fbpx

สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปโดนสักครั้งใน ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’

พ.ย. 12, 2020

สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปโดนสักครังใน จังหวัดฮิโรชิม่า

จังหวัดฮิโรชิม่า (Hiroshima Prefecture) ถูกขนานนามว่า ‘เมืองแห่งน้ำ’ เพราะสถานที่แห่งนี้มีแม่น้ำใสสะอาดไหลผ่านด้วยกันถึง 6 สาย!

หากย้อนไปเมื่อปี 1589 ในยุคที่ซามูไรยังรุ่งเรือง ‘โมริ เทรุโมโตะ’ ผู้ปกครองในสมัยนั้นได้สร้างปราสาทฮิโรชิม่าขึ้น ณ บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอตะงาวะ (แต่ที่จริงจะเรียกปราสาทฮิโรชิม่าว่า ‘ริโจ’ หรือปราสาทปลาคาร์ป)

ถ้าสังเกตลักษณะของพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำนี้ จะเห็นว่าบริเวณดังกล่าวคล้ายกับเกาะขนาดใหญ่ จึงมีชื่อเรียกว่า ‘ฮิโรชิม่า’ หรือแปลเป็นไทยให้ชัดอีกรอบว่า ‘เกาะกว้าง’ นั่นเอง

สำหรับภาพรวมการปกครองของฮิโรชิม่าในอดีต หรือช่วงเวลาก่อนที่ญี่ปุ่นจะเข้าสู่สมัยเมจิ มีเพียงสามตระกูลเท่านั้นที่มีอำนาจปกครองคือ ตระกูลโมริ ตระกูลฟุกุชิมะ และตระกูลอาซาโนะ

เนื่องจากการผลัดเปลี่ยนอำนาจและการพัฒนาสถานที่แห่งนี้อย่างสม่ำเสมอ ปราสาทฮิโรชิม่าจึงยิ่งใหญ่ เกรียงไกร และทรงพลังมากที่สุดในภาคตะวันตกของญี่ปุ่น

แต่พอเข้าสู่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิโรชิม่าได้ตกเป็นเป้าหมายสำหรับการทิ้งระเบิดปรมาณูของอเมริกา และวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้นที่เมืองแห่งนี้ทันทีที่อเมริกาทิ้ง ‘little boy’ ระเบิดปรมาณูลูกแรกลงมา

นอกจากระเบิดลูกนี้จะทำให้ฮิโรชิม่าเกิดไฟไหม้วอดไปทั้งเมืองแล้ว มันยังคร่าชีวิตผู้คนไปถึงแปดหมื่นรายทันทีที่ร่วงสู่พื้นดิน หากรวมความเสียหายข้างเคียงจากสารกัมมันตภาพรังสี ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับชาวเมืองราวหนึ่งแสนห้าหมื่นคน หรือบ้านเรือนที่เสียหายไปกว่าสามแสนสี่หมื่นหลัง ก็นับว่าเหตุการณ์นี้เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกเลยล่ะ (แม้ว่าเราจะไม่ได้กล่าวถึงที่นางาซากิด้วยก็ตามที)

แต่ด้วยความไม่ย่อท้อของชาวเมือง และความช่วยเหลือจากทั้งในและนอกประเทศ ฮิโรชิม่าจึงกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และกลายเป็นเมืองแห่งสันติภาพอันเป็นนิรันดร์ของมวลมนุษยชาติ

สารบัญ (Index) : จังหวัดฮิโรชิม่า

สถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดฮิโรชิม่า
อาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดฮิโรชิม่า

สถานที่ท่องเที่ยวประจำ ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’

ฮิโรชิม่าเป็นจังหวัดที่เดินทางไปได้อย่างสะดวก หากโดยสารด้วยรถไฟชินคันเซ็นจะใช้เวลาเดินทางดังนี้

    • จากโตเกียว 3 ชั่วโมง 49 นาที
    • จากนาโกย่า 2 ชั่วโมง 16 นาที
    • จากโอซาก้า 1 ชั่วโมง 39 นาที

ส่วนการเดินทางในโซนเมืองฮิโรชิม่ากับมิยาจิมะ ขอแนะนำตั๋วโดยสารรายวัน 600 เยน

ต่อจากนี้เราจะเริ่มแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งชอปปิ้งในฮิโรชิม่ากันเลยนะครับ

ละแวกตัวเมืองฮิโรชิม่า

    1. โดมระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Dome)
    2. สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)
    3. ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)
    4. พิพิธภัณฑ์มาสด้า (Mazda Museum)
    5. สวนชุกเกเอ็น (Shukkeien Garden)
    6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรชิม่า (Hiroshima Prefectural Art Museum)
    7. ถนนฮอนโดริและโอโคโนมิมุระ (Hiroshima Hondori Street and Okonomimura)

1. โดมระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Dome)

โดมปรมาณู จังหวัดฮิโรชิม่า

โดมระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Dome) หรือศูนย์จัดแสดงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมประจำจังหวัดฮิโรชิม่า สร้างครั้งแรกในปี 1914 เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่มีส่วนของโดมทองแดงขนาดมหึมาครอบบนยอดตึก และด้วยความสวยงามแปลกตา สถานที่แห่งนี้จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำ ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’ ในสมัยนั้น

และเป็นที่รับรู้กันดีว่าฮิโรชิม่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความเสียหายจากระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดมปรมาณูจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดเช่นกัน

โดมปรมาณู จังหวัดฮิโรชิม่า

แม้ว่าจุดที่ระเบิดตกจะอยู่ห่างจากสถานที่ดังกล่าวเพียง 160 เมตร ทั้งยังคร่าชีวิตทุกคนที่ยังอยู่ในอาคารทันที แต่ตัวโดมกลับได้รับแรงระเบิดที่มีทิศทางเกือบตั้งฉากกับแนวราบ ทำให้ผนังบางส่วนของตัวอาคารยังคงเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน

ในปี 1996 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้โดมระเบิดปรมาณูเป็นมรดกโลก ทั้งนี้ทางการจะต้องอนุรักษ์ให้โดมปรมาณูคงอยู่ในสภาพเดิม ซึ่งหมายถึงสภาพที่ได้รับความเสียหายจากระเบิดปรมาณูแล้ว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์และสันติภาพอันเป็นนิรันดร์ของชาวโลก

ข้อมูลเกี่ยวกับโดมระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Dome)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima ให้ขึ้นรถราง Tram สาย 2 หรือสาย 6 ไปลงที่สถานี Genbaku-Domu Mae (原爆ドーム前) (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน) แล้วเดินอีก 3 นาที (มีตั๋วรถราง day pass 600 เยนที่ใช้ร่วมกับรถรางในการเที่ยวเกาะมิยาจิมะ และใช้ขึ้นเรือข้ามฟากไปกลับเกาะมิยาจิมะ รวมถึงใช้เป็นส่วนลดกระเช้าขึ้นจุดชมวิวได้)
    • นั่งรถบัสวนรอบเมือง Meipuru-pu (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 200 เยนต่อเที่ยว มีตั๋ว day pass 400 เยน / หากใครใช้ JR PASS สามารถขึ้นรถบัสได้ฟรี) แล้วเดินอีก 3 นาที
ที่อยู่
    • Atomic Bomb Dome, 1-10 Otemachi, Naka-ku, Hiroshima-shi, Hiroshima, 730-0051, Japan
เวลาทำการ
    • เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

2. สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)

สวนสันติภาพ จังหวัดฮิโรชิม่า

สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park) เป็นสวนสาธารณะใน ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’ ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2

ก่อนที่จะมีการทิ้งระเบิด พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการค้าและการบริหารเมืองที่คึกคัก จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฮิโรชิม่าตกเป็นเหยื่อของการทดลองระเบิดปรมาณูของโครงการแมนฮัตตัน

