‘Kiroro Resort’ ลานสกีหิมะที่ดีที่สุดบนเกาะฮอกไกโด

Kiroro Resort ลานสกีหิมะที่ดีที่สุดบนเกาะฮอกไกโด

ใครที่เคยดูภาพยนตร์ไทยเรื่อง ‘แฟนเดย์ แฟนกันวันเดียว’ ก็คงคุ้นตากับบรรยากาศสวยๆแสนเย็นฉ่ำของลานสกีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตาแห่งนี้

ใช่แล้วค่ะ ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นเอง!

วันนี้ fromJapan  จึงขอพาทุกคนมาตามรอยภาพยนตร์และเก็บบรรยากาศสวยๆจาก “Kiroro Resort” ลานสกีหิมะและรีสอร์ทชื่อดังของ ‘ฮอกไกโด’ กันค่ะ🎿

จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือและเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น ลักษณะทางธรรมชาติและภูมิประเทศของฮอกไกโดเอื้อต่อการอนุลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาสูงที่มักจะปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนอยู่ตลอดเวลา หรือจะเป็นป้าไม้เขียวขจีและธารน้ำใสที่สะอาดจนดื่มได้!

ฮอกไกโดจึงเป็นจังหวัดที่โดดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยวทางธรรมชาติไปในตัว โดยเฉพาะพวกกีฬากลางแจ้งอย่างการเล่นสกี ถ้าใครไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอยากเล่นสกีน้ำแข่งท่ามกลางหิมะก็ต้องมาที่ฮอกไกโดนี่แหละค่ะ

อย่างที่เราบอกไปในข้างต้นค่ะว่า วันนี้เรามาเยือนยังสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง‘ แฟนเดย์ แฟนกันวันเดียว ณ “Kiroro Resort” ลานสกีหิมะและรีสอร์ทที่ดีที่สุดในฮอกไกโด แต่จะให้มาดูวิวอย่างเดียวก็กลัวจะเสียเที่ยวไปหน่อย ไหนๆที่นี่ก็ถูกยกว่าเป็นลานสกีหิมะที่ดีที่สุดในฮอกไกโดแล้ว เรามาเล่นสกีไปด้วยเลยแล้วกัน!

สำหรับคนที่มีอุปกรณ์สกีพร้อมแล้วสามารถเลือกซื้อตั๋วสำหรับขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังลานสกีได้เลยค่ะ ซึ่งราคาของตั๋วก็จะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาค่ะ ยิ่งช่วงไฮซีซั่น (High season) ราคาก็จะสูงหน่อย แต่เราก็จะได้เจอหิมะพาวเดอร์สโนว์หนานุ่มกว่าฤดูอื่นค่ะ✨

แต่สำหรับคนที่ไม่มีอุปกรณ์ใดๆเลย ทางลานสกีก็มีให้เช่าครบทุกอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอุปรณ์สกี สโนว์บอร์ด แว่นตากันลม หมวกกันน็อค ฯลฯ โดยมีค่าใช้จ่าย ดังนี้…

ใครกลัวว่าจะงงจนซื้อไม่ถูกก็ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะเพื่อนๆสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ A ทางด้านซ้ายของทางเข้าได้เลย

เมื่อทำการซื้อตั๋วขึ้นลิฟต์และเช่าชุดเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับคีย์การ์ดที่ระบุชื่อของเราค่ะ

ซึ่งคีย์การ์ดใบนี้นอกจากจะใช้ในการขึ้นลิฟต์แล้วยังบันทึกข้อมูลของเราเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ไซซ์รองเท้าและอื่นๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สะดวกต่อการจัดหาอุปกรณ์ต่างๆให้เราในแต่ละครั้ง

สำหรับข้อมูลตรงนี้สามารถลงทะเบียนด้วยตนเองได้ที่หน้าทางเข้า Rental Shop นะ✨

สำหรับคีย์การ์ดนี้จะมีค่ามัดจำบัตร 500 เยน หากไม่อยากเก็บไว้เล่นครั้งต่อไปหรือเก็บเป็นที่ระลึก ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอคืนบัตรได้ค่ะ 

