fbpx

Kinzangura Shochu Brewery จิบเหล้าญี่ปุ่น & เที่ยวชมเหมืองเก่า

มี.ค. 22, 2021

Kinzangura Shochu Brewery

‘Kinzangura Shochu Brewery’ เป็นโรงงานหมักเหล้าโชจูและสาเกในจังหวัดคาโกชิม่า ซึ่งมีวิธีการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มด้วยสูตรดั้งเดิมของตระกูลผู้ก่อตั้งที่มีมานานกว่าร้อยปี ด้วยความเชี่ยวชาญอันเกิดจากการศึกษาและลงมือทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาอย่างยาวนาน Kinzangura จึงได้ชื่อว่าเป็นโรงงานเหล้าแห่งหนึ่งของคาโกชิม่าที่ทำเหล้าญี่ปุ่นได้พิถีพิถันและมีรสชาติดีเยี่ยมสุดๆ

นอกจากจะเป็นโรงงานผลิตสาเกและโชจูแล้ว Kinzangura ก็ยังเคยเป็นเหมืองทองมาก่อนด้วย ซึ่งสภาพแวดล้อมที่เป็นเหมืองทองนี้ก็มีส่วนช่วยให้เครื่องดื่มของที่นี่มีรสชาติดีด้วยค่ะ

หากอยากทำความรู้จักกับโรงงานผลิตเหล้าสาเกและโชจูแห่งนี้มากขึ้นแล้วล่ะก็ ตาม fromJapan มาเที่ยวชมโรงงาน Kinzangura กันได้เลย

สารบัญ

1. รู้จักกับ ‘โชจู’

2. ความพิถีพิถันที่กลั่นออกมาเป็นเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม

3. ‘Kinzangura’ เหมืองทองที่กลายมาเป็นโรงงานผลิตเหล้าญี่ปุ่นชั้นเยี่ยม

1. รู้จักกับ ‘โชจู’

คนไทยอย่างเราอาจจะคุ้นเคยกับเหล้าญี่ปุ่นที่เรียกว่า สาเก เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อ โชจู สักเท่าไหร่ เราจะมาเล่าให้ฟังกันสั้นๆนะคะว่าโชจูกับสาเกต่างกันยังไง

โชจู เป็นเหล้าชนิดหนึ่งของญี่ปุ่นที่ทำจากข้าวบาร์เลย์ มันเทศ หรือข้าว โดยมีต้นกำเนิดอยู่ในภูมิภาคคิวชูนั่นเองค่ะ (ไม่เหมือน ‘โซจู’ ของเกาหลีนะคะ ชื่อคล้ายกันเฉยๆ)

โชจูจะต่างจากสาเกตรงที่โชจูนั้นผลิตขึ้นด้วยการกลั่น ส่วนสาเกจะใช้วิธีการหมัก และโชจูมีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่าสาเกค่ะ

Back To Index

2. ความพิถีพิถันที่กลั่นออกมาเป็นเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม

ที่โรงงานผลิตเหล้า Kinzangura แห่งนี้จะมีนักปรุงเหล้าหรือ ‘master distiller’ ที่คอยทำเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งในการผลิตโชจูนั้น นักปรุงเหล้าที่นี่ได้อนุรักษ์วิธีการทำไว้ให้เป็นแบบดั้งเดิม คือใช้วิธีแบบก่อนยุคเมจิ (ก่อนปี ค.ศ. 1868)

กล่าวคือเขาหมักโชจูด้วยการใช้น้ำ, เชื้อราที่ใช้หมักอาหารในสมัยโบราณที่เรียกว่า ‘โคจิ’, และมันฝรั่งต้ม สิ่งเหล่านี้จะหมักในหม้อต้มแบบโบราณ และนักปรุงเหล้าจะหมักเองกับมือทุกๆขั้นตอน

ส่วนสาเกของที่นี่ก็พิเศษไม่แพ้กัน เพราะนักปรุงเหล้าจะคัดเลือกวัตถุดิบในการทำสาเกมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญคือนักปรุงเหล้าของโรงงานนี้เคยชนะรางวัล gold prize ในการแข่งขันชงเหล้าสาเก the National Sake Competition ด้วย!

มีรางวัลการันตีขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหล้าที่นี่จะมีรสชาติดีเยี่ยมขนาดไหน!

นอกจากเครื่องดื่มแล้ว โรงงาน Kinzangura ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย เราไปดูกันต่อเลยดีกว่าค่ะว่าที่นี่ยังมีอะไรให้เที่ยวชมอีกบ้าง บอกได้เลยว่าน่าสนใจสุดๆ!

