รีวิวออนเซ็น Taiko-no-yu ที่ Arima Onsen หมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น
ก.ค. 30, 2020
รีวิวออนเซ็น Taiko-no-yu ที่ Arima Onsen หมู่บ้านออนเซ็นเก่าแก่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวออนเซ็น Taiko-no-yu ที่ Arima Onsen หมู่บ้านออนเซ็นชื่อดังของจังหวัดเฮียวโกะ
อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่เรียกได้ว่าเก่าแก่อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น เพราะมีมานานกว่า 1,000 ปีเลยทีเดียว
ความพิเศษของออนเซ็นที่หมู่บ้านนี้คือนอกจากจะเก่าแก่แล้ว น้ำในบ่อยังแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ Kinsen (บ่อทอง) และ Ginsen (บ่อเงิน) ซึ่งแต่ละชนิดจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป
ครั้งนี้ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวจังหวัดเฮียวโกะเป็นครั้งแรก โดยพักที่เมืองโกเบและนั่งไฟไปแช่ออนเซ็นที่เมืองอาริมะในช่วงเช้า บอกได้เลยว่าคนน้อยมากค่ะ
แล้วจะไปยังไงล่ะ? หากใครสงสัยมาดูกันเลยค่ะ
สารบัญ
1. วิธีเดินทางจากสถานี Sannomiya → สถานี Arima Onsen
7.ข้อมูลเกี่ยวกับ Taiko-no-yu (Arima Kirari Hotel)
1. วิธีเดินทางจากสถานี Sannomiya → สถานี Arima Onsen
วิธีเดินทางมี 2 วิธี คือรถบัสและรถไฟ
- รถบัส
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นั่งรถบัส Hankyu Bus จากสถานี Sannomiya ชานชาลาที่ M4 ไปลงที่ป้าย Arima Onsen
- รถไฟ
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
จากสถานี Sannomiya ให้นั่งรถไฟ Kobe City Subway ไปยังสถานี Tanigami
↓
ลงที่สถานี Tanigami ต่อด้วยสาย Kobe Dentetsu-Arima Line (ขบวนที่ไปทาง Sanda)
↓
ลงที่สถานี Arimaguchi ต่อด้วยสาย Kobe Dentetsu-Arima Line (ขบวนที่ไปทาง Arima Onsen)
↓
ลงที่สถานี Arima Onsen
ก่อนอื่นเราขอแนะนำสถานี Sannomiya ย่านที่พักของเราก่อนนะคะ
สถานี Sannomiya เป็นสถานีใจกลางเมืองของจังหวัดโกเบ จากที่นี่เราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมาก ไม่ว่าจะไปปราสาท Himeji, Kobe Tower, Harbour Land, China Town, ภูเขา Rokkosan หรือ Arima Onsen เราก็สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆได้ภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
นอกจากนี้เมืองโกเบยังดูน่ารัก และมีร้านอาหารอร่อยๆมากมาย
ครั้งนี้เราได้เดินทางไปยัง Arima Onsen โดยออกเดินทางจากสถานี Sannomiya ค่ะ
ก่อนอื่นต้องเดินหา Kobe Subway ก่อน
จากนั้นให้ไปยังชานชาลาที่ 1 สังเกตดูจะมีคำว่า Tanigami
