เที่ยวอิเสะชิมะด้วย “รถไฟชิมะคาเสะ” รถไฟด่วนพิเศษสุดพรีเมียม! โดยรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ
ก.ย. 20, 2022
- ข้อมูลต่างๆ
- ทางรถไฟ
- สถานที่ท่องเที่ยว
- เคล็ดลับการเดินทาง
- ชูบุ
- ไอจิ
- คันไซ
- โอซาก้า
- เกียวโต
- มิเอะ
- Kintetsu Railway
เที่ยวอิเสะชิมะด้วย “รถไฟชิมะคาเสะ” รถไฟด่วนพิเศษสุดพรีเมียม! โดยรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ
รถไฟชิมะคาเสะ (Shimakaze) เป็นรถไฟด่วนพิเศษระดับพรีเมียมของบริษัทรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ รถไฟขบวนนี้วิ่งผ่านเมืองอิเสะและเกาะคาชิโกจิมะในจังหวัดมิเอะ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อคาบสมุทรอิเสะชิมะกับเมืองใหญ่หลายแห่งเข้าด้วยกัน เช่น เกียวโต โอซาก้า และนาโกย่า
รถไฟด่วนชิมะคาเสะนั้นมีความแตกต่างจากรถไฟขบวนอื่นๆ โดยมีการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้วยดีไซน์และการตกแต่งสุดหรูหราทั้งภายนอกและภายในขบวนรถไฟ อีกทั้งยังนำเทคโนโลยีสุดทันสมัยมาใช้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เราอาจกล่าวได้เลยว่า “รถไฟชิมะคาเสะ” เป็นหนึ่งในรถไฟที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
ไม่เพียงเท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะได้รับจากการโดยสารรถไฟขบวนนี้ก็คือบริการชั้นเยี่ยม
จากนี้ไปเรามาดูกันเถอะว่าเพราะเหตุใด “รถไฟด่วนชิมะคาเสะ” จึงควรค่าแก่การลองขึ้นดูสักครั้ง
สารบัญ (Index)
- 1. “รถไฟชิมะคาเสะ” รถไฟสุดหรูหราที่เป็นหนึ่งในรถไฟคินเท็ตสึรุ่น 50000 series
- 2. ห้องส่วนตัวสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน
- 3. Salon Seats ที่นั่งแถวยาวสำหรับชุมนุมสังสรรค์เป็นหมู่คณะ
- 4. คาเฟ่และร้านอาหารแบบบิลท์อิน
- 5. ตารางเวลาของรถไฟชิมะคาเสะ
- 6. ราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้
- 7. จองตั๋วได้ง่ายและสะดวก
- 8. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เส้นทางรถไฟชิมะคาเสะที่คุณไม่ควรพลาด!
1. “รถไฟชิมะคาเสะ” รถไฟสุดหรูหราที่เป็นหนึ่งในรถไฟคินเท็ตสึรุ่น 50000 series
รถไฟชิมะคาเสะ เป็นหนึ่งในรถไฟฟ้าคินเท็ตสึรุ่น 50000 series รถไฟขบวนนี้สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 2012 และ 2014 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เป็นรถไฟท่องเที่ยวคุณภาพยอดเยี่ยมที่มีการตกแต่งภายในสุดหรูหรา ด้วยการจัดที่นั่งให้มีทั้งที่นั่งเดี่ยว ที่นั่งคู่ และยังเพิ่มความพิเศษด้วยโซนที่นั่งแบบห้องส่วนตัวอีกด้วย
ทุกที่นั่งจะมีระยะห่างจากกัน 125 เซนติเมตร ทำให้นั่งสบายกว่ารถไฟชินคันเซ็น ทุกที่นั่งของรถไฟชิมะคาเสะเป็นเบาะหุ้มหนังแท้สุดนุ่ม ซึ่งมีการติดตั้งพนักพิงศีรษะแสนสบาย เบาะลม ที่พักเท้า และฟังก์ชั่นปรับพนักพิงเพื่อเอนหลัง ยิ่งไปกว่านั้นพนักเก้าอี้ด้านบนยังสามารถปรับมุมองศาได้ ทำให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนและรู้สึกผ่อนคลายเต็มที่เมื่อได้นั่งลงบนเก้าอี้ของรถไฟขบวนนี้
2. ห้องส่วนตัวสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน
