รีวิวเที่ยวมิเอะ 1 วัน ด้วย Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน
ก.ย. 23, 2022
รีวิวเที่ยวมิเอะ 1 วัน ด้วย Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน
สวัสดีค่ะทุกคน เมื่อครั้งที่แล้วเราได้เล่าถึงทริปท่องเที่ยวนารา 1 วัน ด้วยตั๋ว Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วันกันไปแล้ว ในบทความนี้เราจะมา “รีวิวเที่ยวมิเอะ 1 วัน ด้วย Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน” กันบ้างนะคะ
โดยทริปนี้จะเป็นการเที่ยวต่อเนื่องมาจากรีวิวเที่ยวนาราในบทความที่แล้วค่ะ >> รีวิวเที่ยวนารา 1 วัน ด้วย Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน
อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนที่แล้วค่ะว่าตั๋ว Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วันนั้น ไม่เพียงแต่จะใช้เที่ยวในเมืองโอซาก้าและนาราได้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เที่ยวเส้นทางมิเอะ นาโกย่า และเกียวโตได้อีกด้วย!!
สำหรับวันนี้เราจะใช้ตั๋วดังกล่าวเดินทางไปที่ “จังหวัดมิเอะ” กันค่ะ
เราเริ่มต้นการเดินทางที่โอซาก้าเหมือนเดิม โดยไปขึ้นรถไฟที่สถานี Ōsaka-Uehommachi แล้วนั่งรถไฟด่วนพิเศษ (Kintetsu Limited Express) ไปลงที่สถานี Toba ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
ตั๋ว Kintetsu Rail Pass จะครอบคลุมค่าเดินทางของรถไฟคินเท็ตสึค่ะ เราต้องจ่ายเพิ่มเฉพาะค่าที่นั่งของรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express Ticket) 1,640 เยน
สำหรับใครที่มีสิ่งของและสัมภาระติดตัวมาเยอะ ไม่ต้องกังวลเลยนะคะ เพราะที่สถานีโทบะ (Toba Station) มีบริการตู้ล็อกเกอร์ฝากของหลายจุดมาก ซึ่งเราสามารถฝากของไว้ก่อนแล้วไปเที่ยวแบบเบาๆสบายชิลล์ๆได้เลย
เมื่อถึงสถานีโทบะแล้ว ที่หมายแรกของเราในวันนี้ก็คือ “ฮาจิมังคามาโดะ (Hachiman Kamado)” เพื่อไปหา “อามะซัง” นั่นเอง จากสถานีรถไฟโทบะเราจะนั่งรถบัสไป และเนื่องจากเป็นรถบัสของพื้นที่นี้ก็เลยมีบริการรับส่งฟรีระหว่างสถานีโทบะและฮาจิมังคามาโดะค่ะ!!
ฮาจิมังคามาโดะ หรือ Ama Hut “Hachiman Kamado” ที่เรามาในวันนี้คือกระท่อมของ “อามะซัง” ค่ะ
ว่าแต่อามะซังเป็นใครกัน?
“อามะซัง” คือผู้หญิงที่ทำอาชีพประมงโดยการดำน้ำจับสัตว์ใต้ทะเล เช่น ปลา กุ้ง หรือหอยค่ะ และผู้ที่ดำน้ำลงไปงมสัตว์เหล่านี้ด้วยตัวเองก็คือเหล่าอามะซังนั่นเอง
ที่เมืองโทบะและเมืองชิมะมีผู้ประกอบอาชีพอามะซังมากถึง 1,000 คนเลยค่ะ อามะซังเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมาช้านานนับพันปี และเป็นอาชีพที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดมิเอะเลยค่ะ
หากใครได้ไปสัมผัสและรู้จักวิธีการดำน้ำของเหล่าอามะซัง บอกเลยว่าจะต้องรู้สึกตื่นเต้นและเซอร์ไพรส์มากแน่ๆค่ะ
ครั้งนี้เราไม่ได้จะไปดำน้ำหาหอยหากุ้งกับอามะซังนะคะ แต่เราจะไปกินของอร่อยกันค่ะ เราจะไปกินหอยที่เหล่าอามะซังหามาได้และนำมาบริการย่างพร้อมเสิร์ฟให้เราได้กินกันแบบใหม่ๆสดๆค่ะ
