fbpx

เที่ยวฮิโรชิม่า : ถอดบทเรียนจากอดีตไปกับ 3 สถานที่ท่องเที่ยว

มี.ค. 11, 2021

เที่ยวฮิโรชิม่า : ถอดบทเรียนจากอดีตไปกับ 3 สถานที่ท่องเที่ยว

วันนี้เราจะพาทุกคนไป ‘เที่ยวฮิโรชิม่า’ จังหวัดที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องด้วยในปี 1945 กองทัพทหารสหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลงที่จังหวัดนี้ ส่งผลให้เปลวเพลิงเผาผลาญทั่วทั้งเมืองภายในชั่วพริบตา

ผลกระทบจากระเบิดลูกนี้คือมีผู้เสียชีวิตในฮิโรชิม่าประมาณ 140,000 ราย (ทั้งเสียชีวิตทันที และเสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากอาการเจ็บป่วยจากสารกัมมันตภาพรังสี)

เหตุการณ์ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก แต่ในเวลาต่อมา ชาวฮิโรชิม่าก็ค่อยๆเยียวยาฟื้นฟูผู้คนและบ้านเมือง จนฮิโรชิม่ากลับมาเป็นจังหวัดที่สวยงามอีกครั้ง

เมื่อเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เราอาจกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราพอจะทำได้คือการเรียนรู้จากมัน และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายซ้ำอีก อย่างที่ชาวฮิโรชิม่าได้เรียนรู้จากสงครามและความสูญเสียนั่นเอง

วันนี้เราจะพาทุกคนไป ‘เที่ยวฮิโรชิม่า’ พร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์จากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ 3 แห่งกันครับ เรามั่นใจว่าทุกคนจะได้อะไรจากการเที่ยวชมสถานที่เหล่านี้แน่นอน

สารบัญ

1. โดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)

โดมระเบิดปรมาณู สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1914 เพื่อเป็นศูนย์จัดแสดงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมประจำจังหวัดฮิโรชิม่า ที่โดมแห่งนี้ เราจะได้ชมสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่เป็นโดมทรงกลมรีขนาดมหึมาทำจากทองแดง เป็นสัญลักษณ์อันแสนโดดเด่นของเมืองฮิโรชิม่าในสมัยนั้น

ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Atomic_bombings_of_Hiroshima_and_Nagasaki

ในวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945 อาคารแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากระเบิดปรมาณูที่ถูกทิ้งในระยะห่างออกไปเพียง 160 เมตร แต่เนื่องจากโดมโดนแรงระเบิดในแนวเกือบตั้งฉาก ผนังบางส่วนจึงไม่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตามผู้คนภายในอาคารเสียชีวิตทั้งหมดทันที

ต่อมาในปี 1996 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนโดมระเบิดปรมาณูให้เป็นมรดกโลก เพื่อให้ผู้คนระลึกถึงความสำคัญของการล้มล้างอาวุธนิวเคลียร์และสันติภาพของโลก

ทั้งนี้ เมืองฮิโรชิม่าได้อนุรักษ์โดมไว้ให้คงอยู่ในสภาพเดิมที่หลงเหลือจากการโดนระเบิดปรมาณู

โดมระเบิดปรมาณูนับเป็นสิ่งปลูกสร้างที่แสดงให้เห็นถึงบาดแผลของญี่ปุ่นจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสงครามที่นำความพินาศมาสู่ประเทศอย่างแท้จริงเลยครับ

ข้อมูลเกี่ยวกับโดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)

ที่อยู่

Atomic Bomb Dome, 1-10 Otemachi, Naka-ku, Hiroshima-shi, Hiroshima 730-0051 Japan

