6 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในคาโกชิม่า 2023
พ.ย. 17, 2023
6 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในคาโกชิม่า 2023
เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีมาถึงแล้ว!
“คาโกชิม่า” เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคคิวชู ดังนั้นใบไม้ที่นี่จึงเริ่มเปลี่ยนสีช้ากว่าที่อื่น โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คาโกชิม่าก็คือปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม สภาพอากาศของคาโกชิม่าในช่วงนั้นจะค่อนข้างเย็นสบาย ทำให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้คาโกชิม่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อออนเซ็นทรายร้อนแห่งเดียวในญี่ปุ่น หรือทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาไฟซากุระจิมะที่ยังคุกรุ่น ในส่วนของอาหารเลิศรสก็มี ‘หมูดำคุโรบุตะ’ ของอร่อยขึ้นชื่อประจำจังหวัดให้ได้ลิ้มลองกัน
ถ้าใครยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้เราได้รวบรวมสถานที่เด็ดๆสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีเอาไว้ให้แล้วค่ะ
หากทุกคนพร้อมแล้ว เราไปดู 6 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในคาโกชิม่ากันเลย!!
สารบัญ (Index)
- สวนแปะก๊วยพันต้น Tarumizu Senbon Ginkgo Garden
- ศาลเจ้าคิริชิมะ (Kirishima Shrine)
- ทะเลสาบโอนามิ (Onami Lake)
- น้ำตกโซกิ (Sogi Falls)
- ศาลมิยาอุรากู (Miyauragu Shrine)
- วัดเซริว (Seiryu Temple)
1. สวนแปะก๊วยพันต้น Tarumizu Senbon Ginkgo Garden
Tarumizu Senbon Ginkgo Garden เป็นสวนที่มีต้นแปะก๊วยอยู่มากกว่า 1,200 ต้น! ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี พื้นที่นี้จะกลายเป็นสีเหลืองทองอร่ามไปทั่วทั้งภูเขาจนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘แดนสวรรค์สีทอง’
สวนแปะก๊วยแห่งนี้เป็นที่ดินส่วนตัวของนายจูมะและภรรยาที่ช่วยกันปลูกมานานกว่า 40 ปี และยิ่งไปกว่านั้น หากมองจากสวนแปะก๊วยเรายังสามารถชมทิวทัศน์สุดตระการตาของภูเขาไฟซากุระจิมะได้อย่างชัดเจน ด้วยทัศนียภาพอันงดงามเช่นนี้ Tarumizu Senbon Ginkgo Garden จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคาโกชิม่าค่ะ
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tarumizu Senbon Ginkgo Garden >>> เพลินใจไปกับความงามของแปะก๊วยพันต้นที่ ‘Tarumizu Senbon Ginkgo Garden’ จ. คาโกชิม่า
ข้อมูลเกี่ยวกับสวนแปะก๊วยพันต้น Tarumizu Senbon Ginkgo Garden
ที่อยู่
- Shinmido, Tarumizu, Kagoshima 891-2111, Japan
วันและเวลาทำการ
- เปิดทุกวัน เวลา 06:00 – 21:00 น.
วิธีเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Kagoshima-Chuo ให้ต่อรถบัส Kagoshima Kotsu Bus ไปลงที่ท่าเรือเฟอร์รี Kamoike Ferry Terminal (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) จากนั้นนั่งเรือเฟอร์รี Kamoike Ferry Terminal ไปลงที่ท่าเรือเฟอร์รี Kamoike Port (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) แล้วนั่งรถแท็กซี่ไปที่สวน Tarumizu ใช้เวลาเพียงประมาณ 12 นาทีก็จะถึงสวน
พิกัด
2. ศาลเจ้าคิริชิมะ (Kirishima Shrine)
ศาลเจ้าคิริชิมะเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของคาโกชิม่า ซึ่งนอกจากจะเป็น Power Spot หรือจุดรับพลังงานศักดิ์สิทธิ์ของคนคาโกชิม่าแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี ต้นเมเปิลภายในศาลเจ้าจะค่อยๆเปลี่ยนสีกลายเป็นสีแดงอมส้มอย่างสวยงาม และยิ่งถ้าหากมองจากด้านหน้าทางเข้าของศาลเจ้าแล้ว เราจะพบกับทิวทัศน์อันงดงามของศาลเจ้าสีชาดและประตูโทริอิที่มีต้นเมเปิลประดับขนาบทั้งสองข้างด้วยค่ะ
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าคิริชิมะ >>> ขอพรมูเตลูเรื่องความรัก ณ ศาลเจ้าคิริชิมะ (Kirishima Shrine)
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าคิริชิมะ
ที่อยู่
- 2608-5 Kirishimataguchi, Kirishima, Kagoshima 899-4201, Japan
วันและเวลาทำการ
- เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ JR Kagoshima-Chuo ให้นั่งรถไฟสาย Nippo-honsen ไปลงที่สถานี Kirishima Jingu จากนั้นให้นั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยังโรงแรม Kirishima Iwasaki Hotel ประมาณ 15 นาที และลงที่ป้าย Kirishima Jingu Bus Stop
พิกัด
3. ทะเลสาบโอนามิ (Onami Lake)
ทะเลสาบโอนามิเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความสูงถึง 1,412 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และบริเวณทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่ยอดนิยมสำหรับการเดินป่าด้วยค่ะไม่เพียงเท่านั้น เรายังสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเทือกเขาคิริชิมะได้อย่างชัดเจน เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง เหล่าต้นไม้สีเขียวขจีที่อยู่รอบๆทะเลสาบโอนามิจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม อีกทั้งฤดูกาลนี้ยังเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินป่าและสัมผัสกับบรรยากาศอันร่มรื่นของที่นี่ด้วยค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับทะเลสาบโอนามิ
ที่อยู่
- Makizonocho Takachiho, Kirishima, Kagoshima 899-6603, Japan
วันและเวลาทำการ
- เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีเดินทาง
- เดินทางด้วยรถยนต์หรือรถแท็กซี่ : ให้ใช้ทางด่วน Mizobe-kagoshimakuko IC (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)
- เดินทางด้วยรถไฟ : นั่งรถไฟ JR สาย Nippou จากสถานี Kirishima-Jingu ไปลงที่ Kirishima Iwasaki Hotel (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) จากนั้นนั่งรถบัสประจำพื้นที่เทือกเขาคิริชิมะจากโรงแรมไปลงที่จุดปีนเขาโอนามิ (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที)
พิกัด
4. น้ำตกโซกิ (Sogi Falls)
น้ำตกโซกิได้รับสมญานามว่าเป็น “ไนแองการ่าแห่งเอเชีย” ด้วยความกว้างราว 210 เมตร และสูงถึง 12 เมตร น้ำตกแห่งนี้จึงตั้งตระหง่านอย่างงดงามและโดดเด่นอยู่ใจกลางผืนป่า
นอกจากนี้บริเวณน้ำตกโซกิยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของคาโกชิม่า เนื่องจากที่นี่มีต้นเมเปิลมากกว่า 480 ต้น และมีต้นแปะก๊วยอีกประมาณ 50 ต้น
พอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้ชมทัศนียภาพของน้ำตกที่ไหลเชี่ยวพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสี เรียกได้ว่าเป็นทิวทัศน์ที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้มาเยือนมากทีเดียวค่ะ
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำตกโซกิ >>> ‘น้ำตกโซกิ’ จ. คาโกชิม่า ไนแองการ่าแห่งเอเชียที่ควรค่าแก่การไปเยือน
ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำตกโซกิ
ที่อยู่
- 628-41 Okuchimiyahito, Isa, Kagoshima 895-2526, Japan
วันและเวลาทำการ
- เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีเดินทาง
- จากสถานี Shin-Minamata ให้ขับรถเช่าหรือนั่งแท็กซี่มายังน้ำตกโซกิ จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที
- จากสถานี Izumi ของรถไฟสาย Kyushu Shinkansen ให้ขับรถเช่าหรือนั่งแท็กซี่มายังน้ำตกโซกิ โดยใช้เวลาประมาณ 37 นาที
- จากสวน Tadamoto Park หากขับรถเช่าหรือนั่งแท็กซี่มาที่น้ำตกจะใช้เวลาประมาณ 11 นาที
พิกัด
5. ศาลมิยาอุรากู (Miyauragu Shrine)
ศาลมิยาอุรากู เป็นศาลชินโตโบราณซึ่งถูกกล่าวถึงในตำราเก่าแก่ของญี่ปุ่นอย่าง ‘Engishiki’ เล่ากันว่าต้นแปะก๊วยที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบๆบริเวณนี้ปลูกขึ้นเพื่อรำลึกถึง ‘จักพรรดิจินมุ’ จักรพรรดิองค์แรกตามตำนานของญี่ปุ่น ซึ่งเคยเสด็จมาพำนักที่นี่ชั่วคราวก่อนจะเดินทางต่อไปยังทางทิศตะวันออก
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากในบริเวณดังกล่าวคือต้นแปะก๊วยขนาดยักษ์ 2 ต้น ว่ากันว่าต้นแปะก๊วยยักษ์ทางด้านขวาของศาลเคยถูกไฟไหมครั้งใหญ่เมื่อปี 1791 ส่วนต้นทางด้านซ้ายก็เคยถูกกระสุนปืนใหญ่จากกองทัพรัฐบาลยิงโจมตี ทั้งนี้หากเราลองสำรวจบริเวณรอบๆลำต้นแปะก๊วยดูก็จะพบกับรอยกระสุนที่บริเวณลำต้นแปะก๊วยด้วยค่ะ
ต้นแปะก๊วยทั้ง 2 ต้นนี้มีอายุมากกว่า 1,000 ปี อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากจังหวัดคาโกชิม่าให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิลำต้นของมันจะมีใบอ่อน แล้วพอถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลือง จากนั้นในช่วงต้นฤดูหนาว พื้นที่บริเวณรอบๆศาลมิยาโนะอุรากูก็จะดูราวกับปูพรมสีเหลืองทองอร่ามอย่างงดงามค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลมิยาอุรากู
ที่อยู่
- 2437 Fukuyamacho Fukuyama, Kirishima, Kagoshima 899-4501, Japan
วันและเวลาทำการ
- เปิดตลอดทั้งปี
วิธีเดินทาง
- ขับรถเช่าหรือนั่งแท็กซี่จากตัวเมืองคาโกชิม่าประมาณ 50 นาที ก็จะถึงศาลมิยาโนะอุรากู (*หมายเหตุ : มีลานจอดรถ)
พิกัด
6. วัดเซริว (Seiryu Temple)
วัดเซริวเป็นวัดนิกายชินกอนที่หาได้ยากในภูมิภาคคิวชู วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่ระดับความสูง 300 เมตร และก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1990 ที่นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาดค่ะ
ภายในวัดเซริวมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นโดยเหล่าพระภิกษุ ซึ่งประกอบไปด้วยโคมไฟหินอายุกว่า 100 ปี หินมอส รูปปั้นต่างๆ และหินศักดิ์สิทธิ์ที่มีน้ำหนักถึง 35 ตัน นอกจากนี้ภายในวัดยังมีโซนสวนดอกไม้ตามฤดูกาลหลากหลายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นชิดาเระซากุระหรือดอกสึสึจิ
ส่วนช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากมีต้นเมเปิลตั้งเรียงรายอยู่กว่า 100 ต้น บริเวณสวนแห่งนี้จึงถูกย้อมสีให้กลายเป็นสีแดงส้ม ดูงดงามตระการตาเป็นอย่างมากค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับวัดเซริว
ที่อยู่
- 1874-9 Komaki, Ibusuki, Kagoshima 891-0314, Japan
วันและเวลาทำการ
- เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป) ราคา 500 เยน / เด็ก (อายุต่ำกว่า 15 ปี) ราคา 200 เยน
วิธีเดินทาง
- นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Satsuma-Imaizumi จากนั้นให้ขับรถเช่าหรือนั่งแท็กซี่ต่อมาประมาณ 10 นาที
พิกัด
ที่มา
เฟซบุ๊ก Kagoshima Thailand
เว็บไซต์จังหวัดคาโกชิม่า
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดคาโกชิม่า
- ชวนสัมผัสประสบการณ์ขี่ม้ากลางทุ่งหญ้า ชมวิวทิวเขาสุดตระการตาที่ “ฟาร์มม้า HORSE TRUST”
- พาชมประเพณีทำนายดวงในงาน “เทศกาลขี่ม้ายิงธนู” (Koyama Yabusame Festival)
- ชวนชมปรากฏการณ์ “ไดมอนด์ซากุระจิมะ” ดวงอาทิตย์ตกบนยอดภูเขาไฟซากุระจิมะ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