fbpx

รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดโตเกียว’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง!

พ.ค. 26, 2022

บทนำ : ไปเที่ยว ‘จังหวัดโตเกียว’ กันเถอะ!

รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดโตเกียว’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง

จังหวัดโตเกียว (Tokyo Prefecture) นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังถือเป็นเมืองที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องด้วยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านชอปปิ้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ ศาลเจ้า อนุสาวรีย์ พิพิธภัณฑ์ ตึกระฟ้า สวนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น รวมถึงสถานที่อื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน

แม้ว่าภาพลักษณ์ของโตเกียวในปัจจุบันจะจัดอยู่ในธีม ‘มหานคร’ (Metropolis) อย่างเต็มรูปแบบ แต่เมืองหลวงใหญ่แห่งนี้ก็ยังคงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา เช่น วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว

และในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นนั้น โตเกียวจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความทันสมัยอย่างแท้จริง ดังจะเห็นได้จากตึกระฟ้าหลายๆแห่ง รวมถึงบรรยากาศของท้องถนนซึ่งเต็มไปด้วยสีสันของผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างพลุกพล่าน ยังไม่นับรวมถึงสวนชินจูกุเกียวเอ็น สวนขนาดใหญ่ที่ได้รับฉายาว่าเป็นโอเอซิสแห่งกรุงโตเกียว และตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ ตรอกเล็กๆที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านสไตล์อิซากายะอย่างแน่นขนัด

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว ‘จังหวัดโตเกียว’ ยังเป็นเจ้าของเมนูดังอย่างจังโกะนาเบะ (Chanko Nabe) เมนูหม้อไฟที่ได้รับเลือกจากนักซูโม่ทั่วญี่ปุ่นว่าเป็นเมนูที่ดีที่สุดของพวกเขา และโดะโจนาเบะ (Dojo Nabe) ซึ่งเป็นเมนูหม้อไฟปลาโดะโจที่โด่งดังในเรื่องของรูปลักษณ์อันแสนประหลาด แต่กลับน่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับการเดินทางไปยังโตเกียวนั้น เพื่อนๆสามารถตีตั๋วเครื่องบินจากไทยไปลงที่สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) หรือสนามบินนาริตะ (Narita Airport) ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครกำลังท่องเที่ยวอยู่ในไซตามะหรือคานากาวะก็สามารถนั่งชินคันเซ็นมาเที่ยวที่โตเกียวได้นะคะ โดยสามารถขึ้นรถไฟ JR สายไซเคียว (JR Saikyo Line) จากไซตามะ หรือขึ้นรถไฟ JR สายโชนันชินจูกุ (JR Shonan Shinjuku) กับรถไฟ JR สายโยโกสึกะ (JR Yokosuka Line) จากคานากาวะ มาลงที่สถานีโตเกียว (Tokyo Station) หรือสถานีอื่นๆในโตเกียวได้เลย

เอาล่ะ! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลยดีกว่าว่า จังหวัดโตเกียว แห่งนี้จะมีอะไรให้เราตื่นตาตื่นใจบ้าง ตามมาได้เลยค่ะ~!

สารบัญ (Index)

สถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดโตเกียว
    1. อาซากุสะ (Asakusa)
    2. โตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE)
    3. สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden)
    4. สำนักงานบริหารมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Office Building)
    5. ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ (Omoide Yokocho)
    6. ห้าแยกชิบูยะ (Shibuya Crossing)
    7. ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street)
    8. โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
    9. สวนอุเอโนะ (Ueno Park)
    10. ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market)
อาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดโตเกียว
    1. เอโดะมาเอะซูชิ (Edomae Sushi)
    2. มงจายากิ (Monjayaki)
    3. จังโกะนาเบะ (Chanko Nabe)
    4. ฟุคากาวะเมชิ (Fukagawa-meshi)
    5. โดะโจนาเบะ (Dojo Nabe)

สถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดโตเกียว

1. อาซากุสะ (Asakusa)

การมาเที่ยวจังหวัดโตเกียวโดยไม่แวะไปที่ ‘อาซากุสะ’ นั้น ก็เหมือนกับการกินซูชิเปล่าๆโดยปราศจากท็อปปิ้ง!