เมื่อลงประวัติของเราเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็เข้าไปหยิบอุปกรณ์สกีที่ Rental Shop ได้เลยค่ะ โดยด้านในจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเลือกอุปกรณ์สกีให้เข้ากับเราอยู่ค่ะ

ถ้าใครต้องการครูสอนเล่นสกีก็สามารถเข้าไปติดต่อที่ Kiroro Academic เพื่อจ้างครูมาสอนใช้อุปกรณ์และวิธีการเล่นที่ถูกต้อง

มือใหม่หมดห่วงได้เลยค่ะเพราะครูเขาจะสอนจนเราชำนาญในระดับนึงเลยค่ะ ที่สำคัญคือไม่ต้องกลัวว่าจะฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องเพราะคุณครูที่นี่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่ะ👍

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีล็อกเกอร์สำหรับฝากของให้ด้วยนะ โดยเราจะต้องเสียเงินครั้งละ 500 เยน แต่คุ้มอยู่นะคะเพราะตัวล็อกเกอร์ค่อนข้างใหญ่ ทำให้จุสัมภาะระได้เยอะทีเดียวเลยค่ะ แถมยังมีตู้ล็อกเกอร์ให้บริการเยอะแบบไม่ต้องแย่งกันอีกต่างหาก🌟

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือของกินค่ะ🤤 สำหรับที่นี่นั้นเวลาทานอาหารก็ไม่ต้องไปไหนไกลเพราะเขามีร้านอาหารคอยบริการอยู่หลายร้านเลย

ไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือราเมง🍜🍛 เราสามารถเลือกทานได้ตามใจชอบเลยค่ะ 

หน้าตาของเมนูก็จะประมาณนี้ น่าทานไหมคะ?

หลังจากเตรียมตัวและทานอาหารกันเรียบร้อยเราก็ไปเริ่มเล่นสกีกันเลยค่ะ

โดยคอร์สสกีของที่นี่จะแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับต้น(เส้นทางสีเขียว) ระดับกลาง(เส้นทางสีแดง) และระดับสูง(เส้นทางสีดำ)

แน่นอนว่ามือใหม่ใสกิ๊ง(แบบเรา🤣) ก็ถูกแนะนำให้เล่นระดับเริ่มต้นก่อนเพื่อฝึกให้คุ้นเคยกับอุปกรณ์สกี แล้วค่อยไปลุยต่อกันที่สูงๆ👍

ในระหว่างที่เล่น เราก็เอาภาพบรรยากาศสวยๆของเนินเขาหิมะมาฝากค่ะ

ที่เด็ดสุดคือบรรยากาศตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดินค่ะ 🌄

หลังจากเล่นสกีมาทั้งวันในช่วงเย็นถึงดึกนั้นเราจะขอพาทุกคนไปผ่อนคลายกันที่ไอซ์บาร์ (Ice Bar) บาร์ที่ทำมาจากน้ำแข็ง ฟังไม่ผิดค่ะ บาร์น้ำแข็งจริงๆ! 🥶

บาร์นี้ตั้งอยู่ด้านล่างของลานสกี ติดกับโรงแรม The Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel เล่นสกีเสร็จเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาก็เจอเลย 

เรียกได้ว่าเป็นไอซ์บาร์สมชื่อจริงๆค่ะ เพราะไม่ว่าโต๊ะหรือเก้าอี้ก็ล้วนทำจากน้ำแข็งทั้งหมด🥶

พอเป็นแบบนี้หลายคนอาจจะกลัวว่าทำจากน้ำแข็งหมดจะต้องหนาวมากแน่ๆ แต่ขอบอกว่าไม่หนาวเลยค่ะ แม้อากาศจะติดลบแต่ข้างในกลับอุ่นกว่าข้างนอกซะอีก👍

อาหารและเครื่องก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ ไหนๆก็มาไอซ์บาร์แล้วเย็นให้สุด!

