หมู่บ้านแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ไม่มีวัด!

หมู่บ้านแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ไม่มีวัด!

ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่อนข้างเสรีเรื่องการนับถือศาสนา มีทั้งคนที่นับถือและไม่นับถือศาสนาเลย แต่ถ้าหากพูดในส่วนของคนที่นับถือศาสนาแล้ว คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะนับถือชินโตและศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาที่อยู่ควบคู่กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้น หากใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นก็จะเห็นได้ว่า หลายๆพื้นที่จะมีศาลเจ้า เสาโทริที่เป็นของชินโต และวัดญี่ปุ่นตั้งอยู่คู่บ้านคู่เมือง

กล่าวกันว่าทั่วญี่ปุ่นมีศาลเจ้ามากกว่า 88,000 แห่ง และมีวัดอยู่ถึง 75,000 แห่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่แต่ละชุมชนจะมีศาลเจ้าและวัดตั้งอยู่อย่างน้อยหนึ่งแห่ง

แต่ทุกคนทราบกันมาก่อนไหมว่า มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่ไม่มีวัดตั้งอยู่เลยแม้แต่แห่งเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะอะไรหมู่บ้านแห่งนี้ถึงไม่มีวัดเลย แล้วผู้คนในหมู่บ้านเขานับถืออะไร เราจะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบกันในบทความนี้ค่ะ  

หมู่บ้านฮิกาชิ ชิราคาวะ (Higashi Shirakawa) ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ เป็นหมู่บ้านเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ไม่มีวัดเลย มีเพียงอนุสาวรีย์หินที่แกะสลักด้วยคำว่า ‘南無阿弥陀仏’ อ่านว่า ‘นามุอามิดะ บุตสึ’ ซึ่งเป็นศาสนวัตถุของศาสนาพุทธญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ โดยชาวบ้านจะเรียกอนุสาวรีย์หินแห่งนี้ว่า ‘โกะอิชโช ซามะ’ (Goisshou Sama) 

อนุสาวรีย์หินแห่งนี้นั้นหากสังเกตให้ดีจะพบว่าหินได้แตกออกเป็นสี่ส่วน ซึ่งความจริงแล้วรอยแตกนี้ไม่ใช่รอยแตกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดมาจากการตั้งใจทำให้แตกนั่นเอง

เหตุใดอนุสาวรีย์หินแห่งนี้ถึงมีชะตากรรมอันน่าสลดใจเช่นนี้?

ก่อนอื่นศาสนาพุทธที่คนญี่ปุ่นนับถือกันส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพุทธแบบมหายาน ส่วนของไทยจะเป็นพุทธแบบเถรวาทซึ่งถือว่าเป็นนิกายที่เก่าแก่กว่า ดังนั้น ความเชื่อและหลักปฏิบัติจึงมีความแตกต่างกันในหลายๆส่วน

ศาสนาพุทธเริ่มเข้ามาสู่ญี่ปุ่นในช่วงสมัยโจมง (ยุคโบราณญี่ปุ่น) และตามด้วยศาสนาอื่นๆ ซึ่งเดิมทีแล้ว ญี่ปุ่นจะนับถือผีหรือที่เรียกกันว่า ‘วิญญาณนิยม’ (Animism) จากนั้นได้เกิดความเชื่อเรื่องการบูชาธรรมชาติที่เรียกว่า ‘ชินโต’

ต่อมาคนญี่ปุ่นได้นำวิธีการไหว้พระของศาสนาพุทธมาปฏิบัติร่วมกับชินโต โดยอ้างอิงได้จากศาลเจ้าอาซากุสะตั้งอยู่ภายในวัดเซ็นโซจิ ซึ่งคนญี่ปุ่นจะเรียกว่า ‘ชินบุสึ ชิโกะ’ (Shinbutsu Shugo) หรือสถานที่หลอมรวมระหว่างศาสนาชินโตและศาสนาพุทธ

วัฒนธรรมดังกล่าวนี้เป็นความเชื่อรูปแบบหนึ่งที่คนญี่ปุ่นยึดถือกันมาเป็นเวลากว่า 1,300 ปี นับตั้งแต่ที่พระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ญี่ปุ่น จนกระทั่งในปี 1868 รัฐบาลเมจิได้ประกาศนโยบาย ‘การแยกชินโตและพุทธศาสนา’ (Shinbutsu bunri) และได้พยายามกวาดล้างองค์ประกอบทางพุทธศาสนาออกจากศาลเจ้าเพื่อทำให้ชินโตเป็นศาสนาประจำชาติ

เมื่อชินโตกลายเป็นศาสนาหลักของญี่ปุ่น ผู้คนบางกลุ่มเริ่มมองว่าพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งชั่วร้ายและได้มีการก่อตั้งกลุ่มคนที่เรียกว่า ‘ไฮบุตสึ คิชากุ’ (Haibutsu Kishaku) ซึ่งมีหน้าที่ทำลายศาสนสมบัติทั่วประเทศ ซึ่งหมู่บ้านฮิกาชิ ชิราคาวะก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ต้องโดนทำลายพระพุทธศาสนาด้วยเช่นกัน

พวกเราต้องทำลายก่อน เพื่อไม่ให้ถูกทำลาย?