อาซากุสะ (Asakusa) ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว อีกทั้งยังเป็นสถานที่แรกที่ชาวต่างชาติเลือกมาเที่ยวกันทันทีเมื่อได้มาเยือนโตเกียว นอกจากนี้อาซากุสะก็ยังเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่ที่สุดในโตเกียวอย่าง วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) อีกด้วยค่ะ

ประตูคามินาริมง (Kaminarimon) ที่อยู่ด้านหน้าวัดเซ็นโซจินั้นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของที่นี่ รวมไปถึงเจดีย์สีแดงสดใสด้วย และในระหว่างทางไปวัดเซ็นโซจิ เราจะต้องเดินผ่านถนนนากามิเสะ (Nakamise Street) ซึ่งเป็นถนนที่ทอดยาวไปยังวิหารหลักของวัด (Sensoji Main Hall) ตลอดสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและแผงขายอาหารท้องถิ่นมากมาย เป็นบรรยากาศที่คึกคักและมีสีสันมากเลยค่ะ

และในบรรดาขนมที่ขายอยู่ตามถนนนากามิเสะนั้น เราขอแนะนำให้ทุกคนลองทานข้าวเกรียบเซมเบ้ดูนะคะ เพราะมันช่างกรุบกรอบและมีรสชาติที่อร่อยมากเลย!

ข้อมูลเกี่ยวกับอาซากุสะ (Asakusa)

วิธีเดินทาง
  • นั่งแท็กซี่จากสถานี Asakusa Station โดยใช้เวลา 5 นาที
ที่อยู่
  • Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
พิกัด

Back To Index

2. โตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE)

โตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE) หรือ โตเกียวทาวเวอร์แห่งใหม่ (New Tokyo Tower) เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ในเขตซุมิดะ จังหวัดโตเกียว อีกทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความสูง 634 เมตรจากพื้นดิน โตเกียวสกายทรีจึงได้ชื่อว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกด้วย

ที่มาของความสูง 634 เมตรนี้ มาจากเรื่องที่ว่าพื้นที่ของโตเกียว คานากาวะ และไซตามะนั้นเคยเป็นอาณาเขตของเมืองเอโดะในอดีต ซึ่งมีชื่อเรียกว่า มุซาชิ (Musashi) ดังนั้นจึงมีการแทนตัวเลขความสูงของตึกตามคำอ่านของพิกัดดังกล่าว โดยคำว่า มุ (mu) แทนเลข 6 ซา (sa) แทนเลข 3 และ ชิ (shi) แทนเลข 4

ในปัจจุบัน โตเกียวทาวเวอร์ซึ่งมีความสูง 333 เมตรนั้นไม่สามารถกระจายสัญญาณคลื่นโทรทัศน์แบบดิจิตอลให้ครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งหมด เนื่องจากมีอาคารและตึกสูงในบริเวณใจกลางเมืองจำนวนมากที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งคลื่นดังกล่าว ด้วยเหตุนี้บริษัทโทบุ เรลเวย์ (Tobu Railway) จึงริเริ่มโครงการก่อสร้างโตเกียวสกายทรีขึ้น

โตเกียวสกายทรีเริ่มก่อสร้างในวันที่ 14 กรกฎาคม 2008 และเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2012 หลังจากนั้นก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤษภาคมปีเดียวกัน

สำหรับในแง่ของการท่องเที่ยวนั้น โตเกียวสกายทรีถือเป็นจุดชมวิวและจุดชมท้องฟ้ายามค่ำที่มีชื่อเสียงค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับโตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE)

วิธีเดินทาง
  • นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hanzomon มาลงที่สถานี Oshiage
  • สามารถดูรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> Click!
ที่อยู่
  • 1 Chome-1-2 Oshiage, Sumida City, Tokyo 131-0045, Japan
ติดต่อ
  • +81570550102
เวลาทำการ
  • เปิดทำการตั้งแต่เวลา 9:00 – 21:00 น.
ค่าเข้าชม
  • สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> Click!
เว็บไซต์
พิกัด

