fbpx

ทัวร์ประวัติศาสตร์สุดชิคที่ ‘เกาะฮาชิมะ’ และสวนโกลเวอร์ จ. นางาซากิ

พ.ย. 29, 2019

ทัวร์ประวัติศาสตร์สุดชิคที่ ‘เกาะฮาชิมะ’ และพิพิธภัณฑ์สวนโกลเวอร์ จ. นางาซากิ

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อของ เกาะฮาชิมะ มาไม่มากก็น้อย ทั้งจากภาพยนตร์ชื่อดังหรือเรื่องเล่าลือถึงเกาะร้างสุดหลอนในญี่ปุ่น แต่รู้หรือไม่ครับว่าความเป็นจริงแล้ว เกาะฮาชิมะแห่งนี้มีความเป็นมาอย่างไร 🧐

วันนี้ fromJapan จะพาทุกคนไปหาคำตอบและเที่ยวชมเกาะนี้กันอย่างจุใจ แถมยังตบท้ายด้วยการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจด้วย 😊

หากพร้อมแล้วก็เตรียมแพ็คกระเป๋าไปตะลุยเกาะร้างด้วยกันได้เลยครับ!

สารบัญ (Index)

🏞️🏞️🏞️🏞️

1. การเดินทางมายังนางาซากิ

จังหวัดนางาซากิ เป็นจังหวัดที่โดยภาพรวมแล้วสามารถเดินทางได้สะดวกพอสมควร แต่ด้วยความที่จังหวัดนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคคิวชู ถ้าจะมาที่นี่จากฮอนชูก็คงต้องนั่งเครื่องบินหรือรถไฟชินคันเซ็น ซึ่งถ้านั่งเครื่องบินมาจะใช้เวลาประมาณนี้ครับ

  • จากโตเกียว ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที
  • จากนาโกย่า ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที
  • จากโอซาก้า ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที

สำหรับการเดินทางภายในตัวเมืองนางาซากิเอง สามารถเลือกนั่งรถบัสหรือรถรางก็ได้

สำหรับผู้ที่จะเที่ยวนางาซากิ ดยรวมโซนรอบนอกและจังหวัดอื่นๆในคิวชูด้วย จะมีตัวเลือกอันได้แก่

ความต่างของตั๋วพาส 2 แบบนี้คือ ตั๋ว JR Kyushu Pass ใช้กับรถไฟ ส่วนตั๋ว Sun Q Pass ใช้กับรถบัส แต่หากถามว่าแบบไหนดีกว่ากันก็คงต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับแผนเที่ยวของแต่ละคนครับ (โดยส่วนตัวมองว่า Sun Q ดีกว่านิดๆ เพราะหลายๆที่เที่ยวในคิวชูต้องนั่งรถบัสไปเนื่องจากไม่มีรถไฟ)

สำหรับรถไฟ JR Kyushu ทุกคนสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่นี่เลย >> JR Kyushu Railpass Guidebook (ภาษาไทย)

Back To Index

2. เกาะฮาชิมะ

เกาะฮาชิมะ (Hashima Island) หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ กุนคังจิมะ (Gunkanjima) ซึ่งหมายถึง เกาะเรือรบ ตามรูปร่างของเกาะที่ดูเหมือนเรือรบแบบที่เห็นในรูป เกาะฮาชิมะ

ถ้ามองเผินๆเราจะเห็นเพียงเกาะที่มีแต่ซากปรักหักพัง แต่จริงๆแล้วที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังแห่งหนึ่งของจังหวัดนางาซากิ ถึงขนาดที่เคยเป็นอินสไปเรชั่นในฉากสำคัญของภาพยนตร์ Hollywood อย่าง เจมส์บอนด์ 007 ภาค SKYFALL (2012) และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไทยเรื่อง ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่ ( 2013) ด้วยครับ

เกาะฮาชิมะ

แต่ก่อนที่ฮาชิมะจะกลายเป็นเพียงเกาะร้างอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เกาะแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของเหมืองถ่านหินแหล่งสำคัญ โดยมีการค้นพบถ่านหินเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1810 จากนั้นเกาะฮาชิมะก็ถูกซื้อโดยกลุ่มอุตสาหกรรมมิตซูบิชิ และถูกจัดตั้งเป็นเกาะสำหรับการขุดเหมืองถ่านหินในเวลาต่อมา

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

เกาะฮาชิมะ

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

เกาะฮาชิมะ

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

ในช่วงเวลาดังกล่าวกิจการขุดเหมืองถ่านหินนี้ก็เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ช่วงรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิจนถึงสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ ซึ่งเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมกำลังพัฒนานั่นเอง ในขณะนั้นเกาะนี้มีประชากรหนาแน่นกว่าโตเกียวซะอีก!

