5 ที่เที่ยวในจังหวัดทตโตริ จะสายบุญหรือสายธรรมชาติก็เที่ยวเพลิน!
ส.ค. 27, 2020
5 ที่เที่ยวในจังหวัดทตโตริ จะสายบุญหรือสายธรรมชาติก็เที่ยวเพลิน!
จังหวัดทตโตริ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุทางตะวันตกของญี่ปุ่น จังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีทั้งทะเล แม่น้ำ และภูเขา นักท่องเที่ยวหลายๆคนอาจจะรู้จักทตโตริว่าเป็นจังหวัดที่มีเนินทราย
- อ่านเรื่องของเนินทรายทตโตริได้ที่นี่ >> เที่ยวเนินทรายและชายฝั่งผาหินที่ทตโตริ ก่อนแวะไปกินชาบูร้านแรกในแดนอาทิตย์อุทัย
หรือใครที่เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องโคนันก็คงรู้จักจังหวัดนี้เพราะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โกโช อาโอยาม่า
- อ่านเรื่องของพิพิธภัณฑ์โกโช อาโอยาม่าได้ที่นี่ >> ตามรอยยอดนักสืบจิ๋วโคนันที่พิพิธภัณฑ์โกโช อาโอยาม่า
วันนี้ fromJapan จะมาแนะนำ 5 ที่เที่ยวในจังหวัดทตโตริ ที่นอกเหนือจากเนินทรายและพิพิธภัณฑ์โคนัน ซึ่งไม่ว่าคุณจะชอบที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมหรือชอบธรรมชาติ จังหวัดทตโตริก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าพร้อมแล้ว เราไปเที่ยวทตโตริด้วยกันเลย!
สารบัญ
4.พิพิธภัณฑ์ Daisen Musuem of Nature and History
5.คาเฟ่อินากายะ (Café Inakaya)
1. ภูเขาไดเซน
ภูเขาไดเซน (Mount Daisen) เป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดทตโตริ และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไดเซน-โอกิ (Daisen-Oki National Park) ภูเขาลูกนี้มีความสูง 1,729 เมตร นับว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ (ภาคตะวันตกเฉียงใต้)
ฤดูที่น่าจะดีที่สุดสำหรับการมาเที่ยวที่นี่คือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีพอดี
มองไปทางไหนก็มีแต่ความสวยงามจริงๆครับ
ถ้าอยากถ่ายรูปสวยๆ ขอแนะนำให้เดินไปที่ฟากลานสกีครับ จะเห็นวิวภูเขากับเมืองข้างล่าง (ฤดูหนาวจะเป็นลานสกี)
สำหรับคนที่ชอบปีนเขาก็สามารถปีนไปที่ยอดเขาได้ โดยจะมีเส้นทางปีนเขาหลายเส้นทางที่แตกต่างกันนิดหน่อย
ทั้งนี้เป็นที่น่าเสียดายว่ายอดเขาเคนกามิเนะ (Kengamine Peak) ซึ่งเป็นเส้นทางไปยอดเขาที่สูงที่สุดได้ปิดไปตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากสันเขาถูกกัดเซาะเส้นทางในปี 2000
นักปีนเขาจึงใช้เส้นทางขึ้นเขาที่สูงที่สุดได้เพียงยอดเขามิเซน (Misen Peak) ซึ่งมีความสูง 1,790 เมตรเท่านั้น โดยยอดเขามิเซนจะอยู่ถัดไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรครับ
เส้นทางไปยอดเขามิเซนมีระยะทางโดยรวมประมาณ 4 กิโลเมตร เฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาเดินขึ้น 4 ชั่วโมง (ขาลงก็ 4 ชั่วโมง ควรกะเวลาดีๆนะครับ)
ในการปีนเขานั้น เราควรต้องเตรียมชุดและรองเท้าให้พร้อม เพราะทางขึ้นจะเป็นบันไดสูงชัน จนกระทั่งประมาณครึ่งทางนักปีนเขาจึงจะได้ชมทัศนียภาพที่งดงามของภูมิทัศน์โดยรอบ
ถามว่าผมปีนถึงยอดไหมน่ะเหรอครับ?