วันและเวลาทำการ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา

ค่าเข้าชม

ไม่มีค่าเข้าชม

การเดินทาง

จากสถานีรถไฟ Hiroshima ขึ้นรถราง Hiroshima Trams สาย 2 หรือสาย 6 ไปลงที่สถานี Genbaku Dome-mae (原爆ドーム前) โดยใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน จากนั้นเดิน 3 นาทีไปที่โดม (* หมายเหตุ : มีตั๋วรถราง day pass 600 เยนที่ใช้ร่วมกับรถรางในการเที่ยวเกาะมิยาจิมะ รวมถึงใช้ขึ้นเรือข้ามฟากไปกลับเกาะมิยาจิมะ และใช้เป็นส่วนลดสำหรับกระเช้าขึ้นจุดชมวิวได้)

หรืออาจจะเลือกนั่งรถบัสวนรอบเมือง Meipuru-pu ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 200 เยนต่อเที่ยว (* หมายเหตุ : มีตั๋ว day pass 400 เยน / ถ้าใช้ JR PASS สามารถขึ้นรถบัสได้ฟรี) แล้วเดินอีก 3 นาทีไปที่โดม

แผนที่

เว็บไซต์

http://visithiroshima.net/world_heritage/a_bomb_dome/

กลับไปที่สารบัญ

2. สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)

สวนสันติภาพฮิโรชิม่า เป็นสวนสาธารณะในจังหวัดฮิโรชิม่าที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ก่อนจะมีการทิ้งระเบิด พื้นที่บริเวณนี้นับว่าเป็นศูนย์กลางของเมืองฮิโรชิม่า เป็นศูนย์กลางการค้าและการบริหารของเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคัก และด้วยเหตุนี้เอง บริเวณนี้จึงถูกเลือกเป็นเป้าหมายของการทิ้งระเบิดปรมาณู

ภายหลังจากการทิ้งระเบิด 4 ปี รัฐบาลก็ประกาศอนุรักษ์พื้นที่นี้ โดยสร้างเป็นสวนสันติภาพแทนการพัฒนาเป็นเมืองตามเดิม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความเสียหายที่เกิดจากสงคราม

ระเบิดปรมาณูครั้งนั้นส่งผลให้ในฮิโรชิม่ามีผู้เสียชีวิตทันที 140,000 คน และต่อมายังมีผู้ที่เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บหรือจากการรับสารกัมมันตภาพรังสีที่มาพร้อมกับระเบิดอีกนับหมื่นคน หนึ่งในนั้นคือเด็กหญิงที่มีชื่อว่า ‘ซาดาโกะ ซาซากิ’

ซาดาโกะ ซาซากิ เป็นเด็กหญิงนักกีฬาของโรงเรียน แต่ด้วยผลพวงจากระเบิดปรมาณู วันหนึ่งในขณะที่ซาดาโกะกำลังซ้อมวิ่งเมื่อตอนอายุ 11 ปี เธอก็รู้สึกเวียนหัวจนล้มลง เมื่อเข้ารับการตรวจรักษา

หมอลงความเห็นว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นผลพวงของสารกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดที่เกิดขึ้นตอนเธออายุ 2 ขวบนั่นเอง จากเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง ซาดาโกะก็จำต้องนอนป่วยอยู่บนเตียง

วันหนึ่งเพื่อนของซาดาโกะเล่าให้ฟังถึงตำนานของนกกระเรียนว่า ถ้าใครพับนกกระดาษได้ครบ 1,000 ตัวก็จะหายจากโรคภัย ซาดาโกะจึงเริ่มพับนกกระเรียนตั้งแต่ตอนนั้น

แต่สุดท้ายซาดาโกะก็เสียชีวิตลงก่อนที่จะพับนกกระเรียนได้ครบ 1,000 ตัว ในวันพิธีศพเพื่อนๆของซาดาโกะรวมใจกันพับนกกระเรียนจนครบ 1,000 ตัว และฝังลงไปพร้อมกับร่างของซาดาโกะ

