รถไฟ Aoniyoshi รถไฟชมวิวสุดหรูที่พาเราท่องเที่ยวไปในโอซาก้า นารา และเกียวโต
ก.ค. 19, 2022
- ข้อมูลต่างๆ
- ทางรถไฟ
- สถานที่ท่องเที่ยว
- เคล็ดลับการเดินทาง
- คันไซ
- โอซาก้า
- เกียวโต
- นารา
- Kintetsu Railway
- Rail Pass
รถไฟ Aoniyoshi รถไฟชมวิวสุดหรูที่พาเราท่องเที่ยวไปในโอซาก้า นารา และเกียวโต
หลังจากปิดประเทศมานานกว่า 2 ปี เมื่อวันที่10 มิถุนายนที่ผ่านมาญี่ปุ่นก็เริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง แต่ต้องเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากับบริษัททัวร์เท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าญี่ปุ่น
ด้วยเหตุผลนี้เอง บริษัททัวร์นอกประเทศญี่ปุ่นจึงคิดแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างๆขึ้นมามากมาย และหนึ่งในนวัตกรรมการเดินทางที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสนุกและสะดวกมากยิ่งขึ้นก็คือ “รถไฟ Aoniyoshi” (รถไฟอาโอนิโยชิ) รถไฟด่วนพิเศษของบริษัทคินเท็ตสึที่เริ่มวิ่งให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2022 รถไฟสายนี้จะเชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง โอซาก้า นารา และเกียวโต ซึ่งล้วนเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อด้านประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรม และอาหารการกินอันเลื่องชื่อ
ชื่อของรถไฟ Aoniyoshi นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีเก่าแก่ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเมืองนารายุคโบราณ รูปลักษณ์และสีสันของรถไฟขบวนนี้ถูกดีไซน์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความรุ่งเรืองของนาราเมื่อครั้งอดีต โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่โซฟานั่งเล่นอันนุ่มสบายไปจนถึงเคาน์เตอร์ขายอาหารและบาร์สุดทันสมัย
สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถไฟ Aoniyoshi เท่านั้น หากอยากรู้ว่าทำไมรถไฟด่วนพิเศษขบวนนี้ถึงคุ้มค่าที่จะลองใช้บริการ ต้องตามเรามาทำความรู้จักกับรถไฟ Aoniyoshi ให้มากขึ้นแล้วล่ะ!
สารบัญ (Index)
- Aoniyoshi รถไฟที่ดีไซน์ขึ้นใหม่จากรถไฟคินเท็ตสึรุ่นซีรีส์ 12200
- การตกแต่งภายในที่คำนึงถึงความหรูหราและสะดวกสบาย
- เคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้า
- ห้องสมุดบนรถไฟ
- ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ
- พื้นที่เก็บสัมภาระอันกว้างขวาง
- ค่าโดยสารที่ทุกคนเอื้อมถึง
- จองตั๋วได้อย่างง่ายดาย
- จุดชมวิวใกล้สถานีรถไฟคินเท็ตสึที่ห้ามพลาด
1. Aoniyoshi รถไฟที่ดีไซน์ขึ้นใหม่จากรถไฟคินเท็ตสึรุ่นซีรีส์ 12200
รถไฟ Aoniyoshi เป็นรถไฟที่ได้รับการปรับแต่งใหม่จากรถไฟคินเท็ตสึรุ่นซีรีส์ 12200 ซึ่งเป็นรุ่นต้นแบบที่ดีไซน์ขึ้นตั้งแต่ปี 1960 และ 1970 รถไฟโฉมใหม่นี้มีทั้งหมด 4 ตู้โดยสาร ตัวรถด้านนอกมีการดีไซน์ให้เป็นสีม่วง รวมถึงมีที่นั่งที่หันออกไปทางหน้าต่าง เพื่อให้เราได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันสวยงามของญี่ปุ่น
ส่วนผนังด้านในและพรมจะตกแต่งด้วยลวดลายแบบแมนดาลา (Madala) ที่ประกอบไปด้วยรูปนกและดอกไม้ ลวดลายแพทเทิร์นแบบนี้ในญี่ปุ่นเรียกว่า “เทนเปียว” (Tenpyo) และลวดลายเหล่านี้ก็ล้วนมีความหมายเกี่ยวข้องกับอดีตของนาราในฐานะเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น
นอกเหนือจากเรื่องการดีไซน์ของ Aoniyoshi แล้ว รถไฟขบวนนี้ยังมีไวไฟให้ใช้ฟรีเพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในมือถือตลอดการเดินทางอีกด้วย
