“เกาะเทชิมะ” เพื่อนบ้านเกาะนาโอชิมะ อีกหนึ่งเกาะแห่งศิลปะที่ควรแวะมาใช้เวลาอย่างช้าๆ
ต.ค. 23, 2019
“เกาะเทชิมะ” เพื่อนบ้านเกาะนาโอชิมะ อีกหนึ่งเกาะแห่งศิลปะที่ควรแวะมาใช้เวลาอย่างช้าๆ
ใครไปเที่ยวเกาะนาโอชิมะจนเบื่อแล้ว ลองแวะมาเกาะใกล้ๆกันอย่าง เกาะเทชิมะ (Teshima Island) ดูนะคะ เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดคากาวะเช่นเดียวกับเกาะนาโอชิมะค่ะ 😊 แม้ว่าเกาะเทชิมะจะมีความเป็นหมู่บ้านประมง แต่ที่นี่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวติสท์ๆเหมือนกัน ความแตกต่างคือเกาะเทชิมะจะเงียบสงบกว่าเกาะนาโอชิมะค่ะ
ใครอยากมาเที่ยวพักผ่อนแบบไหลๆสบายๆ ไร้ผู้คน น่าจะชอบที่นี่มากเลยเชียว วิวธรรมชาติที่นี่ก็เก๋นะ มีทั้งไร่นาแบบขั้นๆ ชายหาด โขดหิน และมีป่าให้เดินลุยหน่อยๆด้วย
สำหรับการเดินทางภายในเกาะ ถ้าน่องแข็งแรงหน่อยปั่นจักรยานก็สนุกดีนะ แม้ว่าระหว่างทางจะมีเนินเยอะหน่อย หรือถ้าไม่อยากลำบากมากก็นั่งรถบัสเที่ยวได้ค่ะ แค่ต้องวางแผนกะเวลาให้ดีเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ เกาะเทชิมะยังเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลศิลปะนานาชาติเซโตะอุจิ (Setouchi Triennale) ที่จัดขึ้นทุกๆ 3 ปีด้วยนะ แน่นอนว่าในช่วงที่มีการจัดงานนี้บนเกาะก็จะคึกคักเป็นพิเศษ และมีงานศิลปะแบบชั่วคราวจากศิลปินมากมายเรียงรายให้ชม
ในบทความนี้เราขอยกสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆบนเกาะเทชิมะซึ่งไม่ว่าจะมาตอนไหนก็ไม่นกมาให้ทุกคนชมแล้วกันค่ะ 😊
สารบัญ (Index)
1. Teshima Art Museum
มาเกาะเทชิมะต้องห้ามพลาด Teshima Art Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเทชิมะ เด็ดขาดค่ะ! เพราะมันสวยมากกกกกก อาคารพิพิธภัณฑ์นี้ออกแบบโดย Ryue Nishizawa สถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดัง ส่วนงานศิลปะด้านในก็ได้ศิลปินดังอย่าง Rei Naito มาจัดการ จะบอกว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์กของเกาะแห่งนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ
อาคารคอนกรีตทรงโค้งคล้ายหยดน้ำที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเขานั้น หากมองออกไปจะเห็นทิวทัศน์ทะเลสวยๆตัดกับฟ้าใสๆด้วยค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในเราจะพบเพดานที่โหว่เป็นวงรี 2 ช่อง ให้เราได้นั่งมองฟ้า มองแสงแดดอ่อน ทำให้รู้สึกถึงการพัดพาของสายลม เสียงนกร้อง และหยดน้ำที่กลิ้งตัวไปมาอย่างอิสระ
แม้ว่าจะมีงานศิลปะให้ชมเพียงอย่างเดียว แต่ขอบอกเลยว่าการมาที่นี่นั้นช่างคุ้มค่า มองเพลิน รู้สึกว่าได้พักผ่อนหย่อนใจจริงๆค่ะ
