fbpx

รีวิวเที่ยวนารา 1 วัน ด้วย Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน

ส.ค. 25, 2022

Kintetsu Railway

  • Clip

รีวิวเที่ยวนารา 1 วัน ด้วย Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมา รีวิวเที่ยวนารา 1 วัน ด้วย Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วัน สำหรับการไปนาราครั้งนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากโอซาก้า โดยเลือกใช้พาส Kintetsu Rail Pass แบบ 5 วันกันค่ะ ส่วนวันถัดไปเราจะใช้พาสเดียวกันนี้ไปเที่ยวที่อื่นด้วย

แต่สำหรับบทความนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวนารา 1 วันสไตล์ชิลล์ๆกันนะคะ ไปเริ่มกันเลยค่ะ!

เราเริ่มต้นเดินทางจากโอซาก้าโดยใช้ “Kintetsu Rail Pass” โดยขึ้นรถไฟสาย Kintetsu ที่สถานี Osaka-Namba แล้วนั่งยาวไปลงที่สถานี Kintetsu-Nara กันค่ะ

ที่มา : https://www.kintetsu.co.jp/foreign/english/

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าเดินไปที่เป้าหมายแรกของทริปนี้ ซึ่งก็คือ “สวนสาธารณะนารา” (Nara Park) โดยใช้เวลาเดินจากสถานี Kintetsu-Nara มาที่สวนเพียง 5 นาทีเท่านั้น ถือว่าใกล้และสะดวกมากค่ะ

สารบัญ (Index)

1. สวนสาธารณะนารา (Nara Park)

สวนสาธารณะนารา (Nara Park) เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1880 หรือราว 142 ปีก่อน สวนแห่งนี้มีน้องกวางหลายร้อยตัวมาคอยต้อนรับเรา แน่นอนว่าในหมู่ผู้ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักสวนนารา เรียกได้ว่าถ้านึกถึงจังหวัดนาราก็ต้องนึกถึงกวางที่สวนสาธารณะนารา

เมื่อมาที่นี่เราจะเจอน้องกวางเดินเล่นไปมาอยู่ทั่วสวนเลยค่ะ และภายในสวนจะมีจุดขายเซมเบ้หรือข้าวเกรียบสำหรับกวางด้วย เราสามารถซื้อแล้วให้อาหารกวางพร้อมทั้งถ่ายรูปกับกวางได้ค่ะ

หลังจากนั้นเราก็จะไปเดินกินลมชมวิวถ่ายรูปชิลล์ๆกันในสวน ซึ่งจุดหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปเดินถ่ายรูปกันก็คือ ศาลาหกเหลี่ยมกลางน้ำอุคิมิโดะ (Ukimido Pavilion)

Back To Index

2. ศาลาหกเหลี่ยมกลางน้ำอุคิมิโด (Ukimido Pavilion)

ศาลาอุคิมิโดะ (Ukimido Pavilion) เป็นศาลากลางน้ำที่มีลักษณะเป็นหกเหลี่ยม ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะนารา ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ผู้คนที่แวะเวียนมาก็สามารถนั่งพักผ่อนชมวิวและดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆได้แบบ 360 องศา

บริเวณรอบศาลาอุคิมิโดะมีต้นซากุระอยู่หลายต้นเลยค่ะ ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่จึงน่าจะเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งเลย

Back To Index

3. ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine)

จากนั้นเราจะไปต่อกันที่ ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine) ซึ่งอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะนารา ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นมานานกว่า 1,300 ปี และเป็นศาลเจ้าประจำตระกูลฟูจิวาระ ที่สำคัญศาลเจ้าคาสึกะไทฉะยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้วยค่ะ

อีกหนึ่งไฮไลต์ของศาลเจ้าคาสึกะไทฉะคือ ‘ตะเกียง’ ตอนที่เดินเข้าไปในศาลเจ้าเราจะพบกับตะเกียงที่ตั้งและแขวนเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณศาลเจ้า ตะเกียงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้รับการบริจาคมาจากผู้มีจิตศรัทธานั่นเองค่ะ

