fbpx

อัปเดตแดนอาทิตย์อุทัยโดยรถไฟคินเท็ตสึ เมษายน 2023

พ.ค. 09, 2023

อัปเดตแดนอาทิตย์อุทัยโดยรถไฟคินเท็ตสึ เมษายน 2023

พบกับช่วง~ อัปเดตแดนอาทิตย์อุทัยโดยรถไฟคินเท็ตสึ บทความที่เราจะมานำเสนอข่าวสารใหม่ๆจากประเทศญี่ปุ่น ส่งตรงจากรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ (Kintetsu Railway) โดยในครั้งนี้เราจะมาอัปเดตเรื่องราวในเดือน เมษายน 2023 ค่ะ

เราขอพาทุกคนย้อนความทรงจำไปยังเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในช่วงที่ดอกซากุระผลิบาน ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินไปกับเส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัดนารา โอซาก้า หรือเกียวโตด้วยรถไฟท่องเที่ยว AONIYOSHI การร่วมสักการะเทพบิชามงเทน ณ ภูเขาชิงิ หรือการรับประทานของอร่อยระหว่างเดินเล่นชมดอกไม้บานบนภูเขาโยชิโนะ

เอาเป็นว่าอย่าเสียเวลากันเลยค่ะ เราไปดูกันดีกว่าว่าข่าวอัปเดตจากรถไฟฟ้าคินเท็ตสึในเดือนเมษายนที่ผ่านมาจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

สารบัญ (Index)

1. เพลิดเพลินไปกับวิวจากรถไฟท่องเที่ยว AONIYOSHI [7 เม.ย. 2023]

มาทำให้การท่องเที่ยวนารา โอซาก้า และเกียวโตพิเศษมากยิ่งขึ้นกันเถอะ!

ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับเส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัดนารา โอซาก้า และเกียวโตได้ ด้วย “รถไฟท่องเที่ยว AONIYOSHI” ที่เริ่มวิ่งให้บริการตั้งแต่เมื่อปีก่อน

ชื่อรถไฟ AONIYOSHI” (อาโอนิโยชิ) มีที่มาจากชื่อเมืองเก่าแก่ของนารา ซึ่งถูกนำมาเรียบเรียงคำใหม่ด้วยเทคนิคการประพันธ์บทกวีที่เรียกว่า “มาคุนะโคโตบะ” หรือการนำวลีมาเรียงต่อกัน 5 พยางค์เพื่อให้บทกวีมีความไพเราะมากยิ่งขึ้น โดยคำว่า ‘อาโอนิโยชิ’ สื่อถึงความงดงามของเมืองนารา

รถไฟขบวนนี้มีการตกแต่งตัวรถด้วยสีม่วง ซึ่งเป็นสีที่สื่อถึงคุณค่าของสิ่งที่ผ่านกาลเวลามายาวนาน ด้วยดีไซน์ดังกล่าวนี้ ทุกคนจะได้สัมผัสถึงความงดงามและคุณค่าของ “ความเป็นญี่ปุ่นแห่งเมืองนารา” ผ่านรถไฟทั้งขบวน

นอกจากนี้การตกแต่งของรถไฟ Aoniyoshi ยังได้รับอิทธิพลมาจากสมบัติอันมีค่าของวัดโชโซอินอีกด้วย เช่น ออกแบบลวดลายตามลายเทนเปียวมงโย (天平文様) เพื่อที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณไปด้วยในระหว่างช่วงเวลาการเดินทางอันมีค่า

หลังจากได้ชมความสวยงามและรับรู้ถึงคุณค่าของรถไฟ Aoniyoshi แล้ว ลองมาขึ้นรถไฟท่องเที่ยวขบวนนี้เพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอาหารของเมืองท่องเที่ยวทั้งสามในแบบที่พิเศษยิ่งกว่าเดิมกันดูไหมคะ?

