ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) ที่สถิตของสุริยเทวีอามาเทราสึ
ก.พ. 07, 2020
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu)
‘ศาลเจ้าอิเสะ’ ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนคริสตกาล หรือตรงกับ พ.ศ. 539 ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุด โดยเป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่สถิตของสุริยเทวี ‘อามาเทราสึ’ เทพเจ้าสูงสุดแห่งศาสนาชินโตที่เชื่อกันว่าเป็นต้นตระกูลของราชวงศ์ญี่ปุ่น และเป็นที่ประดิษฐานของกระจกยาตะ หนึ่งในสามสมบัติสำคัญของราชวงศ์ยามาโตะอีกด้วย
ศาลเจ้าอิเสะนั้นแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ซึ่งเหตุผลที่มีการแบ่งเช่นนี้ก็เพราะว่าเทพเจ้าที่สถิตประจำศาลเจ้า 2 โซนนี้เป็นเทพเจ้าคนละองค์กัน
ผมจะขอไล่เป็นทีละโซนแล้วกันนะครับ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะไปไหว้สักการะเรียงตามลำดับเพราะจะให้ผลดีที่สุด และก่อนจะมาศาลเจ้าอิเสะ ถ้าไปไหว้สักการะศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะมาก่อนด้วยก็จะดีมาก (ตามความเชื่อคือเพื่อเป็นการชำระล้างร่างกายและวิญญาณก่อนจะไปสักการะเทพอามาเทราสึ)
ศาลเจ้าอิเสะชั้นนอก (Outer Shrine / Geku)
ลักษณะเด่นของศาลเจ้าอิเสะอย่างหนึ่งก็คือ ตัวอาคารใช้วิธีสร้างแบบโบราณด้วยการใช้ข้อต่อของไม้มาล็อกเข้าด้วยกัน จึงไม่มีการใช้ตะปูเลยครับ
โดยในภาพอันนี้คือส่วนหนึ่งของศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าชั้นนอก ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของเทพโทโยอุเคะโอคามิ ผู้ทำหน้าที่ถวายอาหารให้แก่เทพอามาเทราสึ ท่านเป็นเทพที่ปกปักรักษาอุตสาหกรรมทุกประเภท นับตั้งแต่เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย จึงว่ากันว่าท่านมีพลังที่จะอำนวยพรในเรื่องที่เกี่ยวกับโชคลาภเงินทองการค้าขายได้
แต่ตรงนี้ห้ามขอพรครับ! ให้เราเข้าไปไหว้สักการะเทพเจ้าเพื่อแสดงความขอบคุณท่านอย่างเดียว ทั้งนี้เพราะในอดีตมีกฎเรื่องเงินต้องห้าม
อ้าวกรรม ฉันอยากขอพรอ่ะ อุตส่าห์มาไหว้ทั้งที
ถ้าใครคิดแบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลครับ! จุดที่สามารถขอพรได้คือจุดตามในรูปนี้ เรียกว่าทาคาโนมิยะ (จะอยู่บนเนิน) จริงๆตรงนี้ก็เป็นที่สถิตของเทพโทโยอุเคะโอคามินั่นแหละ แต่เป็นดวงจิตที่แยกออกมาแล้วจากดวงจิตหลัก (สถาพดวงจิตตามความเชื่อของชินโตนั้นจะแบ่งแยกได้) เอาเป็นว่าใครอยากขอพรในเรื่องส่วนตัวให้มาไหว้และขอพรตรงนี้นะ (แต่ต้องไปไหว้สักการะศาลเจ้าหลักก่อนนะ เป็นกฎ)
นอกจากนี้จะลองมารับพลังจากหินตามในรูปดูก็น่าจะดีอยู่ครับ ไม่งั้นต้นไม้ข้างหลังก็สามารถไปลองรับพลังได้
บริเวณโถงคางุระจะมีจุดขายเครื่องรางและหิ้งเทพเจ้า (คล้ายๆตี่จูเอี๊ยตามความเชื่อของจีน) ใครสนใจก็ลองซื้อได้ครับ
สำหรับโซนย่อยจุดต่อมาจะอยู่ห่างออกมาจากจุดแรกนิดหน่อย คือจะต้องเดินย้อนมาทางฟากสถานี Iseshi จะมีชื่อเรียกว่า ‘สึคุโยมิกู’ เป็นที่สิงสถิตของเทพแห่งดวงจันทร์สึคุโยมิ
แล้วตรงนี้เราควรจะไหว้ขอเรื่องอะไรดี?
