fbpx

เจดีย์ชูเรโตะ วิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดพร้อมซากุระบานสะพรั่ง!

เม.ย. 12, 2021

เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)

หากลองเสิร์ชคำว่า ‘ญี่ปุ่น’ หรือ ‘Japan’ ในกูเกิล เชื่อว่าภาพของสถานที่ในรูปนี้จะต้องโผล่มาแน่นอน นอกจากนี้โปสเตอร์นำเที่ยวญี่ปุ่น เว็บไซต์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งหนังสือแบบเรียนของประเทศไทยในส่วนที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น ทุกที่ก็มักจะใช้ภาพนี้เช่นกัน ว่าแต่ว่าที่นี่คือที่ไหนล่ะ?

ที่นี่คือ เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) นั่นเอง เจดีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida) จังหวัดยามานาชิ พูดแบบนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า เอ…มันคือที่ไหนกันหว่า?

ถ้าผมบอกว่าไม่ไกลจากทะเลสาบคาวากุจิโกะล่ะ คิดว่าหลายๆคนคงจะร้องอ๋อกันเลยใช่ไหมล่ะครับ ถ้าอย่างนั้นเราไปเที่ยวเจดีย์ชูเรโตะกันเลยดีกว่าครับ

ผมจะเล่าเรื่องเจดีย์ชูเรโตะให้ฟังแบบย่อๆกันก่อนนะครับ ที่นี่เป็นเจดีย์ห้าชั้นบนเนินเขาในพื้นที่ของศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน (Arakura Sengen Shrine) เจดีย์นี้สร้างขึ้นในปี 1963 เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงสันติภาพ และผู้เสียชีวิตจากผลพวงของสงครามโลกครั้งที่ 2

ซึ่งจากตัวอาคารหลักของศาลเจ้า เราจะต้องขึ้นบันไดไปเกือบ 400 ขั้น อันนี้อาจจะต้องอึดนิดนึงนะครับ

เดินขึ้นมาตามทางมาสักพัก เราก็จะเจอประตูโทริอิ ซึ่งถ้ามองผ่านประตูไปเราจะเห็นภูเขาไฟฟูจิ พร้อมดอกซากุระที่บานสะพรั่งด้วยครับ เอ้า รออะไรล่ะ ถ่ายรูปกันเลย!

ระหว่างการเดิน ก็ค่อยๆชมความงามของดอกซากุระแบบนี้

ที่มา : https://www.travel.co.jp

ระหว่างทางที่เดินไป เจดีย์จะมีอาคารหลักของศาลเจ้าอาราคุระเซนเกน

ที่มา : http://xn--dvd-ib5hp39g.jp

ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพีโคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะ เทพธิดาแห่งภูเขาฟูจิที่สาวๆมักจะมาไหว้สักการะขอพรในเรื่องความงาม หรือขอให้เด็กมาเกิด และสำหรับผู้ที่มีครรภ์ก็มักจะมาขอพรเกี่ยวกับการคลอดบุตรโดยสะดวกและปลอดภัย (เรื่องความรักและการหาคู่ เคยได้ยินมาว่าก็พอได้นะ)

หลังจากที่เดินขึ้นบันไดมาสักพักใหญ่ เราก็มาถึงเจดีย์แล้วครับ

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด! โอ้โห คนเป็นล้านเลยครับ! ทุกคนที่มาแน่นอนว่าก็มาเพื่อวิวเจดีย์กับภูเขาไฟฟูจินี่แหละ (ส่วนมากจะเป็นคุณลุงคุณป้า พร้อมด้วยกล้อง ขาตั้งกล้อง และอุปกรณ์ถ่ายรูปครบชุด)

เอาล่ะ หลังจากที่รอสักพักเพื่อเข้าไปถ่ายรูปในจุดที่ถ่ายแล้วน่าจะสวย แต่ทว่า…เมฆเจ้ากรรมดันมาบังพี่ฟูจิซะงั้น!

เคยได้ยินไหมครับที่เขาบอกว่า “ฟูจิซังเป็นภูเขาขี้อาย” ที่มาของคำพูดนี้ก็คือ ในหลายๆครั้งที่เราอยากจะเจอฟูจิซัง เจ้าตัวก็ดันหลบไปอยู่หลังเมฆซะอย่างนั้น…

หลังจากรอไปอีกสักพัก (ใหญ่) ในที่สุดเราก็เห็นฟูจิซังพร้อมกับเจดีย์แดงสักที (ถึงจะยังมีเมฆเล็กน้อยก็เถอะ แต่นับว่าสวยมากแล้วล่ะครับ)