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคมศาลเจ้าแห่งนี้จะมีเทศกาลตะเกียงด้วยนะคะ เราไปเที่ยวในช่วงที่จัดงานเทศกาลพอดี แต่ก็ต้องรอจนถึงช่วงค่ำหน่อยค่ะ ในช่วงพลบค่ำตะเกียงทุกดวงจะถูกจุดขึ้น ให้บรรยากาศที่สวยงามมากเลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่ได้อยู่ชมตอนค่ำ จะมีห้องจัดแสดงแสงจากตะเกียงให้ชมนะคะ

ถ้าจะเข้าไปชมอาคารของศาลเจ้าด้านในเราจะต้องจ่ายค่าเข้าชม 500 เยน ซึ่งด้านในจะมีศาลเจ้ารวมๆกันอยู่มากถึง 16 แห่งด้วยกัน ไม่รวมด้านนอกอีกนะคะ

หลังจากเราได้เดินดูรอบๆและเก็บบรรยากาศบริเวณศาลเจ้าเรียบร้อยแล้ว เราได้ลองไปเสี่ยงเซียมซีของศาลเจ้าแห่งนี้ด้วยค่ะ ที่น่าสนใจมากๆเลยคือเซียมซีของที่นี่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะมันคือ “เซียมซีน้องกวาง” แสนน่ารักค่ะ โดยเซียมซีน้องกวางจะมีลวดลายให้เราเลือก 2 แบบ คือน้องกวางป่าสีขาวและน้องกวางป่าสีน้ำตาล

ที่มาของรูปภาพ : dekitateyo / Shutterstock

ว่าแต่ทำไมเซียมซีถึงเป็นรูปน้องกวางสีขาวล่ะ? เหตุผลคือน้องมีความเกี่ยวข้องกับประวัติของผู้ก่อตั้งศาลเจ้าแห่งนี้นั่นเอง ว่ากันว่าท่านเคยขี่กวางขาวมาที่ศาลเจ้าคาสึกะไทฉะค่ะ

Back To Index

4. นารามาจิ (Naramachi)

เสร็จจากการเที่ยวสวนสาธารณะและศาลเจ้าแล้วก็ได้เวลามื้อเที่ยง เราเดินมาทานมื้อเที่ยงกันที่ นารามาจิ (Naramachi) ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ในนารา เพราะฉะนั้นหากมาที่นี่เราจะได้กลิ่นอายบรรยากาศเมืองเก่าแบบเต็มๆ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมายให้เราได้เดินกินเดินช้อปกันชิลล์ๆเลยค่ะ หากต้องการมาที่นารามาจิ เราสามารถเดินจากศาลเจ้าคาสึกะไทฉะและสวนสาธารณะนารามาได้เลยค่ะ

และสำหรับมื้อเที่ยงของเรา เราได้ไปทานร้านดังประจำย่านนี้เลย ซึ่งก็คือร้าน “เอโดะคาวะ” ร้านนี้มีเมนูให้เลือกเป็นสุกี้ยากี้ ข้าวหน้าปลาไหล เทมปุระ โดยแต่ละเมนูจะขายเป็นเซ็ตค่ะ สำหรับสุกี้เนื้อของที่นี่จะเป็น “เนื้อยามาโตะ” ซึ่งเป็นเนื้อขึ้นชื่อของนาราโดยเฉพาะ ร้านนี้เป็นร้านที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมาก เพราะฉะนั้นคิวจะยาวตลอด ใครจะมาทานร้านนี้แนะนำให้จองมาก่อนล่วงหน้านะคะ

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ เราก็ได้แวะชอปปิ้งกันที่โชเทงไกประจำย่านนารามาจิ ซึ่งเป็นถนนชอปปิ้งที่มีหลังคามุง ดังนั้นไม่ว่าจะฝนตกแดดออกเราก็สามารถเดินช้อปได้แบบชิลล์ๆค่ะ