4 ปีให้หลัง รัฐบาลก็ประกาศให้อนุรักษ์พื้นที่แห่งนี้แทนการซ่อมแซมให้กลับไปเป็นเมืองตามเดิม โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สวนสันติภาพเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงสงครามครั้งนั้น

อนุสรณ์รำลึกการจากไปของซาซากิ ซาดาโกะ จังหวัดฮิโรชิม่า

ระเบิดปรมาณูครั้งนั้นคร่าชีวิตชาวเมืองฮิโรชิม่าทันที 140,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากพิษบาดแผลหรืออาการป่วยเรื้อรังอีกนับหมื่นคน หนึ่งในนั้นคือเด็กสาวที่ชื่อ ‘ซาดาโกะ ซาซากิ’

ซาดาโกะ ซาซากิ เป็นนักกีฬาของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในขณะที่กำลังซ้อมวิ่งอยู่นั้น จู่ๆเธอก็มีอาการวิงเวียนศีรษะและหมดสติ จากนั้นเธอจึงไปตรวจร่างกาย และพบว่าตนเองเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวอันเป็นผลมาจากสารกัมมันตภาพรังสีที่เป็นส่วนประกอบของระเบิดปรมาณูนั่นเอง

เมื่อร่างกายของเธอไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว เธอจึงจำต้องเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันอย่างการซ้อมวิ่งเป็นการนอนป่วยบนเตียงแทน อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของซาดาโกะนำตำนานของนกกระเรียนมาเล่าให้เธอฟังว่า ถ้าใครพับนกกระดาษได้ครบพันตัวก็จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง

ซาดาโกะจึงเริ่มพับนกกระเรียนขึ้นด้วยความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ แต่แล้วปาฏิหารย์กลับเมินเฉยต่อความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเธอ เพราะในท้ายที่สุดซาดาโกะก็เสียชีวิตไปก่อนที่นกกระดาษของเธอจะครบตามจำนวนที่ตั้งใจไว้

ในวันจัดพิธีศพของซาดาโกะ เพื่อนๆของเธอต่างร่วมใจกันพับนกกระเรียนจนครบ 1,000 ตัวเพื่อฝังไปพร้อมกับร่างของเธอ จึงเป็นที่มาของอนุสรณ์รำลึก ดังภาพที่ทุกคนเห็นกันด้านบน

พิพิธภัณฑ์ปรมาณู จังหวัดฮิโรชิม่า

และนี่ก็เป็นโซนย่อยอีกส่วนของสวนสันติภาพแห่งนี้  นั่นก็คือ ‘พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณู’ ที่จัดแสดงสิ่งของต่างๆที่เหลือรอดมาจากความเสียหายในครั้งนั้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จำลองเหตุการณ์จริงหลังการทิ้งระเบิดปรมาณูด้วย ซึ่งขอรีวิวตรงนี้เลยว่าดูแล้วหดหู่มากจริงๆ ถ้าใจไม่แข็งพอ น้ำตามาแน่!

ซากุระในสวนสันติภาพ จังหวัดฮิโรชิม่า

เอาล่ะ เศร้ากันมาพอแล้ว กลับมาดูของสวยงามกันบ้าง

สวนสันติภาพมีขนาดใหญ่ถึง 12,000 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว!!! ทำให้ที่นี่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก และด้วยจำนวนของต้นซากุระที่มีเยอะอย่างกับยกกองทัพซากุระมาตั้งไว้ที่นี่ ถ้าจะมายังสวนสันติภาพแห่งนี้ก็ต้องเล็งช่วงฤดูใบไม้ผลิกันให้ดีๆล่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับสวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima ขึ้นรถราง Tram สาย 2 หรือสาย 6 ไปลงที่สถานี Genbaku-Domu Mae (原爆ドーム前) (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน) แล้วเดินอีก 3 นาที หรืออาจเลือกนั่งรถบัสวนรอบเมือง Meipuru-pu (ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน) แล้วเดินอีก 3 นาที
ที่อยู่
    • Hiroshima Peace Memorial Park 1-1-1, Nakajima-cho, Naka-ku, Hiroshima-shi, Hiroshima 730-0811 หรือ Hiroshima Peace Memorial Museum 1-2 Nakajima-cho, Naka-ku, Hiroshima 730-0811 Japan
    • โทร : 082-241-4004
เวลาทำการ
    • สวนสันติภาพเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา
    • พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมเวลา 8.30 – 18.00 น. (ในเดือนสิงหาคมเปิดถึงเวลา 19.00 น. และในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เปิดถึงเวลา 17.00 น.) หยุดทำการวันที่ 30 – 31 ธันวาคม
ค่าเข้าชม
    • มีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 200 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

3. ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)

ปราสาทฮิโรชิม่าในฤดูใบไม้ผลิ จังหวัดฮิโรชิม่า

ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1589 โดยไดเมียว ‘โมริ เทรุโมโตะ’ เป็นปราสาทที่ต่างจากปราสาททั่วไปของญี่ปุ่นตรงที่สร้างบนพื้นราบ เพราะหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าปราสาทญี่ปุ่นมักสร้างอยู่บนเนินเขาหรือยอดเขาซะส่วนใหญ่ อย่างปราสาทฮิเมจิหรือปราสาทอื่นๆที่เรารู้จัก

ถึงแม้ว่าปราสาทฮิโรชิม่าจะรอดพ้นจากสงครามกลางเมืองในช่วงปลายยุคเอโดะ แต่ก็ไม่รอดจากการทิ้งระเบิดปรมาณูเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ดี ทั้งนี้ตัวปราสาทได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 1958

ปราสาทฮิโรชิม่าในฤดูใบไม้ร่วง จังหวัดฮิโรชิม่า

ปัจจุบันปราสาทฮิโรชิม่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีความสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ยามเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้พร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน

ข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima ให้ขึ้นรถราง Tram สาย 1 สาย 2 หรือสาย 6 ไปลงที่สถานี Kamiyacho-nishi หรือ Kamiyacho-higashi (ใช้เวลา 12 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน) แล้วเดินอีก 3 นาที
    • นั่งรถบัสวนรอบเมือง Meipuru-pu (ใช้เวลา 6 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน) แล้วเดินอีก 3 นาที
ที่อยู่
    • Hiroshima Castle 21-1 Motomachi, Naka-ku, Hiroshima-shi, Hiroshima 730-0011
    • โทร : 082-221-7512
    • แฟ็กซ์ : 082-221-751
เวลาทำการ
    • เดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน : เปิดให้เข้าชมเวลา 9.00 – 18.00 น.
    • เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ : เปิดให้เข้าชมเวลา 9.00 – 17.00 น.
    • ช่วงวันหยุด Golden Week และช่วงวันหยุดของเทศกาล Obon : เปิดให้เข้าชมเวลา 9.00 – 19.00 น.
    • วันที่ปิดทำการ : ปิดทำการวันที่ 29 – 31 ธันวาคม
ค่าเข้าชม
    • ผู้ใหญ่ : 370 เยน
    • ผู้สูงอายุ : 180 เยน
    • นักเรียนมัธยมปลาย : 180 เยน
    • ต่ำกว่ามัธยมปลาย : เข้าชมฟรี
เว็บไซต์

Back To Index

4. พิพิธภัณฑ์มาสด้า (Mazda Museum) จังหวัดฮิโรชิม่า

พิพิธภัณฑ์มาสด้า จังหวัดฮิโรชิม่า

EQRoy / Shutterstock

พิพิธภัณฑ์มาสด้า (Mazda Museum) ตั้งอยู่ในโรงงานข้างตึกสำนักงานใหญ่เดิมของมาสด้า ภายในพิพิธภัณฑ์มีโซนจัดแสดงอยู่หลายส่วน ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของบริษัทมาสด้า ตัวอย่างรถรุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถเก่า โมเดลรถ และสายการผลิตรถยนต์ รวมไปจนถึงทิศทางการพัฒนารถในอนาคต นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์มาสด้า (Mazda Museum)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Mukainada (ใช้เวลา 5 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน) แล้วเดินอีก 5 นาที
ที่อยู่
    • MAZDA Museum 1-1 Nihookimachi, 南区 広島市 Hiroshima 734-0057
    • โทร : 082-252-5050
เวลาทำการ
    • เปิดทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 10.00 – 11.30 น. และ 13.30 – 15.00 น. (จะเข้าชมต้องจอง)
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม (มีบริการทัวร์ภาษาอังกฤษ ต้องจองทางลิงก์นี้ > MAZDA MUSEUM Online Reservations)
เว็บไซต์