ต้องขอบอกว่าม่ายหวาย~ครับ เพราะเวลาบีบมาก ต้องกะให้ทันไปขึ้นรถบัสลงเขา ผมก็เลยยอมแพ้ นั่งชิลล์ดูวิวแทนตามที่เห็นในรูปนี่แหละครับ
แต่ถ้าใครไปถึงยอดก็จะไปเจอสะพานไม้พร้อมวิวเมืองโยนาโกะแบบในรูปด้านบนนี้ครับ
เดี๋ยวเราจะมาต่อกันในส่วนของสถานที่ที่น่าสนใจบนภูเขาไดเซนกันครับ เลื่อนอ่านกันต่อได้เลย
ข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาไดเซน
ที่อยู่
- Daisen Tourism Bureau (ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวภูเขาไดเซน), 45-5 Daisen, Daisen-cho, Saihaku-gun, Tottori Prefecture, 689-3318
โทร
- 0859-52-2502
แฟ็กซ์
- 0859-52-2770
วันและเวลาทำการ
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวภูเขาไดเซน
- เปิดทำการทุกวัน
- เปิดในเวลา 8.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Yonago สามารถขึ้นรถบัสแล้วลงที่ป้าย Daisenji (ใช้เวลา 60 นาที ค่าโดยสาร 720 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีเพื่อไปเริ่มการปีนเขา
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
2. วัดไดเซนจิ
วัดไดเซนจิ (Daisenji Temple) ตั้งอยู่บนภูเขาไดเซน วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 เป็นวัดพุทธมหายานนิกายเท็นได
สมัยก่อนวัดนี้จะมีการฝึกฝน ‘นักพรตชูเก็นโดะ’ นักพรตชูเก็นโดะเป็นนักพรตของศาสนาพุทธผสมชินโต ซึ่งเป็นนิกายย่อยของพุทธ ที่ทตโตริจะมีความเชื่ออย่างหนึ่งที่ผสมๆกันระหว่างพุทธและชินโต เป็นความเชื่อที่ว่าบนภูเขามีเทพเจ้าสถิตอยู่ นักพรตจึงต้องบำเพ็ญตนด้วยการปีนเขา
ในอดีตภูเขาไดเซนมีความสำคัญเทียบเท่าได้กับภูเขาฮิเอในจังหวัดชิกะและภูเขาโคยะในจังหวัดวาคายามะ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความรุ่งเรืองของวัดไดเซนจินั่นเอง ในยุคที่รุ่งเรืองที่สุดภูเขาไดเซนมีวัดเพิ่มขึ้นประมาณ 160 แห่ง และมีพระอีก 3,000 รูปมาประจำอยู่ที่นี่
แต่ในที่สุดความเสื่อมถอยก็เริ่มขึ้นในต้นรัชสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 – 1912) เมื่อญี่ปุ่นประกาศแยกพุทธกับชินโตขาดจากกัน แต่เดิมในอดีตศาสนาพุทธกับชินโตถูกนับถือรวมๆกันไป ทำให้วัดกับศาลเจ้ามักจะรวมเป็นที่เดียวกัน แต่ต่อมาตามนโยบายชาตินิยม รัฐบาลยุคเมจิได้เลือกชินโตที่เป็นศาสนาดั้งเดิมขึ้นเป็นศาสนาประจำชาติ และสั่งให้แยกวัดกับศาลเจ้าออกจากกัน
ด้วยเหตุนี้การฝึกชูเก็นโดะจึงถูกยกเลิกไป เพราะเป็นการฝึกของนิกายที่ผสมกันระหว่างสองศาสนาครับ
รูปปั้นวัว อันนี้เป็นจุดขอพรเรื่องอายุยืน อย่าลืมลูบด้วยล่ะ
ใกล้ๆรูปปั้นวัวมีรูปปั้นจิโซกับหอระฆัง เชื่อกันว่าถ้าเคาะระฆังแล้วจะเฮง ต้องลองดูครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับวัดไดเซนจิ
ที่อยู่
- Daisenji Temple, 9 Oyama-cho Oyama-cho, Saihaku- gun, Tottori, 689-3318
โทร
- 0859-52-2158
แฟ็กซ์
- 0859-52-2728
วันและเวลาทำการ
- เปิดทำการทุกวัน
- เปิดในเวลา 9.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ : 300 เยน
- เด็ก : 200 เยน
การเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Yonago ให้ขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Daisenji (ใช้เวลา 60 นาที ค่าโดยสาร 720 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
3. ศาลเจ้าโอกามิยามะ
ศาลเจ้าโอกามิยามะ (Ogamiyama Shrine) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดไดเซนจิ เดิมเป็นพื้นที่รวมกับวัดไดเซนจิที่พระใช้ประกอบพิธีกรรมในช่วงที่ปีนเขาขึ้นมาจากการฝึก แต่ต่อมาเมื่อมีการแยกศาสนาชินโตกับพุทธออกจากกัน ที่นี่จึงถูกเรียกชื่อใหม่ว่าศาลเจ้าโอกามิยามะมาจนถึงทุกวันนี้