Back To Index

3. สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden)

รู้หมือไร่? (หรือไม่!) ว่าโตเกียวไม่ได้มีดีแค่ตึกระฟ้าและความเป็นเมืองที่ทันสมัยเท่านั้นนะ แต่ภายในเมืองยังมีพื้นที่สีเขียวอันแสนร่มรื่นด้วย~ และนี่ก็คืออารัมภบทของเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น นั่นก็คือ สวนชินจูกุเกียวเอ็น

สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden) เป็นหนึ่งในสวนที่มีความสำคัญของญี่ปุ่น สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจยอดฮิตของผู้คนที่ต้องการปลีกตัวออกจากความวุ่นวายของเมืองหลวงใหญ่ชั่วคราว

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวที่สวนชินจูกุเกียวเอ็นก็คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระต่างพร้อมใจกันบานสะพรั่งไปทั่วทั้งสวน ส่วนอีกช่วงหนึ่งก็คือฤดูใบไม้ร่วง เพราะทุกคนจะได้ชมทิวทัศน์โทนสีแดงส้มของต้นไม้ที่กำลังผลัดใบอย่างกระตือรือร้น!

นอกจากนี้ สวนชินจูกุเกียวเอ็นยังขึ้นชื่อเรื่องสระน้ำและเจดีย์ที่สวยงามอีกด้วย และหากลองเดินไปรอบๆสวน เราจะพบกับบ้านน้ำชา (Teahouse) ที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับวากาชิแสนอร่อยและชาเขียวรสชาติเยี่ยมได้ด้วยนะ

ข้อมูลเกี่ยวกับสวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Sendagaya Station โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที
ที่อยู่
  • 11 Naitomachi, Shinjuku City, Tokyo 160-0014, Japan
ติดต่อ
  • +81333500151
เวลาทำการ
  • 1 ตุลาคม ถึง 14 มีนาคม : เปิดทำการตั้งแต่เวลา 9:00 – 16:00 น.
  • 15 มีนาคม ถึง 30 กันยายน : เปิดทำการตั้งแต่เวลา 9:00 – 17:30 น.
  • เฉพาะช่วง 1 กรกฎาคม ถึง 20 สิงหาคม : เปิดทำการตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:30 น.
  • วันปิดทำการ : ปิดทำการทุกวันที่ 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคมของทุกปี
ค่าเข้าชม
  • ผู้ใหญ่ : 500 เยน
  • นักเรียน : 250 เยน (มีการตรวจบัตรประจำตัวนักเรียนด้วยนะ)
  • ผู้สูงวัย (ผู้มีอายุมากกว่า 65 ขึ้นไป) : 250 เยน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี : ไม่มีค่าใช้จ่าย
เว็บไซต์
พิกัด

Back To Index

4. สำนักงานบริหารมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Office Building)

สำนักงานบริหารมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Office Building) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของหอสังเกตการณ์ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 202 เมตรจากระดับน้ำทะเล และที่สำคัญที่สุดคือเขาเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรีจ้า~!

ดังนั้นเพื่อนๆจึงสามารถชมวิวเมืองยามค่ำที่สวยงาม หรือจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าก็ได้นะคะ เพราะว่าทุกคนจะได้เห็นดาวดวงน้อยนับล้านอย่างแน่นอน! (ถ้าวันนั้นเป็นวันท้องฟ้าปลอดโปร่งนะ 555)