ว่ากันว่าท่านมีความเกี่ยวโยงกับเรื่องอายุยืนนะ ลองไหว้ขอพรในเรื่องสุขภาพก็น่าจะดีอยู่ (ใกล้ๆกันมีจุดขายเครื่องรางเกี่ยวกับสุขภาพด้วยครับ)
ก่อนจะไปที่ต่อไปแวะกินขนมเติมพลังแถวศาลเจ้าชั้นนอกก่อน
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าอิเสะชั้นนอก (Outer Shrine / Geku)
ที่อยู่
Outer Shrine (Geku)
279 Toyokawa-cho, Ise City, Mie Prefecture 516-0042
โทร
0596-24-1111
วันและเวลาทำการ
เปิดทำการทุกวัน
- เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนและเดือนกันยายน เปิดทำการในช่วงเวลา 5:00 น. – 18:00 น.
- เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม เปิดทำการในช่วงเวลา 5:00 น. – 19:00 น.
- เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม เปิดทำการในช่วงเวลา 5:00 น. – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทาง
จากสถานี Iseshi เดินประมาณ 10นาที (จะมีป้ายบอกทาง) โปรดระวังว่ามีโซนย่อยสึคุโยมิกุที่แยกออกมาจากโซนหลัก
เว็บไซต์
https://www.isejingu.or.jp/en/about/index.html#geku
ศาลเจ้าอิเสะชั้นใน (Inner Shrine / Naiku)
ศาลเจ้าอิเสะชั้นใน เป็นที่สิงสถิตของเทพอามาเทราสึ เทพีแห่งพระอาทิตย์ผู้เป็นเทพเจ้าสูงสุดแห่งศาสนาชินโต
ตามตำนานเทพปกรณัมชินโต ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยยามาโตะฮิเมะโนะมิโคโตะ ธิดาของจักรพรรดิซุยนิน โดยในขณะที่ยามาโตะฮิเมะโนะมิโคโตะกำลังเดินหาสถานที่ซึ่งเหมาะสมแก่การสร้างศาลเจ้าที่นาระ เธอได้เดินทางจนมาถึงพื้นที่บริเวณอิเสะ ตามตำนานเล่าว่าเธอได้ยินเสียงกระซิบจากเทพอามาเทราสึซึ่งกล่าวว่า “ที่นี่สงบไม่วุ่นวาย ข้าชอบที่นี่ เจ้าจงสร้างศาลเจ้าให้ข้าที่นี่”
จุดเริ่มต้นทางเข้าศาลเจ้าจะอยู่ที่สะพานอูจิบาชิที่เชื่อกันว่าเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และแดนสวรรค์
ในขณะที่ศาลเจ้าหลายที่ได้รับอิทธิพลจากจีนและเลือกทาสีประตูโทริอิหรืออาคารให้เป็นสีแดงฉูดฉาด แต่ศาลเจ้าอิเสะยังคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย ไม่มีการทาสีฉูดฉาด สิ่งที่เราจะสัมผัสได้ตั้งแต่เข้ามาคือพลังจากธรรมชาติ
พอเดินเข้ามาได้ระยะหนึ่งเราก็จะเจอกับแม่น้ำอิซุซุ ซึ่งแม่น้ำนี้ถูกตั้งชื่อตามจำนวนกระดิ่ง 50 ชิ้น (อิซุซุแปลว่ากระดิ่ง 50 อัน) ที่ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องชี้จุดที่จะใช้สร้างศาลเจ้าอิเสะ ซึ่งเราสามารถล้างมือในแม่น้ำเพื่อชำระล้างจิตใจตามความเชื่อของชินโตได้
ทีนี้มาถึงส่วนของศาลเจ้าหลัก ก็เหมือนเดิมครับ คือห้ามขอพรตรงนี้ ให้เราเข้าไปไหว้สักการะเทพเจ้าเพื่อแสดงความขอบคุณท่านอย่างเดียว
ถ้าอยากขอพรในเรื่องส่วนตัวให้มาขอตรงนี้ อารามิทามะโนมิยะ 荒祭宮(ARAMATSURI-NO-MIYA)อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าหลัก อยากขออะไรก็มาขอตรงนี้นะ
เอ่อ แล้วจะขออะไรดีล่ะ? ท่านเป็นเทพเฉพาะทางมั้ย?
