เที่ยวคันไซได้ง่ายๆ ด้วยบัตรโดยสาร JR Kansai Area Pass
ส.ค. 13, 2025
เที่ยวคันไซได้ง่ายๆ ด้วยบัตรโดยสาร JR Kansai Area Pass
fromJapan พาทุกคนไป เที่ยวคันไซได้ง่ายๆ ด้วยบัตรโดยสาร JR Kansai Area ที่ครอบคลุมการเดินทาง ให้คุณเที่ยวได้สะดวกมากขึ้น!
ทำความรู้จักกับ บัตรโดยสาร JR Kansai Area
บัตร JR Kansai Area Pass คือ บัตรโดยสารรถไฟแบบไม่จำกัดเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางในภูมิภาคคันไซ (Kansai) ซึ่งออกโดยบริษัท JR West (West Japan Railway Company) เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะท่องเที่ยวหลายเมืองในเขตคันไซในระยะเวลาสั้น ๆ และต้องการประหยัดค่าเดินทาง 😊
จุดเด่นของบัตร JR Kansai Area Pass คือสามารถใช้เดินทางโดย ไม่จำกัดเที่ยว ภายในระยะเวลาที่เลือก ไม่ว่าจะเป็น 1, 2, 3 หรือ 4 วัน ครอบคลุมเมืองหลักในคันไซ เช่น โอซาก้า (Osaka), เกียวโต (Kyoto), นารา (Nara), โกเบ (Kobe), ฮิเมจิ (Himeji), วาคายามะ (Wakayama) และอื่น ๆ ใช้ได้กับรถไฟ JR (รวมทั้งรถด่วนพิเศษบางสาย) และ JR Kansai Airport Express “HARUKA” ที่วิ่งระหว่างสนามบินคันไซกับโอซาก้าหรือเกียวโต และแน่นอนว่าราคาถูกกว่าการซื้อตั๋วรถไฟแยกในแต่ละวันอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าคุณจะไปมากกว่า 2 เมืองค่ะ
ประเภทของบัตรและราคา
- 1 วัน 2,800 เยน 1,400 เยน
- 2 วัน 4,800 เยน 2,400 เยน
- 3 วัน 5,800 เยน 2,900 เยน
- 4 วัน 7,000 เยน 3,500 เยน
*ดูราคาเพิ่มเติมจากในในเว็บไซต์ค่ะ >> www.westjr.co.jp
ครอบคลุมสายรถไฟใดบ้าง?
- รถไฟ JR West ในพื้นที่คันไซ เช่น JR Kyoto Line, JR Kobe Line, JR Nara Line
- รถไฟ JR Kansai Airport Express “HARUKA” (ที่นั่งธรรมดาไม่ต้องจอง)
- รถไฟด่วนพิเศษบางสาย (Limited Express แบบไม่ต้องจองที่นั่ง)
- รถไฟในเส้นทางไป ฮิเมจิ, วาคายามะ, โคยะซัง (บางส่วน)
*ไม่ครอบคลุมรถไฟ Shinkansen, รถไฟเอกชนเช่น Hankyu, Hanshin, Kintetsu, Keihan, Osaka Metro
ดังนั้น หากคุณมีแผนเที่ยวคันไซประมาณ 1–4 วัน บัตรนี้ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ สามารถจองได้ผ่านช่องทาง KKday ด้านล่างนี้เลยค่ะ 👇
ส่วนต่อไปนี้คือตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ที่ทุกคนสามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยง่ายเพียงใช้บัตรโดยสาร JR West Kansai Area ค่ะ 🤩
ศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ & วัดเซกันโทจิ จังหวัดวาคายามะ
ศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ (Kumano Nachi Taisha) เป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าหลักของเมืองคุมาโนะ ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองคัตสึอุระประมาณ 2-3 กิโลเมตร ภายในเขตพื้นที่ศาสนาขนาดใหญ่ที่สะท้อนความกลมกลืนระหว่างศาสนาชินโตและพุทธศาสนาอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค
เมื่อมองจากศาลเจ้าจะเห็นเจดีย์สีแดงของวัดเซกันโทจิ (Seiganto-ji) ตั้งเด่นโดยมีน้ำตกนาชิ ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นฉากหลังอันงดงาม ทั้งศาลเจ้าและวัดตั้งอยู่บนเส้นทางแสวงบุญคุมาโนะโคโด (Kumano Kodo) ซึ่งใช้ฝึกปฏิบัติธรรมของนักพรตจากหลายศาสนา และถือเป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยความโดดเด่นทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม และธรรมชาติ เส้นทางนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 2004
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ & วัดเซกันโทจิ
ที่อยู่
- Kumano Nachi Taisha, 1 Nachisan, Nachikatsuura, Higashimuro District, Wakayama 649-5301
วันและเวลาทำการ
- ศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ : เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน ตลอดเวลา (ส่วนหอสมบัติเปิดให้เข้าชม เวลา 8:00 ถึง 16:00 น.)