จุดเด่นอย่างแรกของศาลเจ้าโอกามิยามะคือ อาคารหลัก (Honden) หรืออาคารที่อยู่ในภาพแรกสุด อาคารหลักหลังนี้เป็นอาคารสไตล์ก็องเก็นซุคุริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ
จุดเด่นอย่างที่ 2 ของศาลเจ้าโอกามิยามะคือ บิอาคุดัน บนเสาไฮเด็นที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น บิอาคุดันคือเทคนิคการวาดภาพลงบนพื้นผิวที่เคลือบด้วยแผ่นเงิน จากนั้นจึงทาแลคเกอร์ทับ จะได้สีทองแบบธรรมชาติที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมี
ส่วนจุดเด่นอย่างที่ 3 ของศาลเจ้าแห่งนี้คือทางเดินหินสำหรับสักการะยาว 700 เมตร ซึ่งนับว่ายาวที่สุดในบรรดาทางเดินหินของญี่ปุ่น (หินลื่นอยู่นะครับ โปรดเดินอย่างระมัดระวัง)
สำหรับการไหว้เจ้าขอพรนั้น ถ้าเป็นอาคารหลักให้ลองขอเรื่องการหายจากอาการเจ็บป่วย ความปลอดภัยในการเดินทาง หรือจะมาแก้ชงก็ได้ครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าโอกามิยามะ
ที่อยู่
- Ogamiyama Shrine, 1 Oyama, Oyama-machi, Saihaku-gun, Tottori, 689-3318, Japan
โทร
- 0859-52-2507
วันและเวลาทำการ
- เปิดทำการทุกวัน ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Yonago ให้ขึ้นรถบัสแล้วลงที่ป้าย Daisenji (ใช้เวลา 60 นาที ค่าโดยสาร 720 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
4. พิพิธภัณฑ์ Daisen Museum of Nature and History
ใกล้ๆกับศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวภูเขาไดเซนจะมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมาของภูเขาไดเซนอยู่ครับ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ Daisen Museum of Nature and History
มีการบอกเล่าถึงความเป็นมาในอดีตว่าเมื่อก่อนละแวกนี้เคยเป็นย่านค้าม้าค้าวัว และมีการนำสถานที่สำคัญๆในพื้นที่มาเล่าว่าแต่ก่อนเคยเป็นอะไร
โซนแสดงสัตว์และพืชที่อยู่ในพื้นที่
รวมภาพถ่ายของภูเขาไดเซน
ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ Daisen Musuem of Nature and History
ที่อยู่
- Daisen Musuem of Nature and History, 43 Oyama, Oyama-cho, Saihaku- gun, Tottori, 689-3318, Japan
โทร
- 0859-52-2327
วันและเวลาทำการ
- เปิดทำการทุกวัน
- เปิดเวลา 9.00 – 17.00 น.
- เฉพาะช่วงวันที่ 21 กรกฎาคม – 20 สิงหาคม เปิดถึงเวลา 9.00 – 18.30 น.
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Yonago ให้ขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Daisenji (ใช้เวลา 60 นาที ค่าโดยสาร 720 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 นาที
เว็บไซต์
แผนที่ Google Map
5. คาเฟ่อินากายะ (Café Inakaya)
หลังจากเที่ยวกันมาเหนื่อยๆ คราวนี้เราจะมาแนะนำคาเฟ่บ้างนะครับ
คาเฟ่อินากายะ (Café Inakaya) เป็นร้านที่อยู่ใกล้กับศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวภูเขาไดเซน ด้านนอกคาเฟ่มีสวนสวยที่มีจิโซซังหรือพระพุทธรูปหินอยู่ด้วย
เป็นคาเฟ่เล็กๆน่ารักๆที่ตั้งอยู่ในบ้านคนเลย ที่วางของขายก็อยู่แถวๆหิ้งพระ แล้วก็มีเตาทำอาหารอยู่กลางบ้านเลยครับ น่ารักดี
มีอาหารบริการด้วยนะ แกงกระหรี่อร่อยมาก ระหว่างนั่งทานก็ชมวิวสวนไปด้วยได้ครับ
ข้อมูลเกี่ยวกับคาเฟ่อินากายะ (Café Inakaya)
ที่อยู่
- Café Inakaya, 26 Oyama, Oyama-cho, Saihaku-gun, Tottori Prefecture 689-3318
โทร
- 0859-52-6110
วันและเวลาทำการ
- ปิดบริการเฉพาะวันพุธ
- เวลาทำการ : 9.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม
- ไม่มีค่าเข้าชม
การเดินทาง
- จากสถานีรถไฟ Yonago ให้ขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Daisenji (ใช้เวลา 60 นาที ค่าโดยสาร 720 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
แผนที่ Google Map