ^0^ ตามไปอ่านกันได้ในรีวิว 7 สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองจิจิบุด้านล่างนี้เลย
1. Ashigakubo no Hyochu
น้ำแข็งย้อยตรงจุดที่เรียกว่า Ashigakubo no Hyochu นั้นอลังการงานสร้างมากๆ เป็นจุดที่บอกได้เลยว่าพีคสุด เป็นนางเอกของทริปนี้เลย สวยทั้งกลางวันและกลางคืนตอนเปิดไฟ แถมยังเป็นน้ำแข็งย้อยที่สามารถเดินทางไปชมได้ด้วยการเดินจากสถานีรถไฟ
ไลท์อัพจะมีเฉพาะคืนวันศุกร์, เสาร์, อาทิตย์และวันหยุดราชการเท่านั้น ไฟจะเริ่มเปิดตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินไปจนถึง 2 ทุ่ม บอกเลยว่าถ้าใครไปถึงเมืองจิจิบุแล้วไม่ได้ไปที่นี่ ถือว่าพลาดหนักมาก!
ข้อมูลเกี่ยวกับ Ahigakubo no Hyochu
การเดินทาง
- จากสถานี Ashigakubo เดิน 10 นาที
เวลาทำการ
- 9.00 – 16.00 น. (ไลท์อัพจะมีเฉพาะวันศุกร์/เสาร์/อาทิตย์/วันหยุดราชการเท่านั้น ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินไปจนถึง 2 ทุ่ม)
ค่าเข้าชม
- 200 เยน
เว็บไซต์
2. Misotsuchi no Hyochu
น้ำแข็งย้อย Misotsuchi no Hyochu เป็นประติมากรรมน้ำแข็งย้อยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (มนุษย์มีส่วนร่วมสร้างขึ้นมาเป็นบางส่วน)
ในช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ อากาศที่เมืองจิจิบุนั้นหนาวเย็นแต่ไม่มีหิมะปกคลุม ทำให้มีโอกาสเกิดน้ำแข็งสวยงามอย่างที่เห็นค่ะ เหมาะแก่การเดินทางไปชมน้ำแข็งย้อยที่สวยอลังการแบบนี้และหาชมไม่ได้ทั่วไป
ในจังหวัดไซตามะมีจุดชมน้ำแข็งย้อยอยู่ด้วยกัน 3 แห่ง และที่นี่ก็เป็น 1 ใน 3 แห่งค่ะ ในช่วงกลางคืนจุดชมน้ำแข็งย้อยทั้ง 3 แห่งจะมีไลท์อัพให้ชมกันด้วย Misotsuchi no Hyochu อยู่ใกล้กับต้นกำเนิดแม่น้ำอาราคาวะที่เมืองจิจิบุ
สำหรับการเดินทาง เราสามารถใช้บริการแพ็คเกจเที่ยวของแท็กซี่เมืองจิจิบุได้ค่ะ มีให้เลือกหลายคอร์ส เป็นราคาเหมาไปเลย และมีบริการพาเที่ยวด้วย คุณลุงคนขับแท็กซี่พูดภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ เรามาขึ้นแท็กซี่ที่หน้าสถานีรถไฟจิจิบุ คุณลุงจะถือป้ายรอรับแบบนี้เลย
ทริปนี้เราเลือกแพ็คเกจแท็กซี่ที่พาไปชมน้ำแข็งย้อย Misotsuchi + ไปเก็บสตรอว์เบอร์รีค่ะ แพ็คเกจแบบนี้ทำให้เราเดินทางสะดวกมากขึ้น ยิ่งถ้าไปกันหลายคนด้วยแล้ว แท็กซี่เหมาๆแบบนี้สะดวกเลยค่ะ
- ข้อมูลแพ็คเกจแท็กซี่ >> https://www.chichibu-omotenashi.com/rakutokutaxi/cours/
- ถ้าจะจอง มีหน้าภาษาอังกฤษให้กดจองได้เลยค่ะ >> https://www.chichibu-omotenashi.com/rakutokutaxi/reserve_en/
ข้อมูลเกี่ยวกับ Misotsuchi no Hyochu
การเดินทาง
- นั่งรถไฟสาย Chichibu-tetsudo ไปลงที่สถานี Mitsumineguchi ต่อรสบัสท่องเที่ยว Seibu ไปทาง Chichibuko (เป็นรถบริการขึ้นลงฟรีค่ะ ให้บอกคนขับว่าจะไปเที่ยวชมน้ำแข็งย้อยมิโซะสึจิ น้ำแข็งจะมีจนถึงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์)
เวลาเปิด/ปิด
- 8.00 –17.00 น. (ช่วงที่แนะนำคือเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์)
เว็ปไซต์
3. เก็บสตรอว์เบอร์รีที่ Chichibu Fruit Farm
ไร่สตรอว์เบอร์รีแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟ Seibu-Chichibu และสถานี Kagemori ในเมืองจิจิบุ คนชอบทานสตรอว์เบอร์รีจะต้องหลงรักความหอมหวานของสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ต่างๆของที่นี่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Benihoppe, Yayoihime, Mouikko หรือสายพันธุ์น้องใหม่อย่าง Amarin และ Kaorin
เรามีเวลาเพลิดเพลินกับการลิ้มลองรสชาติของสตรอว์เบอร์รี 30 นาทีค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับ Chichibu Fruit Farm
การเดินทาง
- ลงสถานี Seibu-Chihibu แล้วเดินต่อประมาณ 1.5กม หรือลงสถานี Kagemori เดินต่อประมาณ 950 เมตร
เวลาทำการ
- 9.30 – 16.00 น.