สำหรับใครที่อยากไปชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโตเกียว ขอแนะนำให้ขึ้นไปที่อาคารทิศเหนือ (North Tower) ของสำนักงานบริหารมหานครโตเกียวนะคะ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิ ก็ต้องขึ้นไปที่อาคารทิศใต้ (South Tower) ในช่วงกลางวันของวันที่อากาศแจ่มใสค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับสำนักงานบริหารมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Office Building)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Shinjuku Station โดยใช้เวลาประมาณ 7 นาที (ระยะทาง 500 เมตร)
  • เดินจากป้ายรถบัส Tocho Daini Honchosha โดยใช้เวลาประมาณ 4 นาที (ระยะทาง 300 เมตร)
ที่อยู่
  • 2 Chome-8-1 Nishishinjuku, Shinjuku City, Tokyo 163-8001, Japan
ติดต่อ
  • +81353211111
เวลาทำการ
  • North Tower : 09:30 – 23:00 น.
  • South Tower : 09:30 – 17:30 น.
ค่าเข้าชม
  • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์
พิกัด

Back To Index

5. ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ (Omoide Yokocho)

ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ (Omoide Yokocho) เป็นตรอกเล็กๆในย่านชินจูกุที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ภายในตรอกแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารพื้นเมืองซึ่งมักจะมียากิโทริแสนอร่อยและเหล้ารสเลิศ

นอกจากนี้ โคมไฟสีแดงและควันจากเตาย่างอาหารก็ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศคล้ายยุคเอโดะด้วยค่ะ ถ้าเพื่อนๆอยากลองเดินเล่นไปตามถนนในยามค่ำคืน ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจก็เป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ทุกคนได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ

อย่างไรก็ตาม ในอดีตตรอกแห่งนี้เคยถูกเรียกว่า Piss Alley (ซึ่งผู้เขียนเรียกขำๆว่าตรอกสุขาวดี 😂) เพราะในสมัยเอโดะยังไม่มีห้องน้ำสาธารณะให้ผู้คนได้ปลดทุกข์กันอย่างทันท่วงที ช่างผิดกับปัจจุบันที่สถานที่แห่งนี้กลายเป็นตรอกที่มีของกินแสนอร่อยไปซะงั้น 555

ข้อมูลเกี่ยวกับตรอกโอโมอิเดะ โยโกโจ (Omoide Yokocho)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Shinjuku Station โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที
ที่อยู่
  • 1 Chome-2 Nishishinjuku, Shinjuku City, Tokyo 160-0023, Japan
ติดต่อ
  • +81333643235
เวลาทำการ
  • เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์
พิกัด

Back To Index

6. ห้าแยกชิบูยะ (Shibuya Crossing)

ห้าแยกชิบูยะ (Shibuya Crossing) ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นทางข้ามถนนที่มีผู้คนเดินพลุกพล่านมากที่สุดในโลก! ไม่ว่าจะเป็นวันหรือเวลาไหนก็ต้องมีคนที่ยังใช้เส้นทางนี้ในการสัญจรอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ความหนาแน่นของประชากรบนถนนแห่งนี้จะมากกว่าวันอื่นๆเป็นพิเศษเลยค่ะ

หนึ่งเหตุผลที่เราอยากให้เพื่อนๆมาที่นี่นั้น ก็เพราะว่าเราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสกับการข้ามถนนบนทางม้าลายพร้อมกับผู้คนนับร้อย…หรือบางช่วงเวลาก็เรียกได้ว่านับพัน! แถมเรายังมีโอกาสได้เก็บรูปถ่ายเจ๋งๆแนวสตรีทอีกด้วยนะ สายช่างภาพห้ามพลาดที่นี่จริงๆ!

ข้อมูลเกี่ยวกับห้าแยกชิบูยะ (Shibuya Crossing)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Shibuya Station โดยใช้เวลาประมาณ 2 นาที
ที่อยู่
  • 2 Chome-2-1 Dogenzaka, Shibuya City, Tokyo 150-0043, Japan
เวลาทำการ
  • เปิดทำการทุกวัน ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
พิกัด

Back To Index

7. ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street)

ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street) เป็นถนนในย่านฮาราจูกุ (Harajuku) ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นมากมายที่ทั้งน่ารัก ทันสมัย ราคาสมเหตุสมผล นอกจากนี้ยังมีร้านขายผ้าบูติกสุดเลิศและห้างสรรพสินค้าหลายร้อยแห่งด้วย