Back To Index

5. สวนชุกเกเอ็น (Shukkeien Garden)

สวนชุกเกเอ็น จังหวัดฮิโรชิม่า

สวนชุกเกเอ็น (Shukkeien Garden) เป็นสวนญี่ปุ่นเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮิโรชิม่า อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำจังหวัดฮิโรชิม่า สร้างขึ้นในปี 1619 โดยอาซาโนะ นางาอากิระ (Asano Nagaakira) ไดเมียวผู้ปกครองฮิโรชิม่าในสมัยเอโดะ

สำหรับตัวสวนนั้นสร้างมาจากการจำลองสถานที่อย่าง ‘ทะเลสาบแห่งตะวันตก’ หรือ ทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว ประเทศจีน จึงขอรับประกันเลยว่าทัศนียภาพของสถานที่แห่งนี้สวยงามมากแน่นอน

ข้อมูลเกี่ยวกับสวนชุกเกเอ็น (Shukkeien Garden)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima เดิน 15 นาที หรือถ้าขี้เกียจเดินให้นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย kenritsubijutsukanmae (ใช้เวลา 4 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน)
ที่อยู่
    • Shukkeien 2-11 Kaminoboricho, Naka Ward, Hiroshima, 730-0014
    • โทร : 082-221-3620
เวลาทำการ
    • 1 เมษายน – 30 กันยายน : เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 18:00 น.
    • 1 ตุลาคม – 31 มีนาคม : เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
    • วันปิดทำการ : ประตูทางเข้าจะปิดตั้งแต่ช่วง 30 นาทีก่อนถึงเวลาปิดทำการของสวน
ค่าเข้าชม
    • ผู้ใหญ่ : 260 เยน
    • นักศึกษา : 150 เยน
    • นักเรียนมัธยมต้น : 100 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรชิม่า (Hiroshima Prefectural Art Museum)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ จังหวัดฮิโรชิม่า

ที่มา : https://m.justgola.com

พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรชิม่า (Hiroshima Prefectural Art Museum) ตั้งอยู่ติดกับสวนชุกเกเอ็น การออกแบบตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้มีความสอดคล้องกับภูมิทัศน์ที่สวยงามของสวนชุกเกเอ็นเป็นอย่างมาก

ภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ จังหวัดฮิโรชิม่า

ที่มา : https://www.hiroshima-navi.or.jp/en

ภายในอาคารมีการจัดแสดงผลงานศิลปะกว่า 4,800 รายการ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและห้องสมุดให้บริการด้วยนะ

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิโรชิม่า (Hiroshima Prefectural Art Museum)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima สามารถเดินไปที่พิพิธภัณฑ์ได้ภายใน 15 นาที หรืออาจนั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Kenritsubijutsukanmae ได้ (ใช้เวลา 4 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน)
ที่อยู่
    • Hiroshima Prefectural Art Museum 2-22 Kaminoboricho, Naka Ward, Hiroshima, 730-0014
    • โทร : 082-221-6246
เวลาทำการ
    • เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
    • ผู้ใหญ่ : 510 เยน
    • นักศึกษา : 310 เยน
    • นักเรียนมัธยมต้น : เข้าชมฟรี
เว็บไซต์

Back To Index

7. ถนนฮอนโดริและโอโคโนมิมุระ (Hiroshima Hondori Street and Okonomimura)

ถนนฮอนโดริและโอโคโนมิมุระ จังหวัดฮิโรชิม่า

Ear lew Boo / Shutterstock

ถนนฮอนโดริ (Hiroshima Hondori Street) เป็นแหล่งชอปปิ้งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮิโรชิม่า คำนิยามของสถานที่แห่งนี้ก็คือ ถ้าไม่เต็มไปด้วยร้านค้าหรือเห็นผู้คนบางตาก็แสดงว่ามาผิดที่แล้วล่ะ 555

ถนนฮอนโดริและโอโคโนมิมุระ จังหวัดฮิโรชิม่า

YingHuiLiu / Shutterstock

เพราะนอกจากสีสันและความคึกคักของผู้คนแล้ว ถนนเส้นนี้ก็ยังมีของให้เลือกช้อปมากมาย ยิ่งถ้าเป็นของกินนะ มีให้เลือกเยอะจนตาลายกันไปหมดเลยล่ะ โดยเฉพาะที่ โอโคโนมิมุระ (Okonomimura) จะมีร้านขายโอโคโนมิยากิแสนอร่อยหรือร้านพิซซ่าญี่ปุ่นเต็มไปหมดเลย

ข้อมูลเกี่ยวกับถนนฮอนโดริและโอโคโนมิมุระ (Hiroshima Hondori Street and Okonomimura)

วิธีเดินทาง
    1. จากสถานี Hiroshima ใช้เวลาเดิน 20 นาที หรืออาจนั่งรถรางสาย 1, 2 หรือ 6 ไปลงที่ Hatchobori ก็ได้เช่นกัน (ใช้เวลา 10 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน) แล้วเดินไปที่ถนนฮอนโดริโดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที
    2. นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Kenritsubijutsukanmae (ใช้เวลา 8 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน) แล้วเดินไปที่ถนนฮอนโดริโดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที
ที่อยู่
    • ถนนฮอนโดริ : Hiroshima Hondori Street 7, 7 Hondōri, Naka Ward, Hiroshima, 730-0035
    • โอโคโนมิมุระ : Okonomimura 5-13 Shintenchi, Naka Ward, Hiroshima, 730-0034
    • โทร : 082-241-2210 (Okonomimura)
เวลาทำการ
    • ย่านชอปปิ้งเปิดทุกวัน ตลอดเวลา (แต่ละร้านมีเวลาทำการต่างกัน ร้านส่วนใหญ่เปิดเวลา 11:00 – 21:00 น.)
    • Okonomiyakimura เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 21:00 น.
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

ละแวกเกาะมิยาจิมะ

    1. ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)
    2. ภูเขามิเซน (Mt.Misen)
    3. วัดไดโชอิน (Daishoin Temple)
    4. ศาลเจ้าเซ็นโจคาคุ (Senjokaku)
    5. เจดีย์ทาโฮโตะ (Tahoto Pagada)
    6. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชนพื้นเมืองมิยาจิมะ (The Miyajima Museum of History and Folklore)
    7. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยาจิมะ (Miyajima Aquarium)
    8. ถนนมิยาจิมะ โอโมเตะซันโด (Miyajima Omotesando Shopping Street)

1. ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) จังหวัดฮิโรชิม่า

ประตูโทริอิของศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า

เกาะอิทสึคุชิมะ (Itsukushima) หรืออีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกกันว่า เกาะมิยาจิมะ (Miyajima) เป็นเกาะเล็กๆในจังหวัดฮิโรชิม่าซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเสาประตูโทริอิขนาดยักษ์ ถ้ามองดูจากบนเกาะแล้ว เราจะเห็นราวกับว่าเสาโทริอิกำลังล่องลอยอยู่ในทะเลเลยล่ะ นอกจากนี้เกาะอิทสึคุชิมะยังได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 3 จุดที่วิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น ร่วมกับอ่าวมัตสึชิมะ จังหวัดมิยากิ และอามาโนะฮาชิดาเตะ จังหวัดเกียวโตอีกด้วย

อ่านเรื่องของมัตสึชิมะได้ที่นี่ > นั่งเรือชมอ่าวมัตสึชิมะ 1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น & เดินเล่นบนเกาะโดยรอบ

ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า

ความจริงแล้วประตูแดงที่เห็นอยู่นั้นเป็นของศาลเจ้าประจำเกาะแห่งนี้ นั่นก็คือ ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพธิดาแห่งมิยาจิมะ นอกจากนี้ยังเป็น power spot ชื่อดังด้านความปลอดภัยในการเดินทางด้วย

กวางน้อยของศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า

อ้อ! ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว อย่าลืมถ่ายรูปน้องกวางกับประตูแดงด้วยล่ะ

อ่านข้อมูลเจาะลึกเรื่องศาลเจ้าอิทสึคุชิมะและเกาะมิยาจิมะได้ที่นี่ > ชมหนึ่งในสามวิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นที่ ‘เกาะมิยาจิมะ’

ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima เดินจากท่าเรือประมาณ 10 นาที โดยการเดินทางมายังท่าเรือ Miyajima นั้น หากเดินทางจาก Hiroshima จะมีทางเลือกอยู่ 3 ทาง คือ 1. รถไฟ JR 2. รถราง 3. เรือข้ามฟาก
      • การเดินทางโดยรถไฟ JR : นั่งรถไฟจากสถานี Hiroshima ไปที่สถานี Miyajimaguchi (ใช้เวลา 25 นาที ค่าโดยสาร 420 เยน / ใช้ JR Pass ได้)
      • การเดินทางโดยรถราง : นั่งรถรางจากสถานี Hiroshima ไปที่สถานี Miyajimaguchi (ใช้เวลา 40 นาที ค่าโดยสาร 270 เยน) ทั้งนี้ มีตั๋วรถราง day pass 600 เยนที่ใช้ร่วมกับการเที่ยวในเมืองฮิโรชิม่าได้ รวมถึงใช้ขึ้นเรือข้ามฟากไปกลับเกาะมิยาจิมะ และใช้เป็นส่วนลดกระเช้าขึ้นจุดชมวิวได้
      • การเดินทางโดยเรือข้ามฟาก : เรือข้ามฟากมี 2 เจ้า คือเรือของ JR และ Matsudai ค่าเรือ 180 เยน ใช้เวลา 10 นาทีทั้งสองเจ้า โดยเรือของ JR สามารถใช้ JR Pass ได้
ที่อยู่
    • Itsukushima Shrine 1-1 Miyajima-cho, Hatsukaichi, Hiroshima 739-0588
    • โทร : 0829-44-2020 
    • แฟ็กซ์ : 0829-44-0517
เวลาทำการ
    • เดือนมีนาคม – 14 ตุลาคม : เปิดทุกวัน เวลา 6.30 – 18.00 น.
    • เดือนมกราคม – เดือนกุมภาพันธ์ และ 15 ตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน : เปิดทุกวัน เวลา 6.30 – 17.30 น.
    • เดือนธันวาคม : เปิดทุกวัน เวลา 6.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม
    • ค่าเข้าชม 300 เยน หรือ 500 เยน (รวมค่าเข้าชมหอสมบัติ)
เว็บไซต์

Back To Index

2. ภูเขามิเซน (Mt.Misen) จังหวัดฮิโรชิม่า

ขึ้นกระเช้าที่ภูเขามิเซน จังหวัดฮิโรชิม่า

ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร ภูเขามิเซน (Mt.Misen) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเกาะมิยาจิมะ ในวันที่ท้องฟ้าสดใสจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลเซโตะไปจนถึงเมืองฮิโรชิม่าได้เลยทีเดียว

เส้นทางขึ้นภูเขามิเซน จังหวัดฮิโรชิม่า

ถามว่าปีนเขาลูกนี้ยากไหม ขอตอบเลยว่าไม่ เพราะมี easy mode ด้วยการขึ้นกระเช้าครับ แต่ถ้าใครฟิตพอที่จะปีนตั้งแต่ข้างล่างมาเลยก็ได้นะ

จุดชมวิวชิชิอิวะ จังหวัดฮิโรชิม่า

พอขึ้นกระเช้าหรือเดินมาได้สักพัก เราจะเจอ จุดชมวิวชิชิอิวะ (Shishiiwa) ซึ่งอยู่ติดกับสถานีชิชิอิวะ (Shishiiwa) บอกได้คำเดียวสั้นๆว่าตรงนี้วิวสวยมาก เพราะเห็นทะเลรอบๆได้หมดเลย

เรคันโต จังหวัดฮิโรชิม่า

ส่วนที่นี่เรียกว่า เรคันโด เป็นอาคารที่ใช้เก็บไฟที่หลวงพ่อโคโบไดชิจุดไว้เมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อน ว่ากันว่าไฟนี้ไม่เคยดับลง และเป็นไฟดวงเดียวกับที่ใช้ในสวนสันติภาพฮิโรชิม่าอีกด้วย

มิเซนคันโต จังหวัดฮิโรชิม่า

มิเซนฮอนโด เป็นอาคารวัดที่ ‘หลวงพ่อโคโบไดชิ’ ผู้ก่อตั้งศาสนาพุทธนิกายชินกอนใช้ปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 100 วันหลังกลับมาจากจีน ด้านในเป็นที่เก็บระฆังมุเนโมริที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ และภูเขาลูกนี้ก็เป็นภูเขาที่หลวงพ่อขึ้นมาบำเพ็ญเพียร จึงมีการสร้างวัดไว้บนเขา

ยอดเขามิเซน จังหวัดฮิโรชิม่า

ในที่สุดเราก็มาถึงยอดเขาสักที ตรงนี้ก็สวยเช่นกันครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับภูเขามิเซน (Mt.Misen)

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima ให้เดินไปที่สถานีขึ้นกระเช้า (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) จากนั้นต้องเดินต่ออีกประมาณ 30 – 50 นาที (ระหว่างทางจะเป็นวัดตามภาพ)
ที่อยู่
    • Mt.Misen (Miyajima Ropeway Momijidani Park) Miyajima Ropeway Momijidani Park, Miyajima-cho, Hatsukaichi-shi, Hiroshima-ken 739-0522
    • โทร : 082-944-0316
    • แฟ็กซ์ : (0829) 44-0656
เวลาทำการ
    • เดือนมีนาคม – พฤศจิกายน : กระเช้าเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00 – 17.00 น.
    • เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ : กระเช้าเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม
    • มีค่าขึ้นกระเช้าไปกลับ
      • ผู้ใหญ่ : 1,840 เยน
      • เด็ก : 920 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

3. วัดไดโชอิน (Daishoin Temple) จังหวัดฮิโรชิม่า

โคมไฟที่วัดไดโชอิน จังหวัดฮิโรชิม่า

วัดไดโชอิน (Daishoin Temple) เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อศาสนาพุทธนิกายชินกอนมาก วัดนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 806 โดยหลวงพ่อโคโบ ไดชิ (Kobo Daishi) พระรูปแรกที่เข้ามาปฏิบัติธรรมบนเกาะมิยาจิมะ ภายในวัดมีการประดับประดาด้วยโคมไฟอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีวงล้อเหล็กจำนวนมากที่บันทึกคำสอนของศาสนาพุทธไว้ ชาวญี่ปุ่นนิยมมาหมุนวงล้อกันระหว่างเดินชมสถานที่แห่งนี้ พูดแบบนี้แล้วทุกคนอาจจะงงว่าเขาทำกันยังไง คือถ้าเปรียบวงล้อเหล็กของบ้านเขาเป็นระฆังบ้านเรา ก็เหมือนกับการตีระฆังเวลาไปวัดนั่นเอง

ทั้งนี้ชาวญี่ปุ่นยังมีความเชื่อที่ว่า การหมุนวงล้อเหล่านี้มีค่าเท่ากับได้อ่านพระไตรปิฎกเลยล่ะ

วัดไดโชอิน จังหวัดฮิโรชิม่า

หากมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของสถานที่แห่งนี้ในบรรยากาศแบบใบไม้เปลี่ยนสีด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับวัดไดโชอิน (Daishoin Temple)