ถัดออกมาที่โซนคาเฟ่ของพิพิธภัณฑ์ก็เท่ เก๋ไม่แพ้กัน อาหารและเครื่องดื่มของคาเฟ่นี้ใช้วัตถุดิบที่หาได้เฉพาะในท้องถิ่นด้วยนะ เช่น ข้าวและผลไม้ของเกาะเทชิมะ ใครอยากซื้อของฝากอาร์ตๆก็ต้องที่นี่เลย
เมื่อเห็นผนังโปร่งแสงสีแดงแปร๊ดของ Teshima Yokoo House ตอนแรกก็เกือบลังเลว่าจะเข้าไปดีไหม เพราะดูเป็นงานศิลปะที่ร้อนแรง แต่เมื่อตัดสินใจเข้าไปก็ไม่ผิดหวังเลย Teshima Yokoo House เป็นผลงานการสร้างสรรค์ระหว่างศิลปิน Tadanori Yokoo และสถาปนิก Yuko Nagayama ที่นำบ้านเก่ามารีโนเวทใหม่ โดยแบ่งโซนจัดแสดงออกเป็น 3 โซน Mainhouse, Warehouse, Outhouse ทั้งชิ้นงานและบรรยากาศชวนให้คิดทบทวนเรื่องราวในชีวิตและความตายอย่างที่เขาวางคอนเซ็ปต์ไว้ โดยส่วนตัวโซนที่เราประทับใจมากที่สุดก็คือ สวนหินและบ่อน้ำใสด้านนอก (เพราะเข้าใจง่ายสุดแล้ว ฮาาาา) จริงๆแล้วอาจจะไม่ต้องเข้าใจอะไรก็ได้ มาดูอาคารสวยๆท่ามกลางธรรมชาติก็สนุกแล้ว
เมื่อเห็นโลโก้สุดเท่ของ Teshima Guesthouse “Mamma” ก็คิดเลยว่าต้องมาให้ได้ จริงๆแล้วที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นโฮสเทส/คาเฟ่ที่เราภูมิใจนำเสนอค่ะ ความน่าสนใจของที่นี่มีหลายจุดเหลือเกิน เริ่มจากการดัดแปลงบ้านเด็กกำพร้าเก่ามาเป็นโฮสเทลกุ๊กกิ๊ก ถัดมาคือห้องแบบเสื่อทาทามิที่มีฟูกหนานุ่มให้นอน เรื่องที่ 3 ที่เซอร์ไพรส์เราก็คือ ที่นี่มีคาเฟ่/บาร์/ร้านอาหารที่เปิดต้อนรับทุกคน โดยมีอาหารโฮมเมดแสนอร่อยพร้อมบรรยากาศที่เป็นกันเองเหมือนมาทานข้าวบ้านเพื่อนคนญี่ปุ่น และเรื่องที่ 4 ห้องอาบน้ำรวมที่นี่เท่มาก! หลังคาเป็นกระจกฝ้าโปร่งแสง มีอ่างแช่น้ำรวมหันเข้าหากระจกใสที่ทำให้เราได้ชมความเขียวชอุ่มของต้นไม้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ต้องเป็นแขกที่นี่ก็สามารถแวะมาทานข้าวแช่น้ำได้เลย
หลังจากชมงานศิลปะกันจนจุใจแล้ว เราอยากชวนทุกคนมานั่งทอดหุ่ยริมทะเลที่ร้าน Umi no Restaurant กันค่ะ ร้านอาหารแห่งนี้ทอดตัวยาวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าริมทะเล ติดชายหาดอันแสนเงียบสงบ มีเพียงสายลมอ่อนๆ อาหารอร่อยๆ และเสียงคลื่น บรรยากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ เหมาะแก่การมานั่งชิลล์กินของอร่อยแล้วมองวิวไปด้วยแบบไม่ต้องคิดอะไร แค่ปล่อยใจไปกับบรรยากาศรอบข้างก็พอ 😉 นอกจากนี้โลเคชั่นของร้านยังแสนดีงาม ใกล้ป้ายรถบัสสุดๆ ถ้ามีเวลาจะค่อยๆเดินกลับไปที่ท่าเรือก็ยังได้ค่ะ
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ! ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ2. Teshima Yokoo House
3. Teshima Guesthouse “Mamma”
4. Umi no Restaurant
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!