คำตอบคือไม่ครับ เราสามารถขอพรกับท่านได้หมดทุกเรื่อง! (น่าจะเทียบได้กับเวลาไปขอพรพระพรหมเอราวัณมั้งครับ คือสามารถขอได้กว้างๆ ขอได้หมดทุกเรื่อง) เพราะงั้นไม่ว่าจะเรื่องเงิน งาน สอบ ความรัก ฯลฯ จัดไปเลยครับ!
โถงคางุระ เราสามารถขอให้นักพรตที่นี่ทำพิธีสวดเพื่อเพิ่มสิริมงคลแก่ชีวิตได้ (มีค่าบริการและต้องมีสกิลภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารกับนักพรต)
แล้วก็เช่นเคย มีเครื่องรางขายสำหรับผู้ที่สนใจด้วยครับ
ทีนี้ด้วยความที่เป็นศาลเจ้าสูงสุดของญี่ปุ่น จึงว่ากันว่าเครื่องรางของที่นี่มีความพิเศษกว่าเครื่องรางที่อื่นอยู่นะครับ ว่าแต่มันคืออะไรล่ะ ไอ้ความพิเศษที่ว่าเนี่ย?
ความพิเศษคือ ว่ากันว่าตามปกติแล้วเครื่องรางญี่ปุ่นนั้นจะมีวันหมดอายุ ทำให้ต้องมาเปลี่ยนทุกปีหรือสองสามปี แต่เครื่องรางของศาลเจ้าอิเสะนั้นไม่มีวันหมดอายุครับ! แปลว่าซื้อทีเดียวแล้วใช้ได้ตลอดไป ที่เป็นแบบนี้เพราะเชื่อกันว่าพลังของเครื่องรางที่นี่เป็นพลังของเทพเจ้าสูงสุดอย่างเทพอามาเทราสึ ดังนั้นเครื่องรางจึงมีพลังเป็นอนันต์ (เรื่องนี้มีเขียนไว้ในเว็บไซต์ของญี่ปุ่นหลายๆเว็บ เช่น https://www.travelbook.co.jp/topic/42540, https://netwadai.com/blog/post-6653, https://madokawindow.com/3483.html ฯลฯ ว่า「伊勢神宮の場合はお守りに有効期限はない。」ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า “เครื่องรางของศาลเจ้าอิเสะนั้นไม่มีวันหมดอายุ”)
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าอิเสะชั้นใน (Inner Shrine / Naiku)
ที่อยู่
Inner Shrine (Naiku)
1 Ujikancho, Ise City, Mie Prefecture 516-0023
โทร
0596-24-1111
วันและเวลาทำการ
เปิดทำการทุกวัน
- เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนและเดือนกันยายน เปิดทำการในช่วงเวลา 5:00 น. – 18:00 น.
- เดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม เปิดทำการในช่วงเวลา 5:00 น. – 19:00 น.
- เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม เปิดทำการในช่วงเวลา 5:00 น. – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทาง
จากสถานี Iseshi นั่งรถบัสลงที่ป้าย Sarutahikojinja Mae (ค่ารถ 310 เยน ใช้เวลา 21 นาที) แล้วเดินต่อจากป้ายรถบัสอีกประมาณ 10 นาที (ระหว่างทางจะมีจุดที่น่าสนใจ เช่น ศาลเจ้าอิเสะชั้นนอก ศาลเจ้าซารุตาฮิโกะ โอฮาระอิมะจิ)
สำหรับใครที่มี Kintetsu Rail Pass แบบ 5 day สามารถขึ้นรถไฟKintetsu หรือรถบัสได้แบบไม่จำกัดเที่ยว