รวมที่เที่ยว ‘ภูมิภาคโทโฮคุ’ ดินแดนแห่งธรรมชาติและผลไม้เลิศรส ณ ทิศเหนือของเกาะฮอนชู
ส.ค. 25, 2023
บทนำ : ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku Region)
ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku Region) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะฮอนชู ประกอบไปด้วย 6 จังหวัดคือ จังหวัดอาโอโมริ จังหวัดอิวาเตะ จังหวัดมิยากิ จังหวัดยามากาตะ และจังหวัดฟุกุชิมะ ทั้งนี้คำว่า ‘โทโฮคุ’ มีความหมายว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นนั้น ทุกคนต่างรู้กันดีว่าภูมิภาคโทโฮคุเต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติที่น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพของชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นที่สวยงาม ผืนป่าสีเขียวอันแสนอุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบที่สวยงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย
นอกจากนี้ภูมิภาคโทโฮคุยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อยู่มากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตผลไม้แสนอร่อยหลากหลายชนิด เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโซนท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
หากเพื่อนๆชอบบรรยากาศสไตล์ชนบทมากกว่าเมืองใหญ่ ชอบทิวทัศน์หิมะสีขาวแสนนุ่มในฤดูหนาว หรือชอบวิวธรรมชาติที่แสนตระการตา เราขอผายมือให้ทุกคนมาเที่ยวที่ “ภูมิภาคโทโฮคุ” เลยค่ะ~❤️
สารบัญ (Index)
- จังหวัดอาโอโมริ (Aomori Prefecture)
- จังหวัดอิวาเตะ (Iwate Prefecture)
- จังหวัดมิยากิ (Miyagi Prefecture)
- จังหวัดอาคิตะ (Akita Prefecture)
- จังหวัดยามากาตะ (Yamakata Prefecture)
- จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima Prefecture)
1. จังหวัดอาโอโมริ (Aomori Prefecture)
จังหวัดอาโอโมริ (Aomori Prefecture) เป็นชื่อที่อาจจะเคยผ่านหูใครหลายๆคนให้ได้ยินกันมาบ้าง แต่บางคนอาจจะงงว่ามันอยู่ตรงไหนของญี่ปุ่นกันนะ?
“อาโอโมริ” เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่เหนือสุดของเกาะฮอนชู แม้จะไม่ใช่จังหวัดใหญ่แต่ที่นี่ก็อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะเด็ดๆอยู่หลายแห่ง นอกจากนี้อาโอโมริยังเป็นที่ตั้งของ 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในทางพุทธศาสนาของญี่ปุ่นอีกด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของอาหารการกิน อาโอโมริก็มีทูน่าที่ดีที่สุดและแอปเปิลที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดของญี่ปุ่นด้วยนะ! เราจึงกล้ารับประกันเลยว่าการมาเที่ยวอาโอโมริจะทำให้คุณประทับใจอย่างแน่นอน
- อ่านบทความเจาะลึกเรื่องจังหวัดอาโอโมริได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดอาโอโมริ’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง!