ย่านนี้จะอยู่ใกล้กับสถานี Kintetsu-Nara โดยมีร้านขายของเยอะมาก รวมไปถึงคาเฟ่ด้วย เรามาเยือนที่นี่กันในช่วงหน้าร้อนพอดี อากาศจึงร้อนมาก ฉะนั้นที่นี่จะมีร้านน้ำแข็งไสให้เราได้แวะกินคลายร้อนกันเยอะมากจริงๆ เลือกร้านแทบไม่ถูกเลยทีเดียวค่ะ แต่สุดท้ายเราได้เลือกเข้าร้านที่มีชื่อว่า “Luce Cafe” กันค่ะ

Back To Index

5. หมู่บ้านอาสึกะ (Asuka Village)

หลังจากนี้เราจะเดินทางไปยังอีกโซนหนึ่งของนารากันค่ะ นั่นก็คือ หมู่บ้านาสึกะ (Asuka Village)

เราเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี Kintetsu-Nara โดยนั่งรถไฟสาย Kintetsu-Nara ไปลงที่สถานี Yamato-Saidaiji จากนั้นก็เปลี่ยนสายรถไฟไปนั่งสาย Kintetsu-Kashihara Line แล้วลงที่สถานี Kashiharajingu-Mae

เมื่อถึงสถานี Kashiharajingu-Mae แล้วเราก็ต้องเปลี่ยนสายรถไฟอีกรอบค่ะ โดยเราจะต้องนั่งสาย Yoshino Line เพื่อไปลงที่สถานี Asuka อันเป็นจุดหมายปลายทาง

เมื่อออกจากสถานีนี้เราจะเจอหมู่บ้านอาสึกะทันที เวลาเดินทางทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 50 นาทีค่ะ

ช่วงบ่ายเราจะมาเช่าจักรยานไปปั่นชม “หมู่บ้านอาสึกะ” กันค่ะ พอไปถึงเราก็เช่าจักรยานก่อนเลย ร้านเช่าจะมีให้เลือกทั้งจักรยานธรรมดากับจักรยานไฟฟ้า ขอแนะนำให้เช่าเป็นจักรยานไฟฟ้านะคะ เพราะทางขึ้นเนินเยอะอยู่ค่ะ หากใช้จักรยานไฟฟ้าจะช่วยเราได้มากเลย

หมู่บ้านอาสึกะเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนารา ใครที่ชอบประวัติศาสตร์เราขอแนะนำเลยค่ะ หมู่บ้านแห่งนี้จะเต็มไปด้วยวัด ศาลเจ้า และสุสาน ซึ่งระหว่างทางก็จะเจอสุสานเยอะมาก พื้นที่โซนอาสึกะนั้นเดิมทีเป็นของตระกูลฟูจิวาระ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมากในสมัยนาราและเฮอันค่ะ และที่นี่ยังเป็นโซนที่มีหลุมฝังศพของบุคคลสำคัญมากมายอีกด้วย

เราปั่นจักรยานชมเมืองเก่าเมืองชนบทไปเรื่อยๆ และพบว่าถ้ามาถึงหมู่บ้านอาสึกะแล้วก็ต้องไม่พลาดการไปชม “สุสานหินโบราณอิชิบุไต (Ishibutai Kofun)” หลุมฝังศพของแม่ทัพในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 6 ซึ่งก็คือท่าน โซงะ โนะ อุมาโกะ หัวหน้าตระกูลโซงะนั่นเองค่ะ

หินขนาดใหญ่ที่ประกบอยู่ด้านบนหลุมฝังศพของท่านนั้นมีน้ำหนักมากถึง 140 ตันเลยทีเดียว และหลุมศพหินแห่งนี้ยังล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันงดงามด้วยค่ะ

ถ้าเราเดินทางไปในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ จะมองไปทางไหนก็เขียวชอุ่มสบายตาไปหมดค่ะ หรือถ้าไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิ เราก็จะได้พบกับดอกซากุระบานสะพรั่งอยู่รอบๆสุสาน

ก่อนกลับโอซาก้า เราจะปิดท้ายทริปนาราด้วยการไปแวะคาเฟ่เติมพลังด้วยเมนูหวานๆกันหน่อย เพราะเราหมดพลังไปกับการปั่นจักรยานมาทั้งวันแล้วค่ะ เราเลือกแวะคาเฟ่เจ้าดังที่สุดในหมู่บ้านอาสึกะที่มีชื่อว่า Cafe Kotodama