ค่าเข้าฟาร์ม
- ผู้ใหญ่และนักเรียนมัธยม
- (ต้น ม.ค. – ปลาย ก.พ. = 1,700 เยน, มี.ค. – กลาง เม.ย. = 1,500 เยน, กลาง เม.ย. – กลาง พ.ค. = 1,200 เยน)
- นักเรียนประถมและเด็กเล็ก
- (ต้น ม.ค. – ปลาย ก.พ. = 900 เยน, มี.ค. – กลาง เม.ย. = 800 เยน, กลาง เม.ย. – กลาง พ.ค. = 600 เยน)
เว็บไซต์
4. ศาลเจ้ามิตสึมิเนะ
ศาลเจ้ามิตสึมิเนะ (Mitsumine Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาในเมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 1,100 เมตรเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชินโตที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงาม ทั้งยังมีความศักดิ์สิทธิ์และมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี
นอกจากนี้แล้ว ศาลเจ้ามิตสึมิเนะยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง ตลอดทางเดินภายในศาลเจ้า เราจะพบกับต้นสนซีดาร์ที่มีอายุหลายร้อยปีอยู่เป็นจำนวนมาก ความเงียบสงบของศาลเจ้าจะยิ่งทำให้เรารู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์
หลังจากลอดผ่านซุ้มประตูไปแล้วเราจะพบกับอาคารศาลเจ้า ซึ่งว่ากันว่ามีเทพเจ้าอิซานางิกับเทพเจ้าอิซานามิสิงสถิตอยู่ เราสามารถเข้าไปขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกันได้เลย
ในช่วงฤดูหนาว น้ำที่ใช้ทำความสะอาดมือก่อนเข้าวัดตามธรรมเนียมจับตัวเป็นน้ำแข็ง เราจึงต้องเปลี่ยนมาใช้พู่ปัดตัวเองก่อนเข้าศาลเจ้าแทน พอเข้าไปแล้วมีใครเห็นมังกรบ้างไหมคะ? ที่นี่เขาว่ากันว่าจะมีมังกรตาแดงออกมาให้เห็น ใครเห็นจะโชคดีค่ะ
การเดินทางไปยังศาลเจ้านั้น หลายคนคิดว่าน่าจะไปยากแน่เลย เพราะศาลเจ้าตั้งอยู่บนเขา แต่จริงๆแล้วไม่ยากเลยค่ะ มีรถบัสจากสถานี Seibu-Chichibu ไปถึงหน้าทางขึ้นศาลเจ้าเลย ระหว่างทางเดินขึ้นศาลเจ้าก็มีวิวธรรมชาติให้เราได้ชมตลอดทางเดินด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้ามิตสึมิเนะ
การเดินทาง
- จากสถานี Seibu-Chichibu ให้นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Mitsumine Shrine เลย (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที) แล้วเดินต่อไปยังศาลเจ้า
เวลาทำการ
- 9.00 – 16.00 น. (ไม่มีวันหยุด)
ค่าเข้า
- ฟรี
เว็ปไซต์
5. ศาลเจ้าอิมามิยะ
ศาลเจ้าอิมามิยะ (Imamiya Shrine) เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เรียกว่าเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ภายในศาลเจ้ามีต้นไม้ที่มีอายุมากกว่าพันปี บ่งบอกถึงความศักดิ์สิทธิ์
บริเวณใกล้ๆกันจะมีบ่อน้ำเล็กๆสำหรับล้างเงินเพื่อเก็บเงินนั้นเป็นขวัญถุง เชื่อกันว่าถ้านำเงินมาล้างและเก็บไว้ในกระเป๋าจะช่วยเรียกเงินใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆ
นอกจากนี้ภายในศาลเจ้าก็ยังมีจุดอื่นๆที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือจุดขอพรตรงศาลเจ้าสุนัขจิ้งจอก ฯลฯ บอกเลยว่าเป็นศาลเจ้าที่มีความน่าสนใจมากๆและเดินทางไม่ยากเลยค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าอิมามิยะ
การเดินทาง
- เดิน 5 นาที จากสถานี Ohanabatake หรือ 10 นาทีจากสถานี Chichibu
เว็บไซต์
6. Matsuri no Yu
Matsuri no Yu เป็นออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับ ที่นี่เหมาะกับการแพลนไปช่วงบ่ายหรือท้ายๆทริป เพราะในเวลานั้นเราคงเหนื่อยล้าจากการเดินทางท่องเที่ยวอยู่พอดี หากได้มาแช่ออนเซ็นปิดท้ายทริป มันจะเป็นอะไรที่ฟินมากๆ หรือหากใครจะแพลนไปที่นี่ทั้งวันก็ได้เช่นกัน
นอกจากออนเซ็นแล้ว ที่นี่ยังมีโซนที่เป็นร้านอาหารและโซนของฝากให้เราได้เดินเล่นผ่อนคลายกันเบาๆด้วย และเมื่อแช่ออนเซ็นเสร็จแล้ว เขาก็มีที่สำหรับให้เรานั่งพักผ่อนคุยกับเพื่อนๆ รวมถึงมีห้องให้นอนพักด้วยค่ะ นับว่าเป็นวันที่ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวจิจิบุ อย่าลืมแวะมาผ่อนคลายกันนะคะ เพราะที่นี่อยู่ติดกับสถานี Seibu-Chichibu เลย
สำหรับใครที่มาพักที่ Matsuri no Yu ที่นี่ก็นับว่าเป็นที่พักในเมืองจิจิบุซึ่งให้ความรู้สึกเสมือนอยู่บ้าน คุณป้าเจ้าของบ้านดูแลเราอย่างดี น่ารักมากๆเลยค่ะ แกทักทายพูดคุยกับทุกๆคนเหมือนทุกคนมาเยี่ยมบ้านคุณป้าเลย อาหารก็อร่อย ออนเซ็นก็ดี
ข้อมูลเกี่ยวกับ Matsuri no Yu
การเดินทาง
- ลงสถานี Seibu-Chichibu (ออนเซ็นอยู่ติดสถานีเลย)
เวลาทำการและค่าบริการ
- กรุณาตรวจสอบจากเว็บไซต์
เว็บไซต์
7. Araki Kosen Ryokan
Araki Kosen Ryokan เป็นอีกหนึ่งเรียวกังที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงด้านน้ำแร่ของเมืองจิจิบุ น้ำแร่ทั้ง 7 ชนิดของที่นี่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ทำให้ผิวเนียนนุ่มสวยงาม
ภายในเรียวกังมีบริการบ่อออนเซ็นรวม หรือหากใครเขิน อยากแช่บ่อส่วนตัวมากกว่า ที่นี่ก็มีห้องพักที่บ่อออนเซ็นในตัวด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ เราก็สามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นของเมืองได้ที่เรียวกังนี้ อาหารแต่ละฤดูจะเป็นเมนูตามฤดูกาลที่เสิร์ฟมาในแบบที่แตกต่างกันไป
เรียวกังแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Yokose อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Chichibu ไปนิดเดียวค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับ Araki Kosen Ryokan
การเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Chichibu หรือสถานี Seibu-Chichibu ให้นั่งบัสมุ่งหน้าไปยัง Sadamine โดยลงที่ป้าย Kinshoji ใช้เวลาประมาณ 15 – 17 นาที (ทางเรียวกังมีรถบริการรับ-ส่งจากสถานีรถไฟด้วย แต่ต้องแจ้งทางเรียวกังล่วงหน้าด้วยค่ะ)
เว็บไซต์
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