เว็บไซต์รถไฟ Aoniyoshi (ภาษาอังกฤษ)

Back To Index

2. สักการะเทพบิชามงเทน ณ ภูเขาชิงิ [11 เม.ย. 2023]

ภูเขาชิงิ (Mount Shigi) จังหวัดนารา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งเกียรติยศและชื่อเสียงอย่าง “เทพบิชามงเทน” (Bishamonten) หนึ่งในเจ็ดเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่มีอิทธิฤทธิ์ด้านการให้โชคมากที่สุด เชื่อกันว่าเทพองค์นี้เคยปรากฏกายขึ้นในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งภูเขาชิงิก็เป็นดั่งศูนย์รวมตำนานและความเชื่อทั้งหมดเกี่ยวกับเทพบิชามงเทน

ภูเขาชิงิเป็นศาสนสถานที่ผู้คนให้ความนับถือเป็นอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเป็นสถานที่ยอดฮิตในการขอพรให้ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข ขอความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ขอโชคลาภอันยั่งยืน และขอให้สมปรารถนาในสิ่งที่หวัง ด้วยเหตุนี้ภูเขาชิงิจึงเป็นศาสนสถานที่ผู้คนมากมายให้ความศรัทธาและเดินทางมาเยี่ยมเยือนจากทั่วทุกสารทิศ

บนภูเขาชิงิมีวัดแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า วัดโชโกซอนชิจิ (Chogosonshiji Temple) หรือที่เรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า วัดชิงิซัง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเรื่อง “ฟุคุโทระ” หรือ “เสือแห่งโชคลาภ” (福寅) วัดนี้จึงมีรูปปั้นเสือโคร่งตั้งอยู่ด้านหน้าและกลายเป็นแลนด์มาร์กโด่งดังที่หลายๆคนรู้จักกันดี

นอกจากนี้ตรงบริเวณ ‘สะพานเปิดโชค’ หรือ ‘ไคอุนบาชิ’ ยังมี “ขนมมันจูรูปเสือ” จำหน่ายอีกด้วย ขนมมันจูของที่นี่จะเป็นรูปหน้าเสือดูสง่าน่าเกรงขาม อีกทั้งยังมีขนมขึ้นชื่ออย่าง “ยากิโยโมกิดังโงะ” ให้ทุกคนได้ทานเล่นกันระหว่างเดินชมวิว

‘สะพานเปิดโชค’ หรือ ‘ไคอุนบาชิ

ขนมมันจูรูปเสือ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเป็นฤดูที่ดอกซากุระบนภูเขาบานสวยที่สุดเลยค่ะ ภูเขาชิงิจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆก็อยากมาเยี่ยมเยือนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะจะได้ชมซากุระในช่วงเวลาที่สวยที่สุดนั่นเอง

ข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาชิงิ

การเดินทาง
  • หากเดินทางจากโอซาก้า ให้ขึ้นรถไฟสาย Kintetsu-Shigi จากสถานี Uehommachi ไปลงที่สถานี Sango จากนั้นนั่งรสบัสสาย Nara Kotsu ไปลงที่ป้ายภูเขาชิงิ
วันเวลาทำการ
  • ภูเขาชิงิ : เปิดให้ขึ้นตลอดทั้งปี
  • วัดโชโกซอนชิจิ : เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 17:00 น.
เว็บไซต์
แผนที่

Back To Index

3. สืบสานวัฒนธรรมโบราณที่วัดเกียวคุโซอิน [13 เม.ย. 2023]

วัดเกียวคุโซอิน (Gyokuzoin Temple) เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ ณ ภูเขาชิงิ จังหวัดนารา ว่ากันว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคเฮอัน

เนื่องจากมีผู้ศรัทธาจากหลายพื้นที่เดินทางมายังวัดแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตกาล จึงมีการสร้าง “ชุคุโบะ” (Shukubo) หรือที่พักแรมสำหรับบุคคลทั่วไปและพระขึ้นภายในบริเวณวัด ปัจจุบันที่นี่ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ซึ่งบุคคลทั่วไปจะได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักในชุคุโบะ รวมถึงลิ้มรสอาหารเจของพระญี่ปุ่นที่เรียกว่า “โชจินเรียวริ” (Shojin Ryori)

เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาทองของการชมซากุระ หรือประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ทุกคนสามารถชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งจากโถงทางเดินภายในชุคุโบะได้เลย ผู้เข้าพักจึงสามารถดื่มด่ำไปกับความสวยงามของดอกไม้ได้อย่างจุใจระหว่างเข้าพักที่นี่

นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมของวัดที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีตได้ เช่น การคัดลอกพระสูตร (写経体験) และการสวดภาวนา (ご祈祷) ซึ่งสามารถพบประสบการณ์เหล่านี้ได้ที่ชุคุโบะของวัดเกียวคุโซอินเท่านั้น