จากนั้นลงรถไฟที่สถานี Tanigami เพื่อเปลี่ยนรถไฟเป็นอีกขบวน แล้วนั่งรถไฟสาย Kobe Dentetsu-Arima Line ขบวนที่ไปทาง SANDA
ระหว่างรอรถไฟที่ Tanigami (ป้ายไฟเขียนว่า SANDA ขออภัยที่ถ่ายไม่ติด)
ต่อจากนั้นให้นั่งรถไฟจาก Tanigami แล้วก็ลงไปเปลี่ยนรถไฟอีกรอบที่สถานี Arimaguchi นะคะ
พอถึงสถานี Arimaguchi แล้วก็ลงรถไฟอีกรอบ เพื่อเปลี่ยนรถไฟรอบสุดท้าย
รอบนี้ต้องเดินไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลาอีกฝั่งหนึ่ง
หน้าตาของรถไฟขบวนที่จะไปยัง Arima Onsen ค่ะ สังเกตว่าด้านหน้าจะเขียนว่า ARIMA ONSEN
นั่งเพียงสถานีเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
2. Arima Onsen
ออนเซ็นที่เราจะไปแช่วันนี้ตั้งอยู่ในเรียวกัง นับว่าเป็นออนเซ็นอีกแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อในย่าน Arima Onsen (สำหรับพิกัดสามารถดูได้จากข้อมูลด้านล่างบทความค่ะ)
เรียวกังที่นี่สามารถจองเพื่อค้างคืนได้ แต่ครั้งนี้ผู้เขียนได้พักที่ Sannomiya แล้ว เลยใช้บริการแช่ออนเซ็นแบบไปกลับเท่านั้น
เรียวกังนี้สามารถเดินมาจากสถานี Arima Onsen ได้ โดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ระหว่างทางก็จะเจอแม่น้ำ Arima ไหลผ่านต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามา
ตรงนี้เป็น ‘สะพานเนเน่’ ค่ะ ชื่อสะพานนั้นมาจากตำนานของ ‘เนเน่’ หญิงสาวที่ไม่ชอบกินบ๊วยดอง ทำให้เธอไม่สามารถมีลูกได้ในที่สุด คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะแวะถ่ายรูปกันที่นี่ค่ะ
3. Taiko-no-yu
แล้วเราก็มาถึง Arima Kirari Hotel เรียวกังซึ่งเป็นที่ตั้งของ Taiko-no-yu ออนเซ็นที่เราจะมาใช้บริการกันในวันนี้ อาจจะหาทางเข้าได้ยากนิดหน่อยนะคะ แต่อากาศดีเลย ถือว่าเดินเล่นไปด้วยเนอะ
ป้ายบอกทางไปยังเรียวกัง ระบุไว้ว่าจากจุดนี้หากเดินข้ามสะพานไปก็จะเจอทางเข้า อีก 100 เมตรเท่านั้นค่ะ
ขึ้นเนินอีกนิดก็จะถึงแล้วค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ป้ายหน้าเรียวกัง ‘Arima Kirari Hotel’
หลายๆคนเดินมาก็อาจจะตกใจว่าทำไมเป็นชื่อนี้ ขออธิบายก่อนเลยว่าชื่อโรงแรมหรือเรียวกังแห่งนี้คือ Arima Kirari Hotel แต่ออนเซ็นที่นี่ใช้ชื่อว่า Taiko-no-yu (太陽の湯) นั่นเอง
ทางเข้าของส่วนที่ให้บริการออนเซ็น
พอถึงแล้วก็เช็กอินได้เลย
จะสังเกตได้ว่าวันธรรมดานั้นโล่งมาก แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย (หรืออาจเป็นเพราะโควิดด้วย)
เริ่มต้นก็จ่ายเงินค่าใช้บริการก่อน
หลังจากนั้นก็จะได้รับกุญแจล็อกเกอร์ พร้อมบาร์โค้ดสำหรับซื้อสินค้าและใช้บริการอื่นๆด้านใน รวมถึงชุดสำหรับใส่ภายในอาคาร (ในที่นี้เราจะเรียกว่ายูกาตะ) รวมถึงผ้าเช็ดตัวด้วยค่ะ
สำหรับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็จะแยกชายหญิงแบบนี้
ห้องผู้ชายจะเป็นผ้าม่านสีม่วง ส่วนห้องผู้หญิงจะเป็นผ้าม่านสีแดงนะคะ ระวังอย่าไปเข้าผิดล่ะ 555
ที่นี่มีกฎไม่ให้ใช้โทรศัพท์ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เลยไม่สามารถถ่ายมาให้ดูได้ ต้องขออภัยด้วยนะคะ
พอเข้าไปแล้วก็หาตู้ล็อกเกอร์ที่มีเบอร์ตรงกับกุญแจที่ได้รับ
จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะได้เลยค่ะ
ก่อนจะไปแช่ออนเซ็นร้อนๆเราขอไปหาอะไรกินรองท้องก่อนนะคะ เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยค่ะ 555
สำหรับออนเซ็นและร้านอาหาร สามารถใช้บริการได้ที่ชั้นสองค่ะ
ชั้นที่เราอยู่ตอนนี้คือชั้น 3 ดังนั้นจึงต้องลงบันไดไปยังชั้น 2
ที่นี่จะมีร้านอาหารและฟู้ดคอร์ดให้เลือก วันนี้เราเลือกกินที่ฟู้ดคอร์ดค่ะ เพราะไปถึงเช้าเกิน ร้านอาหารยังไม่เปิด
เมื่อเลือกได้แล้วก็สั่งอาหารได้ที่ตู้สั่งอาหารอัตโนมัติ มีภาษาอังกฤษด้วยค่ะ พอสั่งเสร็จตู้ก็จะปริ้นต์ตั๋วให้พร้อมกับหมายเลขออเดอร์ ระหว่างที่รออาหารเราก็สามารถเลือกโต๊ะนั่งก่อนได้เลย
มีจอมอนิเตอร์แสดงเลขออเดอร์เพื่อไปรับอาหารที่เคาน์เตอร์
เมนูที่เราสั่งเป็นอุด้งรสมะนาวและข้าวปั้นอินาริห่อเต้าหู้ทอด รสจะหวานๆอมเปรี้ยวค่ะ
สำหรับเพื่อนที่ไปด้วยกันสั่งเป็นโอยาโกะด้งหรือข้าวหน้าไก่ใส่ไข่ เป็นเซ็ตกับอุด้งแบบธรรมดา อร่อยทั้งคู่เลยค่ะ
ทานเสร็จแล้วก็ต่อด้วยแช่ออนเซ็นแบบไอน้ำหรือ Steam Bath ซึ่งจะอยู่หน้าทางเข้าบ่อออนเซ็นที่แยกชายหญิง
ในส่วนของ Steam Bath และ Bedrock Bath นี้ ผู้ชายและผู้หญิงสามารถเข้าใช้บริการด้วยกันได้ โดยจะเข้าได้ครั้งละไม่เกิน 30 นาที จะคล้ายๆซาวน่าแต่มีไอน้ำและอุณหภูมิต่ำกว่า ซึ่งไอน้ำที่ใช้จะมาจากน้ำออนเซ็นแท้ๆทั้งชนิดบ่อทองและบ่อเงิน
สามารถนอนราบไปกับพื้นได้เลยค่ะ
ในส่วนของบ่อออนเซ็นที่ต้องแยกชายหญิง ภายในจะมีบ่อแยกตามชนิดที่ต่างกันออกไป สามารถเลือกแช่ได้ทั้งแบบเอาต์ดอร์และอินดอร์โดยไม่จำกัดเวลาค่ะ
4. บ่อออนเซ็นแบบเอาต์ดอร์
บ่อที่เห็นด้านล่างนี้เป็น บ่อสีทอง หรือ Kinsen เกิดขึ้นโดยบังเอิญหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ Great Hanshin-Awaji Earthquake น้ำในบ่อจะมีลักษณะขุ่น มีสีทอง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้ผิวรู้สึกถึงความชุ่มชื้น
ส่วนออนเซ็นอีกชนิดหนึ่งคือ Ginsen หรือ บ่อเงิน น้ำจะมีลักษณะใส ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น จึงบรรเทาอาการเมื่อยล้าและผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้
นอกจากนี้ยังมีบ่อให้แช่แบบส่วนตัวอีกด้วย แช่หน้าหนาวรับรองว่าฟินแน่นอนค่ะ
5. บ่อออนเซ็นแบบอินดอร์
สำหรับบ่อที่อยู่อินเดอร์จะมี 2 บ่อใหญ่ ภายในมีบ่อน้ำเย็นแยกและมี Steam Bath ด้วยค่ะ
หลังจากแช่น้ำเสร็จ ด้านในก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู ครีมนวด ไดร์เป่าผม หรือแม้กระทั่งครีมทาหน้า มีครบทุกอย่างเหมือนอาบน้ำอยู่ที่บ้านเลยค่ะ
จบไปแล้วนะคะในส่วนของบ่อออนเซ็น
6. โซนอื่นๆ
นอกจากที่นี่จะมีออนเซ็นให้แช่แล้ว ยังมีโซนสำหรับนอนเล่นเพลินๆด้วยนะ
แบ่งเป็น 2 โซน คือ
โซนดูทีวี
และโซนชมวิวด้านนอก
มีร้านขายของฝากสำหรับเหล่านักช้อปด้วยค่ะ
จบไปแล้วนะคะสำหรับรีวิวออนเซ็น Taiko-no-yu
เรียวกังที่มีออนเซ็นแบบนี้ ไม่ว่าจะไปแบบครอบครัว ไปเป็นคู่ หรือไปกับเพื่อนก็สนุกได้ เรียกได้ว่าไปแล้วหายเหนื่อยจากการเดินทางทันที แถมอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่จำกัดเวลาอีกด้วย
หากใครสนใจอยากแช่ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ทานอาหารอร่อยๆ และชิลล์ได้ทั้งวันละก็ ขอแนะนำที่นี่ไว้เป็นตัวเลือกในการเดินทางครั้งหน้าของทุกคนค่ะ
สำหรับรายละเอียดของออนเซ็นแห่งนี้ สามารถดูได้จากด้านล่างค่ะ
สำหรับวันนี้เราต้องขอลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
7. ข้อมูลเกี่ยวกับ Taiko-no-yu (Arima Kirari Hotel)
ที่อยู่
- Taiko-no-yu,〒651-1401, 292-2, Ikenojiri, Arima cho, Kita Ward, Kobe, Hyogo
เบอร์โทรศัพท์
- 078-904-2291
เวลาทำการ
- 10:00 – 22:00 น.
ค่าธรรมเนียม
วันธรรมดา
- ผู้ใหญ่ : 2,400 เยน
- เด็ก : 1,126 เยน
- เด็กเล็ก (3 – 5 ขวบ) : 400 เยน
วันหยุดและเสาร์อาทิตย์
- ผู้ใหญ่ : 2,600 เยน
- เด็ก : 1,300 เยน
- เด็กเล็ก (3 – 5 ขวบ) : 500 เยน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าเช็ดตัว, ชุดยูกาตะ, แชมพู, หมวกอาบน้ำ, ชุดแปรงสีฟัน, อุปกรณ์กำจัดขน, ไดร์เป่าผม, สบู่, แปรง, หวี, สบู่, โลชั่นบำรุงผิว, ตู้เกม, ร้านอาหาร, เครื่องปรับอากาศ, ของที่ระลึก
บริการ
- ร้านอาหาร, ร้านเสริมสวย, บริการนวด, โซนพักผ่อน, โซนสูบบุหรี่
เว็บไซต์
เฟซบุ๊ก
แผนที่
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับออนเซ็นในญี่ปุ่น
- แช่บ่อทรายร้อน & นอนฟังเสียงคลื่นที่ ‘อิบุสึกิซุนะมูชิออนเซ็น’
- เช้าเล่นสกี เย็นแช่ออนเซ็น! โปรคุ้มๆที่ Sapporo Kokusai Ski Resort
- แช่ออนเซ็น สักการะเทพเจ้า และชมซากุระที่ทามะซึคุริ ออนเซ็น
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