2. การตกแต่งภายในที่คำนึงถึงความหรูหราและสะดวกสบาย
รถไฟอาโอนิโยชิได้รับการตกแต่งภายในด้วยดีไซน์แบบใหม่ มีการคำนวณระยะห่างระหว่างที่นั่งให้มีความกว้างขวาง โดยมีที่นั่งทั้งหมด 84 ที่ จากภาพด้านบนเราจะเห็นว่าที่นั่งแบบคู่หรือ Twin Seats จะถูกจัดเรียงให้อยู่ในแถวเดียวกัน โดยหันหน้าเข้าหาหน้าต่างของรถไฟ ที่นั่งแบบนี้จะอยู่ในตู้โดยสารที่ 1, 3 และ 4
นอกจากที่นั่งแบบคู่แล้ว รถไฟอาโอนิโยชิก็ยังมีโซนที่นั่งส่วนตัวหรือ Salon Seats พร้อมด้วยโต๊ะสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเป็นกลุ่ม 3-4 คนอีกด้วย ที่นั่งประเภทนี้จะอยู่ในตู้โดยสารที่ 2 และที่ยิ่งไปกว่านั้น ที่นั่งโซนนี้จะถูกคั่นจากกันด้วยทางเดินและฉากกั้น เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสาร
3. เคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้า
ตู้โดยสารที่ 2 จะมีเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าอยู่ด้วย เราจึงสามารถซื้อขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเพื่อทานบนรถไฟได้ ด้วยเหตุนี้เอง ผู้โดยสารในโซนที่นั่งส่วนตัวจึงสามารถสั่งอาหารอร่อยๆมาทานในขณะที่เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้เลย
นอกจากนี้เคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าบนรถไฟยังมีสินค้าลิมิเต็ดจำหน่ายอีกด้วย นั่นคือแซนด์วิชเนยเกาลัดและลูกเกดของโรงแรม Sheraton Miyako Hotel Osaka ราคา 1,000 เยนต่อเซ็ต โดยแซนด์วิชเซ็ตนี้จะมาพร้อมกับชาดำหรือกาแฟ 1 แก้ว
นอกจากแซนด์วิชแล้ว สินค้าลิมิเต็ดอย่างอื่นก็ยังมีพุดดิ้งคัสตาร์ด ซึ่งมาพร้อมกับแพ็คเพจลายพระพุทธรูปใหญ่ของจังหวัดนารา
อีกทั้งยังมีน้ำแอปเปิลและน้ำส้มที่ทำจากผลไม้ท้องถิ่นอีกด้วย โดยจำหน่ายในราคาขวดละ 300 เยน
สำหรับคนรักเบียร์ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับคราฟต์เบียร์ของนาราในราคาแก้วละ 600 เยน แต่ถ้าหากคุณรักในรสชาติของคราฟต์เบียร์นารา คุณสามารถซื้อเบียร์ทั้งขวดได้ในราคาขวดละ 650 เยน
4. ห้องสมุดบนรถไฟ
เหล่าคนรักการอ่านสามารถเพลิดเพลินไปกับหนังสือที่เราอ่านได้ฟรีในห้องสมุดบนรถไฟ ห้องสมุดแห่งนี้อยู่ในตู้โดยสารที่ 4 ภายในห้องจะมีที่นั่งให้ด้วย ผู้โดยสารจึงสามารถนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดหรือนิตยสารได้อย่างสบายๆในระหว่างการเดินทาง
5. ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ
รถไฟอาโอนิโยชิมีความแตกต่างจากรถไฟด่วนพิเศษขบวนอื่นๆของคินเท็ตสึ เพราะรถไฟอาโอนิโยชิมีห้องน้ำสำหรับผู้พิการด้วย โดยภายในห้องน้ำจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับผู้พิการ เช่น กระดานสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า เตียงสำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อม เก้าอี้เด็กเล็ก และประตูอัตโนมัติ
6. พื้นที่เก็บสัมภาระอันกว้างขวาง
บนรถไฟขบวนนี้มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับเก็บกระเป๋าสัมภาระ เราสามารถวางสัมภาระขนาดใหญ่อย่างกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าอื่นๆได้อย่างปลอดภัย โดยจุดวางสัมภาระจะมีเชือกกั้นเพื่อป้องกันกระเป๋าร่วงหล่น
7. ค่าโดยสารที่ทุกคนเอื้อมถึง
รถไฟอาโอนิโยชิมีอัตราค่าโดยสารที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับรถไฟด่วนขบวนอื่นๆ หากเดินทางจากสถานีหลักจะมีราคาดังต่อไปนี้
ค่าโดยสารในกรณีที่ผู้โดยสาร 2 คน
ใช้บริการที่นั่งแบบคู่ (Twin Seats)
หรือผู้โดยสาร 3-4 คน