อันนี้น่ารักมากเลย น้องเป็ดหิมะ~

และสิ่งที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือเครื่องดื่มสุดคอนทรานส์ (Contrast) เย็นชื่นใจพร้อมมีไฟลุกด้านบนแถมยังเสิร์ฟมาในแก้วน้ำแข็งอีก! 

สำหรับไอซ์บาร์นี้จะเปิดแค่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปีเท่านั้น ใครที่มาเล่นสกีก็อย่าลืมแวะมานะคะ

นอกจากส่วนของลานสกีและบาร์แล้ว แน่นอนว่าทาง Kiroro นอกจากเป็นลานสกีที่ได้รับความนิยมมากแล้ว เขายังมีรีสอร์ทสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนหรืออยู่ยาวเพื่อเล่นสกีทั้งฤดูกาล

สำหรับใครที่สนใจในเรื่องของห้องพัก เราแนะนำให้เข้าไปชมห้องตัวอย่างและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งก์นี้ค่ะ >> STAY AT KIRORO RESORT

ข้อมูลของคิโรโระรีสอร์ท (Kiroro Resort)

ที่อยู่

• 128-1 Aza-Tokiwa, Akaigawa-mura, Yoichi-gun, Hokkaido

เบอร์ติดต่อ

• +81（0）088-21-7008 (ClubMed Kiroro)
• +81（0）135-48-6789 (Yu Kiroro)
• +81（0）135-34-7171 (SKI AREA)

เว็บไซต์

• kiroro.co.jp

วันและเวลาทำการ

• ช่วง Early Season เปิดประมาณต้นธันวาคม – กลางธันวาคม
• ช่วง High Season เปิดประมาณกลางธันวาคม – ต้นเมษายน
• ช่วง Spring Season เปิดประมาณต้นเมษายน – ต้นพฤษภาคม

เนื่องจากแต่ละฤดูกาลมีเวลาเปิดและปิดของสถานที่แตกต่างกัน สามารถดูเวลาทำการได้จากเว็บไซต์นี้ >>kiroro.co.jp

วิธีการเดินทาง

• วิธีการที่ 1 นั่งรถบัสรับส่งจากสนามบิน New Chitose,Sapporo, Otaru,Niseko โดยสามารถเลือกจองผ่านทาง kiroro.co.jp 
• วิธีการที่ 2 นั่งรถไฟ JR จากสถานี New Chitose หรือ Sapporo ไปลงสถานี Otaru Chikko และต่อแท็กซี่เข้าไป Kiroro Resort 
• วิธีการที่ 3 นั่ง Rental Car ที่ Kiroro Resort มีบริการที่จอดรถภายนอกถึง 1900 คัน (ไม่มีค่าใช้จ่าย) และภายในโรงแรม 100 คัน มีค่าใช้จ่ายดังนี้

• • –  1 ชั่วโมง ราคา  200 เยน
  • –  6 ถึง 12 ชั่วโมง ราคา 1,200 เยน
  • –  24 ชั่วโมง(สำหรับลูกค้าที่เข้าพักโรงแรมเท่านั้น) ราคา 1,000 เยน

พิกัด

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับทริปทัวร์สกีรีสอร์ทที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ถูกใจสายลุยที่ชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมกันหรือเปล่า?

หากเพื่อนๆชื่นชอบบทความของ fromJapan เราก็ยังมีบทความดีๆสนุกๆอีกมากมายให้ได้ลองอ่านกัน สามารถเลือกดูได้จากด้านล่างเลยนะคะ 👍

บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับฮอกไกโด🎿

• เตรียมช้อนให้พร้อมชิม! กับ 5 ร้านดังที่ ‘ถนนขนมหวานแห่งฮอกไกโด’
• 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดฮอกไกโด’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง
• สัมผัสน้ำแร่ธรรมชาติ ณ ‘สวนฟูกิดาชิ’ ฟูจิแห่งฮอกไกโด

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top