2. จังหวัดอิวาเตะ (Iwate Prefecture)
อิวาเตะ (Iwate Prefecture) เป็นจังหวัดที่ชื่ออาจจะยังไม่คุ้นหูคนไทยเท่าจังหวัดเพื่อนบ้านอย่างมิยากิหรือยามากาตะ แต่ที่นี่ก็มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยในแง่ของการท่องเที่ยว เพราะในอดีตอิวาเตะเคยเป็นฐานอำนาจของตระกูลฟูจิวาระ หนึ่งในสามตระกูลซามูไรใหญ่ที่มีอำนาจสูสีกับตระกูลมินาโมโตะและตระกูลไทระ โดยในช่วงยุคเฮอัน อิวาเตะมีความเจริญรุ่งเรืองพอๆกับเกียวโตเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาตระกูลฟูจิวาระจะถูกตระกูลมินาโมโตะยึดอำนาจชนิดถอนรากถอนโคน แต่พื้นที่เดิมของฟูจิวาระในเมืองฮิไรซุมิ (Hiraizumi) ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งหลงเหลืออยู่ แถมยังได้รับตำแหน่งมรดกโลกด้วย
ในส่วนของละแวกอื่นอย่างบริเวณเมืองซันริคุ (Sanriku) ก็มีชายหาดและหน้าผาที่สวยงามตระการตา
สำหรับของกินแสนอร่อยของอิวาเตะก็ต้องเป็น วังโกะโซบะ (Wanko Soba) 1 ใน 3 โซบะที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่น ร่วมกับโทกาคุชิโซบะของจังหวัดนากาโนะ และอิซุโมะโซบะของจังหวัดชิมาเนะ ว่ากันว่าเมนูนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่ชาวอิวาเตะอยากให้ทุกคนได้มีโซบะปรุงสดๆกินกัน
วังโกะโซบะนั้นมีวิธีการทานที่เป็นเอกลักษณ์มาก เพราะเมนูนี้ไม่ได้เสิร์ฟมาเป็นชามเดียวใหญ่ๆเหมือนโซบะทั่วไป แต่จะถูกจัดใส่ถ้วยเล็กๆ (คำว่า วังโกะ เป็นภาษาถิ่นที่หมายถึง ถ้วยที่ทำจากไม้) และแต่ละถ้วยก็มีเส้นโซบะใส่มาในปริมาณพอดีหนึ่งคำ
หลังจากนั้นพนักงานของร้านจะเทเส้นโซบะใส่ถ้วยน้ำซุปที่ให้ลูกค้าถือไว้ พอเราทานหมดหนึ่งคำ พนักงานก็จะเติมเส้นโซบะใส่ถ้วยของเราต่อทันที เมื่ออิ่มแล้วก็ให้เรานำฝามาปิดถ้วยของตัวเอง เป็นการส่งสัญญาณบอกพนักงานว่าไม่ต้องเติมแล้ว
อีกหนึ่งเมนูอร่อยของอิวาเตะก็คือ เนื้อมาเอซาวะ (Maesawa Beef) อีกหนึ่งเนื้อวากิวชั้นดีของญี่ปุ่น เนื้อวากิวชนิดนี้มาจากวัวที่เลี้ยงในเมืองมาเอซาวะ (Maesawa) โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงมันที่แทรกมาเป็นริ้วสีขาว ตัดกับเนื้อสีแดงสดชวนรับประทาน อย่างไรก็ตาม เนื้อมาเอซาวะเป็นเนื้อที่เหมาะกับการนำมาทำเมนูสเต๊กเป็นพิเศษ
- อ่านบทความเจาะลึกเรื่องจังหวัดอิวาเตะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดอิวาเตะ’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง!
3. จังหวัดมิยากิ (Miyagi Prefecture)
จังหวัดมิยากิ (Miyagi Prefecture) เมื่อได้ยินชื่อนี้คนไทยหลายๆคนคงนึกสงสัยในใจว่า “เอ๋!? มันคือที่ไหนกันนะ?” แต่ถ้าเราเอ่ยชื่อ “เมืองเซนได” (Sendai) ขึ้นมา ขาเที่ยวญี่ปุ่นหลายๆคนก็น่าจะร้องอ๋อกันขึ้นมาบ้าง
จังหวัดมิยากินั้นตั้งอยู่ทางตอนกลางของภูมิภาคโทโฮคุ โดยมีเมืองเซนไดเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ ในอดีตนั้นเซนไดเป็นฐานอำนาจของ ดาเตะ มาซามุเนะ ไดเมียวชื่อดังของยุคเซนโกคุ
ด้วยการคมนาคมที่สะดวกสบาย อีกทั้งยังมีที่เที่ยวซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและดอกซากุระที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น
และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนรักสัตว์อย่าง “เกาะทาชิโระจิมะ” หรือ “เกาะแมว” อีกด้วย
ด้วยความน่าสนใจทั้งหมดทั้งมวลของจังหวัดมิยากิ ที่นี่จึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางของการเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุ
สำหรับของกินแสนอร่อยของจังหวัดนี้ที่เราอยากแนะนำก็คือ กิวตันยากิ (Gyutan Yaki) หรือ ลิ้นวัวย่าง ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองเซนได จุดเริ่มต้นของความนิยมในการทานลิ้นวัวก็คือในปี 1948 ซาโนะ เคอิชิโร่ (Sano Keishirō) เจ้าของร้านยากิโทริได้นำลิ้นวัวและหางวัวมาปรุงดู ซึ่งในเวลานั้นลิ้นและหางของวัวจัดว่าเป็นส่วนเหลือทิ้งจากการบริโภคของกองทัพสหรัฐฯที่ประจำการในญี่ปุ่น (ช่วงหลังสงครามอาหารค่อนข้างขาดแคลน) ไม่นานนักเมนูนี้ก็โด่งดังขึ้นมาจนเคอิชิโร่ต้องเปิดเป็นร้านอาหารแยกในที่สุด
ด้วยรสสัมผัสที่เด้งดึ๋งเคี้ยวเพลินเป็นเอกลักษณ์ รับรองเลยว่าทุกคนที่ได้ชิมจะต้องติดใจ! (กินแบบย่างเกลือหรือกินกับมิโสะก็ได้ อร่อยทั้งคู่เลย)
ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่เราอยากให้ทุกคนลองก็คือ ฮาราโกะเมชิ (Harako Meshi) เป็นเมนูที่หากมองเผินๆเราอาจจะคิดว่า “ก็แค่ข้าวหน้าปลาแซลมอนดิบกับไข่ปลาแซลมอน” แต่ลองดูให้ดีสิ นั่นมันเนื้อปลาแซลมอนสุกล่ะ! แถมข้าวยังหุงด้วยน้ำซุปจากปลาแซลมอนอีกด้วย
เมื่อปลาที่ปรุงสุกกับข้าวที่หุงด้วยซุปแซลมอนมาเจอกัน อาหารจานนี้จึงหอมกลิ่นปลามากยิ่งขึ้น แล้วไหนจะมีไข่ปลาแซลมอนมาเติมเต็มความอร่อยอีก ขอบอกเลยว่าสุโค่ย!
- อ่านบทความเจาะลึกเรื่องจังหวัดมิยากิได้ที่นี่ : รวม 15 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดมิยากิ’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง!
4. จังหวัดอาคิตะ (Akita Prefecture)
จังหวัดอาคิตะ (Akita Prefecture) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งติดกับทะเลญี่ปุ่น ทางทิศตะวันออกของอาคิตะมีเทือกเขาโออุ (Ōu Mountains) ที่ทอดตัวยาวไปจนถึงจังหวัดอิวาเตะ
เพียงเกริ่นข้อมูลทางภูมิศาสตร์มาประมาณนี้ เราก็สามารถรับรู้ถึงธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดอาคิตะได้แล้ว แถมพื้นที่ประมาณ 11% ของจังหวัดยังเป็นอุทยานแห่งชาติอีกด้วย จึงไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไหร่ที่เราจะได้เห็นผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพเยี่ยมจากจังหวัดแห่งนี้
โดยเฉพาะข้าวญี่ปุ่นเนี่ย บอกได้เลยว่าข้าวจากอาคิตะยืนหนึ่งในโลกหล้า! นอกจากนี้คำว่า อาคิตะ (秋田) ยังมีความหมายว่า ข้าวเปลือกในฤดูใบไม้ร่วง อีกด้วย
ในเมื่อข้าวอาคิตะยังอร่อยได้ขนาดนี้ แล้วผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวอย่าง ‘เหล้าสาเก’ ของจังหวัดนี้ล่ะ…จะอร่อยขนาดไหนกันนะ!? ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปลองกันเองนะเออ -.,-
อีกหนึ่งประเด็นที่จะกล่าวข้ามไปไม่ได้เลยเมื่อพูดถึงจังหวัดอาคิตะก็คือน้องหมาอาคิตะ! โดยน้อง ‘อาคิตะอินุ’ (Akita Inu) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้นเป็นสุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่นดั้งเดิมของจังหวัดอาคิตะนั่นเองค่ะ
- อ่านบทความเจาะลึกเรื่องจังหวัดอาคิตะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดอาคิตะ’ ที่ต้องไปโดนให้ได้สักครั้ง
5. จังหวัดยามากาตะ (Yamagata Prefecture)
จังหวัดยามากาตะ (Yamagata Prefecture) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของภูมิภาคโทโฮคุในบริเวณชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น โดยอยู่ถัดลงมาทางทิศใต้ของจังหวัดอาคิตะ ด้วยธรรมชาติที่แสนอุดมสมบูรณ์ของยามากาตะ จังหวัดนี้จึงมีของกินแสนอร่อยมากมาย โดยเฉพาะ ‘เนื้อวากิว’ ของยามากาตะที่ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งตลอดกาลของญี่ปุ่น
แต่แค่นี้อาจยังไม่เพียงพอต่อการโน้มน้าวใจเราให้ไปเที่ยวที่ยามากาตะกันใช่ไหมล่ะ?