เกาะฮาชิมะ

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

เกาะฮาชิมะ

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

เกาะฮาชิมะ

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

ถึงแม้ว่ากิจการขุดเหมืองถ่านหินจะเจริญมากแค่ไหน หรือแรงงานที่มาทำงานที่นี่จะได้เงินค่าตอบแทนสูงมากเพียงใด แต่พวกเขาก็ต้องแลกกับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและมีความเสี่ยงสูงทั้งจากสารพิษของเหมืองและภัยธรรมชาติจากพายุ 😥

เกาะฮาชิมะ

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

อย่างไรก็ตาม มียุครุ่งโรจน์ก็ต้องมียุคล่มสลาย เมื่อมีการประกาศนโยบายว่าให้เปลี่ยนจากการใช้ถ่านหินมาใช้น้ำมันแทนในช่วงปี ค.ศ. 1974 เหมืองถ่านหินบนเกาะฮาชิมะจึงต้องปิดตัวลง เมื่อไม่มีเหมืองให้ขุดชาวเมืองก็ทยอยย้ายออกไป จนในที่สุดเกาะแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้าง เมื่อเวลาผ่านไปเกาะที่เคยรุ่งเรืองอย่างฮาชิมะก็ไร้คนดูแล ซ้ำยังถูกพายุและลมพัดกระหน่ำใส่ตลอดเวลาจนมีสภาพดังที่เห็นในปัจจุบันนั่นเองครับ

ที่มา (Ref.) : gunkanjima-museum.jp

แม้ตำนานของเกาะฮาชิมะจะหยุดลงและกลายเป็นสถานที่ทิ้งร้าง แต่ในปี 2015 เกาะแห่งนี้ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในฐานะที่เป็นมรดกทางอุตสาหกรรมที่ยังหลงเหลือเค้าเดิมและยังส่งผลมาถึงคนรุ่นหลัง

ถึงอย่างนั้นเกาะฮาชิมะเองก็ถูกต่อต้านจากเกาหลีใต้อยู่พอสมควร เนื่องมาจากความไม่พอใจตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่แรงงานชาวเกาหลีใต้ถูกเกณฑ์ให้มาทำงานที่นี่

เกาะฮาชิมะ

ถ้ามองในแง่ของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ประวัติศาสตร์ของเกาะฮาชิมะนั้นนับว่ามีความน่าสนใจมาก และแน่นอนว่าถ้าอยากถ่ายรูปอัปฯลงโซเชียลมีเดียแบบไม่ซ้ำใครแล้วล่ะก็ ที่นี่ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีอีกแห่งหนึ่งครับ

และไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความรกร้างตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางทะเล หลายๆคนจึงเริ่มนึกไปถึงเรื่องผีสุดหลอนต่างๆนานา จนถึงขนาดที่ว่ามีคนยืนยันว่าเคยพบเจอประสบการณ์เหนือธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้มาแล้ว นั่นยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวอยากเข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของเกาะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแห่งนี้มากขึ้นไปอีก

เกาะฮาชิมะ

และเนื่องจากว่าการไปเที่ยวเกาะฮาชิมะจำเป็นจะต้องไปโดยเรือทัวร์เท่านั้น ระหว่างทางเราจึงสามารถชมความสวยงามของอ่าวไปด้วยได้ โดยในรูปนี้เป็นอู่ต่อเรือซึ่งเป็นที่ต่อเรือประจัญบานมุซาชิ เรือรบขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงบรรดาโบสถ์ต่างๆริมทะเล ด้วยความที่นางาซากิเป็นเมืองที่ทำการค้ากับต่างชาติ จึงมีโบสถ์ของศาสนาคริสต์เยอะครับ ถ้าโชคดีเราจะได้ชมฝูงปลาโลมาด้วยนะ

เกาะฮาชิมะ

เกาะฮาชิมะ

เกาะฮาชิมะ

ข้อมูลของเกาะฮาชิมะ

ที่อยู่

  • Hashima Takashimacho, Nagasaki City, Nagasaki Prefecture 851-1315
วันทำการ

  • เกาะฮาชิมะเปิดให้เที่ยวชมทุกวัน แต่การจะเข้าไปชมเกาะได้จะต้องไปผ่านบริษัทเรือทัวร์เท่านั้น

ค่าเข้าชม

  • สำหรับค่าทัวร์ของบริษัทเรือทัวร์ ราคาผู้ใหญ่อยู่ที่ระหว่าง 3,600 – 11,000 เยน ขึ้นอยู่บริษัทและแพ็คเกจที่เลือกครับ