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima เดินจากท่าเรือประมาณ 15 นาที
ที่อยู่
    • Daishoin 210 Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima 739-0592
    • โทร : 0829-44-0111
เวลาทำการ
    • เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน เวลา 8:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

4. ศาลเจ้าเซ็นโจคาคุ (Senjokaku) จังหวัดฮิโรชิม่า

ศาลเจ้าเซ็นโจคาคุ จังหวัดฮิโรชิม่า

ศาลเจ้าเซ็นโจคาคุ (Senjokaku) หรือชื่อทางการคือศาลเจ้าโฮคาคุ (Hokaku) ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1587 โดยโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) จุดประสงค์ในการสร้างขึ้นคือเพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม

ความพิเศษของศาลเจ้าแห่งนี้คือ ‘ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่ยังสร้างไม่เสร็จ’ เนื่องจากระหว่างที่ก่อสร้างอยู่นั้นฮิเดโยชิได้ถึงแก่กรรมไปเสียก่อน พอโทคุกาวะ อิเอยาสึ (Tokugawa Ieyasu) ยึดอำนาจขึ้นเป็นโชกุนได้ในเวลาต่อมา เขาก็ไม่มีแผนจะสร้างศาลเจ้าเซ็นโจคาคุต่อ ศาลเจ้าแห่งนี้จึงถูกปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ผลก็คือศาลเจ้าเซ็นโจคาคุไม่มีทั้งผนังหรือประตูเลยแม้แต่บานเดียว มองดูแล้วจะเหมือนโถงอาคารโล่งๆมากกว่าศาลเจ้าซะอีก

เจดีย์ที่ตั้งอยู้ข้างๆศาลเจ้าเซ็นโจคาคุ จังหวัดฮิโรชิม่า

สำหรับอาคารที่ปลูกอยู่ข้างๆกันนั้นก็คือเจดีย์ที่สร้างขึ้นในปี 1407 หรือพูดได้อีกอย่างว่าอาคารนี้สร้างขึ้นก่อนจะมีศาลเจ้าเซ็นโจคาคุเสียอีก ถ้าพูดถึงความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ ลองมาช่วงซากุระบานสะพรั่งดูสิ แล้วเพื่อนๆจะเห็นความสวยงามที่ตรึงตาตรึงใจจนไม่อาจลืมได้เลยทีเดียว

ข้อมูลเกี่ยวกับศาลเจ้าเซ็นโจคาคุ (Senjokaku)

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima เดินจากท่าเรือประมาณ 10 นาที
ที่อยู่
    • Senjokaku Pavilion Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima 739-0588
    • โทร : 0829-44-2020
วันเวลาทำการ
    • เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน เวลา 8:30 – 16:30 น.
ค่าเข้าชม
    • 100 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

5. เจดีย์ทาโฮโตะ (Tahoto Pagada) จังหวัดฮิโรชิม่า

เจดีย์ทาโฮโตะ จังหวัดฮิโรชิม่า

เจดีย์ทาโฮโตะ (Tahoto Pagada) เป็นเจดีย์ที่ให้กลิ่นอายของความเป็นสถาปัตยกรรมจีนผสมอินเดีย แต่ที่จริงแล้วตรงนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ แค่ถ่ายรูปสวยแล้วมว้ากกก (ก. 5 ล้านตัวไปเล้ย)

ประตูโทริอิที่เจดีย์ทาโฮโตะ จังหวัดฮิโรชิม่า

ลองส่องกลับไปที่เสาโทริอิสีแดงก็ยังสวยครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับเจดีย์ทาโฮโตะ (Tahoto Pagada)

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima เดินจากท่าเรือประมาณ 15 นาที
ที่อยู่
    • Tahoto Pagoda Onishi-machi, Miyajima-cho, Hatsukaichi-shi, Hiroshima
    • โทร : 0829-44-2020
เวลาทำการ
    • เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

6. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชนพื้นเมืองมิยาจิมะ (The Miyajima Museum of History and Folklore) จังหวัดฮิโรชิม่า

ที่มา : https://visithiroshima.net

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชนพื้นเมืองมิยาจิมะ (The Miyajima Museum of History and Folklore) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเอาข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านต่างๆของชาวเมืองบนเกาะมาจัดแสดง รวมทั้งเอกสารโบราณ บทกวีต่างๆ ภาพวาดวิวเมืองมิยาจิมะ หรือทรัพย์สินอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ

ที่มา : https://en.japantravel.com

ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งออกเป็น 6 ห้อง แต่ละห้องจะมีการจัดแสดงสิ่งของที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหมวดหมู่หรือชนิดของสิ่งของต่างๆด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชนพื้นเมืองมิยาจิมะ (The Miyajima Museum of History and Folklore) จังหวัดฮิโรชิม่า

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima เดินจากท่าเรือประมาณ 20 นาที
ที่อยู่
    • The Miyajima Museum of History and Folklore 57 Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima 739-0588
    • โทร : 0829-44-2019
เวลาทำการ
    • เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
    • 300 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

7. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยาจิมะ (Miyajima Aquarium) จังหวัดฮิโรชิม่า

seainweb / Shutterstock

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยาจิมะ (Miyajima Aquarium) เป็นอควาเรียมที่จัดแสดงพันธุ์ปลาหลากชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเลในเซโตะ (Seto Inland Sea)

ที่มา : https://www.tripadvisor.com

สิ่งที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของอวาเรียมแห่งนี้ก็คือ การแสดงวิธีทำฟาร์มหอยนางรมซึ่งจัดภายในตู้กระจกให้เราได้ชมกันอย่างใกล้ชิด

ที่มา : https://www.miyajima-aqua.jp

ทั้งนี้หอยนางรมก็เป็นอาหารขึ้นชื่อของ ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’ ด้วยครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยาจิมะ (Miyajima Aquarium)

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima เดินจากท่าเรือประมาณ 20 นาที
ที่อยู่
    • Miyajima Aquarium 10-3, Miyajima-cho, Hatsukaichi-shi, Hiroshima Japan 739-0534
    • โทร : 0829-44-2010
เวลาทำการ
    • เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
    • ผู้ใหญ่ : 1,420 เยน
    • นักเรียนชั้นประถมและมัธยม : 710 เยน
    • เด็กเล็ก : 400 เยน
    • เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี : เข้าชมฟรี
เว็บไซต์

Back To Index

8. ถนนมิยาจิมะ โอโมเตะซันโด (Miyajima Omotesando Shopping Street)

Michael Tanujaya / Shutterstock

ถนนมิยาจิมะ โอโมเตะซันโด (Miyajima Omotesando) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ถนนคิโยโมริ (Kiyomori Street) เป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของฝากมากมาย โดยสิ่งของแต่ละอย่างล้วนเป็นงานฝีมือสไตล์มิยาจิมะทั้งสิ้น

ของฝากสุดจ๊าบที่เราอยากจะแนะนำให้คุณซื้อติดมือกลับไปด้วยก็คือทัพพีตักข้าวนั่นเอง!