เราจึงอยากมาบอกต่อว่า ‘จังหวัดยามากาตะ’ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แถมยังมีเมืองเก่าที่สวยคลาสสิกจนกลายเป็นฉากหนึ่งในละครและภาพยนตร์หลายๆเรื่องด้วยนะ เท่านี้ก็คงพอจะทำให้เรานึกอยากไปตามรอยละครดังขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมล่ะ
แต่นอกจากนี้แล้ว จังหวัดยามากาตะก็ยังมีเทศกาลและงานประเพณีเก่าแก่ตลอดปี รวมถึงมีศาสนสถานยอดนิยมของเหล่านักพรตภูเขา ‘ยามาบูชิ’ ด้วย
ยิ่งถ้าใครเป็นสายออนเซ็น หรือนึกอยากจะซื้อบรรยากาศผ่อนคลายให้กับร่างกายที่แสนทรุดโทรมนี้ ยามากาตะก็เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลยล่ะ เพราะออนเซ็นของจังหวัดนี้ติดอันดับ 1 ใน 10 ออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นเชียวนะ เป็นออนเซ็นระดับท็อปคลาสอย่างแน่นอน!
ถ้าใครมีแผนจะไปญี่ปุ่นแต่ยังไม่รู้ว่าจะไปจังหวัดไหนหรือภูมิภาคไหนดีล่ะก็ เราขอแนะนำว่าให้เก็บจังหวัดยามากาตะไว้ในอ้อมใจด้วยจ้า
นอกจากนี้ถ้าหากว่าคุณเป็นสายเนื้อ เราขอผายมือมาทางจังหวัดยามากาตะ ณ บัดนาว! เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดของเนื้อวากิว 2 ชนิด แถมยังเป็นเนื้อเบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย เนื้อโกเบน่ะเหรอ…ชิดซ้ายไปเล้ย!!!
เจ้าเนื้อคุณภาพดีที่ว่านี้ก็คือ ‘เนื้อโยเนซาวะ’ ซึ่งตั้งชื่อตามเมืองโยเนซาวะ จุดเด่นของเนื้อชนิดนี้คือลายไขมันหินอ่อนที่มีเนื้อสัมผัสอันละเอียดนุ่ม หวานหอม ไม่มันเยิ้มเหมือนกับเนื้อวากิวแบบอื่น แถมยังให้รสชาติหวานมันกำลังดีและไม่เลี่ยนเกินไป
ส่วนเนื้อเกรดรองลงมาจะเป็น ‘เนื้อยามากาตะ’ ซึ่งมีความแตกต่างกับเนื้อโยเนซาวะเพราะมีความลีนมากกว่า เป็นเนื้อวากิวที่มีมันน้อยมาก จึงน่าจะเหมาะกับสายกินคลีนหรือคนที่ไม่ชอบของเลี่ยน แต่จากที่เคยลองทานเนื้อโยเนซาวะมา เราว่ามันก็รสชาติกำลังดี ไม่มันไม่ลีนจนเกินไปนะ
และอย่างที่เรารู้กันดีว่าจังหวัดยามากาตะมีผลไม้ชื่อดังมากมายหลายอย่าง แต่ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นเชอร์รี่นี่ล่ะ แถมเขายังเคลมด้วยนะว่าเชอร์รี่ของยามากาตะนั้นดีที่สุดในญี่ปุ่นเลย!