ซึ่งตรงนี้เราสามารถเลือกคอร์สได้ด้วยนะคะว่าเราจะกินอะไร เช่น อยากกินกุ้งอิเสะอย่างเดียว หอยอย่างเดียว หรืออยากกินทั้งหมด ระหว่างที่รออามะซังย่างหอยย่างกุ้งให้ เราก็สามารถร่วมพูดคุยกับเหล่าอามะซังไปด้วยได้ ช่วงเวลานี้แหละค่ะที่เราจะได้สัมผัสกับความน่ารักของอามะซังทุกคน ทั้งน่ารักและเป็นกันเองมากๆเลยค่ะ
และถ้าใครได้มาที่นี่ ทุกคนก็ย่อมต้องอยากพบกับคุณ “เรโกะ โนมุระ” (Reiko Nomura) อามะซังที่มีอายุมากที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ ตอนนี้ท่านมีอายุมากกว่า 90 ปีแล้วแต่ก็ยังแข็งแรงดี อามะซังท่านนี้มีชื่อเสียงมากเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่ว่าใครที่ได้มาเที่ยวก็ต้องอยากเจอกันทั้งนั้น
หลังจากเที่ยวหมู่บ้านอามะซังกันจนเต็มอิ่มแล้ว เราก็นั่งรถบัสกลับสถานีโทบะและไปต่อเรือเฟอร์รี่ค่ะ เรือดังกล่าวเป็นเรือนำเที่ยวอ่าวโทบะและเกาะโลมาของ Shima Marine Leisure ทางไปท่าเรือก็สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังท่าเรือได้เลย สะดวกมากค่ะ
ที่ชั้นบนของท่าเรือ TOBA Marine Terminal จะเป็นเลานจ์ซึ่งทุกคนสามารถไปใช้บริการได้ค่ะ ชั้นนี้มีร้านกาแฟเปิดให้บริการ แล้วเราก็ออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้าด้านนอกได้ เราสามารถนั่งชมวิวหรือถ่ายรูปวิวระหว่างรอขึ้นเรือได้ค่ะ
จากท่าเรือ TOBA Marine Terminal เราสามารถข้ามไปยัง “เกาะอิรุกะ” (Iruka-jma) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เกาะโลมา” (Dolphin Island) ได้ภายในเวลาประมาณ 15-20 นาที หากนั่งเรือจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,000 เยน
ความพิเศษของเรือลำนี้ก็คือ ตัวเรือมีลักษณะเหมือนปราสาทริวกุ มีสีขาวและลายซากุระ ดีไซน์ของเรือได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานเรื่อง “อุราชิมะ ทาโร่” ภายในเรือเป็นการจำลองให้เหมือนเมืองใต้บาดาล สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 360 คน
สำหรับที่เที่ยวบนเกาะที่น่าสนใจเราขอแนะนำ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SHIMA MARINELAND” ซึ่งมีกิจกรรมมากมายให้เราทำ เช่น ชมโชว์โลมา โชว์สิงโตทะเล ไม่เพียงเท่านั้น เรายังสามารถสัมผัสกับน้องโลมาหรือให้อาหารน้องได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีน้องนากที่เราไปเล่นและจับมือกับน้องได้ค่ะ
บนเกาะจะมีลานกว้างให้นั่งพักผ่อน โดยมีรูปปั้นโลมาสีชมพูที่เชื่อกันว่าจะนำโชคมาให้ ใครก็ตามที่ได้พบเจอกับโลมาสีชมพูจะมีความสุข ถ้าเป็นคู่รักก็จะได้ครองคู่กันตลอดไป ด้วยเหตุนี้บริเวณรูปปั้นโลมาสีชมพูจึงเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของเหล่าคู่รักและผู้ที่มากันเป็นครอบครัว
ก่อนดูโชว์โลมาจะมีกิจกรรมให้เราได้ไปสัมผัสกับโลมาด้วยค่ะ เขาจะจัดเป็นรอบๆนะคะ เราจะได้เห็นน้องโลมาใกล้ๆและได้ลูบหัวน้องด้วยค่ะ แต่ข้อควรระวังคือเราต้องสัมผัสโลมาเบาๆเพราะน้องอาจจะตกใจได้ค่ะ ก่อนและหลังจับโลมาอย่าลืมล้างมือฉีดแอลกอฮอล์ทุกครั้งนะคะ