นอกจากจะมีที่นั่งธรรมดาซึ่งสามารถจองล่วงหน้าได้แล้ว รถไฟชิมะคาเสะยังมีโซนห้องส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารที่มากันเป็นหมู่คณะอีกด้วย ห้องแบบนี้จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการพูดคุยและพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
ห้องส่วนตัวบนรถไฟชิมะคาเสะมี 2 รูปแบบ ประกอบไปด้วยห้องสไตล์ญี่ปุ่นและห้องสไตล์ตะวันตก
ห้องสไตล์ญี่ปุ่นจะตกแต่งด้วยโต๊ะแบบโฮริโกะทัตสึ หรือโต๊ะตัวเล็กแบบญี่ปุ่นที่มีการเจาะพื้นให้เป็นช่องวางขา ส่วนเก้าอี้จะเป็นแบบไร้ขา ห้องแบบนี้จะมีหน้าต่างขนาดใหญ่ ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ด้านนอกระหว่างการเดินทางได้ นอกจากนี้ภายในห้องยังปรับไฟให้แสงอ่อนลงเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น
หากต้องการใช้บริการห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาที่นั่งปกติ โดยสนนราคาอยู่ที่ 1,050 เยนต่อห้อง
นอกจากห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว รถไฟขบวนนี้ก็ยังมีห้องสไตล์ตะวันตกอีกด้วย ภายในห้องโดยสารแบบตะวันตกถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับห้องนั่งเล่นในบ้าน โดยมีโซฟารูปตัว L และโต๊ะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งได้อย่างสบายและผ่อนคลายราวกับอยู่ในห้องนั่งเล่น
หากต้องการใช้บริการห้องส่วนตัวสไตล์ตะวันตกจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่นั่งปกติ โดยสนนราคาอยู่ที่ 1,050 เยนเช่นเดียวกับห้องสไตล์ญี่ปุ่น
3. Salon Seats ที่นั่งแถวยาวสำหรับชุมนุมสังสรรค์เป็นหมู่คณะ
รถไฟชิมะคาเสะมีที่นั่งแถวยาว Salon Seats สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ โดยที่นั่งประเภทนี้จะมีอยู่ 3 ชุดต่อ 1 ขบวนรถไฟ ความแตกต่างระหว่างที่นั่ง Salon Seats และที่นั่งแบบอื่นๆคือ ที่นั่งแบบ Salon Seats จะมีโต๊ะขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยกันเป็นกลุ่ม
ที่นั่งแบบ Salon Seats รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 6 ท่าน และผู้โดยสารสามารถใช้บริการที่นั่งเหล่านี้ได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
4. คาเฟ่และร้านอาหารแบบบิลท์อิน
นอกจากจะมีห้องส่วนตัวและโซนที่นั่งยาวสำหรับพบปะสังสรรค์แล้ว รถไฟชิมะคาเสะก็ยังมีโซนคาเฟ่และร้านอาหารแบบบิลท์อินภายในขบวนรถไฟอีกด้วย โดยโซนนี้จะเปิดให้บริการในรถไฟ 2 ชั้น ผู้โดยสารสามารถลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มที่ทำด้วยวัตถุดิบจากสถานที่ต่างๆที่รถไฟสายนี้วิ่งผ่านได้ เราจึงได้ลิ้มลองเมนูท้องถิ่นสุดพิเศษก่อนจะถึงที่หมายเสียอีก
อาหารทุกจานบนรถไฟขบวนนี้ล้วนปรุงขึ้นมาสดๆใหม่ๆ
และวันนี้เราก็มีรายชื่อเมนูขายดีบางส่วนมาแนะนำกันด้วยนะคะ
- หอยนางรมปรุงรสด้วยโชยุ
- ซุปมิโสะเคี่ยวด้วยกุ้งอิเสะ
- พิลาฟทะเล (ข้าวอบทะเล)
- ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
- ข้าวกล่องหน้าเนื้อวัวมัตสึซากะ
ส่วนมากราคาของเมนูเหล่านี้จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 เยน ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่าข้าวกล่องที่ขายตามสถานีรถไฟสักเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเรทราคาที่เข้าถึงได้และไม่แพงเกินไปแน่นอน
5. ตารางเวลาของรถไฟชิมะคาเสะ
ในบทความนี้เราได้นำตารางเดินรถของ “รถไฟด่วนพิเศษชิมะคาเสะ” มาให้ทุกคนได้ดูรอบรถไฟกันด้วยค่ะ
6. ราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้
ค่าโดยสารของรถไฟชิมะคาเสะนับว่าถูกกว่าเมื่อเทียบกับรถไฟชินคันเซ็น หากขึ้นรถไฟจากสถานีใหญ่ๆจะมีค่าโดยสารดังต่อไปนี้
เส้นทาง | ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) | เด็ก (อายุ 6-11 ปี) |
โอซาก้า-นัมบะ >> คาชิโกจิมะ | 5,040 เยน | 2,530 เยน |
เกียวโต >> คาชิโกจิมะ | 5,680 เยน | 2,840 เยน |
คินเท็ตสึ นาโกย่า >> คาชิโกจิมะ | 4,700 เยน | 2,360 เยน |
หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าโดยสารส่วนอื่นๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้าเว็บไซต์นี้ >> https://www.kintetsu.co.jp/foreign/english/shimakaze/
7. จองตั๋วได้ง่ายและสะดวก
ตั๋วเดินทางของรถไฟด่วนพิเศษชิมะคาเสะสามารถซื้อและจองได้ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือตามจุดจำหน่ายตั๋วของสถานีรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ
สำหรับผู้ที่ต้องการจองตั๋วออนไลน์สามารถเข้าไปจองได้ที่หน้าเว็บไซต์นี้ >> https://www.ticket.kintetsu.co.jp/vs/en/e-ticket/
หากคุณต้องการซื้อตั๋วด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านช่องทางออนไลน์ ก็สามารถซื้อได้ตามจุดจำหน่ายตั๋วของสถานีรถไฟฟ้าคินเท็ตสึที่มีสัญลักษณ์รูปตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ “Limited Express Tickets” ตามภาพด้านบน
8. แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เส้นทางรถไฟชิมะคาเสะที่คุณไม่ควรพลาด!
ในบริเวณเขตอิเสะชิมะ (Ise-Shima) มีแหล่งท่องเที่ยวดีๆอยู่หลายแห่ง และเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับสถานที่เหล่านี้มากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเยี่ยมชมหากคุณได้มาท่องเที่ยวในโซนอิเสะชิมะ
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine) เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นในหนึ่งศาลเจ้าสำคัญของประเทศญี่ปุ่น โดยในบริเวณศาลเจ้าอิเสะประกอบไปด้วยศาลเจ้าย่อยกว่า 125 แห่ง รวมไปถึงศาลเจ้าชั้นใน (ไนคุ) และศาลเจ้าชั้นนอก (เกคุ)
ศาลเจ้าชั้นใน (Inner Shrine/Naiku) ของศาลเจ้าอิเสะนั้นสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เทพีอามาเทราสึ เทพธิดาที่เชื่อว่าเป็นต้นตระกูลของราชวงศ์ญี่ปุ่น ส่วนศาลเจ้าชั้นนอก (Outer Shrine / Geku) ถูกสร้างขึ้นและอุทิศให้แก่โทโยเกะ เทพีแห่งอาหารและการเก็บเกี่ยว
ศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ (Futami Okitama Shrine) ตั้งอยู่ในบริเวณฟุตามิซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ
ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องการนำโชคดีมาสู่การแต่งงาน หญิงสาวชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงเดินทางมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อไหว้ขอพรให้มีความสุขกับชีวิตคู่
ในบริเวณใกล้ๆกับศาลเจ้าจะมีหินศักดิ์สิทธิ์คู่หนึ่งที่ชื่อว่า หินคู่แต่งงาน (Meoto Iwa) ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลห่างจากฝั่งไปประมาณ 700 เมตร หินก้อนแรกมีชื่อว่า ‘โออิวะ’ สูงประมาณ9เมตร เป็นหินที่ใช้สื่อแทนผู้ชาย ส่วนหินก้อนที่ 2 มีชื่อว่า ‘เมวะ’ สูงประมาณ 4 เมตร หินก้อนนี้จะเป็นตัวแทนของผู้หญิง