- วัดเซกันโทจิ : เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน ในเวลา 8:30 ถึง 16:00 น.
- เจดีย์ : เปิดให้ขึ้นได้ทุกวัน ในเวลา 8:30 ถึง 16:00 น.
ค่าเข้าชม
- หอสมบัติศาลเจ้าคุมาโนะนาชิ : 300 เยน
- ค่าขึ้นเจดีย์วัดเซกันโทจิ : 300 เยน
เว็บไซต์
วิธีเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ JR Nachi Station ให้นั่งรถบัสไปยังศาลเจ้า โดยมี 2 ทางเลือก ดังนี้
- ลงที่ป้าย Daimonzaka (ใช้เวลา 17 นาที ค่าโดยสาร 350 เยน) แล้วเดินจากป้าย Daimonzaka ไปอีกประมาณ 30 นาที
- ลงที่ป้าย Nachisan (ใช้เวลา 22 นาที ค่าโดยสาร 490 เยน) แล้วเดินไปอีก 12 นาที
พิกัด
สวนนารา จังหวัดนารา
สวนนารา (Nara Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองนารา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 1880 มีพื้นที่กว้างถึง 660 เฮกเตอร์ หรือราว 6.6 ล้านตารางเมตร โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่ร่มรื่นจากต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ เช่น ต้นเชอร์รี่ เมเปิล และซีดาร์ขาว
สวนแห่งนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างวัดโทไดจิ วัดโคฟุคุจิ ศาลเจ้าคาสึกะ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมนารา และโกดังโชโซอิน อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือเหล่ากวางซิก้ากว่า 1,200 ตัวที่สามารถเดินเล่นได้อย่างอิสระทั่วทั้งสวน นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารและถ่ายรูปกับกวางอย่างใกล้ชิด ทำให้สวนนาราเป็นสถานที่ยอดนิยมทั้งในแง่ธรรมชาติ วัฒนธรรม และประสบการณ์น่าประทับใจที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองนารา
ข้อมูลเกี่ยวกับสวนนารา (Nara Park)
วิธีเดินทาง
- เดินจากสถานีรถไฟ JR Nara Station โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์
พิกัด
โกเบพอร์ตทาวเวอร์ จังหวัดเฮียวโกะ
โกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) เป็นหอคอยแลนด์มาร์กของเมืองโกเบ สร้างเสร็จในปี 1963 โดยบริษัท Nikken Sekkei ผู้ออกแบบชื่อดังที่อยู่เบื้องหลังโครงการใหญ่อย่าง Tokyo Skytree และสนาม Camp Nou ในบาร์เซโลนา
หอคอยแห่งนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่คล้ายกับนาฬิกาทราย มีความสูงสะดุดตาและตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภายในมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองโกเบได้แบบรอบทิศ และไฮไลต์สำคัญคือคาเฟ่หมุนรอบตัวเองบนชั้น 3 ซึ่งหมุนครบรอบทุก 20 นาที ให้ผู้เยี่ยมชมได้เพลิดเพลินกับวิวที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งในจุดที่ไม่ควรพลาดหากมาเยือนโกเบค่ะ
ข้อมูลเกี่ยวกับโกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower)
ที่อยู่
- Kobe Port Tower, 5-5 Hatobacho, Chuo Ward, Kobe, Hyogo
เวลาทำการ
- 9:00 – 20:30 น. (เฉพาะเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เปิดทำการเวลา 9:00 – 18:30 น.)