Back To Index

3. ‘Kinzangura’ เหมืองทองที่กลายมาเป็นโรงงานผลิตเหล้าญี่ปุ่นชั้นเยี่ยม

ก่อนที่ Kinzangura จะเป็นโรงงานผลิตสาเกอย่างทุกวันนี้ ในอดีตที่นี่เคยเป็นเหมืองทองมาก่อนด้วยนะ! มีการขุดพบทองและแร่หินจำนวนมากที่นี่ ซึ่งถ้ำที่ขุดเจอมีอายุมากกว่า 350 ปี เส้นทางการขุดถ้ำก็มีระยะทางยาวถึง 120 กิโลเมตรเลยล่ะ

ความสนุกของการมาเที่ยวชมโรงงาน Kinzangura มันอยู่ตรงนี้นี่แหละค่ะ เพราะว่าเราสามารถเยี่ยมชมเหมืองเก่าแห่งนี้ได้ด้วยรถไฟ Torokko Train ที่วิ่งวนภายในเหมือง

และนี่ก็คือหน้าตาของรถไฟ Torokko Trainรถไฟขบวนนี้จะพาเราออกเดินทางจากจุดเริ่มต้นไปยังปลายทางของถ้ำภายในเวลาไม่กี่นาทีค่ะ

เอาล่ะ! เรามาขึ้นรถไฟไปเที่ยวเหมืองเก่ากันเลยยยย

จะเข้าอุโมงค์แล้วน๊า

แล้วรถไฟก็วิ่งเข้าไปในเหมืองช้าๆ

สักพักก็วิ่งเร็วขึ้น!

เข้ามาถึงด้านในแล้วค่ะ ^^

เราจะได้เห็นเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆที่ยังคงสภาพความเก่าแก่เอาไว้ เรียกว่าได้ซึมซับบรรยากาศของเหมืองเก่ากันอย่างเต็มที่เลย

มีซากรถไฟโบราณด้วย

ต่อจากนี้จะเป็นจุดสำคัญของที่นี่ค่ะ เพราะว่าเคล็ดลับความอร่อยของเหล้าญี่ปุ่นที่ Kinzangura มันอยู่ตรงนี้!

คืออุณหภูมิภายในเหมืองแห่งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 18 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี (หรือมากสุด 19 องศาฯ) ทำให้ชั้นล่างสุดของเหมืองเป็นที่เก็บรักษาเครื่องดื่มชั้นดี อุณหภูมิที่พอเหมาะจะทำให้สามารถหมักเหล้าได้นาน ส่งผลให้เหล้าที่นี่มีรสชาติดีเยี่ยมเป็นพิเศษนั่นเอง

นอกจากนี้ ภายในถ้ำก็ยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำประดิษฐานอยู่ด้วย คนที่มาเยือนถ้ำนี้จึงได้ไหว้สักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยค่ะ

และนี่ก็คือทริปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเหล้าญี่ปุ่น Kinzangura ที่เรานำมาฝากกันค่ะ

รถไฟ Torokko Train

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับรถไฟ Torokko Train ที่พาเที่ยวชมเหมืองนั้น เราก็มีมาฝากกันด้วยนะ

ในหนึ่งวันรถไฟ Torokko Train จะมีรอบวิ่งเพียง 4 รอบ ดังนี้

  1. รอบ 10:30 น.
  2. รอบ 11:30 น.
  3. รอบ 13:30 น.
  4. รอบ 14:30 น.

ดังนั้นใครจะไปเที่ยวควรจองรอบรถไฟก่อนไปนะคะ

ส่วนค่านั่งรถไฟ Torokko Train ก็ตามนี้เลยค่ะ

  • ผู้ใหญ่ : 720 เยน
  • เด็ก : 310 เยน

หวังว่าทุกคนจะเอ็นจอยไปกับทริปสนุกๆในครั้งนี้ และได้ความรู้เกี่ยวกับเหล้าญี่ปุ่นกลับไปนะคะ ^^

Back To Index

อ่านบทความเกี่ยวกับจังหวัดคาโกชิม่าจาก fromJapan

Jintoku Inari Shrine ศาลเจ้ามีสไตล์ เอาใจสายถ่ายภาพ

‘ศาลเจ้า Arahira Tenjin’ ศาลเจ้าวิวสวย โดดเด่นด้วยเสาโทริอิกลางน้ำ

Sunamushi Onsen “Sayuri” ออนเซ็นทรายร้อนชื่อดังในเมืองอิบุสึกิ

ข้อมูลของ Kinzangura Shochu Brewery

ที่อยู่

13665 Noshita, Ichikikushikino, Kagoshima Prefecture, 896-0073, Japan

โทร

+81 996-21-2110

แฟ็กซ์

+81 996-21-2511

วันทำการ

ปิดทำการทุกๆวันอังคาร

วิธีเดินทาง
  • จากสถานีรถไฟ JR Kushikino station สามารถเดินทางโดยรถยนต์หรือรถแท็กซี่ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
  • จากสถานีรถไฟ JR Kushikino station ให้นั่งรถบัสที่ไปทาง Sendai และลงรถที่ Noshitaguchi จากนั้นให้เดินไปจากป้ายรถบัสโดยใช้เวลา 5 นาที
  • จากตัวเมือง Kagoshima City สามารถขับรถยนต์หรือนั่งรถแท็กซี่ไปได้โดยจะต้องใช้ทางด่วน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
แผนที่

เว็บไซต์

https://www.hamadasyuzou.co.jp/kinzan/

ที่มา

เฟซบุ๊ก Kagoshima Thailand

https://www.facebook.com/KagoshimaThailand/

เว็บไซต์จังหวัดคาโกชิม่า

https://www.kagoshima-kankou.com/for/attractions/12625

 

Back To Top