หากใครสนใจ ในปีหน้าเราแนะนำให้ลองมาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษที่หาได้ยากในญี่ปุ่นด้วยการเข้าพักที่ “ชุคุโบะ” กันนะคะ

ข้อมูลเกี่ยวกับวัดเกียวคุโซอิน

การเดินทาง
  • จากเกียวโตหรือโอซาก้า ให้นั่งรถไฟคินเท็ตสึมาลงที่สถานี Kintetsu Shin-Oji  จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่ออีกประมาณ 16 นาทีก็จะถึงวัดเกียวคุโซอิน
เว็บไซต์
แผนที่

Back To Index

4. เดินเล่นชมดอกซากุระหลากสีบนภูเขาโยชิโนะ [17 เม.ย. 2023]

เมื่อครั้งที่ดอกซากุระบานสะพรั่งปกคลุมไปทั่วทั้ง ภูเขาโยชิโนะ (Mount Yoshino) ณ จังหวัดนารา  ภูเขาแห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆคนเดินทางมาเพื่อชมดอกไม้ระหว่างปีนเขาในช่วงฤดูใบไม้ผลิเหมือนดังเช่นทุกปี

ดอกซากุระเหล่านี้จะบานไล่เรียงขึ้นไปบนภูเขาตามแต่ละช่วงเวลา โดยเริ่มตั้งแต่โซน Shimo Senbon (โซนด้านล่าง,เชิงเขา), โซน Naka Senbon (โซนกลาง), โซน Kami Senbon (โซนด้านบน), ไปจนถึงโซน Oku Senbon (โซนหุบเขาลึกที่บริเวณยอดเขา) เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกไม้ได้อย่างเต็มอิ่ม

  • หมายเหตุ : ภาพในบทความนี้ถ่ายตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน

เมื่อขึ้นไปทางเนินนานะมาการิซากะ (七曲坂) เราจะพบกับดงต้นซากุระที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังลอดอุโมงค์ และหากขึ้นกระเช้าโรปเวย์ เราก็สามารถชมวิวภูเขาทั้งลูกที่ปกคลุมไปด้วยซากุระอันงดงามได้

แม้จะขึ้นเขาด้วยวิธีที่ต่างกัน แต่เราก็สามารถดื่มด่ำกับวิวซากุระที่บานสะพรั่งได้ไม่ต่างกัน และนี่เองที่เป็นเสน่ห์อีกอย่างของการมาเที่ยวภูเขาโยชิโนะ

นอกจากนี้บนภูเขาจะมีร้านอาหารริมทางที่เต็มไปด้วยของกินขึ้นชื่อของโยชิโนะ ซึ่งเราสามารถซื้อมาลิ้มลองความอร่อยกันได้ เช่น ซูชิห่อใบพลับ (คาคิโนะฮะซูชิ) หรือคุซึอุด้ง (葛うどん) เป็นต้น

คุซึอุด้ง (葛うどん)

ซูชิห่อใบพลับ

หากได้ทานของอร่อยเหล่านี้ไปด้วยระหว่างเดินเล่นชมดอกไม้บนภูเขา เราก็จะได้ลิ้มรสชาติความอร่อยในอีกบรรยากาศหนึ่งค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาโยชิโนะ

วิธีเดินทาง

หากเดินทางจากสถานี Osaka Abenobashi Station ในโอซาก้า ด้วยรถไฟด่วนพิเศษ Sightseeing Limited Express Blue Symphony ของบริษัทรถไฟฟ้า Kintetsu Railway ให้นั่งมาลงที่สถานี Yoshino Station ในนารา โดยใช้เวลาเพียง 75 นาทีเท่านั้น

  • ค่าบริการตั๋วเที่ยวเดียว
    • ผู้ใหญ่ : 990 เยน
    • เด็ก : 500 เยน
    • หมายเหตุ : ราคารวมค่าโดยสารทั่วไปแล้ว
  • เว็บไซต์สำหรับการจองตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ >>> kintetsu.co.jp
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
แผนที่

Back To Index

5. ชมดอกเนโมฟีลาและไฟประดับสุดอลังการที่สวนฮานะฮิโรบะ [19 เม.ย. 2023]