ตัดภาพมาที่ของกินกันบ้างดีกว่าค่ะทุกคน เราจะเห็นว่าถนนทาเคชิตะแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านขายอาหารสตรีทฟู้ดสารพัดอย่าง เช่นเครปที่ดูนุ่มฟูและน่าอร่อยแบบในรูป แถมยังมีร้านค้าจำหน่ายตัวอย่างอาหารที่แสนน่ารัก จนเราอาจจะเผลอหยิบมันเข้าปากเลยก็ว่าได้ค่ะ

อย่างไรก็ดี เราขอแอบเตือนเพื่อนๆว่าควรพกทรัพย์สินของท่านมาให้พร้อม เพื่อความสะดวกต่อการละลายไปกับสินค้าที่แสนน่ารักเหล่านี้ด้วยนะคะ > <!

ข้อมูลเกี่ยวกับถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Harajuku Station โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที
ที่อยู่
  • 1 Chome Jingumae, Shibuya City, Tokyo 150-0001, Japan
พิกัด

Back To Index

8. โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) เป็นจุดแลนด์มาร์กยอดนิยมของโตเกียว นอกจากนี้ก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวอีกด้วย

เพื่อนๆสามารถชมความสวยงามของโตเกียวทาวเวอร์ได้ทั้งในระยะใกล้และระยะไกลจากจุดชมวิวที่กระจายอยู่รอบๆโตเกียว โดยจุดชมวิวระยะใกล้ที่เราภูมิใจนำเสนอก็คือบริเวณ ‘วัดเซ็นโซจิ’ ในย่านอาซากุสะนั่นเองค่ะ

แม้ว่าโตเกียวทาวเวอร์จะได้รับความนิยมน้อยลงจากนักท่องเที่ยวหลังจากที่มีโตเกียวสกายทรี แต่ที่นี่ก็ยังคงมีความสวยงามในแบบฉบับของญี่ปุ่นอยู่ค่ะ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง หรือในยามค่ำคืนที่หอคอยแห่งนี้ส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด ในทุกๆช่วงเวลาโตเกียวทาวเวอร์ก็ยังคงสวยงามเปล่งประกายอยู่เสมอค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Hamamatsu Station (North Exit) โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ที่อยู่
  • 4 Chome-2-8 Shibakoen, Minato City, Tokyo 105-0011, Japan
ติดต่อ
  • +81334335111
เวลาทำการ
  • Main deck : 9:00 – 21:00 น.
  • พื้นที่ส่วนอื่นๆ : 9:00 – 20:30 น.
ค่าเข้าชม (Main deck)
  • ผู้ใหญ่ : 1,200 เยน
  • นักเรียนมัธยมปลาย : 1,000 เยน
  • นักเรียนมัธยมต้นและนักเรียนประถม : 700 เยน
  • เด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป : 500 เยน
เว็บไซต์
พิกัด

Back To Index

9. สวนอุเอโนะ (Ueno Park)

สวนอุเอโนะ (Ueno Park) เป็นที่รู้จักในฐานะของสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านอาซากุสะมากนัก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ หรืออนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์

ด้วยความที่ว่าสวนอุเอโนะเป็นสวนสาธารณะ แน่นอนว่ามันก็ย่อมต้องเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับชาวเมือง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระพร้อมใจกันผลิบาน ย้อมสวนแห่งนี้ให้กลายเป็นอุทยานสีชมพูอ่อน นอกจากนี้ชาวเมืองหลวงยังนิยมมาปิกนิกที่นี่กันด้วยค่ะ

ทั้งนี้ เราขอกระซิบว่าจุดที่ดีที่สุดในการชมซากุระของสวนอุเอโนะก็คือ บริเวณริมสระน้ำกลางสวนดังที่เห็นในภาพค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับสวนอุเอโนะ (Ueno Park)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Ueno Station (Park Exit) โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ที่อยู่
  • Japan, 〒110-0007 Tokyo, Taito City, Uenokoen, 池之端三丁目
ติดต่อ
  • +81338285644
เวลาทำการ
  • เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 5:00–23:00 น.
  • ปิดทำการทุกวันที่ 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคมของทุกปี
ค่าเข้าชม
  • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์
พิกัด

