ชมอาคารยุคเมจิของจริงที่ “พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ”
มี.ค. 03, 2020
พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ
พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ (THE MUSEUM MEIJI-MURA) เป็นพิพิธภัณฑ์สไตล์กลางแจ้งที่จัดแสดงอาคารสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงสิ่งของต่างๆในช่วงยุคปฏิวัติเมจิ (ปี 1868 – 1912)

ที่มา : https://historyxsite.wordpress.com/2017/09/25/meiji/
ว่าแต่ยุคเมจินี่มันมีอะไรเกิดขึ้นกันล่ะ?
ยุคนี้เป็นยุคที่ญี่ปุ่นปรับปรุงประเทศครั้งใหญ่ เพื่อให้เจริญก้าวหน้าและทันสมัยตามแบบชาติตะวันตก โดยเริ่มต้นหลังจากที่กลุ่มหัวก้าวหน้าในแคว้นโชชูและแคว้นซะสึมะผนึกกำลังกันล้มล้างระบอบโชกุนและซามูไร หลังจากล้มระบอบโชกุนได้แล้วก็มีการสถาปนารัฐธรรมนูญและรัฐบาลใหม่ที่มีองค์จักรพรรดิเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ ซึ่งจักรพรรดิในยุคนั้นคือจักรพรรดิเมจิ ยุคนี้จึงมีชื่อว่ายุคเมจิ (ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ของไทย)
จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คืออาคารต่างๆครับ อาคารที่เราเห็นกันอยู่นี่คืออาคารของจริงเลยนะครับ เป็นอาคารสำคัญๆจากทั่วประเทศที่ถูกย้ายมาตั้งไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพื่อรักษามรดกทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมเอาไว้ (หาดูได้ยาก เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่ถูกทำลายในช่วงสงครามหรือถูกทุบทิ้งสร้างเป็นเมือง) นอกจากนี้ข้าวของบางส่วนในอาคารก็เป็นของจริงนะครับ
ซึ่งพอสังเกตบรรดาอาคารก็นึกสงสัยขึ้นมาว่า เอ…มันไม่ดูญี่ปุ่นเท่าไหร่เลย ทำไมกันนะ?
คำตอบคือยุคนั้นเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังเปิดประเทศครับ เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยตามแบบตะวันตก (ญี่ปุ่นปิดประเทศไป 250 ปี) ซึ่งด้วยอิทธิพลของชาติตะวันตก อาคารจำนวนมากที่เห็นๆกันในยุคนี้จึงมีสไตล์แบบตะวันตกนั่นเอง
สำหรับอาคารแรกนั้นเป็นโรงเรียนที่ถูกยกมาจากจังหวัดมิเอะ
ด้านหน้าอาคารจะมีป้ายบอกประวัติของอาคาร มีภาษาอังกฤษด้วย สบายหน่อยครับ
ภายในอาคารมีข้าวของที่ใช้ในยุคนั้น ส่วนมากจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับการเรียน เช่น หนังสือเรียน ระฆัง ฯลฯ
ตรงนี้จะมีเครื่องสำหรับพิมพ์หนังสือพิมพ์โบราณ ซึ่งเราสามารถเลือกพิมพ์หนังสือพิมพ์ในวันที่เราเกิดได้ด้วยนะ โดยหยอดเหรียญแล้วใส่วัน เดือน ปีเกิดของเรา แล้วเราก็จะได้หนังสือพิมพ์ฉบับวันเกิดตัวเองที่สามารถดูได้ว่ามีเกิดอะไรขึ้นที่ญี่ปุ่นบ้างในวันที่เราเกิด
แวะกินข้าวกันหน่อย อันนี้เป็นร้านขายเนื้อที่ยกมาจากโกเบ
ที่นี่เคยปรากฏในการ์ตูนเรื่องซามูไรพเนจรด้วยครับ
มาถึงร้านเนื้อเราก็ต้องกินเนื้อสิครับ เมนูแนะนำของที่นี่คือสุกี้ยากี้
เรื่องรสชาตินั้น ขอพูดสั้นๆ อร่อยโครต!!!
มาดูโบสถ์กันบ้าง
สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคนี้คือญี่ปุ่นอนุญาตให้มีการสร้างโบสถ์ ทำให้มีการเผยแผ่ศาสนาคริสต์โดยบาทหลวงจากชาติตะวันตกอีกครั้ง (ในช่วงที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ การนับถือศาสนาคริสต์เป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากถูกจับได้จะโดนนำไปตรึงกางเขน)
ข้างในมีโต๊ะเรียนสำหรับเด็ก
โถงสำหรับจัดพิธีกรรมของศาสนาคริสต์
ใกล้ๆกันมีม้านั่งชมวิวที่ให้บรรยากาศโรแมนติกมาก
เนื่องจากที่นี่มีต้นเมเปิลเยอะ การไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คสุดๆไปเลยครับ สวยมาก
ส่วนอันนี้เป็นบ้านน้องชายของไซโกะ ทาคาโมริ (ซามูไรคนสุดท้ายของญี่ปุ่น)