เราอยากแนะนำให้ทุกคนเพิ่มความสนุกในการทาน ด้วยการลองไปเก็บผลเชอร์รีสดๆตามสวนผลไม้ดู เช่นสวน Yamagata Cherry Land & Kaminoyama Tourism Fruit Garden รับรองเลยว่าทุกคนจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆในการทานผลไม้ชนิดนี้อย่างแน่นอน
- อ่านบทความเจาะลึกเรื่องจังหวัดยามากาตะได้ที่นี่ : รวมสถานที่ที่ต้องไปโดนสักครั้งใน ‘จังหวัดยามากาตะ’
6. จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima Prefecture)
จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima Prefecture) ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของภูมิภาคโทโฮคุ และนับว่าเป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ฟุกุชิมะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างหมู่บ้านโบราณโออุจิจูคุ (Ouchi-Juku) และเมืองไอสึวากามัตสึ (Aizuwakamatsu)
ยิ่งไปกว่านั้น จังหวัดนี้ยังมีเมืองออนเซ็นเก่าแก่อย่างฮิงาชิยามะออนเซ็น (Higashiyama Onsen) รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอย่างบึงโกชิคินุมะ (Goshikinuma Pond) อีกด้วย
แม้ว่าเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ขึ้นที่จังหวัดฟุกุชิมะ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ซ้ำร้ายยังเป็นเหตุให้เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจำนวนมากจากเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ (Fukushima Daiichi Nuclear Power Plant) แต่ปัจจุบันร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นในตอนนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป เนื่องด้วยความช่วยเหลือจากทั้งในและนอกประเทศ ฟุกุชิมะจึงกลับมาสวยงามดังเดิมได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ดี จังหวัดฟุกุชิมะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่รักประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก หากเพื่อนๆเป็นอีกคนหนึ่งที่หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่นล่ะก็ ต้องมาเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะให้ได้สักครั้งนะ!
สำหรับของกินเลิศรสที่เราอยากให้ทุกคนมาลองกันก็คือ เนงิโซบะ (Negi Soba) เมนูท้องถิ่นประจำเมืองไอสึ เพื่อนๆอาจจะคิดว่ามันเป็นเพียงโซบะท้องถิ่นชนิดหนึ่งของจังหวัดฟุกุชิมะ ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากมาย แต่แท้จริงแล้วความน่าสนใจของเนงิโซบะอยู่ที่วิธีการรับประทานค่ะ เพราะคนที่นี่จะใช้กระเทียมหอม (Leek) ก้านใหญ่เป็นอุปกรณ์ตักอาหารแทนตะเกียบ!
นอกจากนี้ฟุกุชิมะยังถือเป็นสวรรค์ของคนรักผลไม้อีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเฉพาะผลิตผลแสนอร่อยอย่าง พีช (Peach) นั้นได้รับการส่งออกจากฟุกุชิมะเป็นจำนวนมากกว่า 20% ของปริมาณส่งออกทั้งประเทศเลยทีเดียว
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าฤดูกาลปลูกพีชของจังหวัดฟุกุชิมะนั้นยาวนานกว่าพื้นที่อื่น โดยเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนกันยายน เมื่อมาฟุกุชิมะในช่วงเวลาดังกล่าว เราจึงสามารถดื่มด่ำกับความอร่อยของพีชได้อย่างจุใจเลยทีเดียว
สำหรับชนิดของพีชที่ชาวฟุกุชิมะนิยมปลูกกันก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิด คืออากาสึกิพีช (Akatsuki Peach) ฮัตสึฮิเมะพีช (Hatsuhime Peach) และ ยุโซระพีช (Yuzora Peach)
หน้าตาของพีชที่ปลูกจากฟุกุชิมะก็จะมีลักษณะอวบ กลม และมีสีชมพูระเรื่อไปทั่วทั้งผล แถมยังมีกลิ่นหอมที่ชัดเจนมาก ส่วนรสชาติคงไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว เพราะมันต้องอร่อยเลิศอย่างแน่นอนค่ะ!
- อ่านบทความเจาะลึกเรื่องจังหวัดฟุกุชิมะได้ที่นี่ : รวม 10 ที่เที่ยวใน ‘จังหวัดฟุกุชิมะ’ ที่ต้องไปโดนสักครั้ง!
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