ค่าธรรมเนียม
- Port Tower
-
- ผู้ใหญ่ : 700 เยน
- เด็ก : 300 เยน
-
- Kobe Maritime Museum
-
- ผู้ใหญ่ : 900 เยน
- เด็ก : 400 เยน
-
- Multi-use ticket
-
- ผู้ใหญ่ : 1,300 เยน
- เด็ก : 550 เยน
-
เว็บไซต์
วิธีเดินทาง
- เดินจากสถานี Minatomotomachi ไม่เกิน 10 นาที
พิกัด
วัดคิโยมิสึและศาลเจ้าจิชู จังหวัดเกียวโต
วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วัดน้ำใส” เป็นวัดพุทธนิกายฮตโซที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 780 บริเวณน้ำตกโอโตวะ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดและเป็นน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าหากได้ดื่มจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในด้านความรัก การเรียน และอายุยืน
จุดเด่นของวัดคืออาคารหลักที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือแนวต้นไม้ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ความงดงามของวัดไม่เพียงแต่ในเวลากลางวัน แต่ยังงดงามยิ่งในช่วงค่ำที่มีการประดับไฟ เหมาะแก่การมาเยือนทั้งกลางวันและกลางคืน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับวัดคิโยมิสึและศาลเจ้าจิชู (Kiyomizu Temple and Jishu-Jinja Shrine)
ที่อยู่
- Kiyomizudera, 1-294, Kiyomizu, Higashiyama-ku, Kyoto-shi, Kyoto, 605-0862, Japan
เวลาทำการ
- เปิดทำการทุกวัน เวลา 6:00 – 18:00 น. (ปิดทำการเวลา 18:30 น. สำหรับวันธรรมดาและวันหยุดนักขัตฤกษ์ในช่วงเดือนกลางเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม และทุกวันในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน)
- สำหรับการเปิดไฟช่วงกลางคืน ไฟจะเปิดเวลา 18:00 – 21:00 น. ในช่วงเวลาดังต่อไปนี้ ฤดูใบไม้ผลิจะเปิดไฟในวันที่ 3 – 17 มีนาคม และวันที่ 29 มีนาคม – 7 เมษายน ฤดูร้อนเปิดไฟวันที่ 14 – 16 สิงหาคม ฤดูใบไม้ร่วงเปิดไฟวันที่ 16 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม
ค่าเข้าชม
- ค่าเข้าชมเวลาปกติ : 400 เยน
- ค่าเข้าชมช่วงเปิดไฟกลางคืน : 400 เยน
เว็บไซต์
วิธีเดินทาง
- หากมาจากสถานี Kyoto สามารถขึ้นรถบัสสาย 205, 206 หรือ 207 ไปลงที่ป้าย Kiyomizumichi ใช้เวลา 20 นาที แล้วเดินอีกประมาณ 12 นาที
พิกัด
ปราสาทโอซาก้า จังหวัดโอซาก้า
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงและสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1583 โดย “โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ” ขุนพลผู้รวมแผ่นดินญี่ปุ่นในยุคเซ็งโงกุ ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการทหารของญี่ปุ่นในยุคนั้น แม้จะถูกทำลายและบูรณะมาหลายครั้ง ปัจจุบันตัวปราสาทได้รับการบูรณะอย่างสมบูรณ์และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของโอซาก้าและยุคซามูไร
จุดเด่นของปราสาทคือหอคอยหลัก (Tenshukaku) ที่ตั้งอยู่บนฐานหินขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยคูน้ำและกำแพงหินขนาดใหญ่ ให้ทัศนียภาพงดงาม โดยเฉพาะในฤดูซากุระที่สวนรอบปราสาทจะกลายเป็นจุดชมดอกไม้ยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ถือเป็นจุดหมายที่ทั้งสวยงามและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์
ข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ที่อยู่
- Osakajokoen, 1-1 Osakajo, Chuo Ward, Osaka, 540-0002
เวลาทำการ
- ปราสาทโอซาก้า : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น. (หยุดวันที่ 28 ธันวาคม – 1 มกราคม)
- สวนนิชิโนะมารุ (จุดที่ถ่ายรูปสวย) : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น. และช่วงซากุระบาน เปิดถึงเวลา 21:00 น.
ค่าเข้าชม
- ปราสาทโอซาก้า : มีค่าเข้าชม 600 เยน
- สวนนิชิโนะมารุ : มีค่าเข้า 200-350 เยน
เว็บไซต์
การเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Namba นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Tanimachi Yonchome (ใช้เวลา 8 นาที ค่าโดยสาร 230 เยน) แล้วเดินอีก 10 นาที
- สำหรับผู้ใช้ JR PASS จากสถานีรถไฟ Osaka นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Osakajokoen (ใช้เวลา 10 นาที ค่าโดยสาร 160 เยน) แล้วเดินอีก 10 นาที
พิกัด
แน่นอนว่านอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เรายกมาในวันนี้แล้ว ในภูมิภาคคันไซยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย ทุกคนสามารถเข้าไปชมกันได้นะคะ >> fromjapan.info/kansai
🌸🌸🌸🌸
อ่านบทความที่น่าสนใจจาก fromJapan
- จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
- ใจไม่เด็ดแนะว่าอย่าไป! 3 ศาลเจ้าตัดความสัมพันธ์แห่งคันไซ
- ญี่ปุ่นผุดไอเดีย ‘ถังขยะอัจฉริยะ’ แก้ปัญหาขยะเกลื่อนเมือง