ข้อมูลเกี่ยวกับถนนมิยาจิมะ โอโมเตะซันโด (Miyajima Omotesando Shopping Street)

วิธีเดินทาง
    • จากท่าเรือ Miyajima เดินจากท่าเรือประมาณ 5 นาที
ที่อยู่
    • Miyajima Omotesando Shopping Street 838 Miyajimacho Hatsukaichi-shi, 739-0588
    • โทร : (0829) 44-2011
เวลาทำการ
    • เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา (ร้านค้าส่วนมากเปิดเวลา 10:00 – 17:00 น.)
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

ละแวกโอโนมิจิ

    1. เส้นทางชมวัดบนเนินเขาโอโนมิจิ (Mt. Onomichi)
    2. ชิมานามิไคโด (Shimanami Kaido)

1. เส้นทางชมวัดบนเนินเขาโอโนมิจิ (Mt. Onomichi)

เนินเขาโอโนมิจิ (Mt. Onomichi) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ติดกับทะเล นอกจากเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แสนงดงามแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อีกด้วย วัดต่างๆในบริเวณเนินเขาแห่งนี้ก็ล้วนแต่เคยเป็นฉากในภาพยนตร์หรือละครทีวีมาแล้วหลายเรื่อง

ตรงนี้เหมาะมากที่จะมากับคุณแฟน เพราะมีจุดถ่ายรูปที่สุดแสนน่ารักและโรแมนติกมาก

มีจุดให้ล็อกกุญแจคล้องใจด้วยนะ

และนี่ก็คือ วัดเซ็นโคจิ (Senkoji Temple) วัดดังประจำเนินเขาโอโนมิจิ

นอกจากจะสวยมากในช่วงซากุระบานแล้ว วัดแห่งนี้ก็ยังมีชื่อเสียงโด่งดังด้านการขอพรความรัก จนถึงขนาดที่ว่าคนญี่ปุ่นทั่วประเทศพร้อมใจกันโหวตให้วัดแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับที่ 5 เลยทีเดียว (ข้อมูลจากเว็บไซต์ jgbthai.com)

ตลอดเส้นทางที่ไปขึ้นกระเช้าจะมีย่านการค้าเล็กๆให้ได้เดินชมกันชิลล์ๆด้วยนะ

ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางชมวัดบนเนินเขาโอโนมิจิ (Mt. Onomichi)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima ขึ้นรถไฟสาย Sanyo ไปลงที่สถานี Onomichi (ใช้เวลา 90 นาที ค่าโดยสาร 1,490 เยน ใช้ JR PASS ได้) แล้วเดินอีก 12 นาทีเพื่อไปขึ้นรถกระเช้า (ใช้เวลา 5 นาที) แล้วเดินอีก 7 นาที (ในบริเวณเนินเขาจะมี walking trail ให้เดิน มีหลายอย่างให้ดู และมีจุดถ่ายรูปมากมาย)
ที่อยู่
    • Senkoji Temple 5-1 Higashidodocho, Onomichi-shi, Hiroshima 722-0033, Japan
    • โทร : 0848-23-2310
เวลาทำการ
    • วัดเปิดให้เข้าสักการะ เวลา 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

2. ชิมานามิไคโด (Shimanami Kaido)

เส้นทางปั่นจักรยานบนทางด่วน ชิมานามิไคโด (Shimanami Kaido) เป็นเส้นทางเหนือช่องแคบทะเลสายแรกที่สามารถสัญจรด้วยจักรยานได้ เนื่องจากเส้นทางนี้พาดผ่านเกาะหลายแห่ง ชิมานามิไคโดะจึงเป็นเส้นทางในฝันของเหล่านักปั่นจักรยาน

นอกจากจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่แสนสวยงามแล้ว เรายังได้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภูมิภาคเซโตะ (Seto Uchi) อีกด้วย

ระหว่างทางจะมี วัดโคซันจิ (Kousanji Temple) ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 1936 โดยนักธุรกิจที่ร่ำรวยมากคนหนึ่ง เนื่องจากเขาต้องการอุทิศวัดแห่งนี้ให้กับมารดาของตนเอง แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่ได้เก่าแก่มากนัก แต่สถาปัตยกรรมของวัดโคซันจิไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกอาคารก็ล้วนถอดแบบมาจากวัดและศาลเจ้าชื่อดังทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่นประตูของวัดแห่งนี้ ถ้ามองกันให้ดีอาจจะคุ้นกันหน่อยๆ เพราะเราเคยเห็นที่ศาลเจ้านิกโกะโทโชกุนั่นเอง

จุดนี้เองที่ทำให้วัดโคซันจิมีความน่าสนใจและมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้วัดใดในญี่ปุ่นเลย

ที่มา : http://hirayama-museum.or.jp/en.html

ที่มา : http://hirayama-museum.or.jp/en.html

ส่วนที่อยู่ข้างๆกันนั้นคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮิรายามะ อิคุโอะ (Hirayama Ikuo Museum of Art) ที่รวบรวมงานศิลปะของคุณฮิรายามะ อิคุโอะเอาไว้

ข้อมูลเกี่ยวกับชิมานามิไคโด (Shimanami Kaido)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Onomichi ด่านจักรยานจะอยู่ห่างจากสถานี 150 เมตร (เส้นทางปั่นจักรยานทั้งหมดยาว 70 กิโลเมตร จุดสิ้นสุดคือ Imabari จังหวัด Ehime) นอกจากนี้ ถ้าขี้เกียจปั่นจักรยานแต่อยากไปวัด Kousanji กับ Hirayama Ikuo Museum of Art เราสามารถนั่งรถบัสจากสถานี Onomichi ไปลงป้าย Kosanji ได้ (ใช้เวลา 63 นาที ค่าโดยสาร 1,030 เยน)  หรือนั่งเรือ (ใช้เวลา 40 นาที ค่าโดยสาร 1,300 เยน) แล้วเดิน 7 นาที
ที่อยู่
    • Shimanami Kaido Port Bicycle Rental Terminal : 5-11 Nishigoshocho, Onomichi, Hiroshima 722-0037
      • โทร : 0848-22-5332
    • Kousanji Temple : 553-2 Setodacho Setoda, Onomichi, Hiroshima 722-2411
      • โทร : 0845-27-0800
    • Hirayama Ikuo Museum of Art : 200-2 Setodachosawa, Onomichi, Hiroshima 722-2413
      • โทร : 0845-27-3800
เวลาทำการ
    • Shimanami Kaido Port Bicycle Rental Terminal : จุดเช่าจักรยานเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 7:00 – 19:00 น.
    • Kousanji Temple : วัดเปิดให้เข้าสักการะทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
    • Hirayama Ikuo Museum of Art : พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
    • Shimanami Kaido Port Bicycle Rental Terminal : จักรยานมีค่าเช่า 1,100 เยน, 1,300 เยน หรือ 1,600 เยน ขึ้นอยู่กับประเภทของจักรยาน
    • Kousanji Temple : ค่าเข้าวัด 1,400 เยน
    • Hirayama Ikuo Museum of Art : ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 900 เยน (เด็กมัธยม 200 เยน)
เว็บไซต์

Back To Index

ละแวกคุเระ

    1. พิพิธภัณฑ์ยามาโตะ (Yamato Museum)
    2. พิพิธภัณฑ์กองกำลังป้องกันทางทะเลคุเระ (Japan Maritime Self-Defense Force (JMSDF) Kure Museum)

1. พิพิธภัณฑ์ยามาโตะ (Yamato Museum)

พิพิธภัณฑ์ยามาโตะ (Yamato Museum) ตั้งอยู่ในเมืองคุเระซึ่งเป็นหนึ่งในฐานทัพทางทหารที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น

ในอดีตเมืองแห่งนี้ได้ให้กำเนิดเรือรบที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์โลก นั่นก็คือ เรือรบยามาโตะ (Senkan Yamato) ชื่อของเรือรบลำนี้ตั้งตามชื่อจังหวัดโบราณและชื่อชนเผ่าญี่ปุ่นที่มีจำนวนประชากรถึง 90%

เรือยามาโตะที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นเรือรบจำลองที่มีขนาดเพียง 1 : 10 เท่านั้น เนื่องจากเรือยามาโตะของจริงได้หลับใหลตลอดกาลอยู่ในทะเลตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 1945 แล้ว ทั้งนี้จุดที่เรืออับปางจะอยู่ระหว่างทางไปโอกินาว่า ซึ่งจุดจบของตำนานเรือรบยักษ์คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการโจมตีทางอากาศของอเมริกาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 3,200 ราย