นอกจากนี้ก็จะมีน้องนากยืนรอจับมือกับเราอยู่ด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่จะเปิดช่องเล็กๆเอาไว้ให้เราได้จับมือกับน้องนากค่ะ
ส่วนโชว์สิงโตทะเลจะมีที่นั่งด้านในให้เยอะเลยค่ะ น้องสิงโตทะเลจะโชว์ความสามารถในท่าทางต่างๆ น่ารักมากเลยค่ะ หากได้มาที่นี่ยังไงก็ไม่ควรพลาดการแสดงของสัตว์ต่างๆเลยจริงๆค่ะ
หลังจากเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนเกาะโลมาแล้วเราก็กลับเข้าฝั่ง หลังจากนั้นเราก็ได้แวะไปที่ “สวนชิโรยามะ (Shiroyama Park)” สวนสาธารณะที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟโทบะ โดยเราสามารถเดินไปได้ค่ะ
จุดนี้เป็นจุดชมวิวมุมสูงของสวนชิโรยามะ จากด้านบนของสวนเราสามารถมองเห็นวิวอ่าวโทบะได้สวยงามเลยค่ะ แถมยังมีป้าย TOBA ให้เราไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยว่าเรามาถึงโทบะแล้วนะ โดยมีวิวอ่าวสวยๆอยู่ด้านหลัง เรียกว่าเป็นจุดเช็กอินของที่นี่ได้เลย และถ้าเรามาเที่ยวสวนแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในสวนจะมีต้นซากุระอยู่หลายต้นให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆคู่กับดอกไม้ด้วยค่ะ
แล้วเราก็ได้ปิดท้ายทริปกันด้วยภาพวิวสวยๆจากสวนชิโรยามะ
ขากลับจากมิเอะเรานั่งรถไฟด่วนพิเศษไปยังนาโกย่าโดยใช้ตั๋ว Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วันใบเดิม พาสนี้ครอบคลุมไปถึงสถานีนาโกย่าเช่นกันค่ะ ค่าโดยสารที่เราต้องจ่ายเพิ่มนอกเหนือจากในพาสจะมีแค่ค่าโดยสารรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express Ticket) 1,340 เยนค่ะ
และนี่ก็คือรีวิวทริปเที่ยวนารา 1 วันและมิเอะ 1 วันด้วยตั๋ว “Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน” ค่ะ ถึงแม้ว่าทริปนี้เราจะได้ใช้พาสดังกล่าวในการท่องเที่ยวไปเพียง 2 วันเท่านั้น แต่ก็ถือว่าคุ้มมากๆแล้วค่ะสำหรับพาสราคา 3,900 เยน! ดังนั้นถ้าหากว่าใครมีเวลาเที่ยวให้ครบวันกำหนดใช้พาส 5 วันก็จะยิ่งคุ้มขึ้นไปอีกค่ะ ใช้พาสนี้ไปเที่ยวเมืองละวันถือว่ากำลังพอเหมาะเลย
ทริปหน้าถ้าผู้เขียนได้ไปเที่ยวที่ไหนอีก เราจะมารีวิวการเดินทางให้อีกนะคะ สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
อ่านบทความอื่นๆจาก Kintetsu Railway
- เที่ยวอิเสะชิมะด้วย “รถไฟชิมะคาเสะ” รถไฟด่วนพิเศษสุดพรีเมียม! โดยรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ
- AQUAIGNIS แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดมิเอะ ที่จะพาคุณไปเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อยและผ่อนคลายไปกับออนเซ็น
- รถไฟ Aoniyoshi รถไฟชมวิวสุดหรูที่พาเราท่องเที่ยวไปในโอซาก้า นารา และเกียวโต
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ
แท็กยอดนิยม
แชร์บทความนี้
Klook.com
บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค
คันไซ

จังหวัด โอซาก้า

จังหวัด เกียวโต

จังหวัด เฮียวโกะ

จังหวัด นารา

จังหวัด มิเอะ

จังหวัด ชิกะ

จังหวัด วาคายามะ