สวนฮานะฮิโรบะ (Hana Hiroba) เป็นสวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ภายในสวนนาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) จังหวัดมิเอะ สวนแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 13,000 ซึโบะ (หรือประมาณ 43,000 ตารางเมตร) ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ดอกเนโมฟีลากว่าล้านดอกจะเบ่งบานไปทั่วทั้งสวน

ดอกเนโมฟีลาเป็นดอกไม้ขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงประมาณ 3 เซนติเมตร ด้วยสีฟ้าสวยสดใสของดอกไม้ชนิดนี้ ในยามที่มันผลิดอกพร้อมๆกันเราจึงได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับทั่วทั้งสวนถูกปูด้วย ‘ผืนพรมสีฟ้า’

นอกจากนี้ดอกเนโมฟีลายังเป็นดอกไม้ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากด้วยค่ะ

ในช่วงกลางคืนตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2022 ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2023 บริเวณลานของสวนฮานะฮิโรบะมีการเปิดไฟไลท์อัพเพื่อเพิ่มความสวยงาม เป็นการประดับไฟที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย

ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงกลางวันหรือกลางคืน เราก็สามารถสัมผัสกับความเป็นฤดูใบไม้ผลิของสวนดอกไม้แห่งนี้ได้เช่นกันค่ะ

ข้อมูลเกี่ยวกับสวนฮานะฮิโรบะ (สวนนาบานะ โนะ ซาโตะ)

การเดินทาง
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
แผนที่

Back To Index

6. ชมโซนตกแต่งพิเศษ “บึงดอกไม้” ณ วัดโอกะเดระ [25 เม.ย. 2023]

สำหรับข่าวอัปเดตจากรถไฟฟ้าคินเท็ตสึในครั้งนี้ เราจะไปปิดท้ายกันด้วยบรรยากาศของวัดโอกะเดระในยามที่ “ดอกชาคุนาเกะ” (Rhododendron/石楠花) ผลิบานอย่างสวยงาม

วัดโอกะเดระ (Okadera Temple) ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านอาสึกะ (Asuka Village) จังหวัดนารา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ขจัดสิ่งอัปมงคลแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเป็น “ไซโกะคุซังจูซังโชะ” (Saigokusanjusansho) หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ลำดับที่ 7 ของเทพคันนอน

ในแต่ละฤดูกาล ดอกไม้ที่นี่จะผลัดกันผลิบานอวดโฉมความงดงามในแบบที่แตกต่างกันไป สำหรับช่วงเดือนเมษายนนั้นจะเป็นช่วงที่ดอกชาคุนาเกะบานสวยเป็นพิเศษค่ะ โดยภายในวัดโอกะเดระมีดอกชาคุนาเกะถึงประมาณ 3,000 ต้นเลยทีเดียว แถมในปีนี้ดอกชาคุนาเกะยังเริ่มผลิบานเร็วกว่าทุกปีอีกด้วย!

และในช่วงวันที่ 29 เมษายนถึง 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ภายในวัดมีการจัดโซนพิเศษในชื่อ “บึงดอกไม้” (華の池) โดยนำดอกรักเร่มาลอยน้ำ รวมถึงมีการจัดตกแต่งกระถางและโชสุยะ (บ่อน้ำพร้อมกระบวยสำหรับชำระล้างร่างกายและจิตใจก่อนเข้าวัด)

ปีหน้าหากใครมีโอกาสได้มาเที่ยววัดโอกะเดระในช่วงเวลานี้ ทุกคนต้องมาชมโซนบึงดอกไม้กันให้ได้เลยนะคะ!

ข้อมูลเกี่ยวกับวัดโอกะเดระ

การเดินทาง
  • นั่งรถไฟคินเท็ตสึมาลงที่สถานี Kintetsu Kashiharajingu-Mae จากนั้นให้นั่งรถบัส Nara Kotsu ไปลงที่ป้าย Okateramae  (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) และเดินต่อประมาณ 10 นาทีก็จะถึงวัดโอกะเดระ
  • หรือถ้านั่งแท็กซี่จากสถานี Kintetsu Kashiharajingu-Mae จะใช้เวลาประมาณ 12 นาทีในการเดินทางไปวัดโอกะเดระ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
แผนที่

ที่มา : Kintetsu Railway Thai

อ่านบทความอื่นๆจาก Kintetsu Railway

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top