ใช้บริการที่นั่งแบบส่วนตัว (Salon Seats)
เส้นทาง | ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีหรือมากกว่านั้น) | เด็ก (อายุ 6 – 11 ปี) |
จากโอซาก้า–นัมบะ ปลายทางเกียวโต
(Osaka-Namba to Kyoto) |
1,960 เยน | 990 เยน |
จากโอซาก้า–นัมบะ ปลายทางคินเท็ตสึนารา
(Osaka-Namba to Kintetsu Nara) |
1,300 เยน | 660 เยน |
จากคินเท็ตสึนารา ปลายทางเกียวโต
(Kintetsu Nara to Kyoto) |
1,370 เยน | 690 เยน |
ค่าโดยสารในกรณีที่ผู้โดยสาร 1 คน
ใช้บริการที่นั่งแบบคู่ (Twin Seats)
เส้นทาง | ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีหรือมากกว่านั้น) | เด็ก (อายุ 6 – 11 ปี) |
จากโอซาก้า-นัมบะ ปลายทางเกียวโต
(Osaka-Namba to Kyoto) |
2,470 เยน | 1,500 เยน |
จากโอซาก้า–นัมบะ ปลายทางคินเท็ตสึนารา
(Osaka-Namba to Kintetsu Nara) |
1,670 เยน | 1,030 เยน |
จากคินเท็ตสึนารา ปลายทางเกียวโต
(Kintetsu Nara to Kyoto) |
1,740 เยน | 1,060 เยน |
8. จองตั๋วได้อย่างง่ายดาย
ตั๋วโดยสารของรถไฟด่วนพิเศษอาโอนิโยชิสามารถจองและซื้อทางออนไลน์ได้ หรืออาจซื้อที่จุดจำหน่ายตั๋วตามสถานีรถไฟคินเท็ตสึ
สำหรับการเช็กตารางเวลาและจองตั๋วรถไฟออนไลน์ สามารถดูได้ด้วยการ คลิกที่นี่
หากต้องการจะซื้อตั๋วออฟไลน์ สามารถแวะซื้อได้ตามจุดจำหน่ายตั๋วที่มีป้ายจำหน่ายตั๋วรถไฟด่วนพิเศษแบบรูปด้านบน
9. จุดชมวิวใกล้สถานีรถไฟคินเท็ตสึที่ห้ามพลาด
มีจุดชมวิวที่สวยงามอยู่หลายแห่งตามเส้นทางรถไฟระหว่างสถานีโอซาก้า-นัมบะ สถานีเกียวโต และสถานีคินเท็ตสึนารา และเพื่อให้คุณมีข้อมูลของสถานที่เหล่านี้มากขึ้น เราขอนำเสนอจุดท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟ Aoniyoshi ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม
โดทงโบริ เป็นย่านที่อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดโอซาก้า โดยอยู่ห่างจากสถานีโอซาก้า-อุเอะฮงมาจิ (Osaka-Uehommachi Station) ประมาณ 2 กิโลเมตร และห่างจากสถานีโอซาก้า-นัมบะ (Osaka-Namba Station) ไปเพียงสถานีเดียว
โดทงโบริเป็นหนึ่งในย่านการค้าขนาดใหญ่ของโอซาก้า เราสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของความเป็นโอซาก้าอย่างแท้จริงได้ตามห้างร้านขนาดใหญ่ต่างๆภายในย่านนี้ โดทงโบรินั้นเต็มไปด้วยอาหารและความบันเทิง จุดแลนด์มาร์กชื่อดังของย่านนี้ก็คือร้านปูยักษ์ ‘คานิ โดราคุ’ (Kani Doraku) และป้ายกูลิโกะขนาดยักษ์ (Glico Running Man Billboard)
ชินเซไก เป็นหนึ่งในย่านการค้าที่พลุกพล่านในโอซาก้า และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของย่านเมืองเก่าของโอซาก้า ด้วยบรรยากาศที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆและยุคหลังสงครามโลก ภายในย่านชินเซไกเต็มไปด้วยสถานประกอบการที่มีสีสันและดีไซน์สไตล์ย้อนยุค อันเป็นสิ่งที่ทำให้ย่านนี้เป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดนิยมของจังหวัดโอซาก้า
ในช่วงฤดูร้อนเราจะได้พบกับแผงขายอาหารและซุ้มเล่นเกมในงานเทศกาลของโอซาก้า เช่น ชาเทกิยะ (Shatekiya) เกมยิงปืนที่มาพร้อมกับรางวัลอันน่าสนใจ
กิอง เป็นหนึ่งในย่านเริงรมย์เก่าแก่ของญี่ปุ่นและเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าเกอิชา ย่านนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของหนึ่งในย่านเกอิชาที่พิเศษที่สุดในญี่ปุ่น จนได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้เอง กิองจึงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเยี่ยมเยือนเป็นเวลานานนับหลายศตวรรษ โดยเฉพาะผู้ชื่นชอบเมืองเก่าที่มีบรรยากาศย้อนยุค