นอกจากเรือยามาโตะแล้วก็มีการจัดแสดงยานพาหนะอื่นๆอีกด้วย เช่น เครื่องบินรบซีโร่ เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ยามาโตะ (Yamato Museum)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima ขึ้นรถไฟสาย Kure ไปลงที่สถานี Kure (ใช้เวลา 36 นาที ค่าโดยสาร 510 เยน) แล้วเดินอีก 5 นาที (ใช้ JR PASS ได้)
ที่อยู่
    • Yamato Museum (Kure City Maritime History Science Museum) 5-20 Takaracho, Kure City, Hiroshima Prefecture 737-0029
    • โทร : 0823-25-3017
    • แฟ็กซ์ : 0823-23-7400
เวลาทำการ
    • พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมเวลา 9:00 – 18:00 น.
    • ปิดทำการทุกวันอังคาร ยกเว้นบางช่วง โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่นี่ > Link
ค่าเข้าชม
    • ผู้ใหญ่ : 500 เยน
    • เด็กนักเรียนมัธยมปลาย : 300 เยน
    • นักเรียนระดับชั้นต่ำกว่ามัธยมปลาย : 200 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

2. พิพิธภัณฑ์กองกำลังป้องกันทางทะเลคุเระ (Japan Maritime Self-Defense Force (JMSDF) Kure Museum)

YingHuiLiu / Shutterstock

พิพิธภัณฑ์กองกำลังป้องกันทางทะเลคุเระ (Japan Maritime Self-Defense Force (JMSDF) Kure Museum) ตั้งอยู่ข้างๆพิพิธภัณฑ์ยามาโตะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงที่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์กองกำลังป้องกันทางทะเลคุเระ (Japan Maritime Self-Defense Force (JMSDF) Kure Museum)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Hiroshima ขึ้นรถไฟสาย Kure ไปลงที่สถานี Kure (ใช้เวลา 36 นาที ค่าโดยสาร 510 เยน) แล้วเดินอีก 5 นาที (ใช้ JR PASS ได้)
ที่อยู่
    • Japan Maritime Self-Defense Force (JMSDF) Kure Museum 5-32 Takaracho, Kure City, Hiroshima Prefecture 737-0029
    • โทร : 0823-21-6111
    • แฟ็กซ์ : 0823-32-1601
เวลาทำการ
    • พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมเวลา 9:00 – 17:00 น.
    • ปิดทำการทุกวันอังคาร
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

ละแวกฟุกุยามะ

    1. ปราสาทฟุกุยามะและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮิโรชิม่า (Fukuyama Castle and Hiroshima Prefectural Museum of History)
    2. โทโมโนะอุระ (Tomonoura)
    3. วัดชินโชจิ (Shinshoji Temple)

1. ปราสาทฟุกุยามะและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮิโรชิม่า (Fukuyama Castle and Hiroshima Prefectural Museum of History)

ปราสาทฟุกุยามะ (Fukuyama Castle) สร้างขึ้นในปี 1619 โดย ‘มิสึโนะ คัทสึนาริ (Mizuno Katsunari)’ ลูกพี่ลูกน้องของโชกุนโทคุกาวะ อิเอยาสึ (Tokugawa Ieyasu)

นอกจากจะเคยเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงในสมัยเอโดะแล้ว ปัจจุบันปราสาทฟุกุยามะยังเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งของญี่ปุ่นด้วย

ที่มา : https://svcstrg2.navitime.jp

ข้างปราสาทจะมี พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮิโรชิม่า (Hiroshima Prefectural Museum of History) ที่จัดแสดงวิถีชีวิตในอดีตของผู้คนที่อาศัยอยู่รอบๆทะเลในเซโตะด้วยครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทฟุกุยามะและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮิโรชิม่า (Fukuyama Castle and Hiroshima Prefectural Museum of History)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Fukuyama เดิน 5 นาที
ที่อยู่
    • Fukuyama Castle : 1 Chome-8 Marunouchi, Fukuyama, Hiroshima 720-0061
      • โทร : 084-922-2117
    • Hiroshima Prefecture Historical Museum : 2 Chome-4-1 Nishimachi, Fukuyama, Hiroshima 720-0067
      • โทร : 084-931-2513
เวลาทำการ
    • Fukuyama Castle
      • เปิดให้เข้าชมเวลา 9:00 – 17:00 น.
      • ปิดทำการทุกวันจันทร์และวันที่ 28 – 31 ธันวาคม
    • Hiroshima Prefecture Historical Museum
      • พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมเวลา 9:00 – 17:00 น.
      • ปิดทำการทุกวันจันทร์และช่วงเทศกาลปีใหม่
ค่าเข้าชม
    • Fukuyama Castle : ค่าเข้าชมปราสาท 200 เยน
    • Hiroshima Prefecture Historical Museum : ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ 290 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

2. โทโมโนะอุระ (Tomonoura)

โทโมโนะอุระ (Tomonoura) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่อันสวยงามของชาวประมงใน ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’ เนื่องจากทิศทางที่ตั้งของหมู่บ้านแห่งนี้หันหน้าออกสู่ทะเลในเซโตะ เราจึงสามารถชื่นชมความสวยงามของภูมิประเทศท่ามกลางบรรยากาศสงบร่มรื่นได้

นอกจากนี้ โทโมโนะอุระยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเซโตะไนไก (Setonaikai National Park) อีกด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับโทโมโนะอุระ (Tomonoura)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Fukuyama ขึ้นรถบัสจากป้ายรถบัสหมายเลข 5 ไปลงที่ป้าย Tomonoura (ใช้เวลา 30 นาที ค่าโดยสาร 530 เยน)
ที่อยู่
    • Tomonoura Tomo Tomocho, Fukuyama City Hiroshima Prefecture 720-0201
    • โทร : 084-928-1042
เวลาทำการ
    • หมู่บ้านเปิดทุกวัน ตลอดเวลา
    • ร้านค้าเปิดปิดในเวลาต่างกันไป
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

3. วัดชินโชจิ (Shinshoji Temple)

ที่มา : https://szmg.jp

วัดชินโชจิ (Shinshoji Temple) สร้างขึ้นในปี 1965 ที่นี่เป็นวัดเซนนิกายรินไซอันสวยงามใน ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’ วัดแห่งนี้ประดับประดาไปด้วยภาพวาดและงานศิลปะมากมาย

ที่มา : https://visithiroshima.net

นอกจากนี้เรายังสัมผัสวิถีเซนด้วยการนั่งสมาธิที่นี่ได้ด้วยครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับวัดชินโชจิ (Shinshoji Temple)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Fukuyama ขึ้นรถบัสจากป้ายรถบัสหมายเลข 6 ไปลงที่ป้าย Tenshinzan (ใช้เวลา 25 นาที ค่าโดยสาร 530 เยน) แล้วเดินอีก 20 นาที
    • หรือในช่วงวันเสาร์อาทิตย์จะมีรถบัสไปลงที่ป้าย Shinshoji ตรงหน้าวัดเลย (ใช้เวลา 30 นาที ค่าโดยสาร 580 เยน)
    • นอกจากนี้ในวันธรรมดายังมีรสบัสฟรีของทางวัดด้วย ดูตารางเวลาได้ที่นี่ > Link
ที่อยู่
    • Shinshoji Kamisanna 91, Numakuma-cho, Fukuyama, Hiroshima Prefecture 720-0401
    • โทร :  084-988-1111
    • E-mail : info@szmg.jp
เวลาทำการ
    • วัดเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
    • ผู้ใหญ่ : 1,200 เยน
    • นักศึกษาและนักเรียนมัธยมปลาย : 900 เยน
    • นักเรียนมัธยมต้น : 500 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

ละแวกอื่นๆ

    1. ช่องแคบซันดังเคียว (Sandankyo Gorge)
    2. ภูเขาฮิบะ (Mt. Hiba)

1. ช่องแคบซันดังเคียว (Sandankyo Gorge)

ช่องแคบซันดังเคียว (Sandankyo Gorge) เป็นช่องแคบที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามอย่างมาก ช่องแคบแห่งนี้ทอดตัวทะลุผ่านภูเขาที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’ ด้วยสีเขียวชอุ่มของฤดูใบไม้ผลิและสีเหลืองทองของฤดูใบไม้ร่วง สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ

นอกจากจะได้เดินชมเหล่าพืชพรรณหลากชนิดที่ให้ความเพลิดเพลินแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลแล้ว ที่นี่ยังมีน้ำตกสีแดงที่งดงามมากๆด้วย

หรือหากใครเดินเที่ยวจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปล่องเรือบ้างก็ดีเหมือนกันนะ

ข้อมูลเกี่ยวกับช่องแคบซันดังเคียว (Sandankyo Gorge)

วิธีเดินทาง
    • จาก Hiroshima Bus Center ขึ้นรถบัสไป Sandankyo Gorge (ใช้เวลา 75 นาที ค่าโดยสาร 1,400 เยน)
ที่อยู่
    • Sandankyo Gorge Yokogou, Akiota, Yamagata District, Hiroshima 731-3801
    • Kurobuchi Tosen 黒淵渡舟 (บริษัทเรือ)
      • โทร : 090-2296-2719
เวลาทำการ
    • อุทยานเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา
    • เรือเปิดให้บริการเฉพาะช่วงต้นเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เวลา 9:00 – 16:00 น.
ค่าเข้าชม
    • ค่าเรือไป-กลับ
      • ผู้ใหญ่ : 500 เยน
      • เด็ก : 400 เยน
เว็บไซต์

Back To Index

2. ภูเขาฮิบะ (Mt. Hiba)

ที่มา : https://www.hiroshima-kankou.com

ภูเขาฮิบะ (Mt. Hiba) คือภูเขาเก่าแก่ที่ปรากฏในโคจิกิหรือพงศาวดารญี่ปุ่นโบราณ ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฮิบะ–โดโกะ–ไทชะกุ ซึ่งตั้งอยู่บนเขตแดนของจังหวัดชิมาเนะ

บริเวณยอดเขาฮิบะปกคลุมไปด้วยป่าบีช (Beech woods) และเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ในยามที่ใบไม้พร้อมใจกันผลัดใบ เราจะเห็นราวกับว่าภูเขาทั้งลูกถูกย้อมเป็นสีแดง เป็นทัศนียภาพที่สวยงามไม่แพ้ช่วงฤดูใบไม้ผลิเลย

ข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาฮิบะ (Mt. Hiba)

วิธีเดินทาง
    • จากสถานี Bingo-ochiai ให้ขึ้นรถแท็กซี่มายังภูเขาฮิบะ (ต้องทำการจองล่วงหน้า) หรือเช่ารถขับมายังภูเขาฮิบะ
ที่อยู่
    • Mt.Hiba Yuki Saijo-cho, Shobara City Hiroshima 729-5602
    • โทร : 0824-82-2727
เวลาทำการ
    • อุทยานเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา (แนะนำให้ไปช่วงเดือนพฤศจิกายน ตอนใบไม้เปลี่ยนสี)
ค่าเข้าชม
    • ไม่มีค่าเข้าชม
เว็บไซต์

Back To Index

อาหารท้องถิ่นประจำ ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’

จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นอีกจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่นที่อยู่ติดกับทะเล ที่นี่จึงมีอาหารทะเลสดอร่อยมากมาย โดยเฉพาะ ‘หอยนางรม’ ที่คนญี่ปุ่นต่างเล่าลือเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องกินที่ฮิโรชิม่านี่แหละ…เดอะเบสต์!

ว่าแต่นอกจากหอยนางรมแล้ว ฮิโรชิม่ายังมีอะไรน่ากินอีกบ้าง ตามมาดูกันเลย!

1. หอยนางรม (Oyster)

จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นแหล่งผลิตหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แถมยังได้รับการการันตีจากชาวญี่ปุ่นว่าหอยนางรมของจังหวัดนี้อร่อยที่สุดในประเทศเลยด้วย ไม่ว่าจะทานเป็นซาชิมิหรือปรุงสุกก็ล้วนอร่อยทั้งสิ้นครับ

ของมันต้องไปโดนแล้วว่าไหม!? ^^

Back To Index

2. ปลาไหลทะเลอานาโกะ (Anago)

ปลาไหลทะเลอานาโกะ (Anago) เป็นของขึ้นชื่อประจำเกาะมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า โดยเฉพาะเมนูปลาไหลทะเลย่างที่มีจุดเด่นตรงกลิ่นหอมของถ่านที่ใช้ย่าง รวมถึงกลิ่นโชยุที่ใช้หมักปลาไหล

ส่วนรสสัมผัสของเนื้อปลาไหลทะเลอานาโกะนั้นจะให้ความรู้สึกร่วนและยุ่ยกว่าปลาไหลอุนางิ แต่ขอเคลมตรงนี้เลยว่าอร่อยไม่แพ้กัน!

Back To Index

3. โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki)

หากพูดถึง โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) หลายๆคนก็คงนึกถึงจังหวัดโอซาก้า แต่ขอบอกว่าโอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่าก็เด็ดไม่แพ้กัน!

โอโคโนมิยากิของจังหวัดฮิโรชิม่านั้นจะใช้กะหล่ำปลี ถั่วงอก เนื้อหมู ไข่ และเส้นโซบะหรือเส้นอุด้งวางลงไปบนแผ่นแป้งบางๆทีละชั้นเหมือนกับการทำเครป ซึ่งแตกต่างจากโอโคโนมิยากิของโอซาก้าที่นำแป้งกับส่วนผสมอื่นๆผัดรวมกันไปเลย และจุดนี้เองที่ทำให้รสสัมผัสของโอโคโนมิยากิที่ฮิโรชิม่ามีความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ถ้าถามว่าโอโคโนมิยากิของที่ไหนอร่อยกว่ากันระหว่างฮิโรชิม่ากับโอซาก้า ก็แอบตอบยากนะครับ นี่ว่าแล้วแต่คนชอบแหละ

  • ร้านแนะนำ : ร้านไหนก็ได้ในย่านโอโคโนมิยากิมุระ (Okonomiyakimura)

Back To Index

4. โมมิจิมันจู (Momiji-Manju)

โมมิจิมันจู (Momiji-Manju) หรือเจ้าเค้กรูปใบเมเปิลที่เราเห็นอยู่นี้ เป็นของหวานและของฝากขึ้นชื่อจากเกาะมิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า ขนมชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายยุคเมจิ โดยช่างทำขนมญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ทาคาสึ สึเนสุเกะ’

เหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์ขนมหน้าตาสวยงามแบบนี้ของทาคาสึก็คือ มีโรงแรมแห่งหนึ่งมาขอให้เขาลองทำขนมสักอย่างให้กับลูกค้าวีไอพี แต่ไปๆมาๆโมมิจิมันจูก็กลายเป็นสินค้ายอดฮิตของ ‘จังหวัดฮิโรชิม่า’ จนถึงปัจจุบันไปซะงั้น

Back To Index

5. วานิเรียวอุริ (Wani Ryouri)

“อะไรนะ! จะให้กินเนื้อจระเข้งั้นเหรอ?”

ถ้าใครเรียนภาษาญี่ปุ่นหรือดูอนิเมะกับซี่รีส์ญี่ปุ่นบ่อยๆ ก็อาจจะคุ้นๆว่า วานิ (Wani) แปลว่า จระเข้

แต่เอ๋!? แต่ที่ญี่ปุ่นไม่มีเนื้อจระเข้ไม่ใช่เหรอ? นอกจากจะไปแอบแล่สดในสวนสัตว์ 555 (ที่จริงแล้วบ้านเรานี่แหละที่ส่งออกเนื้อจระเข้ไปให้เขา)

เอาล่ะ เราจะมาเฉลยให้ว่า วานิ ยังมีอีกหนึ่งความหมาย คือ ‘เนื้อฉลาม’ นั่นเองครับ (หน่านิ๊!)

สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น ซาชิมิปลาดิบไม่ใช่ของหายากเลยครับ แต่ซาชิมิฉลามเนี่ยสิ เป็นยิ่งกว่า rare item

ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวฮิโรชิม่า ยังไงก็ต้องลองกินสักครั้งครับ!

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดฮิโรชิม่า

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top