คาเฟ่ Cafe Kotodama นั้นในอดีตเคยเป็นโรงหมักสาเกมาก่อน โดยมีอายุเกือบ 200 ปี แต่ในเวลาต่อมาก็ได้มีการปรับปรุงอาคารเก่าแก่หลังนี้ให้กลายเป็นคาเฟ่จนถึงปัจจุบัน

นอกจากเมนูของหวานแล้ว คาเฟ่แห่งนี้ยังมีบริการอาหารมื้อเที่ยงเป็นเมนูตามฤดูกาลของหมู่บ้านอาสึกะด้วยค่ะ ถ้าเราปั่นจักรยานมาเหนื่อยๆก็สามารถแวะมาดื่มชาทานของหวานกันก่อนได้นะ เมนูของหวานที่นี่น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ

เมนูที่เราสั่งมาทานคือพาร์เฟ่ต์ผลไม้ตามฤดูกาล พาร์เฟ่ต์ลูกพีช และพาร์เฟ่ต์เมล่อน ซึ่งผลไม้มาเต็มๆถ้วยเลย ทั้งอร่อยทั้งดับกระหายคลายความร้อนได้ดีเลยค่ะ

Back To Index

6. รถไฟด่วนพิเศษ “Sakura Liner”

เนื่องจากคืนนี้เราพักกันที่โอซาก้า เราเลยขึ้นรถไฟจากสถานี Asuka ไปลงที่สถานี Osaka-Abenobashi ขากลับไปยังโอซาก้าเราเลือกนั่ง “รถไฟด่วนพิเศษ” ที่มีชื่อว่า “SAKURA LINER”

ตัวพาส 5 วันจะครอบคลุมค่าเดินทางอยู่แล้ว แต่เราแค่จ่ายค่าที่นั่งเพิ่ม 520 เยนเท่านั้นเองค่ะ เพียงเท่านี้เราก็ได้นั่งรถไฟด่วนกลับสบายๆโดยไม่ต้องไปเสี่ยงว่าจะต้องยืนตอนขากลับ เพราะรถไฟแบบนี้มีที่นั่งให้เราแน่นอน เราใช้เวลาเดินทางกลับประมาณ 40 นาทีก็ถึงโอซาก้าแล้วจ้า

พอถึงโอซาก้าเราก็ไปแวะอีกที่ก่อนกลับเข้าโรงแรม คือบริเวณสวนสาธารณะปรับปรุงใหม่ “Tenshiba” ด้านในจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ พื้นที่นั่งเล่น สนามเด็กเล่น และสวนสัตว์อยู่ด้วยค่ะ เป็นอีกจุดที่เหมาะแก่การมานั่งพักหรือใช้เป็นจุดนัดพบเพื่อนๆ หรือจะพาครอบครัวมาทำกิจกรรมที่นี่ก็ได้เช่นกันค่ะ

*✿❀ จบทริป 1 วันในเมืองนารา เป็นทริปหนึ่งวันที่เที่ยวได้แบบสบายๆเลยค่ะ ส่วนครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปเที่ยวจังหวัดมิเอะกันค่ะ รอติดตามด้วยนะคะ ❀✿*

Back To Index

ข้อมูลของตั๋ว Kintetsu Rail Pass

พาสนี้สามารถใช้ได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือผู้ที่ถือวีซ่าระยะสั้นเท่านั้น!!

ตั๋ว “Kintetsu Rail Pass” มีหลายแบบค่ะ โดยมีทั้งแบบ 1 Day, 2 Day, 5 Day และ 5 Day Plus โดยแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไป ทั้งราคา ความครอบคลุมของพื้นที่ในการท่องเที่ยว รวมถึงสิทธิประโยชน์พิเศษที่จะได้รับไม่เท่ากัน เช่น

  • 1 Day Pass ครอบคลุมเฉพาะโอซาก้า นารา และเกียวโต
  • 2 Day Pass ครอบคลุมเฉพาะโอซาก้า นารา และเกียวโต เหมือนกับ 1 Day Pass แต่จะกว้างขึ้นหน่อย
  • 5 Day Pass ครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยว 5 เมือง คือโอซาก้า นารา เกียวโต มิเอะ และนาโกย่า
  • 5 Day Pass Plus ครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยว 5 เมือง คือโอซาก้า นารา เกียวโต มิเอะ และนาโกย่า แต่สามารถใช้นั่งรถบัส Nara Kotsu Bus และ Mie Kotsu Bus ได้ด้วย