หลังจากนั้น ที่สวนสันติภาพแห่งนี้ก็ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์รำลึกถึงซาดาโกะและเด็กๆที่เสียชีวิตจากสงคราม ตามรูปภาพด้านบนครับ

สวนสันติภาพแห่งนี้มี พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณู เป็นโซนย่อยอีกแห่งหนึ่งด้วย

ที่มา : https://gethiroshima.com/news/a-bomb-mannequins-retired-after-44-years-of-controversy/

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงสิ่งของต่างๆที่เหลือรอดมาจากแรงระเบิด อีกทั้งยังมีการจำลองเหตุการณ์หลังการทิ้งระเบิด ซึ่งบอกได้เลยว่าสยองมาก ถ้าจิตไม่แข็งพอดูแล้วอาจร้องไห้ได้เลย ผมขอลงรูปแค่นี้พอนะครับ

เนื่องจากสวนสันติภาพฮิโรชิม่านั้นกว้างใหญ่มาก (มีขนาดพื้นที่ 12,000 ตารางกิโลเมตร!!!) สวนแห่งนี้จึงมีพื้นที่ให้เราเดินพักผ่อนหย่อนใจได้เยอะมาก

จุดเด่นที่สุดของสวนสันติภาพฮิโรชิม่าก็คือบรรดาต้นซากุระที่มีเยอะมากๆ ฤดูใบไม้ผลิจึงเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวชมสวนแห่งนี้

แม้ว่าฮิโรชิม่าจะผ่านเหตุการณ์เศร้าสลดมา และผมจะยังคงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเศร้าๆของที่แห่งนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ก็คือ ด้วยความใจสู้และวินัยของคนญี่ปุ่น ในที่สุดพวกเขาก็ก้าวพ้นจากโศกนาฏกรรมในอดีตและกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง

และเมืองฮิโรชิม่านี่แหละ…ที่เป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งนั้น

ข้อมูลเกี่ยวกับสวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)

ที่อยู่
  • Hiroshima Peace Memorial Park, 1-1-1, Nakajima-cho, Naka-ku, Hiroshima-shi, Hiroshima, 730-0811
  • Hiroshima Peace Memorial Museum, 1-2 Nakajima-cho, Naka-ku, Hiroshima, 730-0811
โทร

082-241-4004

วันและเวลาทำการ
  • สวนสันติภาพ Hiroshima Peace Memorial Park : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตลอดเวลา
  • พิพิธภัณฑ์ Hiroshima Peace Memorial Museum : เปิดให้เข้าชมเวลา 8.30 – 18.00 น. (เปิดถึง 19.00 น. ในเดือนสิงหาคม / เปิดถึง 17.00 น. ในเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์) หยุดทำการวันที่ 30 – 31 ธันวาคม
ค่าเข้าชม

200 เยน

การเดินทาง

จากสถานีรถไฟ Hiroshima ขึ้นรถราง Hiroshima Trams สาย 2 หรือสาย 6 ไปลงที่สถานี Genbaku Dome-mae (原爆ドーム前) โดยใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน จากนั้นเดิน 3 นาทีไปที่สวนสันติภาพ (* หมายเหตุ : มีตั๋วรถราง day pass 600 เยนที่ใช้ร่วมกับรถรางในการเที่ยวเกาะมิยาจิมะ รวมถึงใช้ขึ้นเรือข้ามฟากไปกลับเกาะมิยาจิมะ และใช้เป็นส่วนลดสำหรับกระเช้าขึ้นจุดชมวิวได้)

หรืออาจจะเลือกนั่งรถบัสวนรอบเมือง Meipuru-pu ใช้เวลา 15 นาที ค่าโดยสาร 200 เยนต่อเที่ยว (* หมายเหตุ : มีตั๋ว day pass 400 เยน / ถ้าใช้ JR PASS สามารถขึ้นรถบัสได้ฟรี) แล้วเดินอีก 3 นาทีไปที่สวนสันติภาพ