ตกแต่งภายในแบบตะวันตก
บ้านแบบญี่ปุ่นก็มีนะ แต่มีแค่หลังนี้หลังเดียว
การตกแต่งข้างในก็เป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆ
ช่วงที่ไปเขามีอีเว้นต์ร่วมกับการ์ตูนซามูไรพเนจรด้วย ก็จะมีกิมมิคเกี่ยวกับซามูไรพเนจรให้เห็นกันเป็นช่วงๆ
รถไฟในยุคเมจิ พร้อมคำอธิบายว่าข้าวของพวกนี้คืออะไร
ศาลาว่าการ ยกมาจากจังหวัดมิเอะ
ข้างในมีการจัดแสดงข้าวของ เช่น รถลาก นาฬิกา และภาพของสภาพบ้านเมืองยุคเมจิ
สถานีโทรศัพท์ที่ยกมาจากซัปโปโร
ข้างในจัดแสดงโทรศัพท์ยุคโบราณ
ใกล้ๆกันมีร้านให้เช่าชุด ซึ่งนอกจากจะมีกิโมโนให้เช่าแล้ว ยังมีชุดยุคเมจิที่ออกแนวตะวันตกด้วย
ส่วนตึกนี้มีการแสดงดาบสลับคมของเคนชิน (ผมไปไม่ทันครับ ปิดเร็วมาก T T)
โดยรวมแล้ว ผมคิดว่าพิพิธภัณฑ์นี้จะคล้ายๆเมืองมัลลิกาที่กาญจนบุรีครับ แต่ดีกว่าตรงที่อาคารต่างๆในนี้เป็นอาคารจริงๆ ข้าวของก็เป็นของจริง แล้วก็มีป้ายคำอธิบายให้อ่านเยอะมาก และแน่นอนว่าอากาศดี เดินเที่ยวสบายมากครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์เมจิมูระ
ที่อยู่
- THE MUSEUM MEIJI-MURA, 1 Uchiyama, Inuyama City, Aichi Prefecture 484-0000, Japan
โทร
- 0568-67-0314
วันและเวลาทำการ
วันเปิดทำการ
- ช่วงเดือนมีนาคมถึงวันที่ 22 กรกฎาคม และเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม : เปิดให้บริการ เวลา 9:30 น. – 17:00 น.
- ช่วงวันที่ 23 กรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม : เปิดให้บริการ 10:00 น. – 17:00 น.
- ช่วงเดือนพฤศจิกายน : เปิดให้บริการ 9:30 น. – 16:00 น.
- ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ : เปิดให้บริการ 10:00 น. – 16:00 น.
วันปิดทำการ
- พิพิธภัณฑ์ปิดทำการในวันที่ 17, 18, 24, 31 ธันวาคม, วันที่ 3-7 กันยายน และวันที่ 7-11 มกราคม
- และปิดทุกวันจันทร์ในช่วงวันที่ 21 มกราคมถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ : 1,700 เยน
- ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) และนักศึกษามหาวิทยาลัย : 1,300 เยน
- นักเรียนมัธยมปลาย : 1,000 เยน
- นักเรียนประถม – มัธยมต้น : 600 เยน
การเดินทาง
- หากเดินทางจากเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ให้ขึ้นรถไฟสาย Meitetsu จากสถานี Nagoya ไปลงที่สถานี Inuyama (ใช้เวลา 35 นาที ค่าโดยสาร 570 เยน) แล้วขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Meiji-Mura Seimon-mae (ใช้เวลา 21 นาที ค่าโดยสาร 430 เยน)
เว็บไซต์
*.。.*゚*.。.*゚*.。.*
เรามาปิดท้ายด้วยของกินกันนะครับ
ร้านอุตะอันด้ง
หลังจากจบทริปผมก็กลับมาที่เมืองนาโกย่า วันนี้ผมมากินอาหารขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของที่นี่ครับ
ร้านที่พามาคือร้านอุตะอันด้ง ซึ่งที่เมืองไทยก็มีสาขานะ อยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งอิเซตันครับ
หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า อ้าว แล้วทำไมไม่กินที่ไทยล่ะถ้างั้น?
คือว่าที่นี่จะมีเมนูเฉพาะของนาโกย่าอยู่ครับ เมนูนั้นมีชื่อว่าคิชิเมน มันเป็นอุด้งนี่แหละครับ แต่เป็นแบบเส้นแบน ซึ่งรสสัมผัสจะต่างจากอุด้งแบบเส้นใหญ่
โดยสาขานี้อยู่ในห้าง Meitetsu ก็จะหาง่ายหน่อย
https://www.e-meitetsu.com/mds/cafe-restaurant/utaandon/
เมนูที่ผมสั่งเป็นคิชิเมนเย็นพร้อมเทมปุระ
กินโดยใส่ซอสแบบนี้ อร่อยเหาะ
เมนูขึ้นชื่ออีกอย่างคือหมูทอดราดซอสมิโสะครับ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
ชูบุ

จังหวัด ไอจิ

จังหวัด ชิซูโอกะ

จังหวัด ยามานาชิ

จังหวัด นากาโนะ

จังหวัด กิฟุ

จังหวัด นีงาตะ

จังหวัด โทยามะ

จังหวัด อิชิกาวะ

จังหวัด ฟุกุอิ