ไขข้อข้องใจ: อะไรคือความแตกต่างระหว่าง ‘กิโมโน’ และ ‘ยูกาตะ’

ไขข้อข้องใจ: อะไรคือความแตกต่างระหว่าง ‘กิโมโน’ และ ‘ยูกาตะ’

สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับชุดประจำชาติญี่ปุ่น กิโมโน และ ยูกาตะ นั้นดูเผินๆแล้วก็คล้ายกันมาก แต่จริงๆแล้วทั้ง 2 ชุดมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมากค่ะ

แม้ความเป็นจริงแล้ว ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นมีชุดประจำชาติมากมายหลายแบบ แต่ชุดที่คนไทยรวมถึงชาติอื่นๆรู้จักชื่อกันเป็นอย่างดีก็ต้องเป็นชุดกิโมโนและชุดยูกาตะอย่างแน่นอน ซึ่งชุดประจำชาติทั้ง 2 แบบนี้ก็ปรากฎให้เราเห็นผ่านสื่อต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในอนิเมะ มังงะ ภาพยนตร์ หรือซีรี่ส์ต่างๆ 

เรียกได้ว่าคนไทยนั้นคุ้นตากันดีสำหรับชุดแสนสวยที่สื่อถึงวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น แต่เราก็เชื่อว่าอาจมีหลายท่านที่ยังงงๆและแยกไม่ออกว่า เอ๊ะ แบบไหนคือชุดยูกาตะ และแบบไหนคือชุดกิโมโนกันแน่?  😮

วันนี้ fromJapan.th จึงจะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจว่าทั้ง 2 ชุดนี้แตกต่างกันอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ!

🌸 ❤️ 🌸 ❤️ 🌸 ❤️

สวมใส่ในโอกาสใด?

กิโมโน (着物, Kimono) เป็นชุดที่ชาวญี่ปุ่นสวมใส่ในงานที่เป็นทางการหรือในพิธีกรรมสำคัญค่ะ และนอกจากนี้ ด้วยความที่กิโมโนมีผ้าหลายชั้นมาก จึงทำให้ผู้คนนิยมสวมใส่กิโมโนกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศค่อนข้างเย็นค่ะ 

ในส่วนของ ยูกาตะ (浴衣, Yukata) เป็นชุดอย่างไม่เป็นทางการที่สามารถสวมใส่ตอนอยู่บ้าน สวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือการไปทำกิจกรรมอื่นๆที่ไม่เป็นทางการ เช่น ไปงานชมดอกไม้ไฟ ด้วยความที่ตัวเนื้อผ้ามักจะบางเบาและไม่จำเป็นต้องมีชุบซับใน ทำให้ชุดยูกาตะเป็นที่นิยมในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิค่ะ

จำเป็นต้องใส่ชุดซับในหรือไม่?

สำหรับชุดยูกาตะ ทุกคนสามารถสวมไปได้เลยไม่จำเป็นต้องมีชุดซับใน แต่หากคุณต้องการใส่ชุดกิโมโนละก็ คุณจะต้องสวมเสื้อซับชั้นใน ( 長襦袢, Nagajuban) ไว้ด้านในของชุดเสียก่อน โดยชุดซับในนี้มักทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าไหม มีไว้สำหรับการรักษาความสะอาดของชุดกิโมโน ไม่ให้เปื้อนเหงื่อหรืออื่นๆ ซึ่งปกติแล้วสีของชุดซับในจะเป็นสีขาวค่ะ แต่ก็มีที่เป็นสีแดง น้ำเงิน หรือมีลวดลายได้เช่นกัน

ความแตกต่างของเนื้อผ้าระหว่างกิโมโนและยูกาตะ

ผ้าที่ใช้สำหรับตัดชุดยูกาตะมักจะเป็นผ้าเนื้อบางเบา ระบายอากาศได้ดีและหาได้ง่าย เช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าโพลีเอสเตอร์ ในทางกลับกัน ชุดกิโมโนมักจะใช้ผ้าที่หรูหราและหนากว่า แน่นอนว่ามีราคาแพงกว่าด้วยค่ะ

ดังนั้นผ้าที่ใช้ตัดชุดกิโมโนส่วนใหญ่จึงเป็นผ้าไหม และยังนิยมเพิ่มความหรูหราด้วยการใช้ผ้าปักดอกหรือผ้าทอผสมดิ้นเงินและทองอีกด้วย

ต้องสวมใส่คู่กับถุงเท้าทาบิ (足袋) หรือไม่?