การเดินทาง

  • ในการเข้าเยี่ยมชมเกาะฮาชิมะ จำเป็นจะต้องไปกับทัวร์เท่านั้นครับ โดยมีหลายทัวร์ให้บริการตามท่าเรือต่างๆ  สามารถดูรายละเอียดบริษัททัวร์ที่เรายกตัวอย่างมาให้ตามลิงก์ด้านล่างครับ 

พิกัด

Back To Index

3. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งสวนโกลเวอร์

สวนโกลเวอร์ (Glover Garden) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งอันเป็นที่ตั้งของอาคารสถานที่หลายแห่งในสมัยก่อนที่ญี่ปุ่นจะมีนโยบายปิดประเทศ รวมถึงเคยเป็นที่พำนักของของชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งที่เข้ามาตั้งรกรากหลังจากที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศ

จุดเด่นสำคัญคืออาคารตามรูปแรก ซึ่งเป็นที่พำนักของ Thomas Glover (1838-1911) ชาวสกอตแลนด์ผู้ร่วมสนับสนุนการปฏิวัติในยุคเมจิเพื่อโค่นล้มอำนาจของรัฐบาลโชกุนและคืนอำนาจให้แก่พระจักรพรรดิเมจิ

เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีการปิดประเทศนั้นมาจากในช่วงรัฐบาลโชกุนคนที่ 3 คือ โทคุกาวะ โยชิมิตสึ ที่เกิดความไม่ไว้วางใจในมิชชันนารีชาวต่างชาติที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ โดยโชกุนโยชิมิตสึกังวลว่าหากปล่อยให้มีการแพร่ขยายของศาสนาคริสต์มากจนเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดการแข็งข้อของพลเมืองและเกิดการก่อกบฏขึ้น ในที่สุดรัฐบาลโชกุนจึงได้ดำเนินการกวาดล้างชาวคริสต์ ซึ่งรวมไปถึงการออกนโยบายปิดประเทศนั่นเอง

ที่มา (Ref.) : vexilla-galliae.fr

ในตอนนั้นแม้จะมีนโยบายปิดประเทศอยู่ แต่ญี่ปุ่นก็ไม่สามารถปิดประเทศได้โดยสมบูรณ์แบบ เพราะการค้ากับชาติตะวันตกนั้นสร้างกำไรให้กับรัฐบาลโชกุนเป็นอย่างมาก ทำให้รัฐบาลโชกุนยังคงรักษาการค้ากับชาติตะวันตกไว้หนึ่งชนชาติ นั่นก็คือ ชาวฮอลันดา (หรือชาวดัตช์ ซึ่งก็คือประเทศเนเธอร์แลนด์ในปัจจุบัน) โดยกำหนดให้ชาวฮอลันดาสามารถทำการค้าได้ในเขตที่กำหนดภายในจังหวัดนางาซากิเท่านั้น

ที่มา (Ref.) : wikimedia.org

กลับมาที่ปัจจุบันครับ สวนโกลเวอร์แห่งนี้มีอาคารหลายแห่งที่เราสามารถขึ้นไปบนระเบียงเพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองท่านางาซากิได้ ภาพทิวทัศน์ของเมืองแห่งท่าเรือ พื้นมหาสมุทรสีน้ำเงิน บ้านเรือนที่เรียงรายกัน ทิวเขาที่สลับซับซ้อน ทั้งหมดนี้เป็นภาพที่สวยงามไม่แพ้ใครเลยใช่ไหมล่ะครับ

นอกจากนี้ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดแสดงเฟอร์นิเจอร์เก่าๆจากบรรดาพ่อค้าต่างชาติในอดีตอีกด้วย

รวมถึงมีโซนจัดแสดงรถแห่และหุ่นเชิดของเทศกาลในเมืองนางาซากิด้วยครับ

ข้อมูลของพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งสวนโกลเวอร์

ที่อยู่

  • Glover Garden 8-1 Minamiyamatemachi, Nagasaki, Nagasaki 850-0931, Japan
เบอร์ติดต่อ
  • 095-822-8223
เว็บไซต์

วันเวลาทำการ

  • เปิดทำการทุกวัน เวลา 8:00 – 18:00 น. 

ค่าเข้าชม

  • ผู้ใหญ่ : 620 เยน
  • นักเรียนมัธยมปลาย : 310 เยน
  • นักเรียนประถมและมัธยมต้น : 180 เยน
การเดินทาง

  • ขึ้นรถรางหมายเลข 5 แล้วลงที่สถานี Ouratenshudo-Shita เดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
พิกัด

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับจังหวัดนางาซากิ

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ! ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top