แผนที่

เว็บไซต์

http://hpmmuseum.jp/?lang=eng

กลับไปที่สารบัญ

3. ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)

ปราสาทฮิโรชิม่า สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1589 โดย ‘โมริ เทรุโมโตะ’ เจ้าเมืองในสมัยนั้น ปราสาทแห่งนี้มีความแตกต่างจากปราสาททั่วไปตรงที่สร้างบนพื้นที่ราบ ไม่ใช่ปราสาทบนเนินเขาหรือยอดเขาแบบที่มักจะเห็นกันทั่วๆไป (เช่นที่ฮิเมจิ)

ถึงแม้ว่าปราสาทฮิโรชิม่าจะพ้นภัยสงครามกลางเมืองในช่วงปลายยุคเอโดะมาได้ แต่ปราสาทก็ไม่อาจรอดพ้นจากการทิ้งระเบิดปรมาณูเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทแห่งนี้ก็ได้รับการบรูณะขึ้นมาใหม่ในปี 1958

ที่มา : https://www.japan-guide.com/e/e3402.html

เช่นเดียวกับปราสาทที่อื่น เราสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองจากชั้นบนได้

ที่มา : https://www.japan-guide.com/e/e3402.html

นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ก็นับว่าเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดฮิโรชิม่าด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทฮิโรชิม่า

ที่อยู่

Hiroshima Castle, 21-1 Motomachi, Naka-ku, Hiroshima-shi, Hiroshima 730-0011

โทร

082-221-7512

แฟ็กซ์

082-221-7519

วันและเวลาทำการ
  • เดือนมีนาคม – พฤศจิกายน : เปิดให้เข้าชมเวลา 9.00 – 18.00 น.
  • เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ : เปิดให้เข้าชมเวลา 9.00 – 17.00 น.
  • ช่วงวันหยุด Golden Week และช่วงวันหยุดเทศกาล Obon : เปิดให้เข้าชมเวลา 9.00 – 19.00 น.
  • ปิดทำการในวันที่ 29 – 31 ธันวาคม
ค่าเข้าชม
  • ผู้สูงอายุ : 180 เยน
  • ผู้ใหญ่ : 370 เยน
  • นักเรียนมัธยมปลาย : 180 เยน
  • นักเรียนชั้นมัธยมปลายลงมา : เข้าชมฟรี
การเดินทาง

จากสถานีรถไฟ Hiroshima ขึ้นรถราง Hiroshima Trams สาย 2 หรือสาย 6 ไปลงที่สถานี Kamiyacho-nishi หรือ Kamiyacho-higashi โดยใช้เวลา 12 นาที ค่าโดยสาร 190 เยน จากนั้นเดิน 3 นาทีไปที่ปราสาท (* หมายเหตุ : มีตั๋วรถราง day pass 600 เยนที่ใช้ร่วมกับรถรางในการเที่ยวเกาะมิยาจิมะ รวมถึงใช้ขึ้นเรือข้ามฟากไปกลับเกาะมิยาจิมะ และใช้เป็นส่วนลดสำหรับกระเช้าขึ้นจุดชมวิวได้)

หรืออาจจะเลือกนั่งรถบัสวนรอบเมือง Meipuru-pu ใช้เวลา 6 นาที ค่าโดยสาร 200 เยนต่อเที่ยว (* หมายเหตุ : มีตั๋ว day pass 400 เยน / ถ้าใช้ JR PASS สามารถขึ้นรถบัสได้ฟรี) แล้วเดินอีก 3 นาทีไปที่ปราสาท

แผนที่

เว็บไซต์

http://www.rijo-castle.jp/

.

.

** เกือบลืม! ถ้ามาฮิโรชิม่าแล้ว ผมขอแนะนำว่าของกินที่พลาดไม่ได้เลยก็คือหอยนางรมครับ เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่นเลยล่ะ!

อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับจังหวัดฮิโรชิม่า

 

กลับไปด้านบน