ชุดยูกาตะนั้นเดิมเป็นชุดที่สวมใส่แบบสบายๆ ในวาระโอกาสที่ไม่เป็นทางการ ดังนั้นทุกคนไม่จำเป็นต้องสวมถุงเท้าทาบิ (足袋, Tabi) เพียงแค่สวมรองเท้าโซริ (草履, Zori) แตะหนีบสไตล์ญี่ปุ่น หรือจะเลือกเป็นรองเท้าเกะตะ (下駄, Geta) ที่คนไทยเรียกว่ารองเท้าเกี๊ยะก็ได้เช่นกันค่ะ

แต่สำหรับชุดกิโมโนนั้น ด้วยคว ามที่เป็นชุดสวมใส่ในพิธีการหรืองานสำคัญต่างๆ การสวมใส่ถุงเท้าทาบิจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากค่ะ ดังนั้นใครที่จะลองใส่ชุดกิโมโนตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ลืมสวมใส่ถุงเท้าทาบิก่อนสวมรองเท้าทุกครั้งนะคะ

ความยากง่ายและวิธีการสวมใส่ ‘กิโมโน’ และ ‘ยูกาตะ’

ชุดยูกาตะสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป หรือสวมใส่ชุดนี้เมื่อเข้าร่วมเทศกาลดอกไม้ไฟ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงสามารถสวมชุดยูกาตะได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ชุดยูกาตะมีเพียงชั้นเดียว ไม่ซับซ้อน เนื้อผ้าก็ไม่ได้หรูหรา ดังนั้นการสวมใส่จึงเรียบง่าย

ในส่วนของโอบิของชุดยูกาตะมักจะบิดหรือพับอยู่ด้านหน้า แต่บางครั้งก็อยู่ด้านหลังด้วย หากเพื่อนๆสับสนว่าที่เห็นอยู่คือชุดยูกาตะหรือชุดกิโมโนกันแน่ เราแนะนำให้ลองตรวจสอบดีไซน์หรือเนื้อผ้าของโอบิดูค่ะ ถ้าเกิดว่าดีไซน์ของโอบิค่อนข้างเรียบง่ายหรือเป็นผ้าที่ไม่ได้ดูหรูหรา ก็แสดงว่านั่นคือยูกาตะ ถูกต้องแล้ว 

แต่ถ้าโอบิของชุดดูหรูหราและมีราคาแพง แสดงว่านั่นคือชุดกิโมโน ไม่ใช่ชุดยูกาตะแน่นอน 😂

สำหรับชุดกิโมโนซึ่งมักจะสวมใส่เฉพาะในงานที่เป็นทางการ คนญี่ปุ่นจำนวนมากนิยมสวมชุดกิโมโนเมื่อเข้าพิธีสำคัญต่างๆ เช่นพิธีแต่งงาน หรือสวมในโอกาสที่เป็นทางการอื่นๆ ด้วยเหตุนี้กิโมโนจึงเป็นชุดที่มีอย่างน้อยสองชั้น เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เห็นกระดูกไหปลาร้าของผู้สวมใส่ค่ะ

ส่วนโอบิและดีไซน์ของชุดกิโมโนก็อย่างที่ได้กล่าวไปค่ะว่าจะดูหรูหรากว่าชุดยูกาตะ และที่สำคัญคือการสวมชุดกิโมโนนั้นก็ยากกว่าชุดยูกาตะมากค่ะ เรียกได้ว่าแม้แต่คนญี่ปุ่นบางคนก็ใส่ไม่เป็นจนต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการสวมชุดกิโมโนมาช่วยสวมให้ ขนาดที่ว่าร้านขายและเช่าชุดกิโมโนหลายแห่งมักจะมีบริการเสริมให้ลูกค้าจองตัวพนักงานไปช่วยแต่งตัวก็มีค่ะ

อ่านบทความน่าสนใจจาก fromJapan

• ญี่ปุ่นจัดโพล ‘คุณอยากใส่ชุดยูกาตะไปงานเทศกาลกับตัวละครชายจากอนิเมะคนไหนมากที่สุด?’
• ชวนส่อง! ทีเซอร์อนิเมะมูฟวี่ “LOOK BACK” จากผู้แต่ง Chainsaw Man เตรียมฉายในญี่ปุ่น 28 มิ.ย. 2024 นี้!
• ตะลึงไปกับธรรมชาติแสนงดงามที่อุทยานธรณี “แหลมมุโรโตะ” จังหวัดโคจิ

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top