ภายในย่านกิองเราจะพบบ้านไม้แบบดั้งเดิมเรียงรายไปตลอดสองข้างทาง รวมถึงอาคารสไตล์วินเทจที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และโอชายะ(โรงน้ำชา) อันเป็นสถานที่ที่เกอิชาและไมโกะ(เกอิชาฝึกหัด)สามารถทำการแสดงเพื่อมอบความบันเทิงให้กับแขกในช่วงเวลาอาหารค่ำได้
เจดีย์ยาซากะ ตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยามะ เจดีย์แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวแลนด์มาร์กของจังหวัดเกียวโต เจดีย์ยาซากะตั้งอยู่ในวัดโฮคันจิซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเกียวโต ที่นี่นับเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดนิยมของจังหวัดเกียวโต ผู้คนจำนวนมากจึงนิยมเดินทางมาถ่ายรูปทิวทัศน์ของเจดีย์ที่มีถนนย่านเมืองเก่าอันแสนมีเสน่ห์อยู่เบื้องหน้า
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยี่ยมชมเจดีย์ยาซากะคือช่วงเวลาเย็นก่อนดวงอาทิตย์จะตกดิน เพราะนี่คือช่วงเวลาที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับภาพเจดีย์และท้องฟ้ายามเย็นอันแสนสวยงามไปได้พร้อมๆกัน
สวนนารา เป็นสวนสาธารณะใจกลางจังหวัดนาราที่เปิดให้บริการในปี1880 ที่ตั้งของสวนแห่งนี้อยู่ที่บริเวณเชิงเขาวาคาคุสะ สวนนาราเป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่ทำให้สวนแห่งนี้มีชื่อเสียงก็คือกวางป่าแสนน่ารัก ระหว่างที่เดินเที่ยวในบริเวณสวนนาราเราจะได้พบกวางกว่า 1,200 ตัวเดินเล่นอย่างอิสระ ด้วยความโด่งดังของกวางที่นี่ มันจึงเป็นกลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนาราไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ บริเวณรอบๆสวนนารายังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมายของจังหวัดนาราด้วย เช่น วัดโทไดจิ ศาลเจ้าคาสุกะไทฉะ วัดโคฟุคุจิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินารา และวัดชินยะคุชิจิ
เมื่อพูดถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนารา คนส่วนใหญ่คงนึกถึง วิหารไดบุทสึเด็น (the Great Buddha Hall) ที่ วัดโทไดจิ ขึ้นมาทันที
วัดโทไดจินั้นมีชื่อเสียงจากการเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีน้ำหนักถึงประมาณ 300 ตัน
วิหารไดบุทสึเด็นอันเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปก็นับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วิหารแห่งนี้เคยประสบเหตุไฟไหม้ไปแล้ว 2 ครั้ง โดยวิหารที่เห็นในปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่นที่สร้างขึ้นใหม่ในช่วงยุคเอโดะ
นอกจากนี้ วัดโทไดจิยังเป็นสำนักงานใหญ่ของสถานศึกษาศาสนาพุทธนิกายเคงอนอีกด้วย และวัดแห่งนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
*.。.*゚*.。.*゚*.。.*゚*.。.*
ทีนี้ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าการเดินทางด้วยรถไฟ Aoniyoshi นั้นวิเศษขนาดไหน มาจองตั๋วรถไฟสำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซครั้งหน้ากันเลยดีกว่า!
อ่านบทความอื่นๆจาก Kintetsu Railway
- VISON อัญมณีอันงดงามที่ซุกซ่อนอยู่ในเมืองทากิ จังหวัดมิเอะ
- พบกับประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดหรูหราด้วย “รถไฟฮิโนะโทริ” โดยบริษัทคินเท็ตสึ
- 10 กิจกรรมห้ามพลาด! เมื่อไปเที่ยวสวนนาราและบริเวณโดยรอบ
มากดไลค์เพจ fromJapan กันเถอะ!
รู้หรือเปล่าว่าพวกเรามี official fanpage ด้วยนะ!
ถ้าไม่อยากพลาดเทรนด์ ข่าวสาร หรือกิจกรรมสนุกๆ ก็ต้องกดไลค์เพจเราแล้วล่ะ