Back To Index

10. ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market)

ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market) เป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆกับสวนอุเอโนะ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านขายของชำซึ่งเราสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกกว่าปกติ! ทั้งยังเป็นศูนย์รวมแผงขายอาหารทะเลริมทางที่เต็มไปด้วยสินค้าสดใหม่ราคาไม่แพง เรียกได้ว่าของถูกและดีมีอยู่จริงที่ตลาดอะเมโยโกะนี่แหละค่ะ

ถ้าเพื่อนๆเริ่มรู้สึกหิวจากการเดินเซอร์เวย์เป็นเวลานาน ก็สามารถหยุดแวะหาของกินที่แผงขายอาหารทะเลสักร้าน ก่อนจะเลือกซื้ออาหารทะเลตามศรัทราแล้วยื่นให้กับเจ้าของร้าน เพื่อให้เขาได้จัดการปรุงรสและเสิร์ฟความอร่อยให้แก่เรานั่นเองค่ะ

นอกจากอาหารทะเลแล้ว ตลาดอะเมโยโกะก็ยังมีผลไม้สดขายเยอะไปหมดเลยค่ะ ร้านค้าที่นี่มักจะขายผลไม้นำเข้าที่เห็นได้ไม่บ่อยนักในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิลหรือกีวีที่แสนน่ากิน บางทีก็มีขนุนหรือทุเรียนด้วยนะเออ

ถ้าเพื่อนๆคนไหนอาศัยอยู่ในโตเกียวเป็นเวลานานๆด้วยจุดประสงค์อย่างการมาเรียนหรือมาทำงาน และอาจจะกำลังคิดถึงผลไม้ไทยอยู่ เราว่าตลาดอะเมโยโกะถือว่าตอบโจทย์ทุกคนอยู่น๊า!

ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market)

วิธีเดินทาง
  • เดินจากสถานี Okamachi Station โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที
ที่อยู่
  • 6 Chome-9-9 Ueno, Taito City, Tokyo 110-0005, Japan
ติดต่อ
  • +818052996285
เวลาทำการ
  • ร้านค้าแต่ละร้านมีเวลาทำการแตกต่างกัน (แต่ส่วนใหญ่ปิดเวลาประมาณ 20:00 น.)
เว็บไซต์
พิกัด

Back To Index

อาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดโตเกียว

เป็นที่รู้กันดีว่า ‘จังหวัดโตเกียว’ นั้นมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย แต่นอกจากที่เที่ยวแล้ว อาหารท้องถิ่นของโตเกียวก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะเอโดะมาเอะซูชิ (Edomae Sushi) เนี่ยถือว่าเป็นของเด็ดเลยนะ! ถ้าใครไม่ได้ลองทานจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากเลย~

และในบทความนี้ ทีมงานคุณภาพ fromJapan ก็ได้นำ เมนูเด็ดประจำจังหวัดโตเกียว มาฝากทุกคนด้วยกัน 5 อย่างค่ะ จะมีอะไรบ้างก็ตามมาดูกันเลย!

1. เอโดะมาเอะซูชิ (Edomae Sushi)

เอโดะมาเอะซูชิ (Edomae Sushi) หรือ ซูชิสไตล์เอโดะ (Edo-style Sushi) เป็นซูชิที่ใช้วัตถุดิบจากอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay) เป็นวัตถุดิบหลักในการทำทั้งหมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า (Tuna) ปลาโบนิโตะ (Bonito) ปลาแฮลิบัต (Halibut) ปลาไหลทะเล (Sea Eel) หรือหอยทะเล (Shellfish) ทั้งหมดก็ล้วนมาจากอ่าวโตเกียวทั้งสิ้น

สำหรับเอโดะมาเอะซูชิที่มีขายทั่วไปตามท้องถนนโดยคนในท้องถิ่นนั้น เขามักจะนำปลาไหล กุ้ง และหอยไปเคี่ยวในน้ำซุปค่ะ ในขณะเดียวกันก็จะนำปลาทูน่า ปลาโบนิโตะ และปลาแฮลิบัตไปเคี่ยวในซอสมิโสะเข้มข้น วิธีดังกล่าวเป็นภูมิปัญญาในการถนอมอาหารของชาวโตเกียวค่ะ

ถ้ามาถึงโตเกียวแล้วไม่ได้กินอาหารดั้งเดิมแสนอร่อยอย่าง ‘เอโดะมาเอะซูชิ’ มันก็ชักจะยังไงๆอยู่น๊า~ ทุกคนก็อย่าลืมลองไปชิมกันดูให้ได้นะคะ!