สำหรับทริปนาราครั้งนี้เราเลือกใช้ “Kintetsu Rail Pass 5 Day” เนื่องจากเป็นตั๋วพาสที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่เราจะไป อีกทั้งยังสามารถใช้เที่ยวในเส้นทางที่พาสครอบคลุมได้มากถึง 5 วันติดต่อกัน โดยนับตั้งแต่วันที่เริ่มขึ้นรถไฟ

ในส่วนของพื้นที่พาสนี้ก็ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวถึง 5 เมืองด้วยกัน คือโอซาก้า นารา เกียวโต มิเอะ และนาโกย่า

และพาสนี้สามารถใช้ขึ้นลงรถไฟฟ้าคินเท็ตสึกับรถไฟฟ้าอิกะได้อย่างไม่จำกัด ในราคาสุดคุ้ม!!

ราคาของตั๋ว Kintetsu Rail Pass 5 Day

ถ้าซื้อพาสในญี่ปุ่นจะมีราคาดังนี้

  • ผู้ใหญ่ : 3,900 เยน
  • เด็ก : 1,950 เยน

แต่ถ้าเราซื้อพาสนี้จากเอเจนซีก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น ราคาก็จะถูกลงไปอีกค่ะ ค่าโดยสารจะลดเหลือดังนี้

  • ผู้ใหญ่ : 3,700 เยน
  • เด็ก : 1,850 เยน

สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี สามารถใช้พาสนี้ได้ฟรี!!

ช่องทางการซื้อพาส

  • เราสามารถซื้อพาสผ่านทางเว็บไซต์ได้ที่นี่ >> https://www.kintetsu.co.jp/foreign/english/ticket/index.html
  • สามารถซื้อพาสจากบริษัททัวร์หรือเอเจนซีในประเทศนั้นๆก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น (มีส่วนลด)
  • สามารถหาซื้อพาสได้ที่สนามบินต่างๆ หรือที่สถานีรถไฟของ Kintetsu

สถานที่จำหน่ายพาสในญี่ปุ่น

  • Kansai Tourist Information Center (Kansai International Airport)
  • Kansai Tourist Information Center (Kansai International Airport Terminal2)
  • Osaka-Namba Station
  • Osaka-Uehommachi Station
  • Osaka-Abenobashi Station
  • BIC CAMERA Namba Store
  • BIC CAMERA Q’s MALL Store
  • Sheraton Miyako Hotel Osaka (ไม่สามารถซื้อพาสแบบ 5day / 5day plus ได้)
  • Osaka Marriott Miyako Hotel (ไม่สามารถซื้อพาสแบบ 5day / 5day plus ได้)
  • Miyako City Osaka Tennoji
  • Kyoto Station
  • Kansai Tourist Information Center – Kyoto
  • BIC CAMERA JR Kyoto Station Store
  • The Westin Miyako Kyoto
  • Miyako Hotel Kyoto Hachijo
  • Kintetsu-Nara Station
  • Tsu Station
  • Kintetsu-Nagoya Station
  • MEITETSU TRAVEL PLAZA (Chubu Centrair International Airport)
  • Central Japan Travel Center (Chubu Centrair International Airport)
  • Nagoya Tourist Information Center
  • BIC CAMERA Nagoya Station West Store
  • BIC CAMERA Nagoya JR GATE TOWER Store

อ่านบทความอื่นๆจาก Kintetsu Railway

มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!

รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!

ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ

Back To Top


แท็กยอดนิยม


แชร์บทความนี้

Klook.com

บทความแนะนำจังหวัดใน
ภูมิภาค คันไซ


Top 5 Articles
"เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น"




อัปเดตเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุก ๆ
เพิ่มเติมได้ที่เพจ fromJapan !

Copyright © 0000-2024 fromJapan.com All Rights Reserved.