สัมผัสเสน่ห์เมืองเก่าย่านกิอง ถ่ายรูปไม่ได้ไม่เป็นไร ทัวร์ศาลเจ้าสุดยิ่งใหญ่ในเกียวโตแทนก็ได้

ม.ค. 02, 2020

Clip
Share

ศาลเจ้ายาซากะ

‘ศาลเจ้ายาซากะ’ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ศาลเจ้ากิอง’ ตั้งอยู่ระหว่างย่านกิองและย่านฮิกาชิยามะของเมืองเกียวโต ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นราว 1,350 ปีก่อน นับเป็นศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเกียวโตที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และเป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าใหญ่แห่งเกียวโต ร่วมกับศาลเจ้าคิตาโนะเทนมังกุและฟูชิมิอินาริ

หลังจากผ่านประตูทางเข้าในรูปมาก็จะเจอทางเดินไปยังศาลเจ้าหลัก ซึ่งสองข้างทางมักจะมีการตั้งแผงขายอาหาร

รวมไปถึงสินค้าอย่างอื่น เช่น กิโมโนมือสอง เป็นต้น

ซึ่งระหว่างทางจะมีศาลเจ้าเล็กเรียงรายอยู่ ให้เราได้เข้าไปไหว้สักการะขอพร
แต่เอ~…อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกอ่ะ ทำยังไงดี?
ไม่เป็นไร! ผมจะแปลให้เองครับว่าควรจะขออะไรบ้าง

เช่น อันนี้คือเทพซารุตาฮิโกะกับเมะโนะอุซุเมะ ผมแนะนำให้ไหว้ขอพรในเรื่องที่เกี่ยวกับการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ เช่น สมัครงานใหม่ เริ่มต้นธุรกิจใหม่ ฯลฯ

อันนี้เป็นศาลเทพเอบิสึ ซึ่งเป็น 1 ใน 7 เซียน (ฮกลกซิ่ว) ของญี่ปุ่น โดยท่านเป็นเทพเรื่องการเงินและการทำมาค้าขาย ดังนั้นให้ลองไหว้ขอพรในเรื่องเงินๆทองๆนะ

อันนี้ศาลโอคุนินูชิ เทพแห่งความรักและสายสัมพันธ์ เอ้า! จัดไปสาวโสดทั้งหลาย เราจะต้องไม่นก! ต้องได้ลงจากคาน!!!

ศาลสุซาโนโอะ เทพแห่งพายุ ตรงนี้แนะนำให้เป็นเรื่องแก้ชงปีชง สุขภาพดีไร้ความเจ็บป่วย การชนะอุปสรรค หรือเรื่องความรักก็ได้ (แต่ความรักนี่อาจจะออกแนวเป็นเรื่องที่ต้องมีการตบตีแย่งชิงอะไรแบบนี้)

ศาลอามาเทราสึและโทโยอุเคะโอคามิ อันนี้เป็นการแบ่งภาคมาจากศาลเจ้าอิเสะ ถ้าสนใจไหว้ขอพรนี่คงเป็นจุดที่น่าจะง่ายที่สุดละ เพราะสามารถขอพรได้แบบกว้างๆ ขอได้ทุกเรื่อง

ศาลเจ้าสวยงาม เป็นศาลอีกแห่งที่น่าสนใจสำหรับสาวๆ เทพเจ้าประจำศาลแห่งนี้เป็นเทพเจ้าสามองค์ที่ว่ากันว่าสามารถบันดาลให้พรในเรื่องความสวยความงามได้ (ยันฮีนี่ชิดซ้ายเลยทีเดียว)

ศาลฮิโยชิ เป็นเรื่องความสงบในการใช้ชีวิต

ศาลเทพ 5 องค์ อันนี้จะมีฮาจิมังหรือเทพสงคราม จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักกีฬาซึ่งจะมาไหว้ขอพรก่อนลงแข่งขัน

ศาลอิคุตสึชิมะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางปลอดภัย

ศาลเทพ 10 องค์ ศาลนี้จะมีเทพที่เกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์คืออิซานางิ อิซานามิ และคิคุริฮิเมะ สามารถขอพรเรื่องความรักกันได้ทั้งคนโสดและคนที่มีคู่อยู่แล้วครับ

ศาลโอโทชิโนะคามิ ผู้เป็นบุตรของสุซาโนโอะและพี่ชายของเทพจิ้งจอกอินาริ (ฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าประตูแดงในบทความนี้ > ไหว้ท่านเทพจิ้งจอก&เทพแห่งน้ำที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าชิโมกาโมะ และศาลเจ้าคามิกาโมะ) ตรงนี้แนะนำให้ขอเรื่องเงินๆทองๆครับ

ส่วนจุดนี้เป็นอาคารศาลเจ้าหลัก ซึ่งอาจจะมาไหว้สักการะที่นี่ก่อนไปไหว้ตามศาลเจ้าย่อยที่เล่ามาก่อนหน้านี้ก็ได้

ช่วงที่ผมไปเที่ยวมีการจัดงานแต่งงานตามพิธีแบบชินโตพอดี ก็สัมผัสได้ถึงความขลังของพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นแท้ๆ

สำหรับช่วงฤดูร้อนซึ่งมักจะเป็นเดือนกรกฎาคม ศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นผู้จัดงานเทศกาลกิองมัตสึริ หากมีโอกาสได้ไปก็ควรไปนะครับ เพราะนี่เป็นงานเทศกาลฤดูร้อนที่ใหญ่ที่สุดของเกียวโตครับ