Back To Index

2. มงจายากิ (Monjayaki)

มงจายากิ (Mojayaki) เป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของย่านสึกิชิมะที่มีความคล้ายคลึงกับโอโคโนมิยากิ เมนูแสนอร่อยนี้ทำจากแป้งเปียกผสมกับวัตถุดิบอย่างกะหล่ำปลีฝอย ข้าวโพด เนื้อสัตว์ และอาหารอื่นๆ ส่วนผสมทั้งหมดจะถูกคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ปรุงรสให้เรียบร้อย แล้วเชฟก็จะเททุกอย่างลงไปในกระทะร้อนๆค่ะ

อย่างไรก็ตาม มงจายากิมีความแตกต่างจากโอโคโนมิยากิเล็กน้อยตรงที่ว่ามงจายากิจะมีความชุ่มฉ่ำของน้ำมากกว่าค่ะ

Back To Index

3. จังโกะนาเบะ (Chanko Nabe)

จังโกะนาเบะ (Chanko Nabe) เป็นเมนูหม้อไฟที่ได้รับความนิยมจากนักซูโม่ของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะจังโกะนาเบะเป็นอาหารที่มักจะถูกเสิร์ฟในปริมาณมากๆในคราเดียว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่นักซูโม่จะใช้เมนูนี้ในการเพิ่มน้ำหนักตัวของพวกเขาค่ะ

ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนประกอบของจังโกะนาเบะซึ่งยืนพื้นด้วยอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผักต่างๆที่เสิร์ฟมาในน้ำซุปไก่ผสมดาชิร้อนๆนั้น ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ

ถ้าเพื่อนๆอยากจะลิ้มลองความอร่อยของเมนูนี้ ก็สามารถเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้านอิซากายะทั่วไปในโตเกียวได้เลยค่ะ

Back To Index

4. ฟุคากาวะเมชิ (Fukagawa-meshi)

ฟุคากาวะเมชิ (Fukagawa-meshi) เป็นข้าวคลุกซอสที่มีท็อปปิ้งเป็นหอย เต้าหู้ และต้นหอมสับ นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากชาวประมงที่อยู่ในพื้นที่ฟุคากาวะ (Fukagawa) ซึ่งเป็นย่านที่อยู่ใกล้กับบริเวณปากแม่น้ำซุมิดะด้วยค่ะ

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูท้องถิ่นประจำโตเกียวที่เพื่อนๆควรลองไปทานกันดูสักครั้งนะคะ

Back To Index

5. โดะโจนาเบะ (Dojo Nabe)

โดะโจนาเบะ (Dojo Nabe) เป็นอีกหนึ่งเมนูท้องถิ่นของโตเกียวที่ใช้ปลาโดะโจเป็นวัตถุดิบหลักค่ะ สำหรับวิธีการทำนั้น เชฟจะนำปลาโดะโจไปล้างด้วยสาเก ก่อนจะนำไปต้มในซุปมิโสะ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเมนูนี้ก็คือ คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าปลาโดะโจมีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายเรามาตั้งแต่สมัยเอโดะค่ะ

อย่างไรก็ตาม เราขอบอกเพื่อนๆไว้ก่อนเลยว่าปลาโดะโจมีลักษณะที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับปลาไหลน้ำจืดบ้านเราเลยนะคะ ดังนั้นถ้าใครกลัวสัตว์ที่มีลักษณะลำตัวยาวๆลื่นๆล่ะก็ เราขอแนะนำให้เลี่ยงเมนูนี้นะ!

Back To Index

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top