เมื่อกลุ่มไฮบุตสึ คิชากุ เดินทางเข้ามาใกล้หมู่บ้านฮิกาชิ ชิราคาวะซึ่งตั้งอยู่บนภูเขา ชาวบ้านจึงเริ่มกังวลว่า อนุสาวรีย์หินโกะอิชโช ซามะที่พวกเขากราบไหว้บูชากันทุกเช้าทุกเย็นนี้จะถูกทำลายไป ดังนั้น ชาวบ้านจึงตัดสินใจทำลายอนุสาวรีย์หินด้วยมือของพวกเขาก่อน และได้มีการนำชิ้นส่วนที่แตกหักไปซ่อนเอาไว้ โดยจะทำให้ดูเหมือนหินที่อยู่ในสวนญี่ปุ่นหรือขั้นบันไดหินของหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ชาวบ้านยังมีการใช้งานบันไดหินเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนไฮบุตสึคิชากุรู้ว่าพวกเขาเป็นชาวพุทธ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและคงจะทำร้ายจิตใจผู้คนที่ศรัทธาในพุทธศาสนาไม่น้อย เพราะจำเป็นต้องเหยียบบันไดหินที่มีชิ้นส่วนของอนุสาวรีย์หินที่พวกเขากราบไหว้กันมาโดยตลอด

ท้ายที่สุดแล้ว อนุสาวรีย์หินที่ชาวบ้านพยายามปกป้องมาตลอดในสุดก็เป็นผล กลุ่มคนเหล่านั้นได้มุ่งเป้าไปทำลายวัดแทน แม้ว่าจะสูญเสียวัดในหมู่บ้านไปจนหมดสิ้น แต่อนุสาวรีย์หินโกะอิชโช ซามะก็รอดพ้นมาได้จนถึงปัจจุบัน

ทำไมจึงกลายเป็น ‘หมู่บ้านแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ไม่มีวัด’ 

หลังจากขบวนการต่อต้านศาสนาพุทธที่กระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในยุคนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่า 10 ปี บ้านเมืองและวัดจึงได้ถูกสร้างขึ้นใหม่พร้อมๆกัน แต่ถึงกระนั้น หมู่บ้านฮิกาชิ ชิราคาวะกลับไม่ได้มีการสร้างวัดขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นเพียงแค่หมู่บ้านเล็กๆไม่มีกำลังแรงทรัพย์ที่ใช้สำหรับการบูรณะวัดที่เพียงพอ ชาวบ้านจึงทำได้เพียงนำชิ้นส่วนทั้งสี่ของอนุสาวรีย์หินที่กระจายอยู่ในหมู่บ้านกลับมาประกอบรวมกันแล้วนำไปวางไว้ยังตำแหน่งเดิม

ด้วยเหตุนี้ หมู่บ้านฮิกาชิ ชิราคาวะจึงมีแค่อนุสาวรีย์หินโกะอิชโช ซามะที่ตั้งตระหง่านอยู่ใน ‘หมู่บ้านแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ไม่มีวัด’ ส่วนพื้นที่ของวัดโจราคุจิที่แต่เดิมเคยเป็นวัดประจำหมู่บ้านและภายในหลังได้ถูกทำลายไปก็กลายมาเป็นศาลากลางของหมู่บ้านแทนในปัจจุบัน

พิกัดหมู่บ้านฮิกาชิ ชิราคาวะ

ที่มา

https://mag.japaaan.com/archives/226878

อ่านบทความสนุกๆจาก fromJapan 🥰

• ทำไมคนเกียวโตถึงวาง ‘หินอิเคซุ’ ไว้ที่มุมบ้าน?
• 10 แนวคิดจากยุคโชวะที่ใช้ไม่ได้แล้วในยุคเรวะ (คนญี่ปุ่นคอนเฟิร์ม!)
• ไขเหตุผลสุดทึ่ง! ทำไม ‘ข้าวกล่องญี่ปุ่น’ ถึงวางปลาแซลมอนชิ้นจิ๋วขนาดนี้?
• คนญี่ปุ่นโหวตให้เมืองไหนน่าอยู่ที่สุด!

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ! 😉

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top