ในส่วนของเซียมซีที่นี่จะมีตัวที่เด่นๆ 2 แบบ แบบแรกจะเป็นแบบที่ให้ตกปลา ซึ่งมีเซียมซีอยู่ในตัวปลาที่ตกได้

ส่วนอีกแบบหนึ่งคือเซียมซีที่เจาะจงเรื่องความรักเลย

สรุปแล้วที่นี่จัดอยู่ในศาลเจ้าสายรวมมิตรเหมือนที่ได้เล่าไปข้างต้น เราสามารถขอพรได้หลายอย่างมาก ถ้ามีเรื่องที่อยากไหว้ขอพรเยอะๆ ที่นี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ

เครื่องรางที่นี่มีหลายแบบมาก แต่ถ้าขี้เกียจเลือกอยากจะได้ทุกอย่างในอันเดียวก็ต้องเป็นอันนี้ เครื่องรางซากุระบาน ขอได้ทุกเรื่องในอันเดียว ดีไซน์หวานๆน่าจะเหมาะกับสาวๆดีครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้ายาซากะ

ที่อยู่

Yasaka Shrine

25, Gion-cho, Higashiyama-ku, Kyoto 605-0073, Kyoto

โทร

075-561-6155

แฟ็กซ์

075-531-1126

วันเวลาทำการ

เปิดให้เข้าไหว้สักการะทุกวัน ตลอดเวลา
ส่วนสำนักงานขายเครื่องราง เปิดทำการทุกวันในเวลา 9:00 น. – 17:00 น.

ค่าเข้าชม

ไม่มีค่าเข้าชม

การเดินทาง

สำหรับใครที่มี Kyoto Bus 1 Day Pass (ราคา 600 เยน) หากมาจากสถานี Kyoto สามารถขึ้นรถบัสสาย 100 หรือ 206 ไปลงที่ป้าย Gion ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาที

นอกจากนี้สามารถนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Gion Shijo หรือสถานี Kawaramachi ก็ได้เช่นกัน

เว็บไซต์

http://www.yasaka-jinja.or.jp/

ศาลเจ้ายาสุอิคมปิระ

ศาลเจ้ายาสุอิคมปิระ เป็นศาลเจ้าสาขาของศาลเจ้าสายคมปิระซึ่งมีศาลเจ้าหลักอยู่ที่จังหวัดคากาวะ โดยเทพประจำศาลเจ้านี้ก็คือโอโมโนะนุชิ เทพแห่งการเดินเรือและความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยในการเดินเรือและผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จด้านการค้าขาย

แต่นอกจากเรื่องการเดินเรือและเงินทองแล้ว ที่นี่ยังมีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องการตัดความสัมพันธ์หรือที่เรียกกันว่า Enkiri อีกด้วย ซึ่ง Enkiri นั้นไม่ได้หมายถึงการตัดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเพียงเท่านั้น แต่ยังมีความหมายอื่นๆอีก เช่น ตัดขาดจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ตัดขาดจากการพนัน ตัดขาดจากอบายมุขต่างๆ เป็นต้น สรุปคือเป็นการตัดขาดจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายนั่นเอง

การนมัสการของที่นี่นั้น ลำดับแรกให้นมัสการที่ศาลเจ้าหลัก จากนั้นให้เขียนสิ่งที่ต้องการลงไปในเครื่องรางคะตะชิโระ ซึ่งมีลักษณะเป็นกระดาษสีขาวสำหรับใช้แทนตัวเอง และบริจาคเงินในกล่องบริจาคขั้นต่ำ 100 เยน จากนั้นให้มายังสถานที่สำหรับแปะคำขอที่เราได้เขียนลงไปในกระดาษคะตะชิโระ จุดนี้จะเป็นไฮไลต์ของที่นี่ มีลักษณะเป็นอุโมงค์สีขาวที่ถูกแปะด้วยกระดาษคะตะชิโระสีขาวเต็มไปหมด เรียกกันว่า ‘เอนคิริ เอนมุสุบิ อิชิ’ แปลว่าก้อนหินผูกสัมพันธ์และตัดขาด

วิธีการคือให้เราถือกระดาษที่เราเขียนคำอธิษฐานเอาไว้ จากนั้นก็มุดตัวลอดเข้าไป โดยมุดจากด้านหน้าไปยังด้านหลังและจากด้านหลังมายังด้านหน้าอีกที ตอนลอดครั้งแรกให้นึกถึงสิ่งที่อยากตัดขาด ส่วนตอนลอดกลับให้นึกถึงสิ่งที่อยากเจอ หลังจากลอดเสร็จแล้วให้นำกระดาษไปแปะด้านนอก เป็นอันเสร็จสิ้นการสักการะขอพร

หรือถ้าขี้เกียจต่อคิวจะเขียนบนแผ่นไม้แบบนี้ก็ได้ แต่น่าจะไม่ขลังเท่าวิธีการข้างต้นล่ะมั้ง

ในส่วนของเครื่องรางที่นี่ ที่เด่นที่สุดจะเป็นเครื่องรางแพ็คคู่ แต่นี่ไม่ใช่เครื่องรางคู่แบบที่ใช้แบ่งกันพกคนละอันกับแฟนนะ เพราะสีน้ำเงินเป็นเครื่องรางตัดขาด ส่วนสีแดงเป็นเครื่องรางความรัก ถ้าใครสนใจก็ลองดูได้ครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้ายาสุอิคมปิระ