หินทั้งสองก้อนนี้จะถูกผูกไว้ด้วยเชือกศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อว่า ‘ชิเมะนาวะ’ และเราจะเห็นเสาโทริอิ (ประตูศาลเจ้า) ตั้งอยู่ด้านบนหินโออิวะด้วย
อุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะ (Ise-Shima National Park) เป็นอุทยานที่กว้างใหญ่ที่สุดในเขตอิเสะชิมะ พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต อุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะนั้นตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ธรรมชาติอันโดดเด่น เนื่องจากมีลักษณะเป็นป่าเขียวขจีที่ห้อมล้อมด้วยมหาสมุทรสีฟ้าใสทั้งสามด้าน
ภายในอุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะประกอบด้วยเกาะแก่งเล็กๆมากมาย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของอาหารท้องถิ่นเลิศรสอย่าง ‘หอยเป๋าฮื้อ’ และ ‘กุ้งมังกรอิเสะ’ สัตว์ทะเลเหล่านี้จะถูกจับขึ้นมาจากท้องทะเลโดยหญิงผู้ทำอาชีพประมงที่เรียกกันว่า “อามะจัง” โดยการทำประมงของอามะจังจะใช้วิธีดั้งเดิมอย่าง ‘การดำน้ำลงไปงมสัตว์ทะเล’
นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว อุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะยังทำหน้าที่เป็นฉากของตำนานเก่าแก่หลายๆเรื่องของญี่ปุ่น นอกจากนี้อิเสะชิมะยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าสำคัญของประเทศญี่ปุ่นอย่าง ‘ศาลเจ้าอิเสะ’ อีกด้วย
ภูเขาอาซามะ (Mt. Asama) เป็นพื้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างภูเขาไฟสองลูก ภูเขาแห่งนี้มีความสูง 2,569 เมตร และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟประเภท ‘ภูเขาไฟมีพลัง’ (active volcano) ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ภูเขาอาซามะปะทุขึ้นครั้งล่าสุดในปี 2019
ย้อนกลับไปในปี 1783 ลาวาที่เกิดจากการปะทุของภูเขาอาซามะได้ไหลลงสู่พื้นที่ระหว่างจังหวัดมิเอะและจังหวัดกุนมะ ทำให้เกิดบริเวณที่เรียกว่า ‘สวนโอนิโอชิดาชิ’ (Onioshidashi Volcanic Park) ขึ้น
โอนิโอชิดาชิเป็นสวนซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นที่ปากปล่องภูเขาไฟ โดยกินระยะทางไกลไปจนถึงจังหวัดกุนมะ หากเดินทางมายังภูเขาอาซามะ เราจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟที่แสนตระการตา ความเขียวขจีของป่าและทางเดินหินภูเขาไฟอันสวยงามจะทำให้คุณแทบลืมหายใจเลยทีเดียว
พออ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงได้รู้แล้วว่า รถไฟชิมะคาเสะ นั้นยอดเยี่ยมสุดๆ แถมยังวิ่งผ่านเส้นทางที่น่าท่องเที่ยวมากๆของญี่ปุ่นด้วย ดังนั้นหากใครกำลังวางแผนทริปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ลองจองตั๋วรถไฟมาเที่ยวอิเสะชิมะกันสิคะ
อ่านบทความอื่นๆจาก Kintetsu Railway
- AQUAIGNIS แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดมิเอะ ที่จะพาคุณไปเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อยและผ่อนคลายไปกับออนเซ็น
- รถไฟ Aoniyoshi รถไฟชมวิวสุดหรูที่พาเราท่องเที่ยวไปในโอซาก้า นารา และเกียวโต
- VISON อัญมณีอันงดงามที่ซุกซ่อนอยู่ในเมืองทากิ จังหวัดมิเอะ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