แน่นอนว่าภาพจะออกมาดีได้ กล้องกับเลนส์ก็ต้องพร้อม Grad ฟิลเตอร์ ขาตั้งกล้องต้องมี อ้อ! อย่าลืมรีทัชเพื่อความสวยงามด้วยล่ะ

ลองถ่ายเฉพาะเจดีย์บ้าง ก็ใช้ได้อยู่

โดยบริเวณรอบๆเจดีย์ ตรงจุดนี้จะต้นซากุระปลูกอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากการเดินขึ้นมาถ่ายวิวเจดีย์แล้ว เราอาจจะเลือกไปปูเสื่อปิกนิก นั่งรับประทานอาหารพร้อมกับชมวิวซากุระและฟูจิได้เช่นกัน หรือจะมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งก็ไม่เลวเลยนะครับ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปที่นี่จะเป็นช่วงเย็นๆ ประมาณก่อนพระอาทิตย์ตกดิน อาจจะสัก 4 โมง ถ้าอยากถ่ายช่วงเย็น 4 โมงเราก็ควรมาปักหลักรอได้แล้วล่ะ

ตอนกลางคืนในช่วงที่ซากุระบานจะมีการเปิดไฟด้วย แต่ให้พูดตามตรง สำหรับผมก็เฉยๆนะ ไฟมันไม่ได้เยอะขนาดที่จะทำให้ดูอลังการมากๆ แต่ก็สวยดีอยู่ครับ

ที่มา : https://publicdomainq.net

ทั้งนี้ นอกจากช่วงซากุระบานแล้ว ช่วงใบไม้แดงที่นี่ก็วิวสวยเช่นกันครับ

ใครสะดวกมาเที่ยวช่วงไหน หรือชื่นชอบวิวฤดูกาลไหนเป็นพิเศษ ก็เตรียมวางแผนมาตามช่วงเวลาที่ต้องการได้เลยครับ วิวเจดีย์ชูเรโตะนี่ไม่ว่าจะมาช่วงไหนก็สวยงาม มีเสน่ห์ในแบบของช่วงเวลานั้นครับ

อ่านบทความอื่นๆจาก fromJapan

SHIROYAMA HOTEL Kagoshima โรงแรมที่แอบซ่อนโรงงานขนมปัง&บรรยากาศดีๆไว้ภายใน

เที่ยวเมืองมิชิมะ เมืองแห่งธรรมชาติที่เที่ยวสนุกทุก 4 ฤดู

4 สนามกอล์ฟสุดฟินวิวฟูจิ เมืองอิโตะ จังหวัดชิซูโอกะ

ข้อมูลเกี่ยวกับเจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)

ที่อยู่
  • Chureito Pagoda (忠霊塔, Chūreitō), 3353-1 Arakura, Fujiyoshida-shi, Yamanashi 403-0011
โทร
  • 0555-23-2001
วันเวลาทำการ
  • เจดีย์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา
  • สำนักงานศาลเจ้า เปิดทำการทุกวัน เวลา 9.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม
  • ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทาง
  • จากสถานี Shimo-Yoshida เดินประมาณ 15 -20 นาที เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว
  • สำหรับการเดินทางไปสถานี Shimo-Yoshida หากเดินทางจากสถานี Shinjuku ให้นั่งรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Otsuki (ใช้เวลา 70 นาที 2,350 เยน สำหรับรถด่วนพิเศษ หรือ 100 นาที 1,340 เยน สำหรับรถไฟธรรมดา สามารถใช้ JR PASS หรือ Tokyo Wide Passได้) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Shimo-Yoshida (ใช้เวลา 40 นาที ค่าโดยสาร 980 เยน ไม่สามารถใช้ JR PASS ได้ แต่สามารถใช้ Tokyo Wide Passได้)
  • นอกจากนี้ ยังมีรถด่วนพิเศษที่วิ่งตรงจากสถานี Shinjuku ไปยังสถานี Shimo-Yoshida เช่นกัน (ใช้เวลารวมประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเงินประมาณ 4,000 เยน สำหรับผู้ที่ใช้ JR PASS จะต้องจ่ายเงินเพิ่มในช่วงสถานี Otsuki ถึงสถานี Shimo-Yoshida ส่วน Tokyo Wide Pass ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม)
  • นอกจากนี้อาจเลือกใช้รถบัสจากท่ารถบัสของสถานี Shinjuku ได้เช่นกัน (ท่ารถอยู่สถานีผั่งทิศใต้) (ใช้เวลา 95 นาที ึค่าโดยสาร 1,950 เยน) แต่จะต้องเดินจากป้ายรถบัส Chuo dori Shimo-Yoshida (中央道下吉田) ไปที่สถานี